ตอนที่ 182 การต่อสู้กันของพลังงาน
“If I have the occasion, I will have to pay a visit to the Holy Courtyard of Xue Yue personally.”
"ถ้ามีโอกาสข้าจะต้องไปเยี่ยมชมลานศักดิ์สิทธิ์ เป็นการส่วนตัว"
When the crowd heard Lin Feng say these words while sounding calm, they were a bit surprised. If he wanted to go to the Holy Courtyard of Xue Yue, he had to be extremely strong. He had to have at least surpassed Lo Xue and Chu Zhan Peng’s strength, otherwise, he would just end up making a fool of himself.
เมื่อฝูงชนได้ยิน หลินเฟิง กล่าวคำเหล่านี้ในขณะที่เสียงดูสุขุมพวกเขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ถ้าเขาต้องการไปที่ลานศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ต้องแข็งแกร่งอย่างมากสิ เขาต้องมีพลังอย่างน้อยต้องมากกว่า โลซู และ ฉู่จั่นเผิง มิฉะนั้นเขาจะทำให้ถึงจุดจบเพราะความโง่เง่าของตัวเอง
Nobody had doubts concerning Lin Feng’s determination. Even though they had never talked to him personally, that battle had been enough for them to understand Lin Feng’s personality. He was extremely determined, frivolous and unrestrained. Besides, he wasn’t arrogant and was unyielding when it came to his beliefs. Even in dangerous situations, he didn’t hesitate or retreat. Nobody thought that Lin Feng didn’t mean those words.
ไม่มีใครสงสัยเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ หลินเฟิง แม้ว่าพวกเขาไม่เคยคุยเป็นการส่วนตัว แต่การต่อสู้ครั้งนั้นเพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะเข้าใจตัวตนของ หลินเฟิง เขาเป็นคนที่มุ่งมั่นอย่างมากไม่ชอบคิดเล็กคิดน้อยและไม่อารมณ์ร้อน นอกจากนี้เขาไม่ได้หยิ่งและไม่สิ้นศรัทธาในตัวเอง แม้แต่ในสถานการณ์ที่อันตรายเขาก็ไม่มีความลังเลหรือถอยกลับ ไม่มีใครคิดว่า หลินเฟิง ไม่เหมือนกับคำอธิบายนี้
Lin Feng also had the heart of a very powerful cultivator. He was firm and persistent. Sooner or later, he would end up surpassing Chu Zhan Peng.
หลินเฟิง นั้นยังมีพลังใจที่ทรงพลังอย่างมากสำหรับผู้บ่มเพาะพลัง เขาเป็นคนที่แน่วแน่และไม่สั่นไหว ไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะเหนือกว่า ฉู่จั่นเผิง
Each and every single person of the Holy Courtyard of Xue Yue was staring at Lin Feng with an ugly expression on their faces. That time, he wasn’t just making fun of the Holy Courtyard of Xue Yue in front of a few disciples, but in front of a great number of disciples. The Holy Courtyard of Xue Yue was being humiliated.
ทุกคนในลานศักดิ์สิทธิ์กำลังจ้องมองที่ หลินเฟิง ด้วยสีหน้าที่หน้าเกลียดของพวกเขา ในเวลานั้นเขาไม่เพียงแค่ทำให้ลานศักดิ์สิทธิ์ดูตลก ไม่เพียงอยู่หน้าลูกศิษย์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่เป็นลูกศิษย์จำนวนมาก ลานศักดิ์สิทธิ์ กำลังถูกทำให้อัปยศ
Murderous lights flashed through the eyes of the teacher from the Holy Courtyard of Xue Yue. A murderous aura was being released from his body. A cracking sound spread through the air as his Qi started to pour from his body. The stone chair on which he was sitting was broken into pieces. At that moment, he was standing up.
ประกายแสงแสดงเจตนาฆ่ากระพริบผ่านสายตาของอาจารย์จากลานศักดิ์สิทธิ์ รังสีเจตนาฆ่าที่เด่นชัดถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขา เกิดเสียงแตกลั่นกระจายอยู่ในอากาศเมื่อ พลังปราณ เริ่มหลั่งไหลนออกจากร่างกาย เก้าอี้หินที่เขานั่งก็แตกออกเป็นชิ้น ๆ ในขณะนั้นเขาลุกขึ้นยืน
“The Holy Courtyard of Xue Yue will be happily awaiting you.” said the teacher extremely coldly and then, his silhouette flickered and he left.
"ลานศักดิ์สิทธิ์มีความยินดีมากพวกเรารอเจ้าอยู่" อาจารย์พูดอย่างเย็นชาและจากนั้นเงาของเขาจางหายไปและเขาก็ออกไปจากที่นี่
The other people of the Holy Courtyard of Xue Yue glanced at Lin Feng and then also started leaving.
คนอื่น ๆ ในลานศักดิ์สิทธิ์เหลือบไปมอง หลินเฟิง และจากนั้นก็เริ่มเดินออกไป
After a while, a subtle sound spread in Long Ding’s ears. The chair on which that person was sitting, which had been broken into pieces, was still crumbling. The stone was slowly turning into powder. That stone chair had surprisingly been broken using pure energy.
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเสียงแผ่วลงบนหูของ หลงติง เก้าอี้ที่บุคคลนั้นกำลังนั่งอยู่ซึ่งแตกออกเป็นชิ้น ๆ หินกำลังค่อยๆเปลี่ยนเป็นผุยผง เก้าอี้หินนั้นถูกทำลายด้วยพลังงานบริสุทธิ์
Very quickly, only the people from the Celestial Academy were left in the public square. Long Ding was staring at Lin Feng with a profound gaze. He hadn’t thought that Lin Feng would be so amazing during that battle. It was really unexpected.
เร็วมากมีเพียงผู้คนจากสถาบันสำนักสวรรค์เท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ในจัตุรัสลานสาธารณะ หลงติง กำลังจ้องมองที่ หลินเฟิง ด้วยการมองอย่างลึกซึ้ง เขาไม่ได้คิดว่า หลินเฟิง น่าจะมหัศจรรย์มากขนาดนี้ในระหว่างการต่อสู้ครั้งนั้น มันไม่น่าแปลกใจเลยจริงๆ
But it was clear to Long Ding that Hei Mo might not come back to the Celestial Academy after this battle.
แต่ หลงติง เห็นได้ชัดว่า เฮยหม่า ไม่น่ากลับมาที่สถาบันสำนักสวรรค์ หลังจากการต่อสู้ยุติลง
The crowd looked at Lin Feng. On that day, one of the top ten cultivators of the Celestial Academy had been a stepping stone for Lin Feng to become famous.
ฝูงชนมอง หลินเฟิง ในวันนี้อ้นด้บหนึ่งใของสถาบันสำนักสวรรค์ ถูกสลักชื่อเปลี่ยนตำแหน่งเป็น หลินเฟิง ที่มีชื่อเสียง
After that day, Lin Feng’s reputation in the Celestial Academy would continue to grow.
หลังจากวันนั้นชื่อเสียงของ หลินเฟิง ใน สถาบันสำนักสวรรค์ ยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“Alright, let’s stop everything for today. You can all disperse.” said Long Ding while standing up. He glanced at everyone leaving and finally glanced at Lin Feng, he said: “Lin Feng, you should also go back and have a good rest. You should also take care of your injuries.”
"เอาล่ะ ขอยุติทุกอย่างลงในวันนี้ พวกเจ้าแยกย้าได้ "หลงติง กล่าวขณะยืนขึ้น เขาเหลือบมองทุกคนเดินออกไปและในที่สุดก็เหลือบมองไปที่ หลินเฟิง แล้วเขากล่าวว่า "หลินเฟิง เจ้าควรกลับไปได้แล้วและพักผ่อนให้เต็มที่ นอกจากนี้คุณควรดูแลอาการบาดเจ็บของตัวเองด้วย "
Lin Feng slightly nodded, and started walking. Meng Qing was still following behind him.
หลินเฟิง พยักหน้าเล็กน้อยและเริ่มเดิน เม้งชิง เดินตามหลังเขาออกไป
Lin Feng took two steps forwards and then a group of people moved in front of him. It was Liu Fei, Jing Yun, Duan Feng and the others. Today was the day of Lin Feng’s battle against Hei Mo, they were not going to miss it.
หลินเฟิง ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและกลุ่มคนที่เดินอยู่หน้าเข้าคือ หลิวเฟย, จิ้งหยุน, ต้วนเฟิง และคนอื่น ๆ วันนี้เป็นวันที่ หลินเฟิง ต่อสู้กับ เฮยหม่า พวกเขาไม่มีทางไม่พลาดมัน
“Are you alright?” asked Liu Fei while staring at Lin Feng. She looked incredibly concerned about him. That guy was really insane. He didn’t know when to stop, no matter who was in front of him… and even no matter how many people, he would never give up.
"เจ้าไม่เป็นไรนะ?" หลิวเฟย ถามขณะที่จ้องมองไปที่ หลินเฟิง เธอดูกังวลเกี่ยวกับเขามาก ผู้ชายคนนี้ช่างบ้าเสียจริง เขาไม่มีทางหยุดไม่ว่าใครจะอยู่เบื้องหน้าเขาก็ตาม ... และไม่ว่าจะมีกี่คนเขาก็จะไม่ยอมแพ้
A moment before, Liu Fei and the others had been quite scared, but they were not as strong as Lin Feng. They couldn’t do anything, they could only watch as the events unfurled.
สักครู่ก่อนหน้านี้ หลิวเฟย และคนอื่น ๆ ต่างกลัวมาก แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่า หลินเฟิง พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ พวกเขาทำได้เพียงดูจนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายลง
Lin Feng smiled at Liu Fei. Liu Fei was surprised, but immediately after she felt relieved, however, she was still staring fixedly at Lin Feng. What was that guy thinking? He wasn’t even concerned about his injuries.
หลินเฟิง ยิ้มให้ หลิวเฟย หลิวเฟยรู้ สึกประหลาดใจ แต่ทันใดนั้นก็ที่รู้สึกโล่งใจ แต่เธอยังมองจ้องไปที่ หลินเฟิง ผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่นะ? เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของตัวเองเลยรึไง
“He hasn’t died, so why would I?” Lin Feng was scratching his head. Hei Mo’s injuries were also serious. A moment ago, Lin Feng’s sword had pierced through his chest, but just missed his heart. Lin Feng’s organs, and circulatory system hadn’t been damaged much either.
"ข้ายังไม่ตายดังนั้นจะกังวลไปทำไม?" หลินเฟิง ได้เกาหัวของเขา อาการบาดเจ็บของ เฮยหม่า ยังเป็นเรื่องร้ายแรง เมื่อก่อนหน้านี้ดาบของ หลินเฟิง ได้ทะลุผ่านหน้าอกของเขา แต่ก็ไม่ถูกหัวใจ อวัยวะของหลินเฟิง และระบบไหลเวียนเลือดไม่ได้รับความเสียหายมากนัก
“The people of the Yu Clan are really shameless.” said Yuan Shan while looking furious.
"คนของตระกูลหยู ช่างหน้าไม่อายจริงๆ" หยวนชาน กล่าวขณะมองด้วยความโกรธ
“They are more than just shameless.” said Duan Feng while furious and then said: “If the second prince hadn’t been there, the scariest thing is that they would have attacked Lin Feng.”
พวกนั่นไม่รู้จักอายบ้างเลย ต้วนเฟิง กล่าวในขณะที่เขาโกรธและกล่าวว่า "ถ้าองค์ชายสองไม่ได้อยู่ที่นั่นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ พวกเขาจะโจมตี หลินเฟิง"
Everybody slightly nodded. On that day, if the second prince hadn’t been there, it would have been very dangerous.
ทุกคนพยักหน้าเล็กน้อย ในวันนั้นถ้าองค์ชายสองไม่ได้อยู่ที่นั่นก็คงเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
“Let’s go. I already seized the eight rooms on the fourth floor in the cultivation tower. If you need to practice, you can use them.” said Lin Feng to his friends which surprised everybody. They then all smiled wryly. With Lin Feng’s strength, it was indeed not difficult to seize the entire fourth floor of the cultivation tower.
"ไปกันเถอะ. ข้าจะยึดห้องแปดห้อง ที่ชั้น 4 ของหอคอยบ่มเพาะพลัง ถ้าพวกเจ้าต้องการฝึกฝนก็ใช้ห้องพวกนั่นได้เลย "หลินเฟิง กล่าวกับเพื่อนๆของเขาซึ่งทำให้ทุกคนประหลาดใจ พวกเขาทั้งหมดยิ้มอย่างบูดเบี้ยว ด้วยความแข็งแกร่งของ หลินเฟิง จึงไม่ยากนักที่จะยึดทั้งชั้นของชั้นสี่ของหอคอยบ่มเพาะพลัง
On the fourth floor of the cultivation tower, all of them entered into cultivation rooms. Lin Feng brought Meng Qing towards a room as well, inserted some purity stones and said: “Meng Qing, you should cultivate for a while too. I’ll be in the room opposite yours.”
บนชั้นสี่ของหอคอย ทุกคนเดินเข้าไปในห้องบ่มเพาะพลัง หลินเฟิง นำ เมิ้งชิง ไปที่ห้องเช่นกันใส่หินบริสุทธิ์บางอย่างและกล่าวว่า "เมิ้งชิง เจ้าควรบ่มเพาะพลังของเจ้าด้วยเช่นกัน ข้าจะอยู่ในห้องตรงข้ามกับเจ้า "
“Alright.” said Meng Qing while slightly nodding. Her gorgeous silhouette was walking towards the inside of the room, but she quickly turned around and she said, while looking at Lin Feng: “Actually, even if the second prince hadn’t been there today, you still would not have died. You don’t owe him much.”
"เอาล่ะ" เมิ้งชิง กล่าวขณะพยักหน้าเล็กน้อย ภาพเงาอันงดงามของเธอกำลังเดินไปเข้าไปในห้อง แต่เธอรีบหันกลับมาและเธอพูดขณะกำลังมองไปที่ หลินเฟิง ว่า "อันที่จริงแล้วแม้ว่าองค์ชายสองจะไม่ได้อยู่ที่นั่นในวันนี้ แต่ยังไงเจ้าก็ไม่มีทางตายหรอก เจ้าอย่าเป็นหนี้เขามากให้มากนัก "
While talking, the door of her cultivation room slowly closed itself, leaving Lin Feng outside, alone and stunned.
ประตูห้องฝึกของเธอค่อยๆปิดตัวเองลง หลินเฟิง ออกไปข้างนอกอยู่คนเดียวและสับสน
Lin Feng was astonished. He then shook his head and frowned. He was wondering how strong Meng Qing was. He had no idea. The only thing he knew was that last time, the Bai Clan member, the man in blue clothes, who was of the Xuan Qi layer, had been scared away by Meng Qing and had left.
หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าและขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาสงสัยว่าความแข็งแกร่งของ เมิ้งชิง นั้นมากเพียงใด เขาคิดไม่ออก สิ่งเดียวที่เขารู้ก็คือครั้งสุดท้ายที่สมาชิกของตระกูลไป๋ ชายในชุดสีน้ำเงินซึ่งอยู่ระดับชั้นซุน กลัว เมิ้งชิง แล้วหนีไป
Lin Feng didn’t know if she had already fought against other cultivators of the Xuan Qi layer.
หลินเฟิง ไม่ทราบว่าเธอเคยต่อสู้กับผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นของระดับซุนมาก่อน หรือไม่
“The second prince, Duan Wu Ya.”
องค์ชายสอง ต้วนหวูหยา
Lin Feng was lowly talking to himself. That friendly and mysterious prince was unfathomable. At that moment, he was sure that Duan Wu Ya, the second prince, was at the creator of the Celestial Academy. It meant that Long Ding, the vice-principal, had to listen to him. Did Lin Feng becoming a student of the Celestial Academy have anything to do with Duan Wu Ya?
หลินเฟิง พูดเบาๆกับตัวเอง องค์ชายที่เป็นมิตรและลึกลับนั้นไม่สามารถเข้าใจได้ ในขณะนั้นเขามั่นใจว่า ต้วนหวูหยา, องค์ชายสอง, เป็นผู้ที่สร้างสถาบันสำนักสวรรค์ขึ้นมา นั่นหมายความว่า หลงติง ที่เป็นรองอาจารย์ใหญ่ต้องฟังเขา หลินเฟิง กลายเป็นนักเรียนของสถาบันสำนักสวรรค์แล้วมีอะไรเกี่ยวข้องกับ ต้วนหวูหยา หรือไม่?
If that was indeed due to Duan Wu Ya, why would he have done that? Why was he so interested in Lin Feng?
ถ้านั่นเป็นเพราะ ต้วนหวูหยา แล้วทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น? ทำไมเขาถึงสนใจ หลินเฟิง?
Talent, potential?
พรสวรรค์,หรือว่า ศักยภาพ?
When he had just arrived in the Imperial City and had just arrived outside in front of the Celestial Academy, nobody knew who he was. Who knew that he had potential and high natural talent? Even if they knew that he was a genius, why would one of the eight high-officials, like Duan Wu Ya, be interested in him?
เมื่อเขาเพิ่งมาถึงเมืองจักรพรรดิและเพิ่งมาถึงที่ด้านนอกของสถาบันสำนักสวรรค์ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร ใครจะรู้ว่าเขานั้นมีศักยภาพและพรสวรรค์? ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเขานั้นเป็นอัจฉริยะ แต่ทำไมหนึ่งในแปดปรมจารย์ ระดับสูงนั่นอย่างเช่น ต้วนหวูหยา ถึงสนใจตัวเขา?
Being a matter of gaining influence was even less possible. Lin Feng didn’t come from an influential family. He descended from the Lin Clan of Yangzhou City and had even been expelled. His sect had even been destroyed by Duan Tian Lang.
เป็นเรื่องของการได้รับอิทธิพลแม้ว่าจะน้อยที่สุดก็ตาม หลินเฟิง ไม่ได้มาจากครอบครัวผู้มีอิทธิพล เขาสืบเชื้อสายมาจากตระกูลหลิน ของเมืองหยางโจวและแม้กระทั่งถูกขับไล่ออกมา นิกายของเขาก็ถูกทำลายโดย ต้วนเทียนหลาง
Lin Feng frowned. He didn’t understand anything about it so it was useless to keep thinking too much about it. He then inserted some purity stones into one of the cultivation rooms and entered.
หลินเฟิง ขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยจึงไม่มีประโยชน์ที่จะต้องมัวมาคิดมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็ใส่หินที่มีความบริสุทธิ์บางส่วนเข้าไปในห้องบ่มเพาะพลังและเข้าไป
The door closed itself, Lin Feng sat down cross-legged and closed his eyes. He then immediately released his Celestial Spirit.
ประตูนั้นปิดเอง หลินเฟิง นั่งเอนหลังไขว้ขาและปิดตา จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยจิตวิญญาณสวรรค์ของเขา
In the blink of an eye, the world became a world of darkness. As if Lin Feng had been completely cut off from the outside world; he entered into his own world created from darkness.
ในพริบตาโลกทั้งใบกลายเป็นโลกแห่งความมืด ราวกับว่า หลินเฟิง ถูกตัดออกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง เขาเข้าสู่โลกของตัวเองซึ่งสร้างขึ้นจากความมืด
At that moment, Lin Feng didn’t just release the first layer of his Celestial Spirit, he also completely released the second layer. In Lin Feng’s mind, a magnificent and resplendent light appeared. Colourful spirals spanned into various shapes inside his mind, then his Celestial Book appeared.
ในขณะนั้น หลินเฟิง ไม่ได้ปลดปล่อยจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นแรกออกไป แต่เขาปล่อยชั้นที่สองออกไป ภายในห้วงจิตใต้สำนึกของ หลินเฟิง แสงที่งดงามและน่ารื่นรมย์ปรากฏขึ้น ความผันแปรของสีสันที่ทอดลงในรูปทรงต่างๆภายในใจของเขาแล้วตำราสวรรค์ของเขาก็ปรากฏตัวขึ้น
At that moment, his celestial book had already opened to the second page as if it had been that way since ancient times.
ในขณะนั้นตำราสวรรค์ของเขาได้เปิดออกไปที่หน้าสองราวกับว่ามันทำหน้าที่แบบนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ
Lin Feng was looking at that book or more precisely, he looked above it.
หลินเฟิง กำลังมองไปที่ตำราเล่มนั้นอย่างละเอียด เขามองขึ้นไปข้างบน
There was now a sword calmly floating in the air above the book.
ขณะนี้มีดาบลอยตัวอยู่ในอากาศเหนือหนังสือ
That sword was black, it was the deadly sword of a warlord, born from battle.
ดาบนั้นเป็นสีดำมันเป็นดาบสังหารของขุนศึกที่เกิดจากการสู้รบ
At that moment, Lin Feng could clearly sense the energy released by that sword, it was sharp and deadly. It seemed like it could destroy an entire planet without flinching.
ในขณะนั้นหลินเฟิง รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังงานที่ปล่อยออกมาจากดาบนั้นมันเฉียบคมและอันตราย ดูราวกับว่ามันสามารถทำลายดาวเคราะห์ทั้งโลกได้โดยไม่สะท้าน
That sword, using its own energy and its own life, was able to fuse with Lin Feng.
ดาบที่ใช้พลังงานของตัวเองและชีวิตของตัวเองสามารถหลอมรวมกับ หลินเฟิง ได้
In the blink of an eye, a month passed. Lin Feng’s eyes were still closed and he was still motionless. His conscience was focused on the sword that was floating above the book.
ในพริบตาเดียว หนึ่งเดือนได้ผ่านไป ตาของหลินเฟิง ยังคงปิดอยู่และเขายังนิ่งอยู่ จิตสำนึกของเขามุ่งเน้นไปที่ดาบที่ลอยอยู่เหนือตำรา
In the small and narrow cultivation room, a sharp sword Qi emerged and mixed with deadly Qi. Then, there was a thick and dense battle energy.
ในห้องบ่มเพาะพลังขนาดเล็กและแคบ พลีงปราณดาบที่เฉียบคมได้โผล่ออกมาและผสมกับพลังปราณแห่งความตาย จากนั้นมีพลังงานการต่อสู้ที่หนาแน่นอัดแน่นมากยิ่งขึ้น
That sword Qi had not been released by Lin Feng’s Celestial Book. It had obviously been released by Lin Feng’s body. His sword Qi was much stronger than in the past. Inside his sword Qi which was mixed with deadly Qi, was also battle energy. Nobody could look down on that battle energy.
พลังปราณดาบนั้น ไม่ได้ถูกปลดปล่อยออกมาโดยตำราสวรรค์ของ หลินเฟิง มันถูกปลดปล่อยจากร่างกายของ หลินเฟิง พลังปราณดาบของเขา นั้นแข็งแกร่งกว่าในอดีต ภายในพลังปราณดาบของเขานั้นผสมกับพลังปราณแห่งความตายเป็นพลังงานกการต่อสู้ ไม่มีใครสามารถมองเห็น พลังงานต่อสู้ได้
Grabbing the black sword which was longing to rise into the heavens, to dominate both heaven and earth.
ไขว่คว้าดาบสีดำที่กำลังโบยบินขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์เพื่อครองทั้งสวรรค์และแผ่นดิน....
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น