ตอนที่ 615 วิหารชั่วร้าย
There were many people running up the dune together, but strangely they weren’t fighting each other.
มีคนจำนวนมากวิ่งขึ้นไปบนเนินด้วยกัน แต่แปลกที่พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กัน
There were two people at the top of the dune. One of them had twelve starlight seeds, stealing that person’s seeds would have been incredibly great.
มีคนสองคนที่ด้านบนของเนิน หนึ่งในพวกเขามีเมล็ดแสง 12 ดวง การขโมยเมล็ดแสงได้ขนาดนั้นช่างน่าจะเหลือเชื่ออย่างมาก
There was another person with eight starlight seeds and it seemed that they hadn’t used seven of them yet, which meant he hadn’t obtained any great skills yet.
มีอีกคนหนึ่งที่มีเมล็ดแสง 8 ดวง และดูเหมือนว่าพวกเขายังไม่เคยใช้ถึงเจ็ดดวง ซึ่งหมายความว่าเขายังไม่ได้รับทักษะที่ยอดเยี่ยมมา
Many people in the area noticed that and rushed over to the dune. It seemed like the first round could finish any time on that dune.
หลายคนในพื้นที่สังเกตเห็นและรีบวิ่งไปที่เนินทราย ดูเหมือนว่ารอบแรกอาจจบลงที่เนินทราย
Lin Feng and Tang You You were running frantically. Finally they arrived at the very top of the dune, it was a huge and vast flat area.
หลินเฟิง และ ถังหยูหยู กำลังวิ่งสุดชีวิต ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงยอดเนินซึ่งเป็นพื้นที่โล่งและกว้างใหญ่ไพศาล
Surprisingly, at the top there was a temple out of which a mysterious and mystical Qi was emerging. Lin Feng looked at the temple, it seemed like there was a Heruka there, it looked kind and evil at the same time.
น่าแปลกใจที่ด้านบนมีวิหารที่ลึกลับอยุ่และพลังปราณที่ลึกลับถูกปล่อยออกมา หลินเฟิง มองไปที่วิหารดูเหมือนว่า จะมี รูปปั้นเฮลูกะ ที่เป็นรูปเทพเจ้าแห่งความตายอยู่ที่นั่นดูแล้วรู้สึกได้ถึงความดีและความชั่วร้ายในเวลาเดียวกัน
It was difficult to distinguish if it was evil or good.
มันยากที่จะแยกแยะออกได้ ไม่ว่าจะดี หรือชั่วร้าย
“Maybe that the envoy obtained his golden Shakyamuni skill from that temple.” Lin Feng and Tang You You glanced at each other and then gazed into the distance. More and more people were running up the dune. They were getting closer and closer to the top.
"บางทีตัวแทนคนนั้นอาจจะได้รับความสามารถ ศักยมุนีทองคำ จากวิหารแห่งนี้" หลินเฟิง และ ถังหยูหยู เหลือบมองกันและกันและจ้องมองไปไกล คนมีมากขึ้นที่กำลังวิ่งขึ้นไปบนเนิน พวกเขาเข้าใกล้มากขึ้นและมากยิ่งขึ้น
“Do you want to go to that temple?” asked Tang You You to Lin Feng. Lin Feng already had eight seeds and had used only one of them. He could probably obtain some monstrous skill at that moment and become much stronger.
"เจ้าอยากจะเข้าไปในวิหารแห่งนี้งั้นรึ?" ถังหยูหยู ถาม หลินเฟิง หลินเฟิง มีเมล็ดแสงอยู่ 8 ดวงและใช้ไปเพียงหนึ่งดวงเท่านั้น เขาอาจจะได้รับความสามารถบางอย่างในเวลานั้นและจะกลายเป็นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
Lin Feng looked irresolute, it had been so difficult to obtain those seven seeds. What he wanted the most was the sword skill from the sword temple but people were chasing them at that moment. If he wanted to obtain the sword skill, he definitely had to fly through the sky and use too much pure Qi… Others would then join in chasing him then. It would be horrible if Lin Feng ended up dying.
หลินเฟิง มองอย่างลังเลใจมันเป็นเรื่องยากที่จะได้เมล็ดแสงมาถึง 7 ดวง ที่เขาต้องการมากที่สุดคือทักษะดาบจากวิหารดาบ แต่คนอื่นไล่ตามพวกเขาอยู่ในขณะนี้ ถ้าเขาต้องการที่จะได้รับทักษะดาบ เขาต้องบินผ่านท้องฟ้าและใช้พลังปราณบริสุทธิ์มากกว่านี้ ... คนอื่น ๆ ก็จะเข้ามาร่วมวงในการไล่ล่าเขา ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวหาก หลินเฟิง ต้องตายไป
If he entered the temple in front of him he might obtain a great skill, but he might not have the opportunity to go to the sword temple again.
ถ้าเขาเข้าไปในวิหารข้างที่อยู่เบื้องหน้า เขาอาจได้รับทักษะที่ดี แต่เขาอาจจะไม่มีโอกาสได้ไปวิหารดาบอีก
Lin Feng was fixedly staring at that temple with the statue looking both evil and good at the same time. It seemed like the nature of the statue kept changing every second.
หลินเฟิง ยังคงมองจ้องมองไปที่วิหาร ซึ่งรูปปั้นที่มองดูทั้งความชั่วและดีในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนลักษณะของรูปปั้นนั้นเปลี่ยนไปทุกวินาที
Lin Feng, however, had a familiar impression. Wasn’t his Heruka strength skill also good and evil?
หลินเฟิง ส์มีความรู้สึกประทับใจ ความแข็งแกร่งของทักษะ ฮีรูกะ ไม่ใช่ความสามารถทั้งดีและชั่ว?
Maybe that it was a sign that he had to get in.
บางทีนั่นอาจเป็นสัญญาณบอกว่าเขาต้องเข้าไป
“Can you come in with me?” asked Lin Feng. Tang You You looked pensive for a few seconds and replied, “The doors might not shut because I don’t have any more seeds to bargain with. But we might as well try.”
"เจ้าจะเข้าไปข้างในกับข้าไหม?" หลินเฟิง ถาม ถังหยูหยู ที่ดูหม่นหมอง ในไม่กี่วินาทีนั้นได้ตอบกลับมาว่า "ประตูอาจจะไม่ปิดเพราะข้าไม่มีเมล็ดแสงอีกต่อไป แต่ยังไงเราลองดูก็ได้ "
Lin Feng nodded. They needed the door of the temple to remain closed, otherwise they wouldn’t be protected.
หลินเฟิง พยักหน้า พวกเขาต้องการให้ประตูวิหารปิดลงมิฉะนั้นจะไม่ได้รับการคุ้มครอง
“Let’s go in.” said Lin Feng. They then immediately entered the temple without another hesitation.
"เข้าไปข้างในกัน" หลินเฟิง กล่าว จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปในวิหารโดยไม่ลังเล
ถังหยูหยู เข้ามากับเขาและหวังว่าประตูวิหารจะปิดตัวเอง ในทันใดนั้นดวงดาวบางดวงก็ได้หายไปที่ด้านบนของภูเขาทำให้คนที่วิ่งขึ้นเนินประหลาดใจ
Was there a temple at the top of the dune??
มีวิหารที่ด้านบนของเนินนั้นงั้นรึ?
A lot of them began leaving. Lin Feng had eight seeds and would probably obtain a monstrously powerful skill. After coming out, they wouldn’t be the ones to kill him. Instead, he would kill them.
หลายคนเริ่มออกไป หลินเฟิง มีเมล็ดแสงอยู่ 8 ดวงและอาจจะได้รับทักษะที่ทรงพลังอย่างยิ่งยวด หลังจากออกมาพวกเขาจะไม่เป็นคนฆ่าเขา แต่เขาเองจะเป็นคนฆ่าคนเหล่านั้น
แน่นอนว่า มีบางคนที่พักและรออยู่ที่นี้ พวกเขาประกอบไปด้วยกลุ่มคนห้าคน คนเหล่านั้นมีเพียงเมล็ดแสงเมล็ดเดียวที่อยู่ระหว่างคิ้วของพวกเขา พวกเขารอดมาได้ก็เพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันตลอดเวลา นั่นเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดพวกเขาจะช่วยกันต่อไป ถ้าพวกเขาตัดสินใจที่จะฆ่ากันเองในตอนแรกพวกเขาอาจจะยังไม่รอดจากการเผชิญหน้ากันในตอนนี้
They decided to wait for those two. One of them had eight starlight seeds and another had four. If their group had managed to kill them and obtain their seeds they wouldn’t be scared of anyone else anymore.
พวกเขาตัดสินใจที่จะรอทั้งสองคน หนึ่งในนั้นมีเมล็ดแสง 8 ดวงและอีกคน 4 แห่ง หากกลุ่มของพวกเขามีการจัดการเพื่อฆ่าพวกนั้นและได้รับเมล็ดแสงของพวกนั้น พวกเขาจะไม่กลัวคนอื่นอีกต่อไป
Even though the seeds would only belong to one of them, they still wanted to try. Maybe they would be the one to succeed.
แม้ว่าเมล็ดแสงจะเป็นของหนึ่งในนั้น แต่พวกเขาก็ยังอยากลอง บางทีพวกเขาอาจจะประสบความสำเร็จก็เป็นได้
At that moment, Lin Feng and Tang You You were in the temple. It was as big as the sword temple. There were no swords in suspension however, only the statue.
ในขณะนั้นเอง หลินเฟิง และถังหยูหยู ได้เข้ามาในวิหาร มันใหญ่พอ ๆ กับวิหารแห่งดาบ ไม่มีดาบแขวนอยู่ในนี้ อย่างไรก็ตามมีเพียงแค่รูปปั้นเท่านั้น
That gigantic statue wasn’t facing them, they could see it from the side only because it had two faces facing leftwards and rightwards.
รูปปั้นขนาดใหญ่ที่ไม่ได้หันหน้าไปทางพวกเขาพวก เขาสามารถมองเห็นได้จากด้านข้างเท่านั้นเพราะมีสองใบหน้าที่ด้านซ้ายและด้านขวา
One evil and one good side… Looking in two different directions.
ด้านหนึ่งชั่วร้ายและอีกด้านหนึ่งดี ... มองไปในสองทิศทางที่แตกต่างกัน
“It’s a Heruka statue…” whispered Tang You You. She sounded very surprised. How come there was such an ancient statue in there?
"มันเป็นรูปปั้น ฮีรูกะ ... " ถังหยูหยู กระซิบ เสียงของเธอฟังดูแปลกอย่างมาก มีรูปปั้นโบราณในที่แห่งนี้ได้ยังไง?
Evil was evil, good was good. How had they managed to merge together in antiquity?
ความชั่วร้ายความดี พวกเขาจัดการหลอมรวมกันในสมัยโบราณได้อย่างไร?
Lin Feng was astonished, it was a real Heruka statue.
หลินเฟิง เองก็รู้สึกประหลาดใจมันเป็นรูปปั้น ฮีรูกะ จริงๆ
Did that temple have anything to do with the Heruka skill he had?
วิหารแห่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทักษะ ฮีรูกะ ที่เขามีอยู่?
Lin Feng looked at the hands of the statue. On its left hand there were three good benevolent statues sitting. On its right hand there were three malevolent statues. On these statues there were also stars, from one star to six stars.
หลินเฟิง มองไปที่มือของรูปปั้น ด้านซ้ายมือมีสามรูปปั้นที่ดีงามนั่งอยู่ ด้านขวามือมีรูปปั้นสามรูป บนรูปปั้นเหล่านี้มีดวงดาวตั้งแต่ 1-6 ดวง
“The benevolent statue only has one to three stars while the malevolent ones have four to six stars… Is good less powerful than evil?” Tang You You looked surprised. That statue was extremely mysterious. Since the benevolent-looking statues had less stars than the malevolent-looking ones, did it mean that the malevolent skills were more powerful than the others?
"รูปปั้นที่ดูใจบุญนั้น มีดาวแค่หนึ่งถึงสามดวงเท่านั้นในขณะที่กลุ่มรูปปั้นร้ายนั้นมีดวงดาว 4-6 ดวง ... พลังดีน้อยกว่าพลังชั่วร้ายงั้นรึ" ถังหยูหยู มองอย่างแปลกใจ รูปปั้นนี้มีความลึกลับอย่างมาก เนื่องจากรูปปั้นที่ดูสง่างามมีดาวน้อยกว่าคนที่มองไม่เห็นซึ่งหมายความว่าทักษะชั่วร้ายนั้นมีพลังมากกว่าอย่างอื่นอีกงั้นรึ?
“It seems like the one who built the temple didn’t respect good as much as evil.” whispered Tang You You. But Lin Feng didn’t hear her, he was staring at the one statue in the middle.
"ดูเหมือนว่าคนที่สร้างวิหารแห่งนี้จะไม่เคารพความดีให้เทียบเท่ากับความชั่วร้าย" ถังหยูหยู กระซิบ แต่หลินเฟิง ไม่ได้ยินเสียงของเธอ เขาจ้องมองไปในใจกลางของรูปปั้นนั้น
It was half good, half evil and had seven stars on it. That was probably the most powerful one.
มันชั่วร้ายครึ่งดีครึ่งและมีดวงดาวอยู่ 7 ดวง นั่นอาจมีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกอย่างหนึ่ง
“Seven seeds… Are you going to use them all?” asked Tang You You. She sounded excited and curious. Was Lin Feng going to spend all of his seeds to learn the most powerful skill or was he going to spend a few on a several skills?
"7 เมล็ดแสง ... เจ้าจะใช้มันทั้งหมดงั้นรึ?" ถังหยูๆ ถาม น้ำเสียงของเธอดูตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็น หลินเฟิงจะใช้เมล็ดแสงทั้งหมดของเขาเพื่อเรียนรู้ทักษะที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดหรือว่าเขาจะใช้ไม่กี่ดวงเพื่อได้รับทักษะหลายอย่าง?
Was he going to get a kind one, an evil one or the harmonious one?
เขาจะใช้แบบหนึ่งชั่วหนึ่งดีหรือแบบความสามัคคีดี?
“Of course, I will get this one.” said Lin Feng while pointing at the one in the very middle. Lin Feng had the strength of the Heruka, of course he would get the most powerful one. He had to get the authentic one, half-evil and half-good.
"แน่นอนว่าข้าจะใช้มันหนึ่งดวง" หลินเฟิง กล่าว ในขณะที่ชี้ไปที่หนึ่ง ที่อยู่ตรงกลาง หลินเฟิง มีพลังของ ฮีรูกะ แน่นอนเขาจะมีพลังมากที่สุด เขาต้องการได้รับทั้งครึ่งชั่วร้ายและครึ่งดี
Perhaps this statue would help him in the future with his strength of the Heruka. Tang You You looked at Lin Feng in a deep and meaningful way and immediately walked towards the statue. She then said, “I know you wanted to go to another temple, but now you can relax. I won’t bother you while you learn the skill.”
บางทีรูปปั้นนี้อาจช่วยเขาได้ในอนาคตด้วยความแข็งแกร่งของ ฮีรูกะ ของเขา ถังหยูหยู มองไปที่ หลินเฟิง อย่างลึกซึ้งและมีความหมายและเดินตรงไปยังรูปปั้น จากนั้นเธอก็กล่าวว่า "ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการไปที่วิหารอื่น แต่ตอนนี้เจ้าต้องพักเสียก่อน ข้าจะไม่รบกวนเจ้าในขณะที่เจ้าเรียนรู้ทักษะ "
“Alright.” said Lin Feng, nodding. He shook his head and his seven starlight seeds connected with those of the half-evil half-good statue. Bridges appeared between his seeds and those of the statue. Swiftly, Lin Feng had the impression that his head was going to explode. Some memories had entered his brain which made him shake and move back a step.
"ตกลง" หลินเฟิง กล่าวแล้วพยักหน้า เขาสั่นหัวและเมล็ดแสงเจ็ดดวงของเขาก็เชื่อมต่อกับรูปปั้นครึ่งชั่วร้ายครึ่งดี สะพานได้ปรากฏขึ้นระหว่างเมล็ดแสงและรูปปั้น อย่างรวดเร็ว หลินเฟิง มีความรู้สึกว่าหัวของเขากำลังจะระเบิด ความทรงจำบางอย่างพลั่งพลูเข้าสู่สมองซึ่งทำให้เขาสั่นและถึงกับก้าวถอยหลัง
Lin Feng tried to stand steadily but gave up and sat down cross-legged. As expected, a skill which required seven stars was much more powerful than a skill which needed only one… Those memories were extremely brutal.
หลินเฟิง พยายามยืนนิ่ง แต่ยอมแพ้และนั่งไขว่ห้าง ตามที่คาดการณ์ไว้ทักษะที่ต้องการดาวเจ็ดดวงมีพลังมากกว่าทักษะที่ต้องการเพียงหนึ่งเดียว ... ความทรงจำเหล่านี้มันช่างโหดร้ายมาก
At that moment, a vast starry sky appeared in Lin Feng’s brain. It was gigantic.
ในขณะนั้นท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวปรากฏตัวขึ้นในสมองของ หลินเฟิง มันช่างใหญ่โตเกินจินตนาการ
A dazzling golden light started twinkling all around his body. The aura of the Buddhas were shining all around him and illuminating the entire atmosphere of the temple.
แสงสีทองพราวแสงเริ่มกระพริบระยิบระยับรอบตัวของเขา รัศมีของพระเจ้ากำลังสาดส่องแสงรอบตัวเขาและเปล่งประกาย บรรยากาศทั้งมวลของวิหาร
On one side in the space there was a magnificent light, and on the other side there was a black evil light which couldn’t be pierced by the beautiful and dazzling light.
ด้านหนึ่งในอวกาศมีแสงอันงดงามและอีกด้านหนึ่งมีแสงที่ชั่วร้ายสีดำซึ่งแสงไม่สามารถผ่านไปได้
Those statues seemed like they had come from ancient times, as if good and evil had been fighting since the beginning of time.
รูปปั้นเหล่านี้ดูเหมือนพวกเขามาจากสมัยโบราณราวกับว่าสิ่งที่ดีและชั่วร้ายกำลังต่อสู้อยู่ตั้งแต่เริ่มแรก
It seemed like the mouth of the good statue was moving. Texts written in sanskrit started flowing, they were written in beautiful golden letters and they were moving towards the dark light.
มันดูเหมือนปากของรูปปั้นที่ดีเคลื่อนไหว ตำราที่เขียนนั้นเป็นภาษาสันสกฤตเริ่มไหลผ่านพวกเขาเขียนด้วยตัวอักษรสีทองที่สวยงามและพวกเขากำลังเดินไปบนทางแสงสีดำ
However, the evil statue remained fearless and remained standing there indifferently. An evil energy kept flowing and rolling in the atmosphere. The beautiful golden texts in sanskrit kept colliding with that evil energy and then disappearing as if they had never existed.
Even though Lin Feng’s eyes were closed, his facial expression kept changing. The images in his brain were incredible, astonishing. His heart kept pounding violently and he couldn’t calm down.
อย่างไรก็ตามรูปปั้นชั่วร้ายยังคงไม่หวาดกลัวและยังคงยืนอยู่ที่นั่นอย่างไม่แยแส พลังงานชั่วร้ายที่ไหลผ่านและคละคลุ้งอยู่ในชั้นบรรยากาศ ข้อความสีทองที่สวยงามภาษาสันสกฤตชนเข้ากับพลังงานความชั่วร้ายนั้นและหายไปราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมีตัวตน
ถึงแม้ดวงตาของ หลินเฟิง จะปิดลง แต่การแสดงออกทางสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ภาพในสมองของเขาช่างเหลือเชื่อจนน่าอัศจรรย์ หัวใจของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรงและเขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น