ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 184

ตอนที่ 184 ตระกูลเย่






Lin Feng only glanced at the young man and then ignored him. He then continued walking towards the pavilion.
หลินเฟิง ชำเลืองมองไปที่ชายหนุ่มแล้วไม่ได้สนใจเขา จากนั้นเขาก็เดินตรงไปที่ศาลา

“I told you to get lost. Didn’t you hear me?”

"ข้าบอกให้เจ้าไปให้พ้นไง นี่เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดรึไง? "

When the young man noticed that Lin Feng was ignoring him, his tone became colder. The young men of the Imperial City would never dare to make him lose face, even the second prince respected him to a certain extent. He had been personally invited by Duan Wu Ya to come to the banquet. He hadn’t thought that, on that covered pathway made of red wood, he would meet an arrogant young man wearing tattered clothes, who would ignore him.

เมื่อชายหนุ่มสังเกตเห็นว่า หลินเฟิง ไม่สนใจเขา น้ำเสียงของเขาเริ่มเย็นชาขึ้น ชายหนุ่มที่อยู่เมืองจักรพรรดิไม่เคยมีใครกล้าที่จะทำให้เขาเสียหน้ามาก่อนแม้แต่องค์ชายสองก็ยังให้ความเคารพเขาในระดับหนึ่ง เขาที่ได้รับเชิญจาก ต้วนหวูหยา ให้มางานเลี้ยง เขาไม่เคยคิดว่าในเส้นทางที่ปกคลุมด้วยไม้สีแดงเขาจะได้พบกับชายหนุ่มที่หยิ่งที่สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเมินเฉยต่อเขา


Lin Feng continued to walk as if the other young man didn’t exist.

หลินเฟิง เดินต่อไปราวกับว่าชายหนุ่มคนอื่นไม่มีตัวตน


When he saw Lin Feng act that way, the young man put on a serious expression. Immediately after, a wild energy emerged from his fist which immediately unleashed a strong cold wind.

เมื่อเขาเห็น หลินเฟิง ทำแบบนั้นชายหนุ่มก็แสดงอาการจริงจังขึ้นมา ทันทีหลังจากนั้น มีพลังงานป่าเกิดขึ้นจากฝ่ามือของเขาซึ่งได้ปลดปล่อยลมที่หนาวเย็นออกมาอย่างรวดเร็ว

“BOOOOM!”

ตู้มมม!

At that moment, a strong battle energy emerged from Lin Feng’s body and rose into the air. This energy was strange and it looked like it was on fire. It seemed unstoppable as if it would smash anything in its path.

ในขณะนั้นเอง พลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งแผ่ออกมาจากร่างของ หลินเฟิง และทะยานขึ้นไปบนอากาศ พลังงานนี้ช่างแปลกพิลึกและดูเหมือนกับไฟ มันดูราวกับว่าไม่มีที่สิ้นสุดและไม่มีอะไรหยุดยั้งมันได้ถ้ามันจะทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางเส้นทางของมัน

The battle energy had surprised the young man whose heart started to race. That battle energy was causing fear to well up in his heart.

พลังงานแห่งการต่อสู้นั้นทำให้ชายหนุ่มประหลาดใจที่เริ่มสั่นไหว พลังงานการต่อสู้ที่ก่อตัวขึ้นทำให้เกิดความกลัวได้เป็นอย่างดีเกิดขึ้นในใจของเขา

Lin Feng turned around and launched his fist forward with sharp energy around it. The two fists brutally collided.

หลินเฟิง หันกลับไปและปล่อยหมัดไปข้างหน้าด้วยพลังงานที่เฉียบคมรอบ ๆ ทั้งสองกำปั้นชนกันอย่างทารุณ

“BOOOOM!”

ตู้มมมมม!!

The covered pathway made of red wood shook insanely, but it didn’t break. It was extremely solid.

ทางเดินที่ทำจากไม้สีแดงสั่นอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ไม่ได้ถูกทำลาย เพราะมันมีความแข็งอย่างมาก

The young man’s eyes revealed fear and his body shot backwards from the impact. A strong battle energy was still emerging from Lin Feng’s body, he looked like a terrifying warlord.

ชายหนุ่มมองด้วยสายตาที่หวาดกลัวและร่างกายของเขากระเด็นถอยหลังไป พลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งนั้นก็ยังโผล่ออกมาจากร่างของ หลินเฟิง เขาดูเหมือนกับขุนศึกที่น่าสะพรึงกลัว


“Next time, think before you act.” said Lin Feng indifferently. He then turned around and continued walking towards the pavilion, leaving the young man alone on the pathway in a gloomy mood.

"ครั้งต่อไปจงคิดก่อนที่เจ้าจะแสดงออกเช่นนี้" หลินเฟิง กล่าวอย่างเฉยเมย จากนั้นเขาก็หันกลับและเดินต่อไปยังศาลาปล่อยชายหนุ่มคนนั้นไว้คนเดียวอยู่บนทางเดินในอารมณ์หดหู่

He had been taught a lesson by someone who was about the same age as him. Besides, Lin Feng had told him to think before acting with a mocking tone. These words resonated in his brain and made a distorted and ugly expression appear on his face.
เขาได้รับบทเรียนจากคนที่อยู่ในวัยเดียวกันแล้ว นอกจากนี้ หลินเฟิง ได้บอกให้เขาคิดก่อนที่จะแสดงกริยาด้วยเสียงเย้ยหยัน คำพูดเหล่านี้สะท้อนอยู่ในสมองของเขาและทำให้เกิดการแสดงออกที่บูดเบี้ยวและน่าเกลียดปรากฏบนใบหน้าของเขา

“Stop.” shouted the young man coldly. He had just been careless a moment before. He wanted to show to Lin Feng what it meant to think before acting.
"หยุด" ชายหนุ่มตะโกนใส่อย่างเย็นชา เขาประมาทเกินไปตอนก่อนหน้านี้ เขาต้องการที่จะแสดงให้ หลินเฟิง เห็นว่าความหมายของคำว่าคิดก่อนว่าจะต้องคิดก่อนแสดงกริยาเช่นนี้เป็นยังไง

But Lin Feng didn’t pay attention to his words, he continued to walk down the covered pathway and quickly arrived at the pavilion.
แต่ หลินเฟิง ไม่ได้สนใจกับคำพูดของเขาแล้วเดินต่อไปตามทางเดินและไปถึงศาลาอย่างรวดเร็ว

That pavilion was very spacious. People were sitting on the floor in two lines. In front of them, there was a table made of sandalwood, on which had sculptures carved into it which looked incredibly lifelike. That table was extremely precious and valuable, but there they were using it to hold food and drinks.
ศาลานั้นกว้างขวางมาก มีคนนั่งอยู่บนพื้นสองทาง ด้านหน้ามีโต๊ะทำจากไม้จันทน์ซึ่งมีรูปแกะสลักที่ดูสมจริงเป็นอย่างมาก โต๊ะนั้นมีค่ามหาศาลอย่างแน่นอน แต่พวกเขาใช้มันเพื่อวรองาหารและเครื่องดื่ม

In the middle of the pavilion, there was a group of lithe and graceful women wearing alluring cheongsam. They were dancing lightly and gracefully while smiling. If they drew the attention of a young man in that place, in the future, they wouldn’t need to come and dance there anymore. All the people who entered the Lovesick Forest had a very high social status.
ในช่วงกลางของศาลามีกลุ่มผู้หญิงที่อ่อนช้อยและสง่างามสวมใส่ชุดราตรีที่มีเสน่ห์ พวกนางเต้นเบาๆและมันยิ่งทำให้ดูชวนมองมากขึ้นพร้อมทั้งยิ้มไปด้วย ถ้าพวกนางดึงความสนใจของชายหนุ่มในที่นี้ได้ ในอนาคตพวกนางก็ไม่จำเป็นต้องมาเต้นที่นี่อีกต่อไป ทุกคนที่เข้ามาใน ป่าช้ำรัก มีสถานะทางสังคมที่สูงมาก

All the young people who were sitting there had an extremely high social status, even inside the Lovesick Forest.
คนหนุ่มสาวทุกคนที่นั่งอยู่ในที่นี้ในป่าช้ำรักนั้นมีสถานะทางสังคมที่สูงมากทุกคน

But the two rows of people weren’t looking at the dancing women. Instead, they looked at Lin Feng. A moment before, the battle in the covered pathway had already attracted their attention.
แต่ทั้งสองแถวนั้นไม่ได้มองไปที่ผู้หญิงที่เต้นอยู่ แต่พวกเขามองไปที่ หลินเฟิง สักครู่ช่วงก่อนหน้านี้ การต่อสู้บนทางเดินนั้นได้ดึงดูดความสนใจของพวกเขาเรียบร้อย

When they saw Lin Feng, these people all had different expressions on their face. Some of them looked calm, some looked at him with disdain, some looked stupefied, some looked cold. Surprisingly, that was Lin Feng.
เมื่อพวกเขาได้เห็น หลินเฟิง คนเหล่านี้ต่างมีสีหน้าที่แตกต่างกัน บางคนมองอย่างสงบบางคนมองเขาด้วยความรังเกียจบางคนมองด้วยความสับสน บางคนมองด้วยความเย็นชน น่าแปลกใจยิ่งนั่นเป็น หลินเฟิง

“How pleasant and elegant.”
"ช่างน่าชวนมองและน่าหลงไหล."

On the lake, beautiful girls were serving drinks while smiling. What a beautiful sight.
ริมทะเลสาบสาวสวยกำลังให้บริการเครื่องดื่มด้วยรอยยิ้ม ความสวยนี่มันอะไรกัน

Lin Feng, at that moment, also looked at the crowd. There were about twenty to thirty people. Lin Feng recognized some of them.
หลินเฟิง ในขณะนั้นก็มองไปที่ฝูงชน มีประมาณยี่สิบถึงสามสิบคน หลินเฟิง รู้จักบางคนในนั้น

There was the young man, whose family name was Yu, whom Lin Feng had humiliated.
มีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งชื่อตระกูลของเขาคือตระกูลหยู ซึ่ง หลินเฟิง รู้สึกอับอาย

There was also the called Meng Chong, whom Lin Feng had provoked at the auction sales market.
นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกว่า เมิ้งฉง ซึ่ง หลินเฟิง ได้กระตุ้นให้นึกถึงที่โรงประมูลในตลาด

There was also Duan Tian Lang’s son, Duan Han.
นอกจากนี้ยังมีลูกชายของ ต้วนเทียนหลาง, ต้วนฮาน

There was Duan Lie’s daughter, Duan Yu.
แล้วยังมีลูกสาวของ ต้วนลี่, ต้วนหยู

Lin Feng also noticed Wen Ao Xue. He was surprisingly there as well.
หลินเฟิง ยังสังเกตเห็น เหวินฮ่าวซื่อ เขาเองก็ประหลาดใจเช่นกัน

All these people had something in common. They were all noble people of high status. They were influential and their clans all had a strong influence.
คนเหล่านี้มีบางอย่างที่เหมือนกัน พวกเขาทั้งหมดเป็นขุนนางที่มีสถานะสูง พวกเขามีอิทธิพลและกลุ่มชนทุกคนมีอิทธิพลอย่างมาก

Lin Feng hadn’t thought that he would come across so many people he knew there. He was a bit surprised. Besides, some of them had ice-cold expressions on their face while looking at him. Lin Feng was smiling deep in his heart.
หลินเฟิง ไม่คิดว่าเขาจะเจอคนจำนวนมากที่เขารู้จักที่นั่น เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นอกจากนี้บางคนยังมีการแสดงออกที่เย็นชาบนหน้าของพวกเขาขณะมองเขา หลินเฟิง ยิ้มลึก ๆ ในใจ

Apart from his own strength and that of Wen Ao Xue, Lin Feng didn’t know how strong the others were. Many of them couldn’t compete with him. Back at the Yun Hai Sect, Duan Han was extremely arrogant. At that moment, if Lin Feng fought against him, he would easily be able to win.
นอกเหนือจากความแข็งแกร่งของตัวเองและของ เวิ่นฮ่าวซื่อ หลินเฟิง ไม่ทราบว่าคนอื่นมีความแข็งแกร่งเท่าไหร่ หลายคนไม่สามารถเทียบเขาได้ กลับมาที่นิกายหยุนไห่ ต้วนฮาน เป็นคนที่หยิ่งทนงตนสูงมาก ในเวลานั้นถ้า หลินเฟิง ต่อสู้กับเขา เขาสามารถเอาชนะได้อย่างง่าย

“Lin Feng, come sit next to me.”
"หลินเฟิง มานั่งข้างข้าสิ"

Wen Ao Xue was smiling to Lin Feng. The smile on his face was even more beautiful than that of most of the women there.
เวิ่นฮ่าวซื่อ ยิ้มให้ หลินเฟิง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายิ่งสวยงามกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ที่นั่น

Everybody was astonished, Wen Ao Xue and Lin Feng were friends? Considering the smile on Wen Ao Xue’s face, his friendship with Lin Feng wasn’t superficial.
ทุกคนต่างประหลาดใจ, เวิ่นห่าวซื่อ และ หลินเฟิง เป็นเพื่อนกัน? เมื่อพิจารณาจากรอยยิ้มบนหน้าของ เวิ่่นห่าวซื่อแล้ว มิตรภาพระหว่างเขากับ หลินเฟิง ก็ไม่ได้เป็นแบบผิวเผินแน่ๆ

But at that moment, the one who had just been blown away by Lin Feng also arrived. A cold energy was surrounding his body. He walked towards Lin Feng releasing oppressive energy. Surprisingly, he had no scruples with fighting in front of the entire crowd.
แต่ในขณะนั้นคนที่เพิ่งถูก หลินเฟิง เป่ากระเด็นไปก็มาถึงด้วย มีพลังงานที่เย็นเฉียบอยู่รอบตัวของตน เขาเดินไปหา หลินเฟิง แล้วปล่อยพลังกดดัน น่าแปลกใจที่เขาไม่เคยเห็นด้วยกับการต่อสู้ต่อหน้าฝูงชนทั้งหมด

The crowd couldn’t help but get excited when they saw that. Lin Feng and Wen Ao Xue were good friends, which had surprised them, but it seemed like Lin Feng had offended that young man. How audacious!
ช่วยไม่ได้ที่ฝูงชนต่างตื่นเต้น เมื่อพวกเขาเห็นว่า หลินเฟิง และ เวิ่นห่าวซื่อ เป็นเพื่อนที่ดีซึ่งทำให้พวกเขาประหลาดใจ แต่ดูเหมือนว่า หลินเฟิง ไม่พอใจชายหนุ่มคนนี้ กล้าดียังไง!

In the Imperial City, there were very few people who dared offend him.
ในเมืองจักรพรรดิมีคนน้อยมากที่กล้าทำร้ายเขา

“Brother Yue, Brother Lin. You are my guests today. I invited you all to come here. However, I don’t intend to clean up after you. Therefore, please sit down.”
"พี่เย่, น้องหลิน พวกเจ้าเป็นแขกของข้าในวันนี้ ข้าเชิญทุกท่านมาที่นี่ อย่างไรก็ตามข้าไม่ได้สนใจเก็บกวาดที่นี่หรอกนะหลังจากที่พวกเจ้าไป ดังนั้นโปรดนั่งลงเถิด "

The second prince was sitting on the main seat, he said that to Lin Feng and the young man in a soft and gentle voice which gave everybody the feeling that a soft breeze was blowing through their hair.
องค์ชายสองกำลังนั่งอยู่บนที่นั่งหลักเขาแล้วบอกกับ หลินเฟิง และชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและนุ่มนวลซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกว่าสายลมที่นุ่มนวลพัดผ่านเส้นผมของพวกเขา

When the young man, whose family name was Yue, thought of the banquet again, the cold energy around his body disappeared. He slightly nodded to Duan Wu Ya and immediately moved aside.
เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นคนของตระกูลเย่ คิดถึงงานเลี้ยงอีกครั้งพลังงานที่เย็นยะเยือก ทั่วร่างกายก็หายไป เขาพยักหน้าเล็กน้อย ให้กับ ต้วนหวูหยา และรีบหลบไป

“Your Highness.” said Lin Feng to the second prince. Immediately after, he went towards Wen Ao Xue and sat down next to him. He looked expressionless and indifferent.
"ฝ่าบาท" หลินเฟิง กล่าวกับองค์ชายสอง ทันทีหลังจากนั้นเขาเดินไปหา เวิ่นห่าวซื่อ และนั่งลงข้างๆเขา เขาดูไร้อารมณ์และเฉยเมย

“Let me introduce him, this is Lin Feng, he’s a student of the Celestial Academy. Two months ago, he fought against Nie Yan to a draw.”
"ข้าขอแนะนำชายผู้นี่ นี่คือ หลินเฟิง เขาเป็นนักเรียนของสถาบันสำนักสวรรค์ เมื่อสองเดือนที่แล้วเขาได้ต่อสู้กับ เนี่ยหยาน แล้วเสมอกัน

The second prince was smiling. Many people were astonished. Nie Yan was Hei Mo. Many people had heard about that battle. Actually, Hei Mo had miserably lost the battle, but Yu Qiu had intervened. Hei Mo had been lucky to survive with his life. However, many people didn’t know who Hei Mo fought against. They hadn’t thought that it was against the young man in front of them. Many of them quickly retracted their looks of disdain.
องค์ชายสองกำลังฉีกยิ้ม หลายคนประหลาดใจ เนี่ยหยาน คือ เฮยหม่า หลายคนเคยได้ยินเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งนั้น อันที่จริงแล้ว เฮยหม่า ได้พ่ายแพ้ให้กับการต่อสู้ แต่ หยูเชี่ยว ได้เข้ามาแทรกแซง เฮยหม่า โชคดีที่รอดชีวิตกลับไป อย่างไรก็ตามหลายคนไม่ทราบว่าใครเป็นคู่ต่อสู้ของ เฮยหม่า. พวกเขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าของพวกเขา หลายคนที่มองอย่างเหยียดหยาม

The one who had nearly killed Hei Mo was so young. No wonder he had been invited by the second prince to come there.
คนที่เกือบฆ่า เฮยหม่า นั้นยังเป็นเด็กอยู่ ไม่น่าแปลกใจที่เขาได้รับเชิญจากองค์ชายสองให้มาที่นั่น

“A country boy, a tramp.” said a voice coldly. The one who had said these words was Meng Chong. He was staring at Lin Feng revealing that they were on bad terms. In the past, Lin Feng had made him endlessly lose face. At that moment, he wasn’t going to make it easy for Lin Feng.
"ก็แค่เด็กผู้ชายบ้านนอกคนหนึ่งที่เหมือนคนจรจัด" มีเสียงพูดอย่างเย็นชาดังขึ้น คนที่พูดคำเหล่านี้คือ เมิ้งฉง เขาจ้องมองที่ หลินเฟิง เผยให้เห็นว่าพวกเขาข้องใจ ในอดีต หลินเฟิง ทำให้เขาเสียหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า ในตอนนี้เขาจะไม่ปล่อย หลินเฟิง ไปอย่างง่ายดาย

“A draw against Hei Mo, nothing more… and he surprisingly dares act that arrogantly. That’s not even worth mentioning.” said the young man, whose family name is Yue. “If Hei Mo had used all his strength, he could have won.”
"เสมอกับ เฮยหม่า, ไม่มีอะไรมากกว่านี่รึไง ... และเขากล้าดียังไงที่เสนอหน้าทำตัวอย่างห้าวหาญ ไม่ได้มีค่าพอการกล่าวถึง. "ชายหนุ่มตระกูลเย่ กล่าว. "ถ้า เฮยหม่า ได้ใช้กำลังทั้งหมดของเขาเขาต้องชนะอยู่แล้ว."

“Brother Yue is only saying what he thinks, Brother Lin shouldn’t pay attention to him.” said the second prince warmly. He only mentioned the young man from the Yue Family but ignored Meng Chong. As expected, Meng Chong wasn’t important enough. That made Lin Feng laugh on the inside. Meng Chong was just a moron, nothing more.
"พี่เย่ แค่พูดในสิ่งที่เขาคิดเท่านั้น น้องหลินอย่าถือสา" องค์ชายสองกล่าวอย่างอบอุ่น เขากล่าวถึงชายหนุ่มคนหนึ่งจากตระกูลเย่ แต่ไม่สนใจ เมิ้งฉง ตามที่คาดไว้ เมิ้งฉง นั้นไม่สำคัญพอ ทำให้ หลินเฟิง หัวเราะในใจ  เมิ้งฉง เป็นแค่พวกอ่อนหัดไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

If a person’s status was high but not high enough and they dared to call into question what the second prince said, if they weren’t complete morons then what were they? That was exactly what had just happened. There were social distinctions between noble cultivators.
ถ้าสถานะของบุคคลสูง แต่ว่าไม่ได้สูงพอและพวกกล้าดียังไงที่ถามคำถาม องค์ชายสองกล่าว  ถ้าพวกนั้นไม่ได้โง่ แล้วสิ่งที่คนจำพวกนี้ทำอยู่คืออะไร?  นั่นคือสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น มีความแตกต่างทางสังคมระหว่างผู้บ่มเพาะพลัง

“Come, Brother Lin, I will introduce you to a young man. You should keep in touch in the future. Brother Yue is a member of the Yue Clan. The Lovesick Forest was built by the Yue Clan.”
"มาเถิด น้องหลิน ข้าจะแนะนำเจ้ากับชายผู้นั้น เจ้าควรจะติดต่อกันต่อไปในอนาคต พี่เย่ เป็นสมาชิกของตระกูลเย่ ป่าช้ำรัก ถูกสร้างขึ้นโดยตระกูลเย่ "

When Lin Feng heard the second prince, he was surprised. The Yue Clan, the Duan Clan and the Yu Clan were the three biggest clans of the Imperial City. No wonder that young man was so arrogant. His social status was high and besides, the Lovesick Forest belonged to his clan.
เมื่อ หลินเฟิง ได้ยินองค์ชายสองพูดเขารู้สึกประหลาดใจ ตระกูลเย่, ตระกูลต้วน และ หยู เป็นสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองจักรพรรดิ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายหนุ่มนั้นที่หยิ่ง สถานะทางสังคมของเขาสูงมากและนอกจากนี้ป่าช้ำรักเป็นของตระกูลของเขา

But Lin Feng was only surprised for a few seconds. Lin Feng had already met people from all the spheres of influence within the Xue Yue Country, except people from the Luo Xia Sect which was situated in a distant corner of the country.
แต่ หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจได้เพียงไม่กี่วินาที หลินเฟิง ได้พบกับผู้คนจากทุกขอบเขตอิทธิพลภายในแคว้นซุเย่ ยกเว้นผู้คนจากนิกาย หลัวเซียง ซึ่งตั้งอยู่ในมุมที่ห่างไกลของแคว้น

After that, the second prince introduced other people to Lin Feng, including Meng Chong. Surprisingly, Meng Chong’s father was the commander of the Imperial City guards, a group of elite troops. It seemed like the Qi Lin Feng had sensed the other day was indeed that of soldiers.
หลังจากนั้นองค์ชายสองได้แนะนำคนอื่นให้ หลินเฟิง รวมทั้ง เมิ้งฉง น่าแปลกใจที่พ่อของ เมิ้งฉง เป็นผู้บัญชาการทหารของเมืองจักรพรรดิ ซึ่งเป็นกลุ่มทหารที่มีอำนาจสูงสุดราวกับ พลังปราณ หลินเฟิง เคยรู้สึกว่าต้องมีสักวันที่เป็นทหารจริงๆ

As far as the young man, whose family name was Yu was concerned; his name was Yu Tian Xing. He was the fifth son of the head of the Yu Clan. His status was exceptional.
ไม่ไกลกับชายหนุ่มคนนี้ชื่อตระกูลที่ชื่อว่าหยู นั้นดูน่าเป็นห่วง; ชื่อของเขาคือ หยูเทียนชิง  เขาเป็นลูกที่ห้าของหัวหน้าตระกูลหยู สถานะของเขานั้นพิเศษ

Lin Feng had fought with him and after that Yu Qiu had been offended and had wanted to kill Lin Feng.
หลินเฟิง ได้ต่อสู้กับเขาและหลังจากนั้น หยูเชี่ยว ได้รับแทรกแทรงและต้องการที่จะฆ่า หลินเฟิง

As far as Wen Ao Xue was concerned, the second prince didn’t introduce him at all.
ไม่ไกลจากนั้น เวิ่นห้าวซื่อ เป็นกังวลเกี่ยวกับ องค์ชายสอง ซึ่งไม่ได้แนะนำเขาเลย.

But when Lin Feng finished listening to the second prince, his heart was pounding out of amazement. These people had the biggest influence in the entire country and could, if they wished, change its entire destiny. They were all people that gravitated around commanders and leaders. They were all at the top of the social pyramid.
แต่เมื่อ หลินเฟิง เสร็จสิ้นการฟังองค์ชายสอง หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น คนเหล่านี้มีอิทธิพลมากที่สุดในแคว้นทั้งหมดและหากต้องการเปลี่ยนชะตาชีวิตทั้งหมดนั้น คนเหล่านี้เป็นคนที่อยู่จุดสูงสุดของผู้บัญชาการและผู้นำ พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่ด้านบนสุดของจุดสูงสุงของสถานะทางสังคม...






Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

Facebook