ตอนที่ 587 การบ่มเพาะพลังที่แปลกประหลาด
It was night, silence reigned supreme.
มันเป็นคืนที่เงียบที่สุดคืนหนึ่ง
In a pavilion courtyard, there was a silhouette sitting cross-legged around whom a dazzling light was illuminating the atmosphere, it seemed as if a fire was burning.
ในลานศาลามีเงาคนที่นั่งขาไขว้กันกันอยู่ล้อมรอบ แสงไฟ ที่อบอุ่นจากกองไฟ ส่องสว่างในบรรยากาศ
That young man looked outstanding, handsome and smart. While practicing, his face was illuminated by the fire and it made him look particularly handsome.
ชายหนุ่มคนนั้นดูโดดเด่นแถมยังหล่อและฉลาด ขณะกำลังฝึกฝนใบหน้าของเขาสว่างไสวด้วยไฟและทำให้เขาดูหล่อมากยิ่งขึ้น
That person was obviously Lin Feng but at that moment he had taken off his mask!
คนๆนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็น หลินเฟิง แต่ในขณะนี้นั้นเขาได้ถอดหน้ากากออก!
Even though his pure Qi was still restrained, it didn’t prevent him from practicing cultivation. His cosmos-burning sun skill was still rotating around him.
ถึงแม้ว่าพลังปราณที่บริสุทธิ์ของเขายังไม่สามารถควบคุมได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดบ่มเพาะพลัง ความสามารถในการบ่มเพาะพลังของเขาร้อนแรงเผาไหม้ดั่งดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงไปทั่วจักรวาลที่หมุนรอบตัวเขา Having drunk ten bottles of Hot Unit had particularly helped him retrieve some pure Qi, it kept attacking the dust the medicine had left on his energy making it gradually come back to normal. At that moment, his pure Qi was already about to regain its strength of the Xuan Qi layer. Very quickly, Lin Feng would return to his normal cultivation level. Of course, his corporeal body, in terms of physical strength, was something else, it wasn’t like normal cultivation.
การดื่มสุราร้อนสิบขวด ช่วยให้เขาได้สัมผัสพลังปราณบริสุทธิ์บางอย่าง ที่ยังคงโจมตีอยู่ตลอดเหมือนกับยาที่ยังไม่หมดฤทธิ์ แต่ด้วยพลังงานของเขาทำให้มันค่อยๆกลับมาสู่ภาวะปกติ ในขณะนั้นพลังปราณ ที่บริสุทธิ์ของเขากำลังจะฟื้นฟูพลังความแข็งแกร่งของชั้นปฐพีไว้ หลินฮองจะกลับสู่ระดับการเพาะปลูกตามปกติอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าร่างกายที่เป็นตัวตนของเขาในแง่ของความแข็งแรงทางกายภาพเป็นอย่างอื่นมันก็ไม่ใช่การเพาะปลูกตามปกติ
The flames were becoming denser and denser, on Lin Feng’s body, there was a sun pattern and it seemed like all the flames were condensing on that sun pattern. In the middle of the night, there was even a light beam coming from the sky and crashing onto the sun pattern.
เปลวไฟที่อยู่บนร่างของ หลินเฟิง ลุกโชนขึ้นดูเหมือนกับว่าเปลวเพลิงทั้งหมดถูกควบแน่นบนรูปลายดวงอาทิตย์นั้น แม้ตอนกลางคืนก็ยังมีลำแสงมาจากฟากฟ้าและกระแทกแดดลงมา
Lin Feng could attract sunlight whether it was day or night, it didn’t matter.
หลินเฟิง สามารถดูดซับแสงแดดได้ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน
At that moment, Lin Feng was doing just that, attracting sunlight.
ในขณะนี้ หลินเฟิง กำลังทำอย่างนั้นอยู่และกำลังดูดซับแสงแดด
His cosmos-burning sun skill was very mysterious, it wasn’t as easy to understand as its name sounded, when that skill reached its highest level, it could really destroy an entire planet and even more.
ทักษะสุริยันผลาญจักรวาลนั้นเป็นทักษะที่ลึกลับอย่างมาก มันไม่ง่ายที่จะเข้าใจได้เนื่องจาชื่อของมันก็บอกอยู่แล้ว เมื่อทักษะนั้นมาถึงระดับสูงสุดแล้วมันสามารถทำลายดาวได้ทั้งดวงหรือทำได้มากกว่านั้น
The sun on Lin Feng’s body was becoming more and more real each day, it became more real as his cultivation level increased. Outside of the courtyard, many people were raising their heads and looking at that strange light in the middle of the night, they were very surprised.
ดวงอาทิตย์บนร่างของ หลินเฟิง เริ่มเป็นจริงขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละวันมันยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อระดับการบ่มเพาะพลังเพิ่มมากขึ้น ด้านนอกลาน หลายคนเงยหน้าขึ้นและมองไปที่แสงแปลก ๆนั้นตอนกลางดึกพวกเขาต่างประหลาดใจอย่างมาก
It seemed like someone was practicing a skill in there.
ดูเหมือนว่ามีใครบางคนฝึกฝนทักษะที่ทรงพลังอยู่
However, even though people could see it, they preferred ignoring it and got back to their own personal business, even if they were extremely curious and were wondering what it was.
อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้คนจะได้เห็นมัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจและกลับไปทำเรื่องส่วนตัวของตัวเองแม้ว่าพวกเขาจะอยากรู้อยากเห็นอย่างมากและสงสัยว่ามันคืออะไร
Sometimes, curiosity could be fatal and deadly. With such a light beam coming from the sky, the one practicing that skill was probably extremely strong, if they bothered him while he was practicing cultivation, they would probably regret it later or maybe even die, so of course, people preferred controlling their curiosity.
บางครั้งความอยากรู้อยากเห็นอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตได้ เช่นเดียวกับลำแสงที่มาจากฟากฟ้าผู้ฝึกฝนทักษะนั้นอาจจะแข็งแกร่งมากถ้าพวกเขาอยากรู้ ในขณะที่บุคคลนั้นกำลังฝึกทักษะการบ่มเพาะพลังอยู่ พวกเขาอาจจะเสียใจในภายหลังหรือบางทีอาจจะตายไปอย่างแน่นอน ดังนั้นผู้คนจึงต้องควบคุมความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง .
In Celestial Dragon, they had already seen cultivators borrow the strength of the earth and the sky, nobody dared to bother such people or despise them, unless they wanted to die.
ในเมืองมังกรสวรรค์ พวกเขาได้เห็นผู้บ่มเพาะพลังที่ใช้ความแข็งแกร่งของโลกและท้องฟ้าไม่มีใครกล้าที่จะรบกวนคนเหล่านั้นหรือดูถูกพวกเขา เว้นแต่พวกเขาต้องการที่จะตาย
However, at that moment, it seemed like there was actually someone who didn’t care about living anymore.
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ดูเหมือนว่ามีคนที่ไม่สนใจชีวิตของตัวเองอยู่
Outside of the courtyard, there was a thin and short silhouette looking at the light beam, that silhouette kept flickering and moving towards the courtyard.
ด้านนอกลานมีเงาขอบฝครบางคนและที่กำลังมองไปที่ลำแสงนั้นแล้วภาพเงานั้นก็จางหายไป และเดินไปที่ลานนั่น
“What’s that? It must be here,” whispered that silhouette, it actually was Lan Jiao and she was surprised.
"นั่นอะไรหน่ะ? มันต้องอยู่ที่นี่แน่ "เสียงกระซิบของเงาเหล่านั้น อันที่จริงแล้วนางคือ หลานเจียว และเธอรู้สึกประหลาดใจ
After looking pensive for a while, she gnashed her teeth and her silhouette started flickering again. She then arrived at the height of the courtyard and jumped onto the ground. Then she continued running towards the light beam.
หลังจากที่เธอมองไปชั่วขณะหนึ่ง นางได้กัดฟันตัวเองและภาพเงาของเธอได้หายไปอีกครั้ง จากนั้นเธอก็มาถึงที่มุมสูงของลานและกระโดดลงไปบนพื้น จากนั้นเธอก็วิ่งต่อไปยังลำแสงนั่น
After a short moment, she stopped outside of a pavilion and saw a person’s back. That person was covered in dazzling flames and there was a sun pattern on his body. Besides, the light beam coming down from the sky was falling straight onto his body. That person was, indeed, practicing cultivation and attracting sunlight.
หลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ เธอได้หยุดอยู่นอกศาลาและเห็นหลังของคนคนหนึ่ง คนที่ถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟและมีรูปดวงอาทิตย์บนร่างกายของเขา นอกจากนี้ลำแสงที่ตกลงมาจากฟากฟ้าก็ตกลงมาบนตัวเขา คนผู้นั้นกำลังบ่มเพาะพลังและดูดซับแสงแดด
“What a strong and powerful fire,” thought Lan Jiao surprised, when she saw that fire skill. That person could surprisingly attract sunlight.
"ช่างเป็นเปลวไฟที่รุนแรงและทรงพลังอย่างมาก" หลานเจียว คิดอย่างแปลกใจเมื่อเห็นทักษะการยิงนั้น บุคคลนั้นสามารถดูดซับแสงแดดได้อย่างน่าประหลาดใจ
Who was that cultivator?
ใครคือคนที่กำลังบ่มเพาะพลังอยู่กันแน่?
“Who is it?” said a cold and detached voice. Lin Feng sensed that someone was observing him, he immediately stopped practicing cultivation.
"นั่นใคร?" เสียงที่เยือกเย็นและเปล่งออกมาจากปากของ หลินเฟิง เขารู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังแอบมอง เขาจุงหยุดบ่มเพาะพลังโดยทันที
He stretched his hand and and put his mask back on, immediately, his silhouette flickered in the darkness of the night, he was as fast as the wind. In a flash, he arrived next to Lan Jiao and his fist bombarded the atmosphere.
เขาเหยียดมือออกและสวมหน้ากากทันทีเงาของเขาหายไปในความมืดยามค่ำคืน เขารวดเร็วราวกับสายลม ในทันใดนั้นเขาก็มาถึงข้างตัวของ หลานเจียว และซัดฝ่ามือออกไป
Lan Jiao suddenly felt extremely tense, she wanted to move back but she had no time, that person’s speed was incredible. At the moment when the fist was about to reach her face she closed her eyes and waited to get punched.
หลานเจียว รู้สึกตึงเครียดอย่างมากเ ธออยากจะถอยกลับไป แต่เธอไม่มีเวลาพอความเร็วของคนๆนั้นน่าเหลือเชื่อ ในขณะที่ฝ่ามือกำลังจะถึงใบหน้าของเธอ เธอหลับตาของเธอและรอฝ่ามือนั้นพุ่งมาที่เธอ
A strong wind was brushing away on her face and her heart was pounding violently, was she going to die?
มีลมที่รุนแรงพัดมาบนใบหน้าของเธอและหัวใจเธอเต้นรัวอย่างรุนแรงหรือว่าเธอกำลังจะตาย?
But a short moment after, nobody had punched her so she opened her eyes and immediately looked the person in front of her.
แต่ต่อมาไม่นานนัก กลับไม่มีใครสัมผัสตัวเธอในตอนเธอได้ลืมตาขึ้นและมองคนที่อยู่ข้างหน้า
Just like Qing Meng Xin had said, that person looked sick but also looked angry because she had disturbed him.
เช่นเดียวกับ ชิงเมิ้งซิน บอกไว้ ชายคนนี้ดูเหมือนคนป่วย แต่ก็ดูโกรธด้วยเพราะเธอได้มารบกวนเขา
“Is it him…?” thought Lan Jiao. From what Qing Meng Xin had told her, that person’s name was Lin Feng as well and she had hoped that that person would be the real Lin Feng. Qing Meng Xin had told her that it was a completely different but Lan Jiao had refused to believe such a thing. However, at that moment, she still had doubts, was he Lin Feng or not?
"มันคือเขา ... ?" หลานเจียว คิด จากสิ่งที่ ชิงเมิ้งซิน บอกกับเธอถึงคนที่ชื่อ หลินเฟิง และเธอหวังว่าคน ๆ นั้นจะเป็น หลินเฟิง จริงๆ ชิงเมิ้งซิน บอกกับเธอ มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ หลานเจียว ก็ปฏิเสธที่จะเชื่อในสิ่งนั้น อย่างไรก็ตามในขณะนี้เธอยังคงสงสัยว่าเขาเป็น หลินเฟิง หรือไม่?
“I spied on you and disturbed you. Why don’t you kill me?” asked Lan Jiao, while fixedly staring at Lin Feng which made him frown. He had almost punched her but had suddenly stopped.
"ข้าแอบดูเจ้าและรบกวนเจ้า ทำไมเจ้าถึงไม่สังหารข้า? "หลานเจียว ถามขณะที่จ้องมองไปที่ หลินเฟิง ซึ่งทำให้เขาขมวดคิ้วขึ้น เขาเกือบจะชกเธอ แต่ก็หยุดลงทันที
“I don’t kill people. Let’s forget about what just happened. You can leave now,” said Feng while moving his fist back down. He was talking in a cold way.
"ฉันไม่อยากฆ่าคน ขอให้ลืมเกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นด้วย ตอนนี้เจ้าออกไปได้แล้ว "หลินเฟิง กล่าวขณะที่ย้ายมือของเขากลับลงมา. เขาพูดอย่างเย็นชา
“If you don’t kill me, it means that you know me, otherwise, you would have killed me,” said Lan Jiao, while fixedly staring at him, like before.
"ถ้าเจ้าไม่สังหารข้านั้นหมายความว่า เจ้ารู้จักข้า มิฉะนั้นเจ้าคงสังหารข้าไปแล้ว"หลานเจียว กล่าวในขณะที่จ้องมองไปที่เขาเหมือนก่อนหน้านี้
“Do you think that I could possibly know you? Where could we have met?” asked Lin Feng coldly and then continued, “before I change my mind, you should hurry up and leave.”
"คุณคงคิดว่าข้าอาจจะรู้จักเจ้า? เราเคยพบกันที่ไหนงั้นรึ? "หลินเฟิง ถามอย่างเย็นชาและถามต่อว่า" ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนความคิด เจ้าควรรีบกลับขึ้นไปและออกไปซะ "
“Lin Feng, you don’t need to lie to me. You released deadly energy, you wanted to kill me but then, when you saw my face, you immediately stopped. You perfectly know me, you are Lin Feng,” said Lan Jiao, while smiling which made Lin Feng frown even more. He hadn’t thought he would come across her.
"หลินเฟิง เจ้าไม่จำเป็นต้องโกหกข้า เจ้าปล่อยพลังงานแห่งความตายได้ ถ้าเจ้าต้องการที่จะสังหารข้า แต่แล้วเมื่อเจ้าเห็นใบหน้าของข้า เจ้ากลับหยุดในทันที เจ้ารู้ว่าเป็นข้า และเจ้าคือ หลินเฟิง "หลานเจียว กล่าวขณะที่ยิ้มทำให้ หลินเฟิง ขมวดคิ้วมากยิ่งขึ้น เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะได้พบกับเธออีก
“Could it be that you don’t trust me? I know that you changed your face and that it has something to do with your disappearance but do you think I could ever betray you?” said Lan Jiao, whose feelings were hurt. Lin Feng didn’t trust her.
"มันเป็นไปได้ไหมที่เจ้าไม่ไว้ใจข้า? ข้ารู้ว่าเจ้าเปลี่ยนใบหน้าของเจ้าและมันมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเจ้า แต่เจ้าคิดว่าข้าจะทรยศเจ้างั้นรึ? "หลานเจียว กล่าวอย่างเจ็บปวดใจ ที่ หลินเฟิง ไม่ไว้ใจเธอ
Lin Feng stopped frowning and turned around while saying, “Hurry up and leave, otherwise, people will really guess who I am even if you don’t tell them anything.
หลินเฟิง หยุดขมวดคิ้วและหันมาพูดว่า "รีบขึ้นไปและออกไปมิฉะนั้นคนอื่นจะรู้ว่าข้าเป็นใครแม้ว่าเจ้าจะไม่ได้บอกอะไรก็ตาม
When Lan Jiao heard Lin Feng, she smiled and said, “I knew that nothing would happen to you, next time, don’t practice cultivation outside, everybody can see the light beam of your cosmos-burning sun… It looks too suspicious.” Lan Jiao had actually guessed that he was Lin Feng because of his sun skill, besides, at the Celestial Academy, she had already seen Lin Feng surrounded by fire and she had also seen his magnificent sun pattern, therefore, she had almost immediately been convinced that it was Lin Feng.
เมื่อ หลานเจียว ได้ยิน หลินเฟิงบอกเช่นนั้นเธอยิ้มและพูดว่า "ข้ารู้ว่าจะไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นกับเจ้า ในครั้งต่อไปถ้าไม่ได้บ่มเพาะพลัง ทุกคนสามารถมองเห็นแสงจากทักษะสุริยันผลาญจักรวาล ... มันดูน่าสงสัยมากถ้าเกิดแสงหายไป "หลานเจียว ได้คาดการณ์ว่าเขาเป็น หลินเฟิง เพราะทักษะสุริยันของเขานอกจากที่ สถาบันสำนักสวรรค์แล้ว เธอยังเคยเห็น หลินเฟิง ถูกห้อมล้อมด้วยไฟอีกด้วยและเธอยังได้เห็นรูปดวงอาทิตย์อันงดงามของเขา ดังนั้นเธอจึงจำได้ในทันที และเชื่อว่านั้นเป็น หลินเฟิง
When Lin Feng heard her, he stopped walking, a light beam?
เมื่อ หลินเฟิง ได้ยินที่เธอพูด เขาหยุดเดิน ลำแสงงั้นรึ ?
Lin Feng knew nothing about it, each time he was practicing, he couldn’t see what was happening outside of his body, he couldn’t see the oddities around his body. However, he could feel that, even though his pure Qi was restrained, his cosmos-burning sun skill was much stronger than before.
หลินเฟิง ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกครั้งที่เขาฝึกฝนนั้นไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกร่างกายได้ เขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งแปลก ๆ ที่อยู่รอบตัวได้ อย่างไรก็ตามเขารู้สึกได้ แม้ว่าความสามารถในการควบคุมจิตใจของเขาจะแย่ลงก็ตาม
“Thanks,” said Lin Feng, while nodding and then immediately moved into a room. Tomorrow, he was going to leave for Mi Cheng. He had to stop practicing cultivation and go to sleep. He had to get ready to leave for that place which would be filled with godlike cultivators.
"ขอบใจ" หลินเฟิง กล่าวขณะพยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องทันที พรุ่งนี้เขาออกเดินทางไปยัง เมืองหมีเฉิง เขาต้องเลิกบ่มเพาะพลังและไปนอน เขาต้องเตรียมพร้อมที่จะออกไปจากที่นี้ซึ่งจะเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังระดับสูง
In Mi Cheng, he would meet some extremely strong cultivators from the entire region of Xue Yu, from the thirteen countries composing that region. That was Lin Feng’s first real step outside of Xue Yue.
ในเมือง หมีเฉิง เขาจะได้พบกับผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งอย่างมากจากทั้งแคว้นซู่วหยู จากประเทศที่สร้างขึ้นในภูมิภาคนี้ถึงสิบสามประเทศ นับเป็นก้าวแรกอย่างแท้จริงของ หลินเฟิง ที่อยู่นอกแคว้นซู่วเย่
Lan Jiao looked at Lin Feng enter the room and smiled. She knew that Lin Feng was alive so she was happy.
หลานเจียว มอง หลินเฟิง เข้าไปในห้องและยิ้มให้ เธอรู้ว่า หลินเฟิง ยังมีชีวิตอยู่เท่านี้เธอก็มีความสุขแล้ว
She turned around and her silhouette flickered as she left, disappearing in the darkness of the night. But after Lan Jiao left, under the moon in the courtyard, a silhouette appeared, it looked like a shadow, that person looked at Lan Jiao leave and then hid in the darkness again.
เธอหันกลับไปและร่างของเธอก็หายไปขณะที่เธอจากไปในความมืดยามค่ำคืน แต่หลังจาก หลานเจียว จากไป ใต้ดวงจันทร์ในลาน ภาพเงาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมันดูเหมือนเงาคนนั้นมองไปที่ หลานเจียว แล้วก็ซ่อนตัวอยู่ภายในความมืดอีกครั้ง....
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น