ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 175


ตอนที่ 175 ฝ่าบาท !










“พลังอำนาจกระบี่”

 เมื่อฝูงชนสัมผัสได้ถึงอำนาจพลังที่แหลมคมของ หลินเฟิง ทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างมาก หลินเฟิง สามารถใช้พลังอำนาจกระบี่ได้และยังใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ


 ทุกย่างก้าวของ หลินเฟิง ทำให้แรงกดดันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศทั้งหมดเต็มไปด้วยพลังอำนาจกระบี่ ภายใต้แรงกดดันที่น่ากลัวทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้ๆเริ่มถอยล่นออกไปเรื่อยๆ พลังอำนาจกระบี่ที่รุนแรงพุ่งทะลวงแหวกอากาศตรงไปยัง เฮยหม่า ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ


ตัวของ หลินเฟิง และพลังอำนาจกระบี่ของเขาได้ประทับลงไปในจิตใจของผู้คน พวกเขาต่างตื่นเต้นอย่างมาก


 เฮยหม่า ยืนขึ้น พลังปราณที่มืดมนและเย็นยะเยือกได้ไหลออกมาจากร่างกายของเขา การคุกคามจากพลังอำนาจกระบี่ของ หลินเฟิง ไม่ได้ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวเลยแม้แต่น้อย


 ภายในดวงตาของ เฮยหม่า ยังคงลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ ในตอนนี้เขาต้องการที่จะสังเวยเลือดของ หลินเฟิง เพื่อที่จะเพิ่มพูนชื่อเสียงของตัวเอง


 ความไม่พอใจของฝูงชนได้รับการเยียวยา แม้ว่า หลินเฟิง จะมาช้าแต่พลังอำนาจกระบี่ของเขาก็ทำทำให้ฝูงชนหลงลืมความไม่พอใจไปในทันที การต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นกำลังจะเกิดขึ้นและมันก็คุ้มค่าอย่างมากที่เสียเวลารอคอยมาทั้งวัน


 “ใจกล้าดีนี้” ทันใดนั้นเอง ชายในเสื้อคลุมสีม่วงก็กล่าวและจ้องมองไปบนเวทีต่อสู้ “หลินเฟิง เจ้าช่างอวดดียิ่งนัก เจ้ากล้าที่จะให้พวกเรารอคอยเจ้าทั้งวันและจะไม่อธิบายอะไรเลยงั้นรึ?”


 เขาพูดด้วยเสียงที่ดังและรุนแรงทั้งยังสร้างความเสียหายให้กับแก้วหูของ หลินเฟิง เขาโทษ หลินเฟิง ที่ทำให้เขาและคนอื่นๆต้องเสียเวลารอ


 หลินเฟิง โอดครวญเล็กน้อย พลังงานที่อยู่รอบๆตัวแตกกระจายและต้องถอยหลังไปสองสามก้าว ก่อนหน้านี้ หลินเฟิง ไม่ได้ใช้ความพยายามมากนักในการควบคุมพลังอำนาจกระบี่และพลังปราณ แต่เขาก็จดจ่ออยู่กับ เฮยหม่า เพียงเท่านั้น เขาไม่คิดเลยว่าชายในเสื้อคลุมสีม่วงจะมีความคิดที่น่ารังเกียจและใช้พลังที่แฝงมากับเสียงทำร้ายเขา ในตอนนี้ หลินเฟิง ได้สูญเสียการควบคุมพลังอำนาจไปจึงทำให้พลังปราณที่ เฮยหม่า ปลดปล่อยออกมาบุกทะลวงเข้าไปในร่างกายของเขาได้สำเร็จและทำให้เขาบาดเจ็บเล็กน้อย


 ฝูงชนเริ่มจ้องมองไปที่ชายในเสื้อคลุมสีม่วงด้วยความประหลาดใจ ทำไมถึงได้โหดเหี้ยมเช่นนี้!


 ลองอาจารย์ใหญ่หลงติง ขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน


 ในตอนนี้ หลินเฟิง ได้หันไปมองชายในเนื้อคลุมสีม่วงและเห็นชายหนุ่มสองคนที่นั่งข้างเขา หลินเฟิง เข้าใจเรื่องทั้งหมดได้ในทันทีและกล่าวออกไปอย่างเย็นชาว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าขยะสอง ตัวที่นั่งข้างๆท่านคือคนที่ถูกข้าทำให้ขายหน้าไปไม่ใช่รึ? หากท่านต้องการจะล้างแค้นก็พูดออกมาตรงๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการที่น่ารังเกียจเช่นนี้ ท่านมันไร้ยางอายสิ้นดี ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมคนแบบท่านถึงมีสิทธิ์นั่งที่ตรงนั้น ท่านเพิ่งจะทำให้ตัวเองดูโง่เขลา”


 คำพูดของ หลินเฟิง ทำให้ฝูงชนตกตะลึง เขาเป็นคนที่บ้าบิ่นอย่างมาก คำพูดของเขารุนแรงและไม่มีการไว้หน้าแม้แต่น้อย เข้ากล้าที่จะหยาบคายต่อหน้าสมาชิกตระกูลหยูทั้งยังดูถูกพวกเขาต่อหน้าคนจำนวนมาก


 ม่านตาของชายในเสื้อคลุมสีม่วงหลี่ลง เขาคิดว่าการที่เขามอบบทเรียนให้กับ หลินเฟิง จะทำให้ หลินเฟิง ตระหนักได้ถึงความผิดพลาดของตัวเองและเอ่ยคำขอโทษออกมา เขาคิดว่าหลินเฟิงไม่กล้าพอที่จะต่อต้านคำพูดของเขา แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่เป็นแบบที่คิดไว้ เขาได้ประเมิน หลินเฟิง ต่ำไป


 “เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” น้ำเสียงของชายในเสื้อคลุมสีม่วงเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาเป็นบุคคลที่สำคัญมากของตระกูลหยู แม้แต่ หลงติง ก็ยังไม่กล้าที่จะทำกับเขาเช่นนี้… แต่นี่ เพียงแค่เด็กเมื่อวานซืนกลับกล้าดูหมิ่นและทำให้เขาเสียหน้า?


 “ท่านบอกว่าข้าอวดดีที่ทำให้ท่านต้องรอตลอดทั้งวันและยังต้องการคำอธิบายจากข้า การต่อสู้ของข้ากับ เฮยหม่า ถูกกำหนดไว้ว่าเป็นวันนี้แต่พวกเราก็ยังไม่ได้ตกลงเวลาที่ชัดเจน แม้ว่านี่จะเป็นตอนเย็นแต่ก็ไม่ได้แปลว่าข้ามาสาย นอกจากนี้ข้าอยากที่จะถามท่านสักเรื่อง ข้า หลินเฟิง ได้เชิญท่านมาที่นี่หรือไม่? ไม่ว่าข้าจะต่อสู้หรือไม่ มันก็ไม่ใช่กงการอะไรของท่าน ท่านรีบมาเองแล้วยังมีหน้ามาขอคำอธิบายจากข้า? ถามจริงๆข้ากับท่านรู้จักกันด้วยงั้นรึ?”


 คำพูดที่แหลมคมของหลินเฟิงทำให้ชายในเสื้อคลุมสีม่วงตกตะลึง แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ หลินเฟิงยังคงพูดต่อ

 “ผู้อาวุโส เป็นท่านเองที่ต้องการมาชมการต่อสู้ของข้า  ท่านไม่คิดว่าการกระทำของตัวเองไร้ยางอาย? ท่านไม่คิดว่าการกระทำของท่านจะทำให้ตัวเองเสียหน้า? ข้าไม่รู้หรอกว่าท่านจะมาจากตระกูลไหน แต่ท่านคงจะเป็นความอัปยศสำหรับพวกเขา หากข้าเป็นท่าน ข้าคงต้องลำบากใจอย่างมากแน่นอน”


 ฝูงชนล้วนตกตะลึง พวกเขาจ้องมองชายในเสื้อคลุมสีม่วงด้วยสายตาแปลกๆ ดูเหมือนว่าคำพูดของหลินเฟิงจะถูกต้องเอามากๆ หลินเฟิงไม่ได้ตกลงเรื่องเวลาอย่างชัดเจนตั้งแต่แรกและไม่ได้เชิญใครเพื่อมาชมการต่อสู้ การที่มีผู้คนมากมายมาชมการต่อสู้ในครั้งนี้ล้วนแต่เป็นความต้องการของตัวเองซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลินเฟิงแม้แต่น้อย การที่ผู้อาวุโสของตระกูลหยูกล่าวตำหนิ หลินเฟิง เป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะไม่สมควร


 ทุกคนต่างคิดเหมือนกับหลินเฟิง แต่ไม่คิดใครกล้าที่จะพูดมันออกมาตรงๆ


 ใบหน้าของชายในเสื้อคลุมสีม่วงบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด รองอาจารย์ใหญ่หลงที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็หัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆ เป็นวิธีการที่ต่ำช้าเสียจริง สมแล้วที่เป็นลำดับที่ 3 แห่งตระกูลหยู”


ชายในเสื้อคลุมสีม่วงต้องการที่จะสอนบทเรียนให้กับ หลินเฟิง แต่เขาไม่คิดเลยว่า หลินเฟิง จะทำให้เขาอับอายเช่นนี้


“แคร๊ก!”


 เก้าอี้หินของชายในเสื้อคลุมสีม่วงเริ่มแตก แม้ว่าจะเกิดรอยลึกแต่ก็ไม่ถึงกับแตกเป็นชิ้นๆ


เขาจ้องมองไปที่ หลินเฟิง ด้วยความอาฆาต


“หลินเฟิง หากเจ้าพ่ายแพ้ในวันนี้ เฮยหม่า ก็จะสังหารเจ้าและถึงแม้เจ้าจะชนะ ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า” ชายในเสื้อคลุมสีม่วงไม่ปิดบังเจตนาที่ชั่วร้ายเลยแม้แต่น้อย น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความก้าวร้าวอย่างรุนแรง


“หยูเชียว ดูเหมือนว่าท่านจะลืมไปแล้ว่าที่นี่ไม่ใช่ตระกูลหยูของท่าน ท่านไม่สามารถทำตามเภอใจที่นี่ได้” หลงติง กล่าวอย่างเย็นชา หลังจากนั้นเขาก็หันไปหา หลินเฟิง และกล่าว “หลินเฟิง เจ้าไม่ต้องกังวลไป หากหยูเชียว กล้าโจมตีเจ้า แม้ว่าข้าจะไม่อาจสังหารเขาได้แต่ข้าพอที่จะสังหารเหล่ารุ่นเยาว์ที่มากับเขาได้”


“ว่ายังไงนะ?” หยูเชียว กล่าวอย่างเย็นชา เขาจ้องมองไปที่รองอาจารย์ใหญ่หลงและกล่าว “รองอาจารย์ใหญ่ นี่ท่านกำลังข่มขู่ตระกูลหยูของข้างั้นรึ?”


 “ไร้ยางอายสิ้นดี”


 เมื่อฝูงชนได้ยินสิ่งที่ หยูเชียว กล่าว พวกเขาต่างประหลาดใจ พวกเขาไม่คิดเลยว่าบุคคลระดับ หยูเชียว จะไร้ยางอายเช่นนี้


หลงติง เองก็ประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ท่านได้ข่มขู่ศิษย์ของสถาบันสำนักสวรรค์ แต่ไม่อนุญาตให้ข้าข่มขู่รุ่นเยาว์ของท่านงั้นรึ? หยูเชียว สมองของท่านยังทำงานดีอยู่หรือไม่?”


หยูเชียว ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “หึ ท่านไม่กลัวว่าจะทำให้ตระกูลหยูโกรธเคืองงั้นรึ?”


“แต่ตอนนี้ท่านอยู่ในสถาบันสำนักสวรรค์” หลงติง กล่าว


 “แล้วยังไงละ? ข้าไม่สนใจว่าที่นี่จะเป็นสถาบันสำนักสวรรค์หรือไม่ แต่การยั่วยุตระกูลหยูจะทำให้สถาบันสำนักสวรรค์ต้องเผชิญหน้ากับหายนะ” หยูเชียว กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ชั่วร้ายซึ่งทำให้ฝูงชนตื่นตระหนก พวกเขาไม่คิดว่าจะได้เห็น หยูเชียว ประจันหน้ากับหลงติง เพราะ หลินเฟิง


 บรรยากาศกลายเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบ ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่หลงติง หยูเชียว ขู่ว่าจะทำลายสถาบันสำนักสวรรค์ ตอนนี้ไม่มีใครกล้าทีจะกล่าวอะไรออกมา


 บรรยากาศในตอนนี้ตึงเครียดอย่างมาก


 “ท่ายหยู ดูเหมือนว่าท่านจะอารมณ์ไม่ดีนะ”


 ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงๆหนึ่งเข้ามาทำลายความเงียบลง ได้มีร่างๆหนึ่งเดินมาท่ามกลางฝูงชน คนๆนั้นมีรอยยิ้มที่อบอุ่นและดูเป็นกันเองอย่างมาก


 หลายคนประหลาดใจเมื่อได้เห็นชายคนนี้ แม้แต่ หยูเชียว ก็สั่นสะท้านเล็กน้อย ตามที่คาดไว้ที่นั่งหลักถูกสงวนไว้ให้เขา


 เมื่อ หลินเฟิง เห็นชายคนนั้น เขาก็ต้องประหลาดใจ เขาเคยเจอชายคนนี้มาก่อน เขาเคยขออาสาเป็นผู้ตัดสินการต่อสู้ของ หลินเฟิง ในลานประลองนักโทษเมื่อก่อนหน้านี้


 “ชายคนนี้ช่างลึกลับอย่างแท้จริง” หลินเฟิง สังเกตเห็นที่นั่งหลักที่กำลังว่างอยู่ มีความเป็นไปได้ว่าที่นั่งตรงนั้นถูกสงวนไว้ให้กับชายคนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะมีสถานะสูงส่งกว่าแม้กระทั่งตระกูลหยู


เมื่อหลงติง เห็นชายผู้นี้ทำให้ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเกิดขึ้นในทันทีจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน


 “ฝ่าบาท” หลงติง กล่าวอย่างนอบน้อม


 หยูเชียว ยืนขึ้นเช่นกัน เขายิ้มและกล่าว “ฝ่าบาทจะต้องล้อข้าเล่นแน่ๆ ผู้น้อยมิกล้าอารมณ์เสีย”


 “ฮ่าๆๆ หากเป็นเช่นนั้นก็ดี ท่านหยู รองอาจารย์ใหญ่หลง โปรดนั่งลงเถิด ไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้น”


รอยยิ้มของชายหนุ่มดูจริงใจและไม่ถือตัวสำหรับตัวตนระดับองค์ชาย  เมื่อเขามาถึงก็ได้นั่งบนที่นั่งหลัก


ในตอนนี้เอง ภายในกลุ่มของศิษย์จากลานศักดิ์สิทธิ์ซู่วเย่ว ปรากฏความดุดันขึ้นในดวงตาของฉู่จั่นเผิงขณะจ้องมองไปยังชายหนุ่มเบื้องหน้า


ชายหนุ่มหันศีรษะและมองไปที่ฉู่จั่นเผิง เขาพยักหน้าและยิ้ม “ฉู่จั่นเผิง เราเจอกันอีกแล้วนะ”


 “ขอคารวะ ฝ่าบาท” ฉู่จั่นเผิง พยักหน้าและทักทายชายหนุ่ม ความดุดันในดวงตาของเขาค่อยๆหายไป องค์ชายลำดับที่สอง ต้วนหวู๋หยา ก็เป็นเหมือนกับเขา ที่เป็นหนึ่งในแปดปรมาจารย์รุ่นเยาว์และลำดับของ ต้วนหวู๋หยา นั้นยังสูงกว่า ฉู่จั่นเผิง.....







Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

Facebook