ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 189

ตอนที่ 189 ข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจของต้วนหวู่หยา







The crowd was staring at Lin Feng looking uncertain, everybody remained silent.
 ฝูงชนกำลังจ้องมองไปที่ หลินเฟิง อย่าลังเลใจ ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ

Feng Xiao was at the peak of the sixth Ling Qi layer but Lin Feng could cripple his cultivation using one finger. The fact that Lin Feng was extremely powerful was obvious. Besides, he was using a terrifying battle energy, fighting against Lin Feng was extremely dangerous.
เฟิงเสี้ยว อยู่ที่จุดสูงสุดของชั้นจิตวิญญาณขั้นที่หก แต่ หลินเฟิง ก็ทำให้การบ่มเพาะพลังของเขาพิการโดยใช้เพียงนิ้วเดียว เป็นความจริงที่ว่า หลินเฟิง นั้นมีพลังมากมายอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้เขากำลังพลังงานการต่อสู้ที่น่าหวาดกลัว การต่อสู้กับ หลินเฟิง นั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

At that moment, energy arrived on Lin Feng’s body which surprised him. Immediately after, he looked at Yue Tian Chen.
ในขณะนั้นมีพลังงานพุ่งไปถูกตัว หลินเฟิง ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย ทันทีหลังจากนั้นเขามองไปที่ เย่เทียนเฉิน

“You want to fight?”
เจ้าอยากสู้งั้นรึ?

Lin Feng who could feel Yue Tian Chen’s energy asked him with a cold tone.
หลินเฟิง ที่รู้สึกถึงพลังของ เย่เทียนเฉิน ถามเขาด้วยเสียงอันหนาวเหน็บ

Yue Tian Chen didn’t reply. He was staring at Lin Feng as killing intent flashed in his eyes.
เย่เทียนเฉิน ไม่ได้ตอบ เขาจ้องมองไปที่ หลินเฟิง อย่างตั้งใจด้วยเจตนาฆ่าในชั่วพริบตาพริบตา

Even though Lin Feng had broken through to the sixth Ling Qi layer, it couldn’t be that easy for him to defeat cultivators of the seventh Ling Qi layer. Yue Tian Chen had broken through to the seventh Ling Qi layer.
แม้ว่า หลินเฟิง จะตัดผ่านไปถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นที่ 6 แล้วมันก็ไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะเอาชนะนักบ่มเพาะพลังในชั้นจิตวิญญาณขั้นที่ 7ได้ เย่เทียนเฉิน นั้นได้ตัดผ่านเข้าไปในชั้น จิตวิญญาณขั้นที่เจ็ดแล้ว

However, if Yue Tian Chen lost, Lin Feng wouldn’t let him off easily. He might even cripple his cultivation just like he had done to Feng Xiao or Meng Chong. If Lin Feng crippled his cultivation, his future would be ruined and even if he managed to have Lin Feng killed after, he would still suffer.
อย่างไรก็ตามหาก เย่เทียนเฉิน แพ้ หลินเฟิง ก็คงยอมปล่อยให้เขาออกไปอย่างง่ายดาย เขาอาจทำลายการบ่มเพาะพลังของเขาเช่นเดียวกับที่เขาเคยทำไว้กับ เฟิงเสี้ยว หรือ เมิ้งฉง ถ้าหลินเฟิง ทำให้การบ่มเพาะพลังของเขาพิการ อนาคตของเขาจะพังทลายลงและถึงแม้ว่าเขาจะพยายามฆ่า หลินเฟิง หลังจากนี้ เขาก็คงไม่มีทางทำสำเร็จ

In Yue Tian Chen’s eyes, Lin Feng’s life was worthless and couldn’t be compared to the worth of his cultivation.
ในสายตาของ เย่เทียนเฉิน นั้น ชีวิตของ หลินเฟิง นั้นไร้ค่าและไม่สามารถเทียบได้เลยกับพลังการบ่มเพาะพลังของเขาได้

Even if he won that battle, he wouldn’t exactly gain any prestige. He was the member of one of the three biggest clans. His social status was high. If he fought and won, it would just be another victory for him amongst all his other accomplishments, nothing more. Many people were not worth fighting for him. Lin Feng’s social status and reputation were low. He couldn’t take the risk of fighting against him. When he thought about this, the energy around his body disappeared and he stopped looking at Lin Feng. He lowered his head and continued drinking.
แม้ว่าเขาจะชนะการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เขาก็ไม่ได้รับเกียรติยศใด ๆ เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สถานะทางสังคมของเขานั้นสูง ถ้าเขาต่อสู้และชนะมันก็จะเป็นชัยชนะของเขา มันก็จะเป็นความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งในจำนวนความสำเร็จอันมากมายของเขา ไม่มีอะไรมากกว่านั้น มีหลายคนที่ไม่คู่ควรที่จะต่อสู้กับเขา สถานะทางสังคมและชื่อเสียงของ หลินเฟิง นั้นอยู่ในระดับต่ำ เขาไม่อาจเสี่ยงต่อการสู้กับเขาได้ เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้พลังงานที่อยู่รอบตัวเขาได้หายไปและเขาก็หยุดมอง หลินเฟิง แล้วเขาก็ก้มหน้าและดื่มต่อ

The crowd was surprised. They had also sensed the energy emerging from Yue Tian Chen’s body and then it had suddenly disappeared. He didn’t want to take the risk and fight against Lin Feng so they were even less willing to take that risk.
ฝูงชนประหลาดใจ พวกเขาก็รู้สึกถึงพลังที่เกิดขึ้นจากร่างกายของ เย่เทียนเฉิน แล้วมันก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน เขาไม่ต้องการเสี่ยงและต่อสู้กับ หลินเฟิง ดังนั้นเขาจึงไม่เต็มใจที่จะรับความเสี่ยงเช่นนี้

For a while, the pavilion was drowned into absolute silence. Not a single voice was to be heard.
ชั่วขณะหนึ่ง ศาลาได้จมลงไปสู่ความเงียบอย่างแท้จริง ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเดียว

“Hehe.” the second prince, Duan Wu Ya, laughed softly breaking the silence. He looked at Duan Xin Ye, who was sitting next to him, and said in a low voice: “Xin Ye, what do you think of Lin Feng?”
"ฮ่าๆๆ" องค์ชายสอง ต้วนหวูหยา หัวเราะเบา ๆ เพื่อหยุดความเงียบนั้น เขามองไปที่ ต้วนซินเย่ ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเขาและพูดอย่างเบาๆ ว่า "ซินเย่ เจ้าคิดอย่างไรกับ หลินเฟิง?"

At that moment, Duan Xin Ye looked at Lin Feng. She felt that there something different about Lin Feng. Even though he was wearing tattered clothes, he seemed domineering. In her heart, she secretly had a good sentiment for him. Lin Feng was a proud and domineering young man.
ในขณะนั้นเอง ต้วนซินเย่ มองไปที่ หลินเฟิง เธอรู้สึกว่ามีอะไรที่แตกต่างไปเกี่ยวกับ หลินเฟิง ถึงแม้ว่าเขาจะใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะโดดเด่น ในใจของเธอเธอแอบมีความรู้สึกที่ดีต่อเขา หลินเฟิง เป็นชายหนุ่มที่หยิ่งยโส

However, such a proud and domineering young man had initially refused to battle against Feng Xiao. Maybe the fact that he was wearing tattered clothes was the same reason for which he had refused the challenge, because Lin Feng didn’t care about such petty things.
อย่างไรก็ตามชายหนุ่มที่หยิ่งยโสและเด็ดเดี่ยวนั้นได้ปฏิเสธที่จะต่อสู้กับ เฟิงเสี้ยว บางทีความจริงที่ว่าเขาสวมใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับที่เขาปฏิเสธคำท้าเพราะ หลินเฟิง ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้

Suddenly, Duan Xin Ye was stupefied by Duan Wu Ya’s voice. She turned towards him and looked at him as if the situation was funny. She couldn’t help but lower her head and said: “Brother, what’s wrong?”
ทันใดนั้น ต้วนซินเย่ รู้สึกสับสนจากเสียงของ ต้วนหวูหยา เธอหันไปทางเขาและมองเขาราวกับว่าเป็นสถานการณ์ตลก ช่วยไม่ได้ที่เธอ ได้แต่ก้มหน้าลงและพูดว่า: "ท่านพี่มีอะไรรึเปล่า?"

“Haha, what’s wrong, little sister? You’re suddenly lost in thought. You’re even blushing.”
"ฮ่าๆๆ มีอะไรรึเปล่างั้นหรือ? ตอนที่เจ้ากำลังคิดอยู่นั้น อยู่ๆแก้มของเจ้าก็แดงขึ้น "

Duan Wu Ya was laughing making Duan Xin Ye feel even more embarrassed. Even though she was a princess, she was a woman above all. Just like any other woman, talking about such things was embarrassing.
ต้วนหวูหยา หัวเราะทำให้ ต้วนซินเย่ รู้สึกอายมากยิ่งขึ้น แม้ว่าเธอจะเป็นองค์หญิง แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่อยู่เหนือผู้หญิงคนอื่น เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆเมื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้เธออาย

The crowd was stupefied. Some of them had piercingly cold expressions on their face as they glanced at Lin Feng.
ฝูงชนต่างสับสน บางคนมีการแสดงออกอย่างเย็นชาบนใบหน้าของพวกเขาขณะที่พวกเขาเหลือบไปมองที่ หลินเฟิง

Among them, many of them wanted to become Duan Xin Ye’s husband. Even though they didn’t really have feelings for her, they still hoped to marry her.
ในหมู่พวกเขาหลายคนอยากจะกลายเป็นสามีของ ต้วนซินเย่ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีความรู้สึกจริงใจต่อเธอ แต่ก็ยังหวังที่จะแต่งงานกับเธอ

If they could get married, their future would be filled with a wider range of opportunities to increase their status.
หากพวกเขาสามารถแต่งงานได้ อนาคตของพวกเขาจะเต็มไปด้วยโอกาศที่เปิดกว้างของที่จะเพิ่มสถานะของพวกเขา

At that moment, Duan Wu Ya was talking to Duan Xin Ye about Lin Feng in a favourable way. Inevitably, the others were looking at Lin Feng in a cold way.
ในขณะนั้น ต้วนหวูหยาได้พูดคุยกับ ต้วนซินเย่ เกี่ยวกับ หลินเฟิง ในทางที่ดี อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนอื่น ๆต่างก็มองไปที่ หลินเฟิง อย่างเย็นชา

Lin Feng frowned and lowered his head and there wasn’t the least bit of joy in his heart, it was rather coldness. He then turned towards Duan Wu Ya and looked at him with indifference.
หลินเฟิง ขมวดคิ้วและก้มหน้าลงและไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อยในใจของเขา จากนั้นเขาก็หันไปทาง ต้วนหวูหยา และมองเขาอย่างไร้อารมณ์

“Alright, everybody clearly knows why I invited you today. Since there is nothing to say anymore, you can all leave.” said Duan Wu Ya while looking at the crowd. After ordering for guests to leave, he looked at Meng Chong and Feng Xiao who were lying down. He then said: “Please take away these two as well.”
"เอาล่ะทุกคนรู้ดีว่าทำไมข้าจึงได้เชิญทุกท่านมาในวันนี้ เนื่องจากตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป ทุกท่านเชิญออกไปได้ "ต้วนหวูหยา กล่าวกล่าวขณะมองฝูงชน หลังจากออกคำสั่งให้แขกออกเไปเขามองไปที่ เมิ้งฉง และ เฟิงเสี้ยว ที่กำลังนอนหมอบอยู่ จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "ได้โปรดรำสองคนนี้ออกไปด้วย"

“Lin Feng you stay here, I have some things I would like to discuss with you.”
"หลินเฟิง เจ้าอยู่ก่อน ข้ามีบางเรื่องที่ข้าอยากคุยกับเจ้า"

Duan Wu Ya said while looking at Lin Feng which stupefied everybody else. They coldly looked at him as they left, they had no choice but to leave. Duan Wu Ya had already ordered for them to leave. They had to be obedient.
ต้วนหวูหยา กล่าวในขณะที่กำลังมองไปที่ หลินเฟิง ซึ่งทำให้คนอื่นตกใจ พวกเขามองไปที่เขาอย่างเย็นชาขณะที่พวกเขาถูกเชิญออกไป พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไป  ต้วนหวูหยา ได้สั่งให้พวกเขาออกไปแล้ว พวกเขาต้องเชื่อฟัง


Wen Ao Xue looked at Lin Feng with a deep meaningful look, he then gently tapped his shoulder as he walked past and left the pavilion.
เวิ่นห่าวซื่อ มองไปที่ หลินเฟิง ด้วยท่าทางที่มีความหมายลึกซึ้ง แล้วเขาก็เคาะเบา ๆที่ไหล่ของ หลินเฟิง ในขณะที่เขาเดินออกมาและออกจากศาลาไป

A short time after, in the pavilion on the lake, the atmosphere had become especially quiet. Duan Wu Ya, Duan Xin Ye and Lin Feng were the only people left.
หลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ ในที่อยู่เหนือทะเลสาบ บรรยากาศโดยรอบนั้นเงียบสงบเป็นพิเศษมีเพียง  ต้วนหวูหยา,  ต้วนซินเย่ และ หลินเฟิง ที่ยังคงอยู่ที่นี่

“Your Highness, what do you need to discuss with me?” asked Lin Feng with indifference.
"ฝ่าบาท ท่านต้องการคุยเรื่องอะไรกับข้า?" หลินเฟิง ถามด้วยอย่างเฉยเมย

“Hehe.” Duan Wu Ya laughed softly. He looked at Lin Feng and said: “It seems like you’re not in a good mood.”
"ฮ่าๆๆ." ต้วนหวูหยา หัวเราะเบา ๆ เขามองไปที่ หลินเฟิง และกล่าวว่า "ดูเหมือนว่าเจ้าไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีเท่าไหร่สินะ"

“Your Highness, do you think that I have a reason to be in a good mood?” asked Lin Feng in a cold and detached way. Duan Wu Ya didn’t take notice of his tone and was still warmly smiling.
"ฝ่าบาท ท่านคิดว่าข้าควรมีเหตุผลที่ต้องอารมณ์ดีด้วยหรือ?" หลินเฟิง ถามอย่างเย็นชา ต้วนหวูหยา ไม่ได้สนใจเสียงของเขาและยังคงยิ้มอย่างอบอุ่น

“Brother, you two can chat, I will leave now.” said Duan Xin Ye while standing up. She wanted to leave but Duan Wu Ya prevented her from leaving and said: “Xin Ye, I am your brother and have nothing to hide from you. Stay here. Don’t be so impatient to leave.”
"ท่านพี่, ท่านทั้งสองคุยกันได้เลย, ตอนนี้ข้าจะไปแล้ว" ต้วนซินเย่ กล่าว  ในขณะที่ยืนขึ้น เธอต้องการที่จะออกไป แต่ ต้วนหวูหยา ไม่ยอมให้เธอออกไปและกล่าวว่า "ซินเย่, ข้าเป็นพี่ชายของเจ้าและไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอะไรต่อเจ้า อยู่ที่นี่เถิด. ไม่ต้องรีบร้อนออกไปหรอก "

Duan Xin Ye’s beautiful face revealed an expression of uncertainty but she then gently nodded her head. Immediately after, she slowly sat down again and calmly stayed for their conversation.
หน้าตาที่สวยงามของ ต้วนซินเย่ เผยถึงความรู้สึกไม่มั่นใจ แต่เธอก็พยักหน้าเบา ๆ ทันทีหลังจากนั้น เธอก็นั่งลงอีกครั้งและนิ่งเงียบ อยู่ฟังการสนทนาของทั้งสองคน

“Lin Feng, what makes you unhappy?” asked Duan Wu Ya while kindly and warmly smiling at Lin Feng.
"หลินเฟิง มีอะไรที่ทำให้เจ้าไม่พอใจรึ?" ต้วนหวูหยา ถามอย่างเป็นมิตรขณะที่ยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับ หลินเฟิง

Lin Feng looked at Duan Wu Ya and slowly said: “Since Your Highness wants to listen to me, I will speak.”
หลินเฟิง มองไปที่ ต้วนหวูหยา และกล่าวอย่างช้าๆว่า : "เนื่องจากฝ่าบาท ต้องการรับฟังข้า งั้นข้าจะพูด"

Lin Feng clearly understood that Duan Wu Ya was well aware that he wasn’t happy.
หลินเฟิง เข้าใจอย่างชัดเจนว่า ต้วนหวูหยา รู้ดีว่าเขาไม่มีความสุข

“Your Highness, a moment ago, in front of everyone else, you asked one question to the princess. You asked her what she thought about me. Were you not voluntarily trying to draw everybody’s attention towards me? Your Highness seemed to think that I did not already have enough attention and asked me to stay here with you and the princess. I fear that now, everybody thinks that Your Highness’ purpose is to help me to marry the princess. I also fear that now, even the people with no enmity towards me will hate me. With every single influential family after me, I am a dead man.” said Lin Feng coldly.
"ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้ต่อหน้าคนอื่นท่านถามคำถามหนึ่งกับองค์หญิง ท่านถามเธอว่าเธอคิดอย่างไรเกี่ยวกับข้า ท่านไม่ได้เต็มใจเพียงพยายามดึงความสนใจของทุกคนมาที่ข้าใช่หรือไม่? ดูเหมือนท่านจะไม่ค่อยมีความสนใจมากนักและขอให้ข้าอยู่กับท่านและองค์หญิง ตอนนี้ข้ากลัวว่าทุกคนคิดว่าเป้าหมายของท่านคือการช่วยให้ข้าได้แต่งงานกับองค์หญิง ข้าเกรงว่าตอนนี้แม้แต่คนที่ไม่สนใจข้าจะเกลียดข้า กับทุกตระกูลที่มีอิทธิพลข้าคงตายสถานเดียว  "หลินเฟิง กล่าวอย่างเย็นชา.

Duan Wu Ya thought that it would make Lin Feng happy. However, it was clear to Lin Feng that it didn’t put him in a favorable situation. He didn’t have a high social status and wasn’t part of a huge clan like the others. They were all interested in the princess to the extent that some of them were determined to fight over her, for example, Yue Tian Chen.
ต้วนหวูหยา คิดว่าอยากทำให้ หลินเฟิง มีความสุข อย่างไรก็ตามมันเป็นที่ชัดเจนกับ หลินเฟิง ว่ามันไม่ได้ทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่ดีเลย เขาไม่ได้มีสถานะทางสังคมสูงส่งและไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลใหญ่เช่นเดียวกับคนอื่น พวกเขาสนใจองค์หญิงในจุดที่บางคนมุ่งเจตนาต่อสู้เพื่อเธอได้ ดังเช่น เย่เทียนเฉิน

Duan Wu Ya had created a false impression in front of everybody. He had led everybody to believe that Princess Duan Xin Ye was interested in him and he was going to act as a matchmaker, which had made Lin Feng become the target of every person who targeted the princess. None of them would forget this and they would make him pay.
ต้วนหวูหยา สร้างความประทับใจที่ผิดพลาดต่อหน้าทุกคน เขาได้พาทุกคนมาให้เชื่อว่า องค์หญิงต้วนซินเย่ สนใจเขาและเขาจะทำหน้าที่เป็นแม่สื่อซึ่งทำให้ หลินเฟิง กลายเป็นเป้าหมายของทุกคนที่ที่หมายปององค์หญิง ไม่มีใครจะลืมเรื่องนี้ได้และพวกเขาก็จะทำให้เขาต้องชดใช้

Each and every single one of these noble young men would devour people without status and not even spit out their bones. They engrave Lin Feng into their memories. He would then be unable to take a single step inside the Imperial City ever again.
ทุกๆคนนั้นต่างมีสถานะสูง แทบอยากจะแทะกินคนที่ไม่มีสถานะอย่าง หลินเฟิงและไม่แม้แต่จะคายกระดูกของเขาออกมา พวกเขาจดจำ หลินเฟิง ไว้ในความทรงจำของพวกเขา จากนั้นเขาก็จะไม่สามารถก้าวเข้ามาในเมืองจักรพรรดิได้อีกครั้งแม้แต่ก้าวเดียว

Duan Wu Ya was causing a great harm to Lin Feng.
ต้วนหวูหยา ทำให้เกิดอันตรายอย่างยิ่งต่อ หลินเฟิง

“Lin Feng, you are, as expected, just as smart as I thought.” said Duan Wu Ya while laughing softly. He was very satisfied by Lin Feng’s answer. As he asked the princess what she thought about Lin Feng, Duan Wu Ya had paid close attention to Lin Feng. If an ordinary man had heard that the princess could be interested in him, he would have been delighted. However, Lin Feng hadn’t been delighted at all. His facial expression had immediately changed and revealed coldness. Lin Feng’s face had immediately expressed his disagreement.
"หลินเฟิง เจ้าเป็นไปตามที่ข้าคาดไว้ ฉลาดอย่างที่ข้าคิดไว้" ต้วนหวูหยา กล่าวขณะที่หัวเราะเบา ๆ เขาพอใจกับคำตอบของ หลินเฟิง ขณะที่เขาถามองค์หญิงว่าน้องคิดเช่นไรเกี่ยวกับ หลินเฟิง ต้วนหวู่หยา ได้ให้ความสำคัญกับ หลินเฟิง ถ้าเป็นคนธรรมดาได้ยินว่าองค์หญิงอาจจะสนใจเขาเขาคงจะดีใจมาก อย่างไรก็ตาม หลินเฟิง นั้นไม่ได้ยินดีนัก การแสดงออกทางสีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันและเผยความเย็นชาออกมา ใบหน้าของ หลินเฟิง ได้แสดงความไม่เห็นด้วย

Lin Feng shrugged. He didn’t understand what Duan Wu Ya meant.
หลินเฟิง ยักไหล่ เขาไม่เข้าใจว่า ต้วนหวูหยา หมายถึงอะไร

“Lin Feng, how many enemies do you have in the Imperial City?” asked Duan Wu Ya.
"หลินเฟิง เจ้ามีศัตรูอยู่ในเมืองจักรพรรดิมากแค่ไหน?" ต้วนหวูหยา ถาม

Lin Feng thought for an instant and then, while shaking his head, said: “I have many enemies.”
หลินเฟิง คิดทันที แต่ในขณะนั้นก็พยักหน้าแล้วเขากล่าวว่า "ข้ามีศัตรูจำนวนมาก"

The Yu Clan, the Bai Clan, Duan Tian Lang and his son, the Nie Clan etc. Lin Feng had offended many influential people because of his beliefs, too many. He didn’t even know how many exactly.
ตระกูล หยู,ตระกูลไป๋, ต้วนเทียนหลาง และลูกชายของเขา, ตระกูลเนี้ย และอื่นๆ หลินเฟิง  ได้โจมตีผู้มีอิทธิพลหลายคนเพราะความเชื่อของเขา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีกี่คน

“What about their strength, how powerful are they?” Duan Wu Yan continued asking.
"ความแข็งแกร่งของพวกเขามีพลังมากแค่ไหน?" ต้วนหวูหยา ถามต่อ

“Powerful, extremely powerful.” said Lin Feng honestly.
"ทรงพลังและมีประสิทธิภาพมาก" หลินเฟิง ตอบอย่างตรงไปตรงมา

“Since you already have so many enemies, does it matter if you have a few more?” said Duan Wu Ya while laughing softly which stupefied Lin Feng.
"ตั้งแต่เจ้าได้มีศัตรูอยู่มากมายแล้วจะสำคัญอะไรถ้าเจ้าจะมีเพิ่มขึ้นซัก 2-3?" ต้วนหวูหยา กล่าวขณะที่หัวเราะเบา ๆ ซึ่งทำให้ หลินเฟิง มึนงง

“Hehe.” Duan Wu Ya saw that Lin Feng was speechless. He slightly smiled and said: “Lin Feng, today, I made you come here, because I had, of course, anticipated everything. If she likes you, I will not be offended at all. Both of you would even receive my support. If you became the husband of the imperial princess, who would dare to attack you? In other words, my purpose wasn’t to make even more people become your enemies, rather, my motivation was wholehearted and pure.”
"ฮ่าๆๆ" ต้วนหวูหยา เห็นว่า หลินเฟิง ไม่ได้พูด เขาหัวเราะเบา ๆ และกล่าวว่า "หลินเฟิง วันนี้ที่ข้าเชิญให้เจ้ามาที่นี่ แน่นอนว่า ทุกอย่างข้าได้คาดการณ์ไว้แล้ว ถ้าเธอชอบเจ้าข้าจะไม่คัดค้านแม้แต่น้อย ทั้งเจ้าทั้งสองจะได้รับการสนับสนุนจากข้า ถ้าเจ้าเป็นสามีขององค์หญิงใครเล่าจะกล้าโจมตีเจ้า? กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ จุดมุ่งหมายของข้าคือไม่ทำให้ผู้คนกลายเป็นศัตรูกับเจ้ามากขึ้นไปกว่านี้ ข้านั้นมีความบริสุทธิ์ใจและเจตนาที่บริสุทธิ์ "

Duan Xin Ye and Lin Feng were both surprised. Even Lin Feng and Duan Xin Ye looked at each other for a second, she immediately looked in another direction again. Her face was filled with shyness and excitement.
ต้วนซินเย่ และ หลินเฟิง ต่างรู้สึกประหลาดใจ ทั้ง หลินเฟิง และ ต้วนซินเย่ ต่างมองซึ่งกันและกันชั่วขณะหนึ่ง ทันทีหลังจากนั้นเธอมองไปทางอื่นอีกครั้ง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเขิลอายและตื่นเต้น

“If I could really marry such a woman, I would really be lucky.” thought Lin Feng. He really didn’t understand why Duan Wu Ya was treating him so kindly, to the extent that he had personally introduced the princess to him.
"ถ้าข้าสามารถแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ได้จริงข้าคงโชคดีจริงๆ" หลินเฟิง กล่าว เขาไม่เข้าใจว่าทำไม ต้วนหวูหยา กำลังปฏิบัติกับเขาอย่างสุภาพในขอบเขตที่เขาได้แนะนำองค์หญิงให้กับเขา

Of course, Lin Feng clearly understood that even if the princess and he were willing to marry each other, it would be impossible for a person who doesn’t have a high social status.
แน่นอน หลินเฟิง เข้าใจอย่างชัดเจนว่าแม้องค์หญิงและเขายินดีที่จะแต่งงานกัน มันก็จะเป็นไปไม่ได้สำหรับคนที่ไม่มีสถานะทางสังคมสูง

For him it was impossible.

สำหรับเขาแล้วมันเป็นไปไม่ได้....



Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

Facebook