ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 205

ตอนที่ 205 เปิดฉากสงคราม






 “แปดสังหารทลายสวรรค์”  หลินเฟิง โจมตีออกไปโดยไม่ลังเล แต่ทำได้แค่เบี่ยงเบนทิศทางลูกศรได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 ราวกับว่า หลินเฟิง ได้คาดการณ์ไว้แล้ว เขาได้สะบัดมือและปลดปล่อยพลังปราณออกไปเพื่อป้องกันลูกศร       

 พลังปราณของ หลินเฟิง เพียงแค่ทำให้ลูกศรช้าลงเล็กน้อยและมันก็ยังคงพุ่งไปข้างหน้า

 “ซินเย้หลบไป!” หลินเฟิงตะโกนอย่างเร่งรีบ ดาบของเขายังคงปักอยู่ในอกของฝั่งตรงข้าม หลินเฟิงได้ปลดปล่อยพลังงานดาบจำนวนมหาศาลไว้ในร่างกายของนักฆ่าทำให้เขาต้องพบเจอกับความตายที่น่าสยดสยอง

 “ฉึบบ..” หลินเฟิงหันกลับไปพร้อมกับใบหน้าที่ซีดขาว เขาเห็นเพียงแค่ลูกศรปักลงไปในร่างๆหนึ่ง!

 แต่นั่นไม่ใช่ร่างขององค์หญิงต้วนซินเย้ แต่เป็นชิวเฉ่าที่เอาร่างของตัวเองมาบังลูกศรให้กับนาง

 “ชิวเฉ่า!” ต้วนซินเย้กรีดร้องออกมา หลังจากนั้นก็ปรากฏรูบนกระโจมและมีเถาวัลย์ล่วงลงมาพร้อมกับคว้าร่างของต้วนซินเย้ขึ้นไปในอากาศ

 หลินเฟิงเกรี้ยวกราด เขากระโดดขึ้นไปและตัดมันด้วยปราณจากดาบของเขา

 ในเวลาเดียวกัน อีกร่างเงาหนึ่งก็ลงมาจากท้องฟ้า ใบมีดยาวเข้าปะทะกับปราณดาบของหลินเฟิงและทำลายมัน

 พริบตาเดียว ร่างของต้วนซินเย้หายไปจากกระโจมและถูกนำตัวไปโดยเถาวัลย์ลึกลับ

 หลินเฟิงตกตะลึง ใบหน้าของเขาซีดขาวราวกับคนตาย นี่เป็นการจู่โจมแบบใดกัน แม้แต่ผู้อ่อนแอที่อยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 หลินเฟิงก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของพวกเขาได้หมด

 จู่ๆพลังปราณที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็ปะทุออกมาจากดาบของหลินเฟิง ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องที่น่าสยดสยอง หลินเฟิงเกรี้ยวกราดอย่างมาก เขาปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังออกมา  

 “ตู้มม!”

ปราณดาบของเขาทำให้กระโจมระเบิดและกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หลินเฟิงมองไปรอบๆอย่างบ้าคลั่งและเห็นศัตรูที่กำลังหนี เขากระโจนขึ้นไปในอากาศเพื่อไล่ตาม แต่ทันใดนั้นเองก็ได้มีหมัดๆหนึ่งพุ่งเข้ามาปะทะกับใบหน้าของเขาและส่งเขาลอยไปข้างหลัง

 “ไสหัวไป!” หลินเฟิงคำรามเมื่อเห็นคนที่สวมเสื้อเกราะกำลังขวางทางเขาอยู่

 “องค์หญิงเป็นอย่างไรบ้าง?” คนๆนั้นถามและมองไปที่กระโจม

 เมื่อคนๆนั้นเห็นว่าหลินเฟิงไม่ตอบ เขาก็กล่าวต่อ “เจ้าทำอะไรกับองค์หญิง?”

 หลินเฟิงรู้สึกว่านักฆ่าได้หลบหนีไปไกลแล้ว เขาไม่มีเวลาสำหรับการสนทนาที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้ เขาเคลื่อนตัวไปข้างหน้าและกวัดแกว่งดาบของเขา

 “เหอะ” ชายในเสื้อเกราะยิ้มอย่างเย็นชาและตะโกน “ธนูพร้อม!”

 เมื่อกล่าวจบ ร่างเงาจำนวนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาและยกธนูของพวกเขาขึ้นพร้อมกับเล็งไปที่หลินเฟิง

 สีหน้าของหลินเฟิงเปลี่ยนไป เขารู้แล้วว่าเขากำลังติดกับ หลินเฟิงรีบถอยไปข้างหลังและถามชายในเสื้อเกราะ “เป็นเจ้า?”

 ชายคนนั้นเมินเฉยคำถามของหลินเฟิงและตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “เจ้าทำอะไรกับองค์หญิง?”

 เมื่อกล่าวจบ เขาก็ก้าวเข้าไปในกระโจมที่ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง จากนั้นเขาก็เห็นศพของหญิงสาวร่างหนึ่งแต่ไม่ใช่องค์หญิงต้วนซินเย้แต่เป็นชิวเฉ่า

 “ส่งตัวองค์หญิงมา!” ชายในเสื้อเกราะคำราม สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย เขายกมือขึ้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้พลธนูง้างธนูของพวกเขาเพื่อที่จะพร้อมยิงหลินเฟิงได้ทุกเมื่อ

 หลินเฟิงยิ้มและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาของเขากลายเป็นสีดำและจ้องมองไปยังชายคนนั้นพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ไม่เพียงแต่เจ้าวางแผนที่จะลอบสังหารองค์หญิงเท่านั้น แต่เจ้าก็จะพยายามใส่ร้ายข้าเพื่อที่จะได้สังหารข้า?”

 “ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้าพูด” ชายคนนั้นจ้องมาที่หลินเฟิงและกล่าวอย่างไม่แยแส “ทำไมข้าต้องทำเช่นนั้น เจ้าประเมินตัวเองสูงไปแล้ว”

 “แม้ว่าเจ้าจะได้รับตำแหน่งนายกองจากหลิ่วช่างหลานในวันนี้ แต่เจ้าได้สังหารคนใช้ขององค์หญิงและยังลักพาตัวนางไปอีก หากเจ้าไม่มีคำอธิบายที่ดีพอ ที่นี่จะเป็นหลุมฝังศพของเจ้า”

 หลินเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา เขาจะสามารถอธิบายอะไรได้อีก?

 ในขณะที่องค์หญิงถูกลักพาตัว คนเหล่านี้ก็กำลังรออยู่ใกล้ๆกระโจม จะเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะมองไม่เห็นคนที่ลักพาตัวองค์หญิง? นอกจากนี้ในตอนที่หลินเฟิงกำลังจะออกไล่ล่าคนร้าย เขาก็ถูกหยุดไว้โดยชายที่สวมเสื้อเกราะ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีเพื่อที่จะมาเอาชีวิตหลินเฟิง

 ข่าวที่ว่าหลินเฟิงสังหารคนรับใช้ขององค์หญิงและลักพาตัวองค์หญิงไปแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในหมู่ทหาร

ผู้คนจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาที่กระโจมขององค์หญิง พริบตาเดียวเหตุการณ์วุ่นวายก็เกิดขึ้น ต้วนเทียนหลางเองก็มาเมื่อทราบข่าว

 “หลินเฟิง องค์หญิงทรงเมตตาต่อเจ้าและเจ้ายังเป็นถึงองครักษ์ส่วนตัวขององค์หญิง ทำไมเจ้าถึงกล้ากระทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ บอกพวกเรามาเจ้าเอาองค์หญิงไปไว้ที่ไหน?!” ต้วนเทียนหลางตะหวาดใส่หลินเฟิง

 หลินเฟิงไม่สามารถที่จะอธิบายได้

 แม้ว่าหลินเฟิงจะอธิบายออกไปแต่ก็คงจะไม่มีใครเชื่อเขา ต้วนเทียนหลางและคนอื่นๆได้ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าเขาเป็นคนร้าย ตราบเท่าที่ยังหาคนร้ายตัวจริงไม่ได้ หลินเฟิงก็จะกลายเป็นผู้ที่สังหารชิวเฉ่าและลักพาตัวองค์หญิงไปโดยปริยาย

 ในตอนนี้หลินเฟิงไม่มั่นใจว่าต้วนเทียนหลางและคนอื่นในกองทัพมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

 “ต้วนเทียนหลาง ท่านคงจะไม่ใช่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรอกนะ?” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา หากเป็นต้วนเทียนหลางจริงๆ นี่มันก็เป็นการกระทำที่เกินกว่าคำว่าไร้ยางอายแล้ว ในตอนแรกลูกศรมุ่งเป้าไปที่องค์หญิงต้วนซินเย้ หากหลินเฟิงไม่พยายามสุดกำลังและชิวเฉ่าไม่ใช้ชีวิตของนางปกป้องต้วนซินเย้ ป่านนี้องค์หญิงแห่งอาณาจักรหิมะจันทราก็คงจะสิ้นชีพไปแล้ว

 “เจ้ารนหาที่ตาย” ต้วนเทียนหลางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา จากนั้นเขาก็กล่าวต่อ “ข้าจะให้เวลาเจ้าตัดสินใจ ถ้าเจ้าไม่บอกว่าองค์หญิงอยู่ที่ไหน ข้าจะสังหารเจ้าเพื่อเป็นการลงโทษ” เมื่อกล่าวจบ ต้วนเทียนหลางก็จุดตะเกียงน้ำมันและพลังงานแห่งความตายก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขาและมุ่งไปที่หลินเฟิง

หลินเฟิงจ้องมองอย่างไม่แยแส ประกายแสงแห่งการฆ่าฟันแวบผ่านดวงตาของเขา หากต้วนเทียนหลางเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังจริงๆ นี่ก็คือว่าเป็นโอกาสที่ดี ทำไมต้วนเทียนหลางถึงไม่สังหารเขาซ่ะ จะปล่อยให้เขามีเวลาเพื่อตัดสินใจไปทำไม?

 เพียงเวลาสั้นๆก็เพียงพอใจหลิ่วช่างหลานเร่งรีบมาที่เกิดเหตุ

 หลินเฟิงไม่เข้าใจความตั้งใจของต้วนเทียนหลาง แต่ตอนนี้เขาก็ไม่อาจทราบได้ว่าองค์หญิงต้วนซินเย้ยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่?

 หลินเฟิงต้องการที่จะออกไปตามหาต้วนซินเย้แทนที่จะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่เพราะเขามีหน้าที่ในการปกป้องนาง

 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พิจารณาจากจำนวนลูกศรที่มุ่งเป้ามายังเขาแล้ว มันคงจะเป็นเรื่องที่โง่เง่าอย่างมากที่จะวิ่งฝ่าออกไป ชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย

 หลินฟิงหันไปมองและเห็นว่าตะเกียงน้ำมันกำลังจะมอดดับแล้ว

 ทันใดนั้น พื้นดินก็เกิดสั่นสะเทือน ทหารม้าจำนวนนับไม่ถ้วนได้มาล้อมกระโจมขององค์หญิงเอาไว้

 “ต้วนเทียนหลาง อะไรที่ทำให้เจ้าคิดว่าสามารถทำตามอำเภอใจที่นี่ได้?”

 เสียงที่ทรงพลังดังขึ้น หลิ่วช่างหลานปรากฏตัวขึ้นในอากาศพร้อมกับธนูที่อยู่ด้านหลังของเขาและยังมีผู้บังคับบัญชากองทหารโลหิต จิวชื่อเสวี้ยที่ติดตามมาอย่างใกล้ชิด เขาเคลื่อนตัวไปอยู่ข้างกายหลินเฟิงในทันทีและเมินเฉยต่อทุกคน

 “หลิ่วช่างหลาน หลินเฟิงวางแผนที่จะปองร้ายองค์หญิง ทำไมเจ้าถึงเลือกที่จะอยู่ข้างเขา? เจ้ามีเจตนาร้ายอันใดกันแน่?” ต้วนเทียนหลางกล่าว

 “ข้าไม่สนใจว่าใครเป็นคนลักพาตัวองค์หญิง แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา การออกตามหาองค์หญิงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแทนที่จะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ นางคงยังไม่อาจที่จะออกไปจากอาณาเขตของค่าย อย่างไรก็ตามเจ้าได้นำทหารทั้งหมดของเจ้ามาที่นี่และยังกระจายข่าวลือออกไปอีกซึ่งจะส่งผลกระทำต่อการทำงานในกองทัพของพวกเรา ไม่ใช่ว่าเจ้าตั้งใจที่จะทำเช่นนี้เพื่อที่จะทำร้ายหลินเฟิง?”

 คำพูดของหลิ่วช่างหลานทำให้หลินเฟิงประหลาดใจ เป็นไปตามที่คาดไว้ หลิ่วช่างหลานมีประสบการณ์มากและพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเข้าใจจุดที่สำคัญที่สุดของสถานการณ์ในตอนนี้

ต้วนเทียนหลางเป็นขุนนางชั้นสูงและยังเป็นหัวหน้าผู้บัญชาการทหาร เขาจะไม่เข้าใจจุดที่สำคัญที่สุดของสถานการณ์ในตอนนี้ได้อย่างไร? ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการออกตามหาองค์หญิงที่หายไปโดยเร็วที่สุดและคงจะไม่ใช้กองกำลังของเขาทั้งหมดเพื่อที่จะจับกุมหลินเฟิงความจริงที่ว่าต้วนเทียนหลางให้เวลากับหลินเฟิงก็ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับหลิ่วช่างหลาน

 “แน่นอนว่าข้าเข้าใจ แต่ข้าได้ให้เวลากับหลินเฟิงเพื่อที่จะให้เขาได้พูดว่าองค์หญิงอยู่ที่ไหน หลิ่วช่างหลาน เจ้าเป็นถึงแม่ทัพ การลงโทษหลินเฟิงเป็นหน้าที่ของเจ้า แต่เจ้ากลับมาเข้าข้างคนร้าย หากเจ้าไม่ถอยออกไปก็อย่าได้โทษข้าว่าไร้เมตตา” ต้วนเทียงหลางกล่าวด้วยความสงบ น้ำเสียงของเขาให้ความรู้สึกเป็นมิตรกับหลิ่วช่างหลานราวกับว่าเขาไม่อยากที่จะใช้กำลัง

 ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าของหลิ่วช่างหลาน “การที่เชิญเจ้าเข้ามาที่นี่เพื่อร่วมต่อสู้กับศัตรูภายนอกเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่! ต้วนเทียนหลาง เจ้ามันคนทรยศ!”

 “กองทหารม้าโลหิต พวกเจ้ายังอยู่ที่นี่หรือไม่?” หลิ่วช่างหลานตะโกน

 “พวกเรายังอยู่!” เสียงโห่ร้องของเหล่าทหารโลหิตดังสนั่นไปทั่วอากาศพร้อมกับปลดปล่อยปราณสังหารออกมา

 เหล่าทหารของต้วนเทียนหลางต่างโกลาหลและหวาดกลัว

 “หลิ่วช่างหลาน เจ้าร่วมมือกับหลินเฟิงลักพาตัวองค์หญิง เห็นได้ชัดว่าเจ้าเป็นคนทรยศ! พวกเจ้าทั้งหมดสมควรถูกประหาร!”

 ต้วนเทียนหลางตะโกน “ปล่อยธนู!”

 เมื่อต้วนเทียนหลางกล่าวจบ ทะเลลูกศรก็พุ่งผ่านอากาศตรงมายังหลินเฟิงและหลิ่วช่างหลาน

 “สังหารพวกมันให้หมด!” จิวชื่อเสวี้ยคำรามขณะที่ยิงลูกศรที่ทรงพลังออกไป ทันใดนั้นเองการสังหารก็ได้เริ่มขึ้น ทหารโลหิตไร้ความปราณีและเริ่มเข่นฆ่าทหารฝั่งตรงข้าม

 ต้วนเทียนหลางพยายามที่จะสังหารแม่ทัพหลิ่วช่างหลานซึ่งทำให้กองทหารโลหิตโกรธเกรี้ยวอย่างมาก

 ตอนนี้ ทหารโลหิตได้สังหารทหารของฝั่งตรงข้ามไปเป็นจำนวนมากซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับต้วนเทียนหลาง

 พริบตาเดียวสงครามภายในก็ได้บังเกิดขึ้น

 ทหารทุกนายเต็มไปด้วยจิตสังหาร

 นี่มันเกิดอะไรขึ้น? มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?

 มันเป็นเพราะหลินเฟิง ไม่มีใครสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อีกต่อไป ทหารจากกองทัพเดียวกันกำลังเข่นฆ่ากันเอง มันราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างถูกวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนที่หลินเฟิงเข้าไปในกระโจมขององค์หญิงต้วนซินเย้แล้ว

 จากที่ห่างไกล ได้มีเสียงแตรดังขึ้นแต่ทหารส่วนใหญ่แทบจะไม่ได้ยิน ในตอนนั้นเอง ใบหน้าของหลิ่วช่างหลานและต้วนเทียนหลางกลายเป็นซีดขาวราวกับคนตาย

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว มันคือเสียงแตรจากกองทัพของอาณาจักรโม๋เยี่ย ซึ่งกำลังเคลื่อนทัพตรงมายังทิศทางของพวกเขา…



ความคิดเห็น

Facebook