ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 163


ตอนที่ 163 ราคาที่น่าหวาดกลัวยิ่ง













ชายชรามองไปที่ฝูงชนที่กำลังระเบิดความตื่นเต้นออกมา จากนั้นเขาก็กล่าวว่า : "เอาล่ะราคา
เริ่มต้นสำหรับอสูรสิงโตเพลิง เป็นศิลาบริสุทธิ์ระดับกลางห้าร้อยก้อน ตอนนี้ให้การประมูลเริ่ม
ต้นขึ้นได้! "


เมื่อชายชราพูดจบแล้วฝูงชนเริ่มตื่นเต้นขึ้นอีกครั้ง


"หนึ่งพัน!"


"หนึ่งพันสองร้อย!"


"หนึ่งพันห้าร้อย!"


หลายคนได้เพิ่มราคาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกคนก็รู้ว่าการเสนอราคาที่แท้จริงนั้นยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น
ศิลาบริสุทธิ์ระดับกลางเพียงไม่กี่พันก้อนนั้นจะเพียงพอสำหรับอสูรสิงโตเพลิงได้เยี่ยงไร?


หลินเฟิง มองอย่างสงบและไม่สนใจ เขาได้ประเมินราคาของอสูรสิงโตเพลิงไว้แล้ว แต่หลังจาก
ที่เขาได้เห็นราคาของ ต้าเถา เขาก็เข้าใจว่าราคาของอสูรสิงโตเพลิงนั้นสามารถไปได้สูงมาก
กว่านี้หลายเท่า


สาวงามที่อยู่ข้าง หลินเฟิง กำลังมองเขาอยู่ ดวงตาภายใต้หน้ากากสีเงินที่น่าแปลกใจนั้นดู
สงบเมื่อเธอได้สังเกตุ


"นายท่านข้าควรจะเรียกท่านอย่างไรดี?" สาวงามได้ ถามหลินเฟิง


"เรียกข้างั้นรึ?" หลินเฟิง คิดด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเขาก็กล่าวทันทีว่า "เจ้าเรียก
ข้าว่าท่านเฟิง"


"ท่านเฟิง ข้าชื่อว่า ยี่เซี่ย" สาวสวยคนนี้พูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะยิ่ง หลินเฟิง พยักหน้าเล็ก
น้อยและในขณะนั้นราคาของอสูรสิงโตเพลิง ถูกยกขึ้นไปถึงสามพันก้อนแล้ว อีกไม่นานจน
กว่าจะถึงราคาเดียวกันกับที่จ่ายให้กับทาส


นายน้อยเมิ้ง เหลือบมองไปที่ หลินเฟิง ด้วยร้อยยิ้มที่เย็นชา


เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ขอบของพื้นที่สงวนไว้สำหรับแขกผู้มีเกียรติทั้งหมด เขาวางมือบน
ราวบันไดและพูดว่า : "วันนี้ข้า เมิ้งฉง จะเอาอสูรสิงโตเพลิงมาให้จงได้ ใครที่พยายามขัดขวาง
ความสุขของข้า  คนผู้นั้นจะจบไม่สวยอย่างแน่นอน ส่วนใครไม่ได้ทำให้ข้ารู้สึกไม่พอใจ นั้น
ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด  และเราสามารถเป็นเพื่อนที่ดีหลังจากการประมูลได้ "


เมื่อฝูงชนได้ยินว่า เมิ้งฉง กล่าวพวกเขารู้สึกประหลาดใจ ชั่วช้ายิ่งนัก! เขาข่มขู่ทุกคน บริ
เวณนี้เต็มไปด้วยขุนนางและนักบ่มเพาะพลังที่มีอำนาจและเขาก็ยังกล้าที่จะข่มขู่พวกเขา
อีก พวกเขามีทางเลือก : ก็คือจะกลายเป็นเพื่อนหรือจะกลายเป็นศัตรูของเขา


หลายคนได้จ้องมองไปที่ เมิ้งฉง แต่เมื่อพวกเขาคิดเกี่ยวกับตระกูลของ เมิ้งฉง แล้วยังเป็น
แขกผู้ทรงเกียรติสำหรับการประมูลอีกด้วย คนส่วนใหญ่เลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ


มีครอบครัวชนชั้นสูงเพียงแห่งเดียวในเมืองจักรพรรดิและชื่อตระกูลของพวกเขาก็คือ เมิ้ง!


“ตอนนี้ ข้าขอเสนอ สามพันหนึ่งก้อน” เมิ้งฉง กล่าวด้วยรอยยิ้มไม่แยแสบนใบหน้าของ
เขาในขณะที่มองไปที่ หลินเฟิง หลินเฟิ้งกล้าที่จะเสนอราคาสูงกว่าเขาสำหรับทาสที่เขา
ต้องการเขาจึงขัดขวาง หลินเฟิง จากการได้รับราคาที่สูงจากอสูรสิงโตเพลิงของเขา


ชายชรามองไปที่ เมิ้งฉง จากเวที เป็นความจริงที่ว่าเขาทำตัวแบบนี้ทำให้ชายชรารู้สึกอึดอัด


"อสูรสิงโตเพลิงตอนนี้เป็นของข้าแล้ว" เมิ้งฉง กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ทันใดนั้นเสียงที่
แข็งแกร่งและสง่างามกล่าวว่า "ศิลาบริสุทธิ์ระดับกลางสี่พันก้อน"


"ใครเป็นคนพูด?" เมิ้งฉง กล่าวด้วยเสียงที่เย็นชาอย่างมาก เป็นความภาคภูมิใจของเขา
ช่วงก่อนหน้านี้ เขาไม่คิดว่าจะมีใครบางคนกล้าที่จะทำให้เขาเสียหน้า นั้นเป็นอะไรที่ไม่
สามารถทนได้


เมิ้งฉง เหลือบไปมองฝูงชนเพื่อมองหาคนที่เสนอราคาสูงกว่าเขา


"ข้าเป็นคนพูดเอง" เสียงที่เย็นชาและไม่แยแส ทันใดนั้น เงาในฝูงชนค่อยๆลุกขึ้นยืน มัน
เป็นผู้ชายที่มีผมสีทอง เขาดูแปลกตาและดูเหมือนว่าเขาถูกล้อมด้วยแสงสีทอง


เมื่อฝูงชนเห็นเขาตาของพวกเขาก็หลี่ลง นั่นมันเป็นเขา!


"กวงฉี." ตาของ เมิ้งฉง หลี่ลง


"เจ้าต้องการอะไร" กวงฉี กล่าว ดวงตาสีทองของเขากำลังมองตรงไปยังบริเวณที่ เมิ้งฉง
นั่งอยู่ เมิ้งฉง รู้สึกประหลาดใจ การแสดงออกทางสีหน้าของเขาช่างเยือบเย็น แล้วเขาก็
กล่าวว่า: "เฮ้ เจ้าเป็นศิษย์ที่ยอดเยี่ยมของนิกายหว่านโฉวเหมิน ถ้าเจ้าต้องการอสูร
สิงโตเพลิงข้าจะไม่ทำให้เจ้าเสียหน้าและข้าจะช่วยให้เจ้าได้รับมัน.


กวงฉี หันไปรอบ ๆ และไม่สนใจ เมิ้งฉง ซึ่งทำให้เขาโกรธยิ่งขึ้น เขาถูกทำให้อับอาย
มากขึ้นเรื่อย ๆ


"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" เสียงหัวเราะดั่งไปทั่ว ในขณะที่ทุกคนกำลังเงียบ เสียงหัวเราะดังกล่าวนั้นรุน
บาดลึกเข้าไปในหูของ เมิ้งฉง ใบหน้าของเขาดูน่าเกลียดขึ้นมาทันที แล้วเขาก็ค่อยๆหัน
กลับไปมอง หลินเฟิง


"เจ้าหัวเราะอะไรงั้นรึ?"


"ข้าก็แค่หัวเราะคนที่ภูมิใจในคำพูดของตัวเองจริงๆแล้วมันมีค่าน้อยกว่าตดเสียอีก"
หลินเฟิง กล่าวอย่างรวดเร็ว


เมิ้งฉง นั้นก้าวร้าวอย่างมากและได้ข่มขู่ทุกคน แต่เมื่อ กวงฉี ได้ออกมาเขาก็เอาทุกวาจา
ที่ได้พูดไปมอบมันให้กับกวงฉี เขาใช้ข้ออ้างที่เขาไม่อยากทำให้คนอื่นเสียหน้า มันไร้สาระ
และน่าขันเกินไป


นิกายหวันโฉว เป็นหนึ่งในนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นซู่วเย่ว และพวกเขาถือว่าแข็งแกร่ง
อย่างมากแม้ในเมืองจักรพรรดิก็ตาม แม้ว่าสถานะของ เมิ้งฉง นั้นจะพิเศษ แต่เขาไม่กล้าแม้
แต่จะยั่วยุสมาชิกของนิกายหวั่นโฉวเหมิน


ในขณะนั้น เมิ้งฉง เงียบ ๆ ในวันนี้เขาได้รับความอับอายขายหน้าไปสองสามครั้งแล้วโดย
หลินเฟิง และไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ ในตอนแรกเขาต้องการที่จะได้อสูรสิงโตเพลิงเพื่อ
ให้ได้หน้าและต้องการใช้ประโยชน์จากสถานะทางสังคมของเขาเพื่อคุกคามทุกคนภายใน
ฝูงชน เขาไม่ได้คิดว่าเขาจะถูกทำให้อับอายอีกครั้ง แล้วคราวนี้ก็ กวงฉี และแม้หลังจาก
นั้นเขาก็ถูกทำให้อัปยศอีกครั้งโดย หลินเฟิง ซึ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวตลก เมิ้งฉง ได้ทำ
ให้ทั้งครอบครัวของเขาเสียหน้า


แต่ไม่มีใครเอาอารมณ์ของเขามาใส่ใจ ชายชรายิ้มอย่างไม่แยแส เขายังคงยืนอยู่บนเวทีและ
กล่าวว่า "ศิลาบริสุทธิ์ระดับกลางสี่พันก้อนมีใครอยากจะประมูลอสูรสิงโตเพลิงอีกหรือไม่?
อสูรสิงโตเพลิงนี้ข้ารับประกันได้ว่าจะสามารถไปถึงระดับซุนได้ในอนาคตและอาจถึงระดับ
เทียน ก็ได้ มันจะกลายเป็นอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดของแคว้นซู่วเย่ว "


"สี่พันห้าร้อยก้อน" ใครบางคนได้ยินหลังจากได้ยินคำพูดของชายชราที่ดึงดูดใจอย่างมาก
ถึงแม้พวกเขาอาจจะไม่ได้รับอสูรสิงโตเพลิงจาก กวงฉี พวกเขาก็อาจไโชคดีก็ได้ นั่นคืออสูร
สิงโตเพลิง ใครกันเล่าจะไม่ต้องการเสี่ยงโชคดู ?



 "ห้าพันก้อน" กวงฉี เสนอราคา  ถ้าเขาต้องการอะไรบางอย่างเขาก็จะได้รับมันอย่างแน่นอน
แม้กระทั่ง เมิ้งฉง จะยอมถอยเพราะเขาเข้าใจอารมณ์ของ กวงฉี


"หกพันก้อน" ชายชราชุดดำ กล่าวขณะกัดฟัน


"หนึ่งหมื่นก้อน" กวงฉี กล่าวอย่างสงบซึ่งทำให้ฝูงชนทั้งมวลมึนงง เมื่อได้ยินเขาเสนอโดย
ไม่หวาดวิตกแม้แต่น้อย


"ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนคนคิดว่านิกายหยุนไห่ เป็นหนึ่งในนิกายที่มีอิทธิพลน้อยที่สุดในแคว้น
ซู่วเย่ว ดูเหมือนว่ามันเป็นความจริง  "หลินเฟิง คิด นิกายหยุนไห่ได้ผ่านช่วงที่มีความมั่งคั่ง
ไปแล้ว นิกายหยุนไห่นั้นขาดทรัพยากรธรรมชาติ มันไม่ได้มีมากพอที่จะหล่อเลี้ยงศิษย์ แต่
ศิษย์คนเดียวของนิกายหวันโฉวเหมิน สามารถใช้ศิลาบริสุทธิ์หนึ่งหมื่นก้อน นขณะที่ยังไม่มี
แม้แต่ความกระวนกระวายใจ นิกายหยุนไห่ ยังคงมองว่าศิลาบริสุทธิ์ระดับต่ำนั้นเป็นสิ่งล้ำค่า



"หนึ่งหมื่นหนึ่งพัน" ชายชราในชุดดำ เสนอราคาแล้วมองด้วยความโกรธขณะหายใจออก
ผ่านฟันของเขา ความแข็งแกร่งของเขาได้มาถึงจุดคอขวดแล้วและเขาต้องการความช่วย
เหลือจากสัตว์อสูร


"หนึ่งหมื่นห้าพันก้อน" กวงฉี กล่าว ฝูงชนประหลาดใจ หลังจากนั้นบางคนก็ยิ้มอย่างบูด
เบี้ยว ตามที่คาดไว้ไม่มีใครสามารถแข่งกับผู้ชายคนนั้นได้เลย หนึ่งหมื่นห้าพันก้อนเป็น
จำนวนที่คนร่ำรวยและมีหน้ามีตาหลายคนไม่สามารถจ่ายได้ ... แต่มันมาจากคนๆเดียว
และไม่ใช่ตระกูลเสียด้วยมันยิ่งน่ากลัวมากขึ้น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเสนอราคาต่อ


ท้ายที่สุดราคาสุดท้ายสำหรับอสูรสิงโตเพลิงสิ้นสุดที่ศิลาบริสุทธิ์หนึ่งหมื่นห้าพันก้อน


หลินเฟิง ยิ้ม เขาพอใจอย่างมากกับราคานี้ เขาได้สัญญาไว้ว่าจะมอบศิลาบริสุทธิ์ระดับ
กลางหนึ่งร้อยก้อน กับกลุ่มคนที่มากับเขา เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะได้ศิลาจำนวนมาก
ขนาดนี้


ตอนแรกเขาคิดว่าถ้าเขาขายมันไปจะได้ศิลาบริสุทธิ์ระดับกลางสี่พันก้อน ก็เป็นผลดี
สำหรับเขาแล้ว


เขาเดินไปทางด้านหลังเวทีกับ ยี่เซี่ย ในขณะนั้นกลุ่มคนออกมาพร้อมกับกองศิลาบริสุทธิ์



"นี้คือศิลาบริสุทธิ์ระดับกลางเก้าพันก้อน เจ้าสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ "ชายชรา
กล่าวขณะมอง หลินเฟิง หลินเฟิง ยิ้ม เก้าพันก้อนนั้นมากกว่าที่เขาคาดไว้


เขาหยิบศิลาบริสุทธิ์และทันใดนั้นมันก็หายไป ชายชราถึงกับมึนงง เขามอง หลินเฟิง
 ด้วยท่าทางตกใจ


ข้าคงแก่เกินไป สายตาของข้านั้นเลอะเลือน "ชายชรากล่าวขณะจ้องมองไปที่ดวงตาของ
หลินเฟิง ภายใต้หน้ากากเงินของเขา เขาได้มอบศิลาบริสุทธิ์ให้แก่ หลินเฟิง มากมายซึ่ง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพกกลับไป เขาไม่ได้คิดเลยว่า หลินเฟิง จะมีหินลึกลับไว้เก็บของ


คนธรรมดาไม่สามารถมีหินลึกลับนี้ได้ หลินเฟิง ช่างเป็นคนลึกลับเสียจริง


หลินเฟิง ยิ้มภายใต้หน้ากากเงินของเขา ชายชราไม่ได้ถามอะไรมากนัก เขาชี้ไปที่
ต้าเถา และกล่าวว่า "ตอนนี้เขาเป็นของเจ้าแล้ว พาเขาไปกับเจ้าได้ "



ในขณะนั้นชายชราก็อยากรู้อยากเห็น ต้าเถาได้ตัดผ่านไปในชั้นจิตวิญญาณขั้นที่หก
แล้วเขาจะเชื่อฟัง หลินเฟิง ที่อยู่ที่ชั้นจิตวิญญาณขั้นที่ห้าหรือไม่? หลินเฟิง แข็งแกร่ง
มากพอรึ?


"มากับข้า" หลินเฟิง กล่าวขณะมองไปที่ ต้าเถาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สนใจ ทันทีหลังจาก
นั้นเขาก็ออกไปและเดินนำ


ต้เถา ถูกปล่อยจากโซ่ตรวนแล้ว เขามองอย่างไร้ความรู้สึกและเดินตามหลัง หลินเฟิง ไป


ช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากออกจากตลาดการประมูล หลินเฟิง หันกลับและหยุดเดิน เขา
มองอย่างเย็นชาไปที่ ต้าเถา ผ่านหน้ากากเงิน ต้าเถาก็มองอย่างเย็นชาและไร้ความรู้สึก


ถ้าผู้บ่มเพาะพลังที่เป็นทาสถูกปลดจากโซ่ตรวนแล้ว เขาจะทำทุกอย่างที่เขาปรารถนา
ได้ เขาไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังเจ้านาย หลังจากนั้น ทาสทุกคนจะได้เป็นคนปกติอีกครั้ง!





Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

  1. ขอบคุณที่แปลให้อ่านครับ...กดโฆษณาให้แล้วจ้า

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับ ติดตามๆ กำลังสนุกเลย ตอนหน้าคงตะลุมบอนกันหน้าลานประมูลหรือป่าวนิ อิอิ ลุ้นๆ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

Facebook