ตอนที่ 180 ความกดดัน
“Hehe.” Yu Qiu was evilly looking at Lin Feng. He was burning with anger and his face was bright red. He was smiling, but killing intent was obvious.
"ฮ่าๆ" หยูเชียวมองหลินเฟิงอย่างชั่วร้าย เขาโกรธจนใบหน้าเป็นสีแดงเดือดเลือดพล่าน
แม้ว่าเขาจะยิ้มแต่ก็แสดงเจตนาฆ่าอย่างชัดเจน
“Shameless? Today, no matter what you say, I will kill you. The only reason is because I am stronger than you and my Yu Clan is unstoppable.”
ไร้ยางอาย? วันนี้ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไรยังไงข้าก็จะฆ่าเจ้า
Yu Qiu’s voice couldn’t sound more arrogant and aggressive than it did at this point. His reason was enough to kill Lin Feng, he was stronger than him and his clan was extremely strong as well. Without listening to anybody else’s opinion, he could kill Lin Feng as he wished.
น้ำเสียงของ หยูเชียว นั้นไม่ได้ก้าวร้าวแต่อย่างใดเหตุผลเดียวของเขาคือ ฆ่า หลินเฟิง
เพื่อที่จะเป็นคนที่แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าเขา และตระกูลของตนจะได้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
เขาสามารถฆ่า หลินเฟิงได้ตามใจตนเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องฟังความเห็นจากใครทั้งนั้น
เพื่อที่จะเป็นคนที่แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าเขา และตระกูลของตนจะได้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
เขาสามารถฆ่า หลินเฟิงได้ตามใจตนเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องฟังความเห็นจากใครทั้งนั้น
“Why are you not coming then? Why are you still standing up there?”
ทำไมเจ้าไม่เข้ามาซักที? ทำไมเจ้ามัวแต่ยืนอยู่ตรงนั้นละ?
Lin Feng was looking at Yu Qiu and his voice sounded indifferent. The crowd was, once again, stupefied. What….. could it be that he really wanted to die?
หลินเฟิง มองไปที่ หยูเชียว หลังจากพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส ฝูงชนประหลาดใจอีกครั้ง
อะไรกัน...เขาต้องการรนหาที่ตายอย่างงั้นรึ?
อะไรกัน...เขาต้องการรนหาที่ตายอย่างงั้นรึ?
Yu Qiu narrowed his eyes while looking at Lin Feng and his face crumpled in anger. He looked like he had become completely furious. Yu Qiu had clearly expressed his wish of killing Lin Feng. He wanted to make Lin Feng’s blood flow to prove to everyone that his clan, the Yu Clan, was too powerful to be insulted.
หยูเชียว หลี่ตาของตัวเองลงมาแล้วเพ่งไปที่ หลินเฟิง และใบหน้าของเขาในตอนนี้เผย
ให้เห็นว่าเขากำลังโกรธเกรี้ยว แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่สามารถควบคุมความโกรธได้อีกต่อไป
หยูเชียว แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าอยากฆ่า หลินเฟิง เขาต้องการทำให้เลือดของหลินเฟิง
พวยพุ่งออกมาเพื่อแสดงให้ทุกคนในตระกูลหยูของตนได้เห็น ว่าตระกูลของเขานั้นทรง
อำนาจมากเพียงใด
ให้เห็นว่าเขากำลังโกรธเกรี้ยว แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่สามารถควบคุมความโกรธได้อีกต่อไป
หยูเชียว แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าอยากฆ่า หลินเฟิง เขาต้องการทำให้เลือดของหลินเฟิง
พวยพุ่งออกมาเพื่อแสดงให้ทุกคนในตระกูลหยูของตนได้เห็น ว่าตระกูลของเขานั้นทรง
อำนาจมากเพียงใด
“You want to die and so I will help you achieve your aim.”
ถ้าเจ้าอยากตายแล้วทำไมข้าจะช่วยให้เจ้าสมหวังไม่ได้ละ
When Yu Qiu finished talking, Lin Feng started freezing from the cold energy that had started to surround his body. Under the pressure of that energy, he felt like he was frail and brittle.
เมื่อ หยูเชียว พูดจบ หลินเฟิงเริ่มถูกแช่แข็งจากไอพลังงานความเย็นที่อยู่รอบตัวเขา ภายใต้
ความกดดันของพลังงานนั้นเขารู้สึกอ่อนแรง
ความกดดันของพลังงานนั้นเขารู้สึกอ่อนแรง
And Yu Qiu seemed to be thinking about killing Lin Feng right there.
และดูเหมือนว่า หยูเชียว กำลังคิดเกี่ยวกับการฆ่า หลินเฟิง ที่อยู่ตรงนั้น
“Die.”
ตายซะ
“Krracck.”
แกร๊กก
Two sounds spread through the air at the same time. The first one had obviously come from Yu Qiu, who wanted to kill Lin Feng.
เกิดเสียงขึ้นสองเสียงดังไปทั่วบรรยากาศโดยรอบในเวลาเดียวกัน เสียงแรกเห็นได้ชัดว่า
มาจาก หยูเชียว ที่ต้องการฆ่า หลินเฟิง
มาจาก หยูเชียว ที่ต้องการฆ่า หลินเฟิง
However, Yu Qiu hadn’t attacked because that second sound had come from the second prince, Duan Wu Ya, who was next to him. Duan Wu Ya’s seat made of stone was broken into pieces. Duan Wu Ya was standing up. He didn’t look soft and gentle anymore, he looked fierce and heroic.
อย่างไรก็ตาม หยูเชียว ไม่ได้โจมตีออกไป เพราะว่าเสียงที่สองนั้นมาจาก องค์ชายสอง
ต้วนหวูหยา แล้วเขาก็ยืนขึ้น เขาไม่ได้ดูเหมือนสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนอีกต่อไป เขาดูเป็น
วีระบุรุษที่น่ายกย่องและทรงพลัง
ต้วนหวูหยา แล้วเขาก็ยืนขึ้น เขาไม่ได้ดูเหมือนสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนอีกต่อไป เขาดูเป็น
วีระบุรุษที่น่ายกย่องและทรงพลัง
“Mister Yu, what happened today is the business of Celestial Academy. Now stop with this foolishness, how does that sound?” said Duan Wu Ya while looking at Yu Qiu. He sounded indifferent and calm but his voice was filled with determination.
คุณชายหยู วันนี้เกิดอะไรขึ้นถึงได้มีธุระมาสถาบันสำนักสวรรค์ได้ล่ะ ตอนนี้เจ้าควรหยุดแสดง
ความโง่เง่านั้นดีกว่าไหม? ต้วนหยูหว่า กล่าวขณะมองไปที่ หยูเชียว เสียงของเขาที่เฉยเมย
แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ความโง่เง่านั้นดีกว่าไหม? ต้วนหยูหว่า กล่าวขณะมองไปที่ หยูเชียว เสียงของเขาที่เฉยเมย
แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
Yu Qiu had come to make the Yu Clan gain prestige, could he back down so easily?
หยูเชียว มาเพื่อทำให้เกรียรติศักดิ์ของตระกูลหยูนั้นสูงขึ้น เขาจะถอยกลับไปอย่างง่ายๆ
ได้เยี่ยงไร?
He wanted to prove to everyone that the Yu Clan was unstoppable. He wanted all these unimportant people to understand clearly how powerful the Yu Clan was.
ได้เยี่ยงไร?
He wanted to prove to everyone that the Yu Clan was unstoppable. He wanted all these unimportant people to understand clearly how powerful the Yu Clan was.
เขาต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าตระกูลหยูนั้นไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ เขาต้องการทำให้
ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องความแข็งแกร่งของตระกูลหยูได้รู้ซึ้งว่า ตระกูลอยูของเขานั้น ทรงพลัง
เพียงใด
ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องความแข็งแกร่งของตระกูลหยูได้รู้ซึ้งว่า ตระกูลอยูของเขานั้น ทรงพลัง
เพียงใด
“Your Highness, you heard that boy. He humiliated my Yu clan. How could I, Yu Qiu, let him off? If I let him off, my clan would endlessly lose face.”
ฝ่าบาท ท่านน่าจะได้ยินที่ไอ้เด็กนั้นพูดแล้วนี้ เขาดูหมิ่นตระกูลหยูของข้า แล้วจะให้ ข้า
หยูเชียวผู้นี้ปล่อยไปได้เยี่ยงไร? ถ้าข้าปล่อยเขาไป ตระกูลของข้าคงหนีไม่พ้นที่จะขายหน้า
หยูเชียวผู้นี้ปล่อยไปได้เยี่ยงไร? ถ้าข้าปล่อยเขาไป ตระกูลของข้าคงหนีไม่พ้นที่จะขายหน้า
Yu Qiu was looking at Duan Wu Ya and sounded neither servile nor overbearing. The crowd was stupefied.
หยูเชียว มองไปที่ ต้วนหวูอยา ขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงที่ประจบประแจงแต่เอาแต่ใจ ทำให้
ฝูงชนประหลาดใจ
ฝูงชนประหลาดใจ
What was going on? The situation was very strange. It seemed like there was now tension between Yu Qiu and the second prince.
เกิดอะไรขึ้น? ดูเหมือนสถานะการณ์จะซับซ้อนมากกว่าเดิมเสียอีก ตอนนี้เกิดความตรึงเครียด
ขึ้นระหว่างหยูเชียว กับ องค์ชายสอง
ขึ้นระหว่างหยูเชียว กับ องค์ชายสอง
First, Yu Qiu wanted to kill Lin Feng and then the second prince was preventing him from doing so. When everybody thought that Yu Qiu wouldn’t make the second prince lose face, he insisted that he wanted to kill Lin Feng. The crowd was puzzled by Yu Qiu’s actions.
ตอนแรก หยูเชียว ต้องการฆ่า หลินเฟิง และองค์ชายสองได้หยุดการกระทำนั้น เมื่อทุกคน
คิดว่า หยูเชียวคงไม่ทำให้องค์ชายสองเสียหน้า แต่เขาก็ยังแสดงความต้องการที่จะฆ่า
หลินเฟิง ฝูงชนต่างสับสนกับการกระทำของ หยูเชียว
คิดว่า หยูเชียวคงไม่ทำให้องค์ชายสองเสียหน้า แต่เขาก็ยังแสดงความต้องการที่จะฆ่า
หลินเฟิง ฝูงชนต่างสับสนกับการกระทำของ หยูเชียว
At that moment, Lin Feng looked at Yu Qiu and the second prince arguing. He took a deep breath and tried to relax.
และในขณะนั้น หลินเฟิง ก็มองไปที่หยูเชียว และองค์ชายสองที่กำลังโต้แย้งกัน เขาหายใจ
เข้าลึกๆและผ่อนคลาย
เข้าลึกๆและผ่อนคลาย
Since Yu Qiu had arrived, he had been trying to prove to everyone how powerful he was to the extent that he had even contradicted and argued with Long Ding, the Vice-Principal of the Celestial Academy. Even though Lin Feng hadn’t been there at the start, after he arrived, Yu Qiu was still humiliating the Celestial Academy to the extent that he had even threatened to destroy it.
ตั้งแต่ที่ หยูเชียว มาถึงที่นี้เขาพยายามพิสูจน์ให้ทุกคนเห็ยว่าเขามีพลังมากแค่ไหน เขาอยู่
ในสถานะการณ์ที่โต้แย้งกับรองอาจารย์ใหญ่หลงติง ถึงแม้ หลินเฟิง จะไม่ได้อยู่ในที่นั้น
แต่แรกก็ตาม หยูเชียวได้ดูถูกสถาบันสำนักสวรรค์และข่มขู่ว่าจะทำลายสถาบันทิ้ง
ในสถานะการณ์ที่โต้แย้งกับรองอาจารย์ใหญ่หลงติง ถึงแม้ หลินเฟิง จะไม่ได้อยู่ในที่นั้น
แต่แรกก็ตาม หยูเชียวได้ดูถูกสถาบันสำนักสวรรค์และข่มขู่ว่าจะทำลายสถาบันทิ้ง
There seemed to be nothing taboo for Yu Qiu, he felt like he could act any way he chose and say whatever he wanted. He had even dared to interrupt Lin Feng and Hei Mo’s battle. It seemed like he was constantly trying to prove how powerful the Yu Clan was. The rules did not matter to him.
ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครห้ามหยูเชียวได้ เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขานั้นสามารถจะทำอะไรก็ได้
ตามที่เขาต้องการ เขายังกล้าที่จะขัดจังหวะ หลินเฟิง และ เฮยหม่า อีกด้วย เขาพยายาม
พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าตระกูลหยูของตนนั้นทรงพลังมากแค่ไหน โดยที่กฏนั้นไม่สำคัญสำ
หรับเขา
ตามที่เขาต้องการ เขายังกล้าที่จะขัดจังหวะ หลินเฟิง และ เฮยหม่า อีกด้วย เขาพยายาม
พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าตระกูลหยูของตนนั้นทรงพลังมากแค่ไหน โดยที่กฏนั้นไม่สำคัญสำ
หรับเขา
Why was Yu Qiu acting that way?
ทำไม หยูเชียว ถึงทำแบบนั้น?
ทำไม หยูเชียว ถึงทำแบบนั้น?
By making a display of his strength and not letting Lin Feng off; he would prove to everyone that the Yu Clan was the most prestigious and majestic of all the clans and sects.
โดยการแสดงความแข็งแกร่งของตนและไม่ปล่อย หลินเฟิง ไปเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า
ตระกูลหยูนั้นมีชื่อเสียงและเกรียงไกรที่สุดในบรรดาตระกูลทั้งหมด
ตระกูลหยูนั้นมีชื่อเสียงและเกรียงไกรที่สุดในบรรดาตระกูลทั้งหมด
Even Long Ding remained silent when Yu Qiu threatened to annihilate the Celestial Academy, as if he couldn’t bear the responsibility of getting involved.
แม้แต่ หลงติงก็ยังคงนิ่งเงียบ เมื่อ หยูเชียวขู่ว่าจะทำลายสถาบันสำนักสวรรค์ทิ้ง ราวกับว่า
เขาไม่สามารถแบกรับความรับผิดชอบนี้ได้
เขาไม่สามารถแบกรับความรับผิดชอบนี้ได้
Everybody could see that the Long Ding and Duan Wu Ya’s friendship was quite solid. However, even though the second prince and Yu Qiu’s relationship seemed to be of a polite nature, it was still difficult to understand their mysterious relationship.
ทุกคนสามารถเห็นได้ว่ามิตรภาพระหว่าง หลงติง และต้วนหวูหยานั้นเหนียวแน่น อย่างไรก็ตามแม้ว่าองค์ชายสองและ หยูเชียว จะมีความสัมพันธ์ที่น้อบน้อมต่อกัน แต่มันก็ยังยาก
ที่จะเข้าใจความสัมพันธ์ลึกลับระหว่างพวกเขา
ที่จะเข้าใจความสัมพันธ์ลึกลับระหว่างพวกเขา
Lin Feng had already met Duan Wu Ya. Duan Wu Ya had acted as the referee for one of his battles. The result had been that one of the Yu Clan members, who was a student at the Holy Courtyard of Xue Yue, had been humiliated and had lost his daemonic fire lion.
หลินเฟิง ได้พบกับต้วนหวูหยา ตอนที่ต้วนหวูหยา เป็นกรรมการตัดสินการต่อสู้ของเขา
ผลลัพก็คือหนึ่งในตระกูลหยูที่เป็นนักเรียนจากลานศักดิ์สิทธ์ซุ่วเย่วถูกทำให้ขายหน้า
และเสียสิงโตเพลิงไป
ผลลัพก็คือหนึ่งในตระกูลหยูที่เป็นนักเรียนจากลานศักดิ์สิทธ์ซุ่วเย่วถูกทำให้ขายหน้า
และเสียสิงโตเพลิงไป
Lin Feng had guessed that Duan Wu Ya and the Yu Clan didn’t maintain good relations.
หลินเฟิง เดาได้ว่า ต้วนหวูหยา และกูล หยู นั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
It seemed very clear at this moment that there was not a good relationship between them.
ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นไม่ดีเอาซะเลย
Duan Wu Ya wanted to protect Lin Feng but Yu Qiu really wanted to kill Lin Feng, to the extent that he didn’t even care about making Duan Wu Ya lose face. Lin Feng didn’t know exactly what Yu Qiu’s main motive was though.
ต้วนหวูหยา ต้องการปกป้อง หลินเฟิง แต่ หยูเชียว มีความต้องการฆ่า หลินเฟิง เขาไม่สนใจ
แม้ว่าจะทำให้ ต้วนหวูหยา เสียหน้าก็ตาม หลินเฟิง ไม่รู้แม้กระทั่งว่า แรงจูงใจหลักของ
หยูเชียว นั้นคืออะไรกันแน่
แม้ว่าจะทำให้ ต้วนหวูหยา เสียหน้าก็ตาม หลินเฟิง ไม่รู้แม้กระทั่งว่า แรงจูงใจหลักของ
หยูเชียว นั้นคืออะไรกันแน่
But Lin Feng had an even more audacious thought. He thought that the second prince, Duan Wu Ya, was actually the person at the origin of the Celestial Academy, he was the principal who never showed up.
แต่ตอนนี้ หลินเฟิง มีความกล้ามากยิ่งขึ้น เขาคิดว่าองค์ชายสองต้วนหวูหยา เป็นผู้ให้กำเนิด
สถาบันสำนักสวรรค์ เขาเป็นอาจารย์ใหญ่ที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตน
สถาบันสำนักสวรรค์ เขาเป็นอาจารย์ใหญ่ที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตน
Everybody knew that an institute such as the Celestial Academy could only be established by a powerful person and it probably even belonged to the Imperial Clan. Besides, on that day, Duan Wu Ya had appeared at a critical moment for the academy, which made Lin Feng have the audacious thought that Duan Wu Ya was maybe the person who established the Celestial Academy.
ทุกคนก็รู้เช่นกันว่าสถาบันสำนักสวรรค์นั้นอาจถูกก่อตั้งขึ้นโดยผู้ที่มีอำนาจของตระกูล
จักรพรรดิ นอกจากนี้ในวันเดียวกันต้วนหวูอยาได้ปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาที่สถาบันอยู่ในช่วง
วิกฤติ ซึ่งทำให้ หลินเฟิง มีความกล้ามากยิ่งขึ้น ต้วนหวูหยา อาจเป็นคนที่ก่อตั้งสถาบันขึ้น
จักรพรรดิ นอกจากนี้ในวันเดียวกันต้วนหวูอยาได้ปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาที่สถาบันอยู่ในช่วง
วิกฤติ ซึ่งทำให้ หลินเฟิง มีความกล้ามากยิ่งขึ้น ต้วนหวูหยา อาจเป็นคนที่ก่อตั้งสถาบันขึ้น
Yu Qiu certainly knew about it, but still didn’t care about threatening to destroy the Celestial Academy in front of Duan Wu Ya.
หยูเชียว ต้องรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอนแต่ก็ยังไม่สนใจยังขู่ทำลายสถาบันทิ้งต่อหน้าต้วนหวูหยา
Lin Feng had been gambling since the beginning on the fact that Duan Wu Ya had connections with the Celestial Academy. Lin Feng was putting pressure on Yu Qiu, who wanted to kill him, but he was also putting pressure on Duan Wu Ya to act. He wanted to see if Duan Wu Ya was going to watch him die. He was gambling with his life at stake. He was betting on the fact that Duan Wu Ya and Yu Qiu’s relationship would worsen because of him and that they would not be able to maintain appearances.
หลินเฟิง ได้เติมพันตั้งแต่แรกแล้วจากข้อเท็จจริงที่ว่า ต้วนหวูหยามีความเชื่อมโยงกับสถาบัน
สำนักสวรรค์ หลินเฟิง กำลังกดดันให้ หยูเชียว อยากฆ่าเขา แต่เขาก็กดดันให้ต้วนหวูหยา
ทำหน้าที่ด้วยเช่นกัน เขาอยากเห็นว่า ต้วนหวูหยา จะปล่อยให้เขาตายหรือไม่ เขาได้เดิม
พันด้วยชีวิตของตัวเอง แล้วเขากำลังเดิมพันความจริงที่ว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง
ต้วนหวูหยา และ หยูเชียว จะแย่ลงเพราะเขา แล้วทั้งสองคนนั้นจะไม่สามารถรักษา
ภาพลักษณ์นั้นได้อีกต่อไป
สำนักสวรรค์ หลินเฟิง กำลังกดดันให้ หยูเชียว อยากฆ่าเขา แต่เขาก็กดดันให้ต้วนหวูหยา
ทำหน้าที่ด้วยเช่นกัน เขาอยากเห็นว่า ต้วนหวูหยา จะปล่อยให้เขาตายหรือไม่ เขาได้เดิม
พันด้วยชีวิตของตัวเอง แล้วเขากำลังเดิมพันความจริงที่ว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง
ต้วนหวูหยา และ หยูเชียว จะแย่ลงเพราะเขา แล้วทั้งสองคนนั้นจะไม่สามารถรักษา
ภาพลักษณ์นั้นได้อีกต่อไป
If Lin Feng guessed right, Duan Wu Ya was actually the creator and principal of the Celestial Academy. If Yu Qiu killed Lin Feng, his goal to make the Yu Clan prestigious would be accomplished. Lin Feng’s conjectures were right so far as Duan Wu Ya was now confronting Yu Qiu. If he had really understood Duan Wu Ya’s background, then the latter wouldn’t watch Lin Feng get killed.
ถ้าหลินเฟิง เดาถูกต้อง ต้วนหวูหยา เป็นผู้ก่อตั้งสถาบันสำนักสวรรค์ขึ้น ถ้า หยูเชียว ฆ่าหลินเฟิง
เป้าหมายที่จะทำให้ตระกูลหยูได้รับเกียรตินั้นจะประสบผลสำเร็จ ข้อสันนิฐานของ หลินเฟิง
จะถูกต้องก็ต่อเมื่อ ต้วนหวูหยา เผชิญหน้ากับ หยูเชียว เมื่อเขาเข้าใจเบื้องหลังของต้วนหวูหยา
ดีแล้ว ดังนั้นเขาจะไม่มีทางปล่อยให้ หลินเฟิง ถูกฆ่าอย่างแน่นอน
เป้าหมายที่จะทำให้ตระกูลหยูได้รับเกียรตินั้นจะประสบผลสำเร็จ ข้อสันนิฐานของ หลินเฟิง
จะถูกต้องก็ต่อเมื่อ ต้วนหวูหยา เผชิญหน้ากับ หยูเชียว เมื่อเขาเข้าใจเบื้องหลังของต้วนหวูหยา
ดีแล้ว ดังนั้นเขาจะไม่มีทางปล่อยให้ หลินเฟิง ถูกฆ่าอย่างแน่นอน
In fact, Duan Wu Ya was already getting involved, he had smashed his stone chair but Yu Qiu kept insisting.
ความเป็นจริง ต้วนหวูหยาได้เข้ามามีส่วนร่วมเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทุบเก๊าอี้หินแหลกละเอียด
แต่ หยูเชียว ก็ยังยืนกรานแบบนั้น
แต่ หยูเชียว ก็ยังยืนกรานแบบนั้น
When Duan Wu Ya heard Yu Qiu’s words, he looked expressionless. Immediately after, he stopped talking, slowly turned around and moved down the stairs of the viewing platform. He then left and while leaving, he said a proud and majestic sentence.
เมื่อ ต้วนหวูหยา ได้ยินคำพูดของ หยูเชียว สีหน้าของเขาก็ไร้อารมณ์ ทันทีหลังจากที่เขา
หยุดพูดเขาก็เดินกลับลงไปอย่างช้าๆที่บันได จากนั้นเขาก็เดินออกไปและขณะที่เดินออกไป
นั้นเขาได้พูดประโยคที่น่าภาคภูมิใจและน่าเกรงขามว่า...
หยุดพูดเขาก็เดินกลับลงไปอย่างช้าๆที่บันได จากนั้นเขาก็เดินออกไปและขณะที่เดินออกไป
นั้นเขาได้พูดประโยคที่น่าภาคภูมิใจและน่าเกรงขามว่า...
“Yu Qiu, try and kill him, then see what happens.”
หยูเชียว เจ้าก็ลองฆ่าเขาดูแล้วคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
Try and kill him, then see what happens.
ลองฆ่าเขาดูแล้วคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
That was a very simple sentence with a clear meaning. When Duan Wu Ya had finished talking, he was already leaving. The most frightening was that he had left right after he finished speaking… Yu Qiu could try and kill Lin Feng, but what would happen to him?
นั่นเป็นประโยคที่มีความหมายชัดเจน เมื่อต้วนหวูหยา พูดจบ เขาก็ออกไป ประโยคที่น่ากลัว
ที่สุดคือประโยคที่เขาได้ทิ้งทวนเอาไว้.....หยูเชียว ลองฆ่าเขาดูแล้วคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แต่จะเกิดอะไรขึ้นกับเขาละ?
ที่สุดคือประโยคที่เขาได้ทิ้งทวนเอาไว้.....หยูเชียว ลองฆ่าเขาดูแล้วคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แต่จะเกิดอะไรขึ้นกับเขาละ?
“What a strong method.” thought Lin Feng.
"ช่างเป็นวิธีการที่แข็งแกร่ง" หลินเฟิง คิด
Lin Feng was looking at Duan Wu Ya’s silhouette as it vanished. He was very mysterious. All the problems were in Yu Qiu’s hands, he also had the choice.
หลินเฟิง มองไปที่เงาของต้วนหวูหยาที่จากไป เขาช่างลึกลับเสียจริง ปัญหาทั้งหมด
ตกอยู่ในมือของ หยูเชียวเป็นคนเลือกแล้ว
ตกอยู่ในมือของ หยูเชียวเป็นคนเลือกแล้ว
At that moment, Yu Qiu’s facial expression was rigid. If Duan Wu Ya had still been there, he could have justified himself, but now that Duan Wu Ya had left, he could not argue his side anymore. He could only choose whether he wanted to kill Lin Feng or not.
ในขณะนั้น หยูเชียว แสดงสีหน้าที่เคร่งครึม ถ้าต้วนหยูหยา อยู่ที่นี้ เขาก็สามารถพิสูจน์ตัว
เองได้ แต่ตอนนี้ ต้วนหวูหยา ออกไปแล้ว เขาไม่สามารถโต้แย้งกับใครที่สถานะใกล้
เคียงเขาได้อีกต่อไป เขามีเพียงทางให้แค่ จะฆ่า หลินเฟิง หรือไม่ฆ่า
เองได้ แต่ตอนนี้ ต้วนหวูหยา ออกไปแล้ว เขาไม่สามารถโต้แย้งกับใครที่สถานะใกล้
เคียงเขาได้อีกต่อไป เขามีเพียงทางให้แค่ จะฆ่า หลินเฟิง หรือไม่ฆ่า
After travelling for a short time, Duan Wu Ya arrived at a private mansion of his which was situated within the territory of the Celestial Academy. A silhouette suddenly appeared behind him. It was a black silhouette. Lin Feng had already seen that man in black clothes when he first arrived in the external part of the Imperial City at Qing Xin’s restaurant.
หลังจากเดินออกมาในระยะเวลาสั้นๆ ต้วนหวูหยา ก็ถึงที่พักส่วนตัวซึ่งตั้งอยู่ภายในอาณา
เขตของสถาบันสำนักสวรรค์ แล้วมีร่างเงาปรากฏขึ้นข้างหลังเขา หลินเฟิง ได้เห็นชายคน
หนึ่งสวมชุดสีดำ เมื่อครั้งแรกที่เขามาถึงนอกเมืองจักรพรรดิที่โรงเตี๊ยมของ ชิงซิน
เขตของสถาบันสำนักสวรรค์ แล้วมีร่างเงาปรากฏขึ้นข้างหลังเขา หลินเฟิง ได้เห็นชายคน
หนึ่งสวมชุดสีดำ เมื่อครั้งแรกที่เขามาถึงนอกเมืองจักรพรรดิที่โรงเตี๊ยมของ ชิงซิน
“Nan Shan, what do you think?” asked Duan Wu Ya who sounded completely calm.
หนานชาน เจ้าคิดว่าไง? ต้วนหวูหยา ถามด้วยเสียงที่ดูนิ่งสงบ
“Your Highness, Yu Qiu’s move was a three-in-one one. He would gain prestige, damage the reputation of the Celestial Academy and make the Nie Clan’s opinion of you worsen.” replied Nan Shan calmly and indifferently.
ฝ่าบาท การเคลื่อนไหวของ หยูเชียว นั้นได้3เรื่องในครั้งเดียว เขาต้องการเกียรติและทำให้
ชื่อเสียงของสถาบันสำนักสวรรค์เสื่อมเสียและทำให้ตระกูลเนี่ยเสื่อมเสีย หนานชาน
ตอบกลับอย่างสงบ
ชื่อเสียงของสถาบันสำนักสวรรค์เสื่อมเสียและทำให้ตระกูลเนี่ยเสื่อมเสีย หนานชาน
ตอบกลับอย่างสงบ
He was obviously talking about the opinion of the Nie Clan after Duan Wu Ya acted as the referee. The Nie Clan’s esteem for Yu Qiu had probably increased. Besides, it had made the Nie Clan and Duan Wu Ya’s relations worsen as well. That was an extremely powerful method.
เขาแสดงความเห็นเกี่ยวกับตระกูลเนี่ย หลังจากต้วนหวูหยาเป็นกรรมการ ตระกูลเนี่ย
ให้ความเคารพกับตระกูลหยูมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเนี่ย
กับตระกูลหยูแย่ลงเช่นกัน นั่นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว
ให้ความเคารพกับตระกูลหยูมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเนี่ย
กับตระกูลหยูแย่ลงเช่นกัน นั่นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว
“I know. I need your opinion, what do you think of Lin Feng?” said Duan Wu Ya indifferently. Nan Shan was surprised. The expression of uncertainty flashed in his eyes.
ข้ารู้ตอนนี้ข้าต้องการความเห็นของเจ้า เจ้าคิดยังไงเกี่ยวกับ หลินเฟิง ? ต้วนหวูหยา กล่าว
หนานชาน ประหลาดใจ เกิดความรังเลขึ้นในดวงตาของเขา
หนานชาน ประหลาดใจ เกิดความรังเลขึ้นในดวงตาของเขา
“He’s an unparalleled genius.” replied Nan Shan sounding indifferent. He was lost in thought for a brief moment. After a while, his mouth moved again and he said: “If, today, he confronted Yu Qiu because he was furious, that’s alright, but if he did everything after understanding your status, that’s truly terrifying.”
เขาเป็นอัฉริยะที่หาตัวจับได้ยาก หนานชานตอบ เขาสับสนในช่วงเวลาสั่นๆ หลังจากนั้น
ปากของเขาก็เคลื่อนไหวอีกครั้งแล้วพูดว่า ถ้า วันนี้ เขา เผชิญหน้ากับ หยูเชียว เพราะความ
โกรธก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาทำทุกอย่างหลังจากที่เขารู้สถานะของนั้นแล้ว นั่นเป็นเรื่องที่
หน้ากลัว
ปากของเขาก็เคลื่อนไหวอีกครั้งแล้วพูดว่า ถ้า วันนี้ เขา เผชิญหน้ากับ หยูเชียว เพราะความ
โกรธก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาทำทุกอย่างหลังจากที่เขารู้สถานะของนั้นแล้ว นั่นเป็นเรื่องที่
หน้ากลัว
“Hehe, of course, it’s the second reason. If he had done it out of anger, I would be really disappointed.”
ฮ่าๆๆ แน่นนอน มันเป็นเหตุผลที่สอง ถ้าเขาทำมันออกมาเพราะความโกรธ ข้าคงจะผิดหวัง
Duan Wu Ya said: “Are you sure about what happened on that day?”
ต้วนหวูหยา กล่าว เจ้าแน่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นใช่หรือไม่?
“Yes, I am sure that it was the girl who was next to Lin Feng.” nodded Nan Shan.
ขอรับ ข้าแน่ใจ มันเป็นหญิงสาวที่อยู่ข้าง หลินเฟิง หนานชานกล่าวพร้อมพยักหน้า
“A cultivator of the Xuan Qi layer… What a pity that we cannot let anyone follow Lin Feng any longer.”
การบ่มเพราะพลังระดับซุน น่าเสียดายที่เราไม่สามารถปล่อยให้ใครตาม หลินเฟิงได้ อีกต่อไป
When Duan Wu Ya finished talking, he started walking quickly and his silhouette vanished.
เมื่อต้วนหวูหยา พูดจบ เขาเริ่มเดินไปอย่างรวดเร็วแล้วเงาของเขาก็หายไปCr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น