ตอนที่ 185 หญิงสาวผู้เลอโฉม
When the crowd saw how the second prince acted, some of them were jealous of Lin Feng. Why had the prince personally introduced Lin Feng to the others?
เมื่อฝูงชนเห็นว่าองค์ชายสองแสดงท่าทีออกมาแบบนี้ มีบางคนที่รู้สึกอิจฉา หลินเฟิง ทำไมองค์ฺชายถึงแนะนำ หลินเฟิง ให้กับคนอื่น?
After having introduced all the influential people to Lin Feng, Duan Wu Ya grabbed a glass and raised it while saying: “Brother Lin, let’s have a toast with all these eminent young men.”
หลังจากที่ได้แนะนำผู้มีอิทธิพลให้แก่ หลินเฟิง รู้จักแล้ว ต้วนหวูหยา จับแก้วแล้วยกขึ้นและกล่าวว่า "น้องหลิน และผู้มีทรงอิทธิพลทุกท่านข้าขอดื่มจอกนี้ให้ทุกท่าน"
Wen Ao Xue, who was sitting next to Lin Feng poured some alcohol into his glass and said: “Lin Feng, taste the Lovesick alcohol and see what it is like to be drunk on love.”
เวิ่นห่าวซื่อ ที่นั่งอยู่ข้างๆ หลินเฟิง ก็รินเหล้าลงไปในแก้วและกล่าวว่า "หลินเฟิง ลองลิ้มรสเครื่องเหล้าของป่าช้ำรักดูสิ และดูว่าเจ้าจะชอบดื่มมัน"
Lin Feng was unsure. Duan Wu Ya was being way too kind to him. He had helped Lin Feng a number of times and then invited him to participate in the banquet, which was filled with nobles. Lin Feng had no idea why he was being treated this way.
หลินเฟิง ไม่แน่ใจว่า ต้วนหวูหยา นั้นทำไมถึงดีกับเขามากเช่นนี้ เขาช่วย หลินเฟิง หลายครั้งแล้วยังเชิญมาเข้าร่วมงานเลี้ยงซึ่งเต็มไปด้วยขุนนาง หลินเฟิง ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นนี้
But Duan Wu Ya was being very polite to him after all and Lin Feng didn’t refuse his invitation. He slightly nodded and raised his glass only to smell a sweet fragrance coming from his glass.
แต่ ต้วนหวูหยา เป็นคนที่มีความสุภาพอย่างมากกับเขาและ หลินเฟิง นั้นไม่ได้ปฏิเสธคำเชิญของเขา เขาพยักหน้าและยกแก้วขึ้นแล้วเพียงแค่ยกแก้วขึ้นเท่านั้น กลิ่นที่หอมหวาน จากแก้วของเขาก็ลอยขึ้นมา
Many people raised their glass. Even though a majority of them didn’t like Lin Feng, considering that the second prince had initiated the toast, they still had to give him face.
หลายคนได้ยกแก้วขึ้น แม้ว่าส่วนใหญ่พวกเขานั้นจะไม่ชอบ หลินเฟิง ก็ตามเมื่อพิจารณาว่าองค์ชายสองได้เริ่มอวยพรให้พวกเขายังคงยอมเผชิญหน้า
However, not everybody followed basic courtesy. At that moment, Yue Tian Chen, sat motionless with his glass on the table in front of him.
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่ทำมันไปตามมารยาท ในขณะนั้นเอง เย้เทียนเฉิน นั่งนิ่งอยู่กับแก้วบนโต๊ะหน้าเขา
He wasn’t the only one. There was also Yu Tian Xing, who wasn’t moving either. He was just looking at the crowd raising their glasses.
เขาไม่ใช่คนเดียว นอกจากนี้ยังมี หยูเทียนชิง ที่ยังไม่ได้ขยับไปไหน เขามองดูฝูงชนที่ยกแก้วขึ้น
In the past, Lin Feng had humiliated him in front of a great number of people. How could he, Yu Tian Xing, toast with Lin Feng?
ในอดีตที่ผ่านมา หลินเฟิง ได้เผชิญหน้ากับผู้คนจำนวนมากมาย เขาควรอย่างไรกับ หยูเทียนชิง อวยพร?
But Duan Tian Lang’s son, Duan Han, surprisingly raised his glass while slightly bowing in front of Lin Feng. While smiling, he said: “Your Highness, you introduced us to Lin Feng but we still don’t know what kind of person he is and which nobility he belongs to.”
แต่ลูกชายของ ต้วนเทียนหลาง, ต้วนหาน, น่าแปลกที่เขายกแก้วของเขาในขณะที่โค้งคำนับเล็กน้อยมาทางด้านหน้าของ หลินเฟิง ในขณะที่ยิ้มแล้วกล่าวว่า "ฝ่าบาท ท่านแนะนำเราให้หลินเฟิง รู้จักแต่เรายังไม่ทราบว่าเขาเป็นใครเลยและสถานะของเขา"
When Duan Han finished speaking, he looked at Lin Feng. Duan Han had personally come with his father, Duan Tian Lang, to destroy the Yun Hai Sect. He had even fought against Lin Feng. How could he not know Lin Feng’s background?
เมื่อ ต้วนหาน เสร็จสิ้นการพูดเขามอง หลินเฟิง ต้วนหานได้เดินทางไปกับพ่อของเขาเอง ต้วนเทียนหลาง เพื่อทำลายนิกายหยุนไห่ เขาได้ต่อสู้กับ หลินเฟิง เขาจะไม่ทราบพื้นเพของ หลินเฟิง ได้อย่างไร?
Duan Han was only saying this to ruin Lin Feng’s credibility. He already knew that Lin Feng’s background wasn’t from nobility. Their difference in social status was colossal.
ต้วนหาน เพียงแค่จะพูดทำลายความน่าเชื่อถือของ หลินเฟิง เท่านั้น เขารู้อยู่แล้วว่าภูมิหลังของ หลินเฟิง นั้นไม่ได้มาจากชนชั้นสูง ความแตกต่างของพวกเขาในฐานะทางสังคมเป็นช่องว่างอันใหญ่โต
Duan Wu Ya was surprised and looked at Duan Han. Then, a voice broke the silence.
ต้วนหวู่หยา รู้สึกประหลาดใจและมองไปที่ ต้วนหาน จากนั้นเสียงของเขาก็หยุดลงแล้วเงียบ
“Brother, Duan Han, there is no reason to be stuck up on details. Drink! Lin Feng, brother, I suppose you have never tasted Lovesick alcohol before. After all it can only be drunk in the Lovesick Forest and commoners are not normally permitted.”
"น้อง, ต้วนหาน, ไม่จำเป็นต้องคิดเล็กคิดน้อย ดื่มดีกว่า! น้องหลิน ดื่ม ข้าคิดว่าเจ้าไม่เคยดื่มเหล้าป่าช้ำรักมาก่อน ตั้งแต่นี้ไปเจ้าดื่มมันได้แค่ในป่านี้เท่านั้น "แต่สามัญชนทั่วไปปกติจะอนุญาตให้ดื่มนะ"
The one who interrupted was actually Meng Chong. His voice sounded feminine and mysterious. He also sounded deeply sarcastic. Everybody understood what he was implying.
ผู้ที่ขัดจังหวะก็คือ เมิ้งฉง เสียงของเขาฟังดูราวกับผู้หญิงที่ลึกลับ เสียงของเขาที่ฟังดูเหน็บแนมประชดประชัน ทุกคนเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร
Everybody looked surprised. It seemed like Lin Feng had offended a great deal of influential people.
ทุกคนดูแปลกใจ ดูเหมือนว่า หลินเฟิง ได้ทำร้ายผู้มีอิทธิพลหลายคน
“Who are you calling brother?” said Lin Feng coldly while looking at Meng Chong which surprised everyone.
"เจ้าเรียกใครว่าน้องชาย?" หลินเฟิง กล่าวอย่างเฉยเมยขณะมองไปที่ เมิ้งฉง ซึ่งทำให้ทุกคนประหลาดใจ
“I have, indeed, never come to the Lovesick Forest before and I have never tasted Lovesick alcohol either. However, I do not ever remember ever lowering myself to the point of becoming brothers with a degenerate like you.”
"ข้าไม่เคยมาที่ป่าช้ำรักมาก่อนและข้ายังไม่เคยดื่มเหล้าช้ำรัก แต่ข้าจำไม่ได้ว่าเคยลดตัวเองไปเป็นพี่น้องกับคนต่ำช้าเช่นเจ้า "
Lin Feng’s straightforwardness pierced through the atmosphere which filled the room. Meng Chong was stupefied. He had deliberately made fun of Lin Feng’s low social status, but Lin Feng had said that he could lower himself to be called Meng Chong’s brother and had even called him a degenerate. Lin Feng meant that even if his social status was low, Meng Chong was still beneath him.
ความตรงไปตรงมาของ หลินเฟิง ได้เจาะทุลุหูของทุกคนในห้อง เมิ้งฉง สับสน เขาจงใจทำหลินเฟิง ดูต่ำต้อย แต่หลินเฟิงได้บอกว่าไม่อยากลดตัวลงเป็นน้องชายของ เมิ้งฉง และแม้กระทั่งเรียกเขาว่าเป็นคนต่ำช้า หลินเฟิง กล่าวว่าแม้ว่าสถานะทางสังคมของเขาจะต่ำ เมิ้งฉง ยังคงอยู่ใต้เขา
Everybody seemed interested in what was happening. It seemed like there was going to be a great show to watch. Lin Feng had gone there and suddenly dared to act aggressively. He was quite courageous.
ทุกคนดูเหมือนจะสนใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าจะได้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมแล้วสิ หลินเฟิง ที่อยู่ตรงนั่นและกล้าแสดงท่าทีแข็งกร้าว เขากล้ามากจริงๆ
They didn’t know what happened at the auction market where Lin Feng continuously ridiculed and humiliated him for his vulgar behaviour.
พวกเขาไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นที่ตลาดประมูลที่ หลินเฟิง ได้เยาะเย้ยและทำให้เขาเสียหน้าด้วยวิธีการที่ต่ำช้า
“Your Highness, you clearly saw that I held nothing but the best intentions. It’s not that I didn’t want to toast to Lin Feng but he is now making me lose face.”
"ฝ่าบาท ที่ท่านเห็นว่าข้าน้อยไม่ได้ยกแก้วขึ้นมาข้านั้นมีเจตนาที่ดี ไม่ใช่ว่าข้าน้อยไม่ต้องการอวยพรให้กับ หลินเฟิง แต่ตอนนี้เขากำลังทำให้ข้าเสียหน้า "
Meng Chong was staring coldly at Lin Feng. He then violently slammed his glass on the table making all the others glasses shake.
เมิ้งฉง กำลังจ้องมองอย่างเย็นชาไปที่ หลินเฟิง จากนั้นเขาก็กระแทกแก้วลงอย่างแรงบนโต๊ะทำให้แก้วคนอื่น ๆสั่นไหว
“To lose face, you need to have face, do you even have face to lose?” said Lin Feng mockingly to Meng Chong.
"ที่เจ้าเสียหน้า เจ้าต้องการได้หน้าคืนสินะแล้วที่เจ้าทำตอนนี้มันจะต่างจากตอนที่เจ้าเสียหน้ายังไง?" หลินเฟิง พูดเย้ยหยัน เมิ้งฉง
After that he acted as if Meng Chong did not exist and turned his back on him. Meng Chong’s face turned ghastly pale. He was staring at Lin Feng while wishing that he would get the chance to make him regret his words.
หลังจากนั้นเขาทำราวกับว่า เมิ้งฉง ไม่มีตัวตนและหันหลังให้กับเขา ใบหน้าของ เมิ้งฉง กลายเป็นสีซีดจาง เขาจ้องมองไปที่ หลินเฟิง ในขณะที่เขารอโอกาสที่จะทำให้ หลินเฟิงเสียใจ กับคำพูดของตน
“Everybody, do as you wish, you can drink or not drink, but I will drink to Lin Feng.” said Duan Wu Ya raising his glass and bringing it to his mouth. He downed his glass in one and then looked very comfortable. There was a warm smile on his face. He didn’t look like an arrogant prince at all. He gave other people the impression of friendliness, it felt like he was easy to get along with.
"ทุกท่านตามสบาย อยากดื่มหรือไม่ดื่มก็ได้ แต่ข้าจะดื่มให้กับ หลินเฟิง" ต้วนหวู่หยา กล่าวแล้วยกแก้วขึ้นและดื่มเข้าปาก เขาวางแก้วลงอย่างนิ่มนวล มีรอยยิ้มที่อบอุ่นบนใบหน้าของเขา เขาไม่ได้เป็นองค์ชายที่หยิ่งยโส เขาให้ความรู้สึกที่เป็นมิตรกับคนอื่นทำให้รู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนง่ายๆ
Lin Feng also raised his glass and downed it in one gulp. Lin Feng was also easy to befriend if treated with kindness.
หลินเฟิง ยกแก้วขึ้นแล้วดื่ม หลินเฟิง นั้นเป็นเพื่อนที่ง่ายต่อการการดูแลไว้ด้วยความเมตตา
While swallowing the sweet alcohol, a refreshing and smooth sensation invaded Lin Feng’s body. Lin Feng slightly closed his eyes and enjoyed the taste of the alcohol. A feeling of love invaded his body which made him calm his heart and relax. It seemed like that alcohol enabled him to calm his heart.
ในขณะที่ดื่มเหล้าลงไปความหวานนั้นทำให้รู้สึกสดชื่นแลนุ่มนวล ได้แทรกซึมเข้าไปในร่างของ หลินเฟิง หลินเฟิง หลับตาลงเล็กน้อยและชอบการลิ้มรสเหล้าชนิดนี้ ความรู้สึกของความรักได้บุกรุกเข้าร่างของเขาซึ่งทำให้เขาสงบจิตใจลงและผ่อนคลาย ดูเหมือนว่าเหล้านี้ทำให้เขาสงบใจลงได้
“What a mysterious alcohol.” said Lin Feng surprised. The one who made the alcohol had to be an extraordinary person.
"ช่างเป็นเหล้าที่ลึกลับอะไรเยี่ยงนี้" หลินเฟิง ประหลาดใจ คนที่ทำเหล้าชนิดนี้ต้องเป็นคนพิเศษแน่นอน
Lovesick alcohol made people have the feeling of love from drinking. There was nothing false about it.
เหล่าช้ำรักนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความรักได้จากการดื่ม ไม่มีผิดเพี้ยนจริงๆเกี่ยวกับเรื่องนี้
At that moment, all those who wanted to drink to Lin Feng also downed their glasses in one gulp. They all slightly closed their eyes and sensed the loving feeling invade their body.
ในขณะนั้นทุกคนที่ต้องการจะดื่มเหล้าให้ หลินเฟิง ก็ดื่มให้แล้ววางจอกแก้วลง ทุกคนนั้นหลับตาและรู้สึกว่าความรัก ความรู้สึกนั้นได้ไหลเวียนเข้าไปในร่างกายของพวกเขา
Wen Ao Xue turned towards Lin Feng and looked at Lin Feng with his beautiful feminine eyes. He smiled and said: “Lin Feng, the Lovesick alcohol enables people who drink it to see the one they love. Who did you think about when you drank the alcohol?”
เวิ่นห่าวซื่อ หันไปหา หลินเฟิง และมอง หลินเฟิง ด้วยดวงตาที่สวยงามดุจผู้หญิง เขายิ้มและกล่าวว่า "หลินเฟิง เหล้าช้ำรักนั้น ช่วยให้คนที่ดื่มมันได้เห็นคนที่เขารัก เจ้าคิดยังไงเมื่อเจ้าได้ดื่มเหล้านี้? "
Lin Feng laughed and replied: “What about you?”
หลินเฟิง หัวเราะและตอบว่า "แล้วเจ้าล่ะ?"
“Me?” Wen Ao Xue’s was surprised. Immediately after, a wry smile appeared on his face. He suddenly looked incredibly lonely.
"ข้ารึ?"เวิ่นห่าวซื่อ ตกใจ ทันใดนั้นรอยยิ้มบนหน้าของเขาก็ปรากฏขึ้น จู่ ๆเขาก็ดูโดดเดี่ยวอย่างมาก
“I have long run out of tears to cry for her. The one I love will never see me.”
"ไม่ว่าข้าจะร้องไห้ออกมามากเพียงใด คนที่ข้ารักก็ไม่มีทางได้เห็นข้าในสายตาอยู่ดี "
Lin Feng was shocked as he smiled. It seemed like Wen Ao Xue, was a romantic at heart. It was very rare to see.
หลินเฟิง ตกใจแล้วเขายิ้ม ดูเหมือนว่า เวิ่นห่าวซื่อ เป็นคนที่โรแมนติก มันเป็นเรื่องยากมากที่จะได้เห็น
In the cultivation world, cultivation was the most important thing for cultivators; it was more important than anything else, including love.
ในโลกการบ่มเพาะพลัง การบ่มเพาะพลังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้บ่มเพาะพลัง มันมีความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นรวมถึงความรัก
Of course, in the world of cultivation, there were also many people who considered love as something worth more than increasing their cultivation.
แน่นอนว่าในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง ยังมีอีกหลายคนที่ถือว่าความรักเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากกว่าการเพิ่มพูนการบ่มเพาะพลังของพวกเขา
“Alright. We have finished our glasses, but the most important person hasn’t arrived yet. It seems like I have to do something.”
“เอาล่ะ เราก็ดื่มกันแล้ว แต่คนที่สำคัญที่สุดก็ยังไม่มาถึง ดูเหมือนว่าข้าต้องทำอะไรบางอย่าง "
Duan Wu Ya was looking at the crowd while smiling. Many people were impatient. They, of course, knew whom Duan Wu Ya was talking about.
ต้วนหวูหยา กำลังมองไปที่ฝูงชนขณะยิ้ม หลายคนอดทน แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าใครที่ ต้วนหวูหยา กำลังพูดถึง
Lin Feng was the only person who didn’t know whom he was talking about.
หลินเฟิง เป็นคนเดียวที่ไม่รู้จักว่าเป็นใครที่เขาพูดถึง
A realization flashed in Lin Feng’s eyes and he then looked at Duan Wu Ya, next to whom there was a free seat. It had obviously been reserved for the other person that was meant to join them.
การเกิดประกายความอยากรู้ขึ้นมาในดวงตาของ หลินเฟิง และเขาก็มองไปที่ ต้วนหวูหยา ถัดไปมีที่นั่งที่ว่างอยู่ มันเห็นได้ชัดว่าถูกเว้นไว้สำหรับคนอื่นที่ตั้งใจเข้าร่วมงานกับพวกเขา
The most important person surprisingly had such a high social status that they were able to sit next to Duan Wu Ya. He was probably just as influential as the prince.
เป็นคนที่สำคัญที่สุดที่มีฐานะทางสังคมสูงเช่นกันที่พวกเขาสามารถนั่งข้าง ต้วนหวูหยา ได้ เขาอาจจะมีอิทธิพลเหมือนกับองค์ชาย
The people of the Yue Clan and the Yu Clan were only occupying seats reserved for guests and did not get to sit with the prince.
คนของตระกูลเย่ และตระกูลหยู นั้นมีที่นั่งเฉพาะสำหรับแขกและไม่ได้นั่งกับองค์ชาย
At that moment, Duan Wu Ya stood up and nodded to the crowd. Immediately after, he started walking and suddenly vanished from the pavilion. A short time after, the crowd saw that Duan Wu Ya was already back at the covered pathway made of red wood.
ในขณะนั้น ต้วนหวูหยา ยืนขึ้นและพยักหน้าให้ฝูงชน ทันทีหลังจากนั้นเขาเริ่มเดินและก็หายตัวไปจากศาลา หลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ ฝูงชนเห็นว่า ต้วนหวูหยา กำลังกลับมาที่ทางเดินที่ปกคลุมด้วยไม้สีแดง
After Duan Wu Ya left, everybody was still sitting in their original places. But Lin Feng noticed that everybody looked excited and impatient, especially Yue Tian Chen. Excitement was filling his eyes and a charming smile had appeared on his face as if he was posing.
หลังจากที่ ต้วนหวูหยา ทิ้งทุกคนออกไปก็ได้กลับมายังที่นั่งเดิม แต่ หลินเฟิง สังเกตเห็นว่าทุกคนดูตื่นเต้นและใจร้อนขึ้นโดยเฉพาะ เย่เทียนเซง ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นในดวงตาของเขาและรอยยิ้มอันน่าหลงใหลได้ปรากฏตัวขึ้นบนใบหน้าราวกับว่ากำลังรออยู่
Of course, there were also people who were staring coldly at Lin Feng; they were Meng Chong, Duan Han and Yu Tian Xing but Lin Feng just ignored them.
แน่นอนว่ายังมีคนที่จ้องมองอย่างเย็นชนไปที่ หลินเฟิง ; พวกเขาคือ เมิ้งฉง, ต้วนหาน และ หยูเทียนเซียง แต่ หลินเฟิง ไม่สนใจพวกเขา
“Who is the person whom the second prince personally went to pick up?” asked Lin Feng to Wen Ao Xue. He was very curious.
"ใครเป็นคนที่องค์ชายสองไปรับด้วยตัวเองน่ะ?" หลินเฟิง ถาม เวิ่นห่าวซื่อ เขาเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นอย่างมาก
Wen Ao Xue laughed and replied: “Wait and you’ll see.”
เวิ่นห่าวซื่อ หัวเราะและตอบว่า "เจ้ารอดูด้วยตัวเองเถอะ"
Lin Feng slightly shook his head. Wen Ao Xue surprisingly was keeping him in suspense.
หลินเฟิง ส่ายหน้าเล็กน้อย เวิ่นห่าวซื่อ ทำให้เขาประหลาดใจ
People in the pavilion started whispering. From what they were saying, Lin Feng understood that the person that the second prince had to gone to pick up was supposedly a woman. Besides, it was supposed to be a beautiful woman. It seemed like all these noble people were quite excited to meet her.
คนในศาลาเริ่มกระซิบกระซาบ จากสิ่งที่พวกเขาคุยกัน หลินเฟิง เข้าใจว่าคนที่องค์ชายสองต้องไปรับควรจะเป็นผู้หญิง นอกจากนี้ก็ควรจะเป็นผู้หญิงที่สวยแน่นอน ดูเหมือนชนชั้นสูงทุกคนเหล่านี้รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้พบเธอ
While they were all calmly sitting there, the atmosphere suddenly became calm again. Lin Feng turned around and looked at the covered pathway. Immediately, he saw two silhouettes arriving.
ขณะที่พวกเขานั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ บรรยากาศก็สงบลงอีกครั้ง หลินเฟิง หันกลับไปและมองไปที่ทางเดินนั้น ทันทีหลังจากนั้นเขาเห็นเงาสองคนได้มาถึง
There was the second prince, Duan Wu Ya, and a woman.
มีองค์ชายสองนั้นคือ ต้วนหวูหยา และผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
She was wearing a turquoise dress. Beautiful black hair was flowing down on her shoulders. She looked elegant and graceful. It seemed like the hearts of the guests were beating in sync with each of her steps.
เธอสวมชุดสีเขียวขุ่น ผมสีดำที่เงางาม ไหลลงมาบนบ่า เธอดูสง่างาม ดูเหมือนหัวใจของแขกทุกคนกำลังเต้นไปพร้อมๆกันกับทุกย่างก้าวของเธอ
“What a beautiful woman.”
"ช่างสวยงามอะไรเยี่ยงนี้"
When Lin Feng saw her perfect face, he couldn’t help but gasp in amazement. Her skin was snowy white. Her features were delicate. There was not a single flaw to be seen on her body. She looked like a beautiful orchid whose exquisite fragrance would awake the senses.
เมื่อหลินเฟิง เห็นใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเธอช่วยไม่ได้ที่เขาจะกระวนกระวายใจด้วยความตื่นตกใจ ผิวของเธอนั้นขาวอมชมพู และดูอ่อนโยน ไม่มีตำหนิแม้แต่นิดเดียวที่บนร่างของเธอ เธอดูคล้ายกับกล้วยไม้ที่สวยงามที่มีกลิ่นหอมงดงามจะกระตุ้นชวนให้เกิดความรู้สึก
“Xin Ye, if you would.” said Duan Wu Ya while stopping and letting the beautiful woman pass in front of him.
"ซินเย่ เชิญ"ต้วนหวูหยา กล่าวขณะที่หยุดและปล่อยให้สาวงามเดินผ่านหน้าเขา
The beautiful woman didn’t say anything and continued walking. She was walking slowly and gracefully. At the same time, everybody in the pavilion stood up.
สาวงามไม่ได้พูดอะไรและเดินต่อไป เธอเดินอย่างช้าๆและสง่างาม ในเวลาเดียวกันทุกคนในศาลาก็ลุกขึ้นยืน
“Princess.”
"องค์หญิง"
The whole crowd said these words in their most gentle tone. They all had charming and warm smiles on their face as if they were trying to gain the beautiful woman’s affection. However, the beautiful woman didn’t say anything. She just slightly nodded without looking at them and continued walking forwards looking elegant and delicate.
ทั้งกลุ่มพูดคำเหล่านี้ด้วยเสียงอ่อนโยนที่สุด ทุกคนต่างมีรอยยิ้มที่น่ารักและอบอุ่นบนใบหน้าของพวกเขาราวกับว่าพวกเขากำลังพยายามที่จะได้รับความรักของสาวงาม อย่างไรก็ตามสาวงามไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่ได้มองไปที่พวกเขาและเดินต่อไปเรื่อยๆช่างดูสง่างามและน่าหลงไหล...
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น