ตอนที่ 197 สถานการณ์ที่หน้าประตู
At that moment the crowd was looking towards Lin Feng and Yue Tian Chen. A cold Qi filled atmosphere and the situation felt tense.
ในขณะนั้นฝูงชนกำลังไปที่ หลินเฟิง และ เย่เทียนเฉิน บรรยากาศนั้นเต็มไปด้วยความหนาวเย็นและสถานการณ์ที่ตึงเครียด
Duan Wu Ya looked perplexed. He immediately stood up and said: “Ok. That’s enough. Stop beating the drums. We should start heading off now. Lin Feng, you are in charge of the protection of the princess.”
ต้วนหวูหยา มองอย่างมึนงง เขารีบลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า "เอาหละ พอแล้ว. หยุดตีกลอง พวกเราควรไปได้แล้วตอนนี้ หลินเฟิง เจ้าเป็นผู้รับผิดชอบในการปกป้ององค์หญิง "
When the crowd heard Duan Wu Ya, they were astonished. In the end, Duan Wu Ya had chosen Lin Feng. In his eyes, Lin Feng was more important than a young prodigy of the Yue Clan. The crowd couldn’t believe their eyes. After all, they had not seen what happened in the Lovesick Forest.
เมื่อฝูงชนได้ยินที่ ต้วนหวูหยา พูดพวกเขาประหลาดใจ ในท้ายที่สุดแล้ว ต้วนหวูหยา ได้เลือก หลินเฟิง ในสายตาของเขา หลินเฟิง มีความสำคัญมากกว่าชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ของตระกูลเย่ ฝูงชนไม่สามารถเชื่อสายตาของตนเองได้ พวกเขาไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในป่าช้ำรัก
In other people’s eyes, Lin Feng was just Lin Feng. Even though he was outstanding; it was impossible for him to compete with a young prodigy from a noble clan. The crowd had the impression that Duan Wu Ya, had given him the opportunity, even though it was undeserved simply because he liked Lin Feng.
ในสายตาของคนอื่น หลินเฟิง ก็เป็นแค่ หลินเฟิง แม้ว่าเขาจะโดดเด่น มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะแข่งขันกับเด็กอัจฉริยะหนุ่มจากตระกูลขุนนาง ฝูงชนมีความรู้สึกว่า ต้วนหวูหยา ทำให้เขาได้มีโอกาส ถึงแม้ว่าจะไม่สมควรเพียงเพราะเขาชอบ หลินเฟิง
Lin Feng was also astonished. Actually, if Yu Tian Chen hadn’t made him angry and attempted to humiliate him. Lin Feng wouldn’t have necessarily stood up. Even though the princess gave him a good impression, he still didn’t have any feelings for her. It was because of her delicate facial features and general beauty, no man could find her disgusting.
หลินเฟิง รู้สึกสับสน จริงๆแล้วถ้า เย่เทียนเฉิน ไม่ทำให้เขาโกรธและพยายามที่จะทำให้เขาเสียชื่อเสียง หลินเฟิง ก็ไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นยืน ถึงแม้ว่าองค์หญิงจะทำให้เขาประทับใจ แต่เขาก็ยังไม่มีความรู้สึกใดๆต่อเธอ เป็นเพราะความละเอียดอ่อนใบหน้าของเธอและความงามทั่วไปไม่มีมนุษย์คนไหนที่สามารถหาได้สวยแบบเธอ
“Uncle Duan, even though I assigned Lin Feng to protect the princess, the others can also participate.” said Duan Wu Ya to Duan Tian Lang. He then immediately continued: “From now on, from all the members of the army, only the princess can give orders to Lin Feng. Lin Feng is also the person in charge of the princess’ security. He can choose to achieve other military merits under his own decision. Besides, the whole army must help and assist Lin Feng if he requires it.”
"ลุงต้วน แม้ว่าข้าจะมอบหมายให้ หลินเฟิง เป็นคนปกป้ององค์หญิง แต่คนอื่น ๆ ก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน" ต้วนหยูหยา กล่าวกับ ต้วนเทียนหลาง จากนั้นก็กล่าวอีกว่า "ต่อจากนี้ไปพวกเจ้าทุกคนจงฟังมีเพียงองค์หญิงเท่านั้นที่สามารถสั่ง หลินเฟิง ได้ หลินเฟิง ยังเป็นผู้รับผิดชอบความปลอดภัยขององค์หญิง เขาสามารถเลือกที่จะบรรลุเป้าหมายทางการทหารอื่น ๆ ภายใต้การตัดสินใจของเขาเอง นอกจากนี้ทั้งกองทัพจะต้องช่วยและให้ความร่วมมือกับ หลินเฟิง ถ้าเขาต้องการ "
When Duan Wu Ya finished talking, the crowd was astonished. Duan Wu Ya was giving incredible privileges to Lin Feng.
เมื่อ ต้วนหวูหยา พูดจบแล้วฝูงชนก็อยู่ในสภาวะตื่นตระหนก ต้วนหวูหยาให้สิทธิพิเศษแก่ หลินเฟิง อย่างไม่น่าเชื่อ
“Duan Wu Ya is protecting me.” thought Lin Feng. He immediately understood what Duan Wu Ya meant. Considering that Lin Feng’s enemies were everywhere, Duan Wu Ya was worried that they would attempt to harm him. Therefore, he was giving a status to Lin Feng by making him the personal guard of the princess. Besides, he was reminding everybody else that attacking Lin Feng was the same as endangering the princess.
"ต้วนหวูหยา เขากำลังปกป้องข้า" หลินเฟิง คิด เขาเข้าใจได้ทันทีว่า ต้วนหวูหยา หมายถึงอะไร เมื่อพิจารณาว่าศัตรูของ หลินเฟิง อยู่ทุกหนทุกแห่ง ต้วนหยูหยา กังวลว่าพวกนั่นจะพยายามทำร้าย หลินเฟิง ดังนั้นเขาจึงให้สถานะกับ หลินเฟิง โดยการทำให้เขาเป็นองค์รักษ์ส่วนตัวของเจ้าหญิง นอกจากนี้เขากำลังเตือนทุกคนที่คิดโจมตี หลินเฟิง ก็เหมือนการคิดร้ายต่อองค์หญิง
“Lin Feng, did you hear me.” said Duan Wu Ya while looking at Lin Feng in a cold and indifferent tone. This time, there was no warmth or friendliness in his voice. There was only the might and power which made him sound like an emperor.
"หลินเฟิง ้จ่าได้ยินที่ข้าบอกใช่ไหม" ต้วนหวูหยา กล่าวขณะที่มองไปที่ หลินเฟิง ด้วยน้ำเสียงเฉยเมย คราวนี้ไม่ได้มีน้ำเสียงที่อบอุ่นหรือเป็นมิตรในน้ำเสียงของเขา มีอำนาจและพลังที่ทำให้เขาเชื่อฟังเหมือนดั่งจักรพรรดิ
“Roger.” said Lin Feng while slightly nodding. Lin Feng obviously couldn’t refuse protecting the princess.
"รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ" หลินเฟิง กล่าวขณะพยักหน้าเล็กน้อย หลินเฟิงไม่สามารถปฏิเสธการปกป้ององค์หญิงได้
“Alright, the princess’ security is in your hands.” said Duan Wu Ya while looking at Lin Feng with a profound look. He immediately looked towards Duan Tian Lang and said: “Uncle, the troops are now under your control. When you arrive in Duan Ren City, please cooperate with General Liu Cang Lan to fight against the enemy. I will be waiting in the Imperial City for you to return triumphant. See you then.”
"เอาล่ะความปลอดภัยขององค์หญิงอยู่ในมือของเจ้า" ต้วนหยูหยา กล่าวขณะที่มองไปที่ หลินเฟิง อย่างลึกซึ้ง เขามองไปทาง ต้วนเทียนหลาง ทันทีและกล่าวว่า "ท่านลุง ทหารอยู่ภายใต้การควบคุมของท่าน เมื่อท่านไปถึงเมืองต้วนเหลิน ได้โปรดให้ความร่วมมือกับนายพลหลิวชางหลาน เพื่อสู้กับศัตรู ข้าจะรอท่านกลับมาที่เมืองจักรพรรดิขอให้ท่านได้รับชัยชนะกลับมา แล้วเจอกันทุกคน."
“Your Highness, I will spare no effort to defeat Mo Yue and prevent Duan Ren City from being humiliated.” replied Duan Tian Lang in a calm and solemn tone. Duan Wu Ya slightly nodded, glanced at Duan Xin Ye, then turned around and left without a shred of hesitation.
Duan Tian Lang went back to his seat, his pitch-black armor looked majestic. He glanced at the crowd and said: “Troops, back to your initial positions!”
ต้วนเทียนหลาง เดินกลับไปที่ที่นั่งของเขาเกราะสีดำทมิฬของเขาช่างดูสง่างาม เขาเหลือบมองไปที่ฝูงชนและกล่าวว่า: "เหล่าทหารกลับไปยังตำแหน่งเดิมของพวกเจ้าซะ!"
The bronze armored soldiers quickly moved the war drums away.
ทหารชุดเงินรีบนำกลองสงครามออกไปอย่างรวดเร็ว
The people of the Holy Courtyard of Xue Yue and of the Celestial Academy stood up. Among the troops, obedience to the chief commander was absolute.
คนของลานศักดิ์สิทธิ์ซู่วเย่ และ สถาบันสำนักสวรรค์ ลุกขึ้นยืน ในบรรดากองทหารการเชื่อฟังหัวหน้าผู้บังคับบัญชานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ
Yue Tian Chen coldly glanced at Lin Feng with killing intent filling his eyes. Immediately after, he turned around and moved back to his seat.
เย่เทียนเฉิน มองอย่างเย็นชาไปที่ หลินเฟิง พร้อมกับฆ่าเจตนาฆ่าในดวงตาของเขา ทันทีหลังจากนั้นเขาหันกลับไปและเดินกลับไปที่ที่นั่งของเขา
When Lin Feng noticed Yue Tian Chen’s hostile behavior, he secretly smiled coldly and said: “I hope that you will not continue to provoke me.”
เมื่อ หลินเฟิง พบท่าทีที่ไม่เป็นมิตรของ เย่เทียนเฉิน เขาแอบยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า "ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่มายั่วยุข้าอีก"
Then, Lin Feng turned around and walked towards the members of the Celestial Academy.
จากนั้น หลินเฟิง ก็หันกลับไปและเดินไปรวมกลุ่มกับสมาชิกของสถาบันสำนักสวรรค์
“Lin Feng.”
"หลินเฟิง"
At that moment, Duan Tian Lang shouted and called out to Lin Feng which surprised him. He then turned his head around.
ในขณะนั้นเอง ต้วนเทียนหลาง ตะโกนและเรียกหา หลินเฟิง ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจ จากนั้นเขาก็หันกลับไป
“You’re going to the wrong place.” said Duan Tian Lang indifferently and then added: “Now, you are the personal guard of the princess, you should always be at her side with the troops. How negligent are you. If anything happens to the princess, you will be held responsible.”
เจ้ากำลังไปผิดทาง ต้วนเทียนหลาง กล่าวอย่างไม่แยแสและกล่าวเสริมว่า "ตอนนี้คุณเป็นยามส่วนตัวขององค์หญิงเจ้าควรจะอยู่อารักษ์ขาข้างเธอกับทหาร เจ้าจะละเลยหน้าที่ไม่ได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับองค์หญิงเจ้าจะต้องรับผิดชอบ "
Lin Feng narrowed his eyes. Now that Duan Wu Ya had left, Duan Tian Lang was starting to put pressure on Lin Feng. However, Lin Feng couldn’t refute Duan Tian Lang’s argument.
หลินเฟิง หลี่ตาลง ตอนนี้ ต้วนหวูหยาได้กลับไปแล้วและ ต้วนเทียนหลาง ก็ได้เริ่มกดดัน หลินเฟิง อย่างไรก็ตาม หลินเฟิง ไม่สามารถปฏิเสธข้อโต้แย้งของ ต้วนเทียนหลาง ได้
“I made a mistake.” said Lin Feng while smiling indifferently and then adjusted his trajectory to walk towards the princess. Duan Tian Lang was the chief commander of the army and was able to put pressure on Lin Feng. Lin Feng had to be careful not to give Duan Tian Lang any reason to do so.
"ข้าผิดเอง" หลินเฟิง ยิ้มอย่างไม่แยแสและปรับเส้นทางเดินของเขา เดินไปทางองค์หญิง ต้วนเทียนหลาง เป็นผู้บัญชาการสูงสุดและสามารถกดดัน หลินเฟิง ได้ หลินเฟิง ต้องระมัดระวังไม่ให้ ต้วนเทียนหลาง มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น
“Sorry for bringing you trouble.” said Duan Xin Ye when she saw that Lin Feng was walking towards her. She had a warm and tender smile on her face. She was extremely beautiful.
"ข้าต้องขอโทษที่ทำให้ท่านเดือดร้อน" ต้วนซินเย่ กล่าวเมื่อเธอเห็นว่า หลินเฟิง กำลังเดินไปหาเธอ เธอมีรอยยิ้มที่อบอุ่นและอ่อนโยนบนใบหน้าของเธอ เธอนั้นสวยจนหาที่เปรียบไม่ได้
“It is an honor to be in charge of the princess’ safety.” said Lin Feng politely while smiling.
"เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยขององค์หญิง" หลินเฟิง กล่าวอย่างสุภาพขณะยิ้ม
Duan Xin Ye looked at Lin Feng and blinked twice. She then snorted with laughter while saying: “Lin Feng, how come I have the feeling that you had to force that? It doesn’t seem like you.”
ต้วนซินเย่ มองไปที่ หลินเฟิง และกระพริบตาทั้งสอง จากนั้นเธอก็หัวออกมาในขณะที่พูดไปว่า: "หลินเฟิง ข้ารู้สึกว่าเหมือนกับเจ้านั้นถูกบังคับงั้นรึ? นี่ไม่เหมือนตัวเจ้าเลย "
When Lin Feng saw her magnificent smile, he was stupefied, He immediately shrugged and smiled. He looked like he felt at ease.
เมื่อ หลินเฟิง เห็นรอยยิ้มอันงดงามของเธอเขา ก็มึนงงเขารีบยักไหล่ทันทีและยิ้ม ดูเหมือนว่าเขารู้สึกสบายใจขึ้น
“What a pervert.” said a voice from behind Lin Feng. He had the sensation that someone was staring at him. He turned around and saw Liu Fei who was glaring at him with evil eyes which surprised him.
"เจ้าคนเสแสร้ง" เสียงดังมาจากด้านหลังของ หลินเฟิง เขารู้สึกว่ามีคนจ้องมองเขา เขาหันกลับไปและเห็น หลิวเฟย ที่กำลังจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่ชั่วร้ายซึ่งทำให้เขาประหลาดใจ
That girl, was she jealous?
ผู้หญิงคนนั้น กำลังอิจฉางั้นรึนี่?
Lin Feng then looked at Meng Qing. She looked cold and detached like always. She wasn’t looking at Lin Feng. How could this girl be so cold?
หลินเฟิง จึงมองไปเจอ เมิ้งชิง เธอดูเยือกเย็นเหมือนกัน เธอไม่ได้มอง หลินเฟิง แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้เยือกเย็นได้ถึงเพียงนี้?
When Duan Tian Lang saw that everybody had gone back to their initial positions, he glanced at the crowd and said in a very loud voice: “Troops, let’s head to battle!”
เมื่อ ต้วนเทียนหลาง เห็นว่าทุกคนกลับไปยังตำแหน่งเดิมของพวกเขา เขาเหลือบไปที่ฝูงชนและพูดด้วยเสียงดังอย่างมากว่า : "ทหารจงมุ่งหน้าไปสู่สนามรบได้!"
“Let’s go!” shouted the several thousand troops. Immediately after, the ground was shaking from so many people moving towards Duan Ren City.
"เคลื่อนทัพ!" เสียงตะโกนของทหารหลายพันคนดังขึ้น ทันทีหลังจากนั้น พื้นดินก็สั่นไหวจากผู้คนจำนวนมากได้เดินทางมุ่งหน้าไปสู่เมืองต้วนเหลิน
………………
A few days later, a huge dust cloud covered the horizon. Thousands of troops were riding their horses on an ancient road. From above, their formation looked like a dragon’s tail. There was a huge cloud of dust trailing behind them.
ไม่กี่วันต่อมาเมฆฝุ่นขนาดใหญ่ปกคลุมท้องฟ้า ทหารหลายพันคนกำลังขี่ม้าอยู่บนถนนสายโบราณ จากด้านบนการก่อตัวของพวกเขาดูเหมือนหางของมังกร มีเมฆฝุ่นขนาดใหญ่ฝุ่งอยู่ด้านหลังพวกเขา
At the very front were two horses ridden by Lin Feng and Princess Duan Xin Ye. It had been her decision to ride a horse at the front with everybody else instead of sitting inside a carriage. She had given up her usual comfort and joined the soldiers.
ด้านหน้า มีม้าสองตัวที่ หลินเฟิง และองค์หญิงต้วนซินเย่ ขี่อยู่ เธอตัดสินใจที่จะขี่ม้าอยู่เบื้องหน้าทุกคนแทนที่จะนั่งอยู่ในรถ เธอไม่ได้อยากสบายเหมือนปกติและเธอได้เข้าร่วมเป็นทหารคนหนึ่ง
Of course, in the world of cultivation, there were very few people who were pampered and spoilt even when it came to women. Cultivators could ride a horse over huge distances, for many days without rest and it was considered normal. They would only be slightly tired, nothing more.
แน่นอนว่าในโลกแห่งการบ่มเพาะพลังมีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับการเอาใจใส่ ผู้บ่มเพาะพลังสามารถขี่ม้าได้ในระยะทางที่ไกลมากเป็นเวลาหลายวันได้โดยไม่ต้องหยุดพักและถือว่าเป็นเรื่องปกติ พวกเขาจะเบื่อหน่ายเล็กน้อยไม่มีอะไรมากกว่านั้น
The evening sun was on the horizon in the West. The sunlight coupled with the rosy clouds offered a splendid view.
พระอาทิตย์ตกดินอยู่ที่ขอบฟ้าทางตะวันตก แสงแดดคู่กับเมฆสีดอกกุหลาบเผยให้เห็นฉากที่สวยงาม
In the distance, there was an old and simple city. Above the city the evening sun was slowly setting. It was quiet and tranquil. A small breeze was blowing through it which gave it a desolate impression.
ในระยะไกลมีเมืองเก่าและเรียบง่าย เหนือดวงอาทิตย์ตอนเย็นค่อยๆลับขอบฟ้าและมีความเงียบสงบเข้ามาแทนที่ มีสายลมจางๆพัดผ่านมา ซึ่งทำให้รู้สึกหดหู่ใจ
Duan Ren City!
เมืองต้วนเหลิน !
The troops finally arrived in Duan Ren City but the gate was firmly closed. The people in the city looked cold and remained motionless.
ในที่สุดกองทัพก็มาถึงเมือง ต้วนเหลิน แต่ประตูถูกปิดอย่างแน่นหนา คนในเมืองต้วนเหลินและยังคงนิ่งเงียบ
“Chief Commander Duan Tian Lang has arrived, hurry and open the city gate!” shouted some troops towards the people on the gate while raising their banner.
"หัวหน้าผู้บัญชาการสงคราม ต้วนเทียนหลาง มาถึงแล้วรีบเปิดประตูเมืองซะ!" ทหารคนหนึ่งตะโกนไปที่ประตูขณะที่ยกธงขึ้น
The people at the gate looked cold and indifferent. They glanced at the troops and one of them said: “Except for when the General gives us the order, we will not open the gate.”
คนที่ประตูมองอย่างเย็นชาและไม่แยแส พวกเขาเหลือบไปมองกองทหารและหนึ่งในพวกเขากล่าวว่า "ถ้าท่านแม้ทัพไม่สั่งข้าก็จะไม่เปิดประตูเด็ดขาดนี่คือคำสั่งของท่านแม่ทัพ"
“What?” the troops were stupefied when they heard them. They wouldn’t open the gate?
"อะไรนะ?" ทหารคนนั้นมึนงงเมื่อได้ยินคำตอบ พวกเขาจะไม่เปิดประตูงั้นรึ?
A soldier furiously shouted: “We are the Imperial City Troops! Here with the Chief Commander Duan Tian Lang. The Emperor has given us the order to come. I order you to open the gate and let us in.”
ทหารตะโกนด้วยความโกรธว่า "พวกเราเป็นทหารของเมืองจักรพรรดิ! มาที่นี่พร้อมกับผู้บัญชาการ ต้วนเทียนหลาง จักรพรรดิได้ให้คำสั่งแก่พวกข้า ข้าสั่งให้เจ้าเปิดประตูและให้พวกข้าเข้าไป "
“Only the General can give us an order.” said the person as coldly as before. They didn’t listen to anyone’s orders apart from those given by their General.
"แค่แม่ทัพเท่านั้นที่จะสั่งพวกข้าได้" คนเฝ้าประตูพูดอย่างเย็นชาเหมือนก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่ได้ฟังคำสั่งของทุกคนนอกเหนือจากคำสั่งของแม่ทัพของตน
Duan Ren City was under the control of General Liu Cang Lan, apart from him, nobody else could give orders to his troops.
เมืองต้วนเหลิน อยู่ภายใต้การควบคุมของนายพล หลิวชางหลาน ซึ่งเป็นแม่ทัพนอกเหนือจากเขาแล้วไม่มีใครสามารถสั่งทหารของเขาได้
“Liu Cang Lan… how audacious. It seems like he is not attaching importance to the Imperial City troops.” said Duan Tian Lang coldly before adding: “Does he think that he has the highest social status in the country or what?”
"หลิวชางหลาน ... กล้าดียังไง ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับทหารของเมืองจักรพรรดิ "ต้วนเทียนหลาง กล่าวอย่างเย็นชาก่อนที่จะกล่าวว่า" เขาคิดว่าเขามีสถานะทางสังคมที่สูงที่สุดในแคว้นแล้วงั้นรึ? "
When the crowd heard what Duan Tian Lang was saying about Liu Cang Lan, they started whispering all sorts of comments and at that moment Lin Feng smiled coldly and said: “What Duan Tian Lang is saying is impossible. He perfectly knows how strong we are but the fact that his people are not opening the gate until he gives them the order proves that he knows what he is doing. He taught them perfect military discipline.”
เมื่อฝูงชนได้ยินว่า ต้วยเทียนหลาง กำลังพูดถึง หลิวชางหลาน พวกเขาก็เริ่มกระซิบกระซาบความคิดเห็นกันและในขณะนั้นเอง หลินเฟิง ก็ยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า "อะไรกัน ที่ท่านต้วนเทียนหลาง กล่าวเช่นนี้นั้นเป็นไปไม่ได้ เขารู้ดีว่าพวกเราแข็งแกร่งเพียงใด แต่ความจริงที่ว่าคนของเขาจะไม่เปิดประตูจนกว่าพวกเขาจะได้คำสั่งนั่นก็พิสูจน์ได้แล้วว่าพวกเขาถูกสอนเรื่องวินัยทหารมาโดยสมบูรณ์แบบ "
“Besides, why do you say that he thinks his social status is higher than anyone in the country?”
"นอกจากนี้แล้วทำไมท่านถึงบอกว่าเขาคิดว่าสถานะทางสังคมของเขาสูงกว่าใครในแคว้น?"
“When Duan Tian Lang heard Lin Feng, he was stupefied. He coldly looked at Lin Feng and said: “What do you think gives you the right to intervene in my conversation? What do you intend to do?”
"เมื่อ ต้วนเทียนหลาง ได้ยิน หลินเฟิง กล่าวเช่นนี้ เขาก็สับสน เขามองอย่างเย็นชาไปที่ หลินเฟิง และกล่าวว่า: "เจ้าคิดว่าอะไรที่ทำให้เจ้ามีสิทธิ์ที่จะแทรกแซงการสนทนาของข้าได้? เจ้าตั้งใจจะทำอะไรกันแน่? "
“You, Duan Tian Lang, are wrong. At the moment, I am the princess’ personal guard. I will spare no effort to fulfil my duty. What you just said could have very serious consequences to the extent that it could trigger a mutiny. If something happened to the princess during such a mutiny, you would have to bear responsibility.”
"ท่าน ต้วนเทียนหลาง เข้าใจผิดแล้ว ในตอนนี้ข้าเป็นเพียงองครักษ์ขององค์หญิงเท่านั้น ข้าเพียงแต่จะปฏิบัติตามหน้าที่ของข้า สิ่งที่ท่านเพิ่งกล่าวมานั้น อาจส่งผลร้ายแรงอย่างมากในขอบเขตที่อาจทำให้เกิดการกบฏเอาได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิงในช่วงการกบฏแล้วท่านจะต้องรับผิดชอบ "
Lin Feng was fixedly staring at Duan Tian Lang, sounding neither lofty nor humble.
หลินเฟิง มองจ้องไปที่ ต้วนเทียนหลาง อย่างไม่ละสายตา ด้วยน้ำเสียงที่ไม่เกรงใจยศแม้แต่น้อย...
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น