ตอนที่ 161 ความเมตตา
เมื่อฝูงชนได้ยินเสียงโต๊ะหินที่ถูกชกในระหว่างการประมูลทุกคนได้มองไปทาง หลินเฟิง
ฝูงชนมึนงง พื้นที่นั้นถูกสงวนไว้สำหรับแขกผู้มีเกียรติทุกคนจะมีปัญหาในพื้นที่นั้นได้อย่างไร?
นอกจากนี้ยังมีหลายคนที่มากับ หลินเฟิง และช่วยไม่ได้ที่พวกเขา จะตกใจเมื่อพวกเขาได้เห็น
หลินเฟิง ชกโต๊ะหินแหลกเป็นชิ้น ๆ หลินเฟิง ได้สร้างปัญหาในลานประลองนักโทษ และยังสร้าง
ปัญหาขึ้นอีกที่นี้อีกครั้ง
สาวงามก็ประหลาดใจเช่นกัน เมื่อสักครู่เธอได้ซ่อนน้ำตาไว้ข้างหลังมือโดยการปิดบังใบหน้า
ของเธอและเมื่อเธอยกมือขึ้นเธอกลับเห็นโต๊ะและเก้าอี้แหลกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เธอไม่รู้ว่าจะคิดยังไง
ดีอีกต่อไป
น่าแปลกที่มีคนหนึ่งคนที่ปกป้องเธออยู่ในที่ทำงานของเธอและไม่ใช่ผู้จัดการ
ผู้จัดการก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่า หลินเฟิง เริ่มโกรธมากจนได้ทำลายข้าวของแหลกเป็นชิ้นๆ
เพราะเขาไม่สนใจ หลินเฟิง หลินเฟิง จึงโกรธและผู้จัดการจึงตกใจเล็กน้อย
เขาจ้องมองไปที่ หลินเฟิง เขามองอย่างเย็นชา
แต่ หลินเฟิง ไม่สนใจการแสดงออกทางสีหน้าของเขาและพูดอย่างเย็นชาว่า "ข้าได้นำสิงอสูร
สิงโตเพลิงมาขายที่นี่ในตลาดการประมูลของท่าน ซึ่งทำให้ข้าเป็นแขกรับเชิญเพื่อมาที่นั่งตรงนี้
นี่คือวิธีที่ท่านปฏิบัติต่อแขกผู้มีเกียรติของท่านด้วยการเมยเฉยและทำให้อับอาย ?”
ผู้คนในฝูงชนรู้สึกกังวลใจอย่างมาก อสูรสิงโตเพลิง นั้นน่าสนใจยิ่งนัก
แต่พวกเขาอยากรู้เกี่ยวกับ หลินเฟิง คนที่นำอสูรสิงโตเพลิงมาได้เป็นแขกรับเชิญที่มีเกียรติระดับ
สูง แต่ทำไมเขาถึงถูกมองข้ามโดยผู้จัดการ?
"ข้าเป็นหนึ่งในแขกผู้มีเกียรติของท่านเช่นเดียวกับเขา แต่จากช่วงเวลาที่ข้าได้มาถึงที่นี่เขาไม่
หยุดล่วงเกินข้าซักที ข้าไม่ได้ไปโจมตีเขาเสียหน่อย ท่านก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วท่านไม่ควรปฏิบัติ
ต่อลูกค้าของท่าน ท่านไม่สนใจข้าแต่กลับทำให้เขามีความสุขและต้องการมอบพนักงานที่คอย
ให้บริการแก่ข้าให้กับเขา ท่านไม่เคยถามความเห็นของข้าเลยหรือใส่ใจเกี่ยวกับการที่ข้านั้นถูก
ล่วงเกิน เขาเป็นคนผิดและท่านก็ยังรับใช้เขาเหมือนสุนัข ในฐานะผู้จัดการคนหนึ่งในตลาดการ
ประมูลโดยไม่สนใจข้า ดูเหมือนว่าท่านจะเชื่อว่าข้านั้นไม่สามารถขายอสูรสิงโตเพลิงที่อื่นได้อีก
แล้วงั้นรึ? "หลินเฟิง กล่าว จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า "ตั้งแต่ที่คุณได้ปฏิบัติกับข้าเช่น
นี้โดยไม่ใส่ใจ ข้าต้องการอสูรสิงโตเพลิงคืน ข้าไม่สนใจว่าจะเป็นแขกพิเศษที่นี่หรือไม่ ข้าจะนำ
อสูรสิงโตเพลิงและคนที่จะซื้อมันตามข้าไปที่ลานประมูลอื่น
เมื่อฝูงชนได้ยินคำเหล่านี้พวกเขาทั้งหมดมองไปที่สาวงามที่ยืนด้านข้างของเขาเช่นเดียวกับ
ชายหนุ่มชนชั้นสูงที่นั่งอยู่ข้างหลังเขา พวกเขาเข้าใจทันทีว่าชายหนุ่มคนนี้นั้นเป็นส่วนหนึ่ง
ของตระกูลเมิ้ง นี่คือเหตุผลที่ผู้จัดการไม่กล้าล่วงเกินเขา
อย่างไรก็ตามโดยการทำแบบนั้นเขาไม่ได้เคารพ หลินเฟิง ที่กำลังโกรธ เขาทำให้ หลินเฟิง
เสียหน้า ทุกคนถ้าใครอยู่ในจุดนั้นเช่นเดียวกับ หลินเฟิง ก็คงโกรธที่ถูกละเลยและทำให้อับ
อาย
ใบหน้าของผู้จัดการถึงกับเคร่งขึมขึ้นมา ไอ้เด็กคนนี้ช่าง ...
เขาไม่รู้ว่า หลินเฟิง เป็นแขกที่ที่ขายอสูรสิงโตเพลิงเขาไม่คิดว่า หลินเฟิง จะตอบโต้อย่างรุน
แรงเช่นนี้ ผู้จัดการไม่อยากแสดงของเขาลงกับ หลินเฟิง
ในขณะนั้นภาพเงาได้ปรากฏในพื้นที่สงวนไว้สำหรับแขกผู้มีเกียรติ นี่เป็นชายชราที่อยู่หลังเวที
การประมูลที่เคยพูดกับ หลินเฟิง เป็นที่ชัดเจนว่าหลังจากได้ยินเสียงชายที่มาจากหลังเวทีเขา
ดูโกรธ
"ขอโทษเดี๋ยวนี้! เจ้าไม่ทราบวิธีปฏิบัติต่อแขกที่เคารพของเรารึไง "ชายชราคนหนึ่งกล่าวขณะ
ที่โกรธมากไปทางผู้จัดการที่ทำตัวเช่นนี้
“ขอโทษ? ท่านคิดว่าคำพูดเท่านั้นเพียงพองั้นรึ? "หลินเฟิง พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ร่างของชายชรามีพลังงานที่เย็นชาออกมาและเปลี่ยนร่างเป็นเงา
“ตู้มมม!”
เงาของชายชราได้ตบหน้าผู้จัดการที่โกรธ หลินเฟิง พลังภายในการโจมตีครั้งนั้นได้ส่งร่างของ
ผู้จัดการบินลอยไปข้างหลัง
"ไอ้คนไร้ประโยชน์" ชายหนุ่มพูดอย่างเย็นชา
ผู้จัดการหนุ่มคนนั้นเป็นคนที่ไม่คุ้มค่ากับเวลาของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นผู้จัดการที่มีสถานะที่สูง
แต่เขาจะละเลยต่อใครที่นั่งอยู่ในพื้นที่นี้ได้อย่างไรกัน? เขาไม่สนใจลูกค้าคนหนึ่งและช่วยอีกฝ่าย
หนึ่งสร้างปัญหาได้อย่างไร? การปฎิบัติกับ หลินเฟิง แบบนั้นต่อหน้าทุกคนก็เหมือนกับการตบ
หน้า หลินเฟิง แล้ว หลินเฟิง จะไม่โกรธได้อย่างไร?
ผู้จัดการที่กำลังคลานบนพื้นได้ยืนขึ้นและเช็ดเลือดจากมุมปากของเขา เขาดูโกรธมาก จากนั้น
เขาก็มองไปที่ หลินเฟิง ด้วยเจตนาฆ่าในสายตาของเขา แต่เขาไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว
"เจ้ายังไม่ขอโทษอีกงั้นรึ?" ชายชราตะโกนใส่อย่างเย็นชา ผู้จัดการถึงกับมึนงง แต่เมื่อเขาเห็น
ชายชราที่มีท่าทีไม่พอใจเขาก็เริ่มตัวสั่น เขามองไปที่ หลินเฟิง และกล่าวว่า: "ข้าขอโทษ"
"ตอนแรกท่านคิดว่าท่านนั้นฉลาดพอที่จะรับใช้เขาเป็นคนแรก แต่ตอนนี้ท่านก็รู้แล้วว่าท่านนั้น
เป็นเพียงคนโง่เท่านั้น" หลินเฟิง กล่าวเมื่อเขาได้ยินผู้จัดการขอโทษอย่างไม่จริงใจ จากนั้นเขา
ก็เสริมว่า "พาเขาออกไปที่นี่ซะ"
"เจ้าไม่ได้ยินรึไง? ไปให้พ้น! "ชายชรากล่าว ผู้จัดการก็โกรธมากจนแก้มของเค้าแทบลุกเป็นไฟ
เขาเหลือบไปมอง หลินเฟิง ทันทีหลังจากนั้นเขาก็หันกลับไปแล้วเดินจากไป วิธีการที่เขามองนั้น
แตกต่างไปอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมาเมื่อเขาทำตัวทะนงตน
เมื่อชายชราเห็นว่าผู้จัดการกำลังจะจากไปเขายิ้มให้กับ หลินเฟิง ด้วยความรู้สึกเสียใจและพูดว่า
: "เจ้าพอใจกับการแก้ไขปัญหาหรือไม่?"
หลินเฟิง มองไปที่ชายชราและชี้ไปที่สาวงามข้างหน้าเขาและกล่าวว่า "เขาจะนำเธอไปนั่นก็เป็น
เพราะข้า ถ้าข้าถามท่านว่าให้มอบเธอให้ข้า ท่านจะปฏิเสธรึไม่? "
"เจ้านั้นมีเจตนาที่ดี แน่นอนเจ้าสามารถนำเธอไปได้" ชายชรากล่าวขณะที่มองสาวงาม เธอช่าง
โชคดีที่ได้พบกับ หลินเฟิง นอกจากนี้การมอบเธอให้กับ หลินเฟิง ไม่ใช่ได้เป็นปัญหาอะไรกับ
ตลาดการประมูลเนื่องจากพวกเขามีคนรับใช้มากมายที่จะมาแทนที่เธอ
หลินเฟิง พยักหน้าตาเล็กน้อยด้วยความพอใจ จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "ข้าหวังว่าแขกผู้มีเกียรติ
ทุกคนจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกัน และอย่าให้เกิดความเสื่อมเสียมากไปกว่านี้ซึ่งจะทำ
ให้เกิดปัญหาเอาได้"
ชายหนุ่มชนชั้นสูงหลี่ตาลงและมองไปที่ หลินเฟิง อย่างเดือดดาน หลินเฟิง ทำให้เขาอับอาย
หลายครั้งแล้วยังเรียกเขาว่าหมาและยังเรียกว่าคนเลวอีก
เมื่อชายชราได้ยิน หลินเฟิง เขาเข้าใจว่าจริงๆแล้ว หลินเฟิง กำลังหมายถึงอะไร จากนั้นเขาก็
หันไปหาชายหนุ่มคนนั้นทันทีและกล่าวว่า "นายน้อยเมิ้ง ที่นี่เป็นตลาดการประมูลและข้าหวัง
ว่าท่านจะไม่ได้วางแผนที่จะทำให้เราเสียหน้า เราจะไม่ยอมรับความวุ่นวายดังกล่าวจากท่าน
อีกในอนาคต สิ่งที่ท่านทำข้างนอกเป็นธุระของท่าน แต่เมื่ออยู่ในตลาดการประมูลท่านควร
จะทำตัวให้ดีจะดีกว่า "
ชายหนุ่มมอง หลินเฟิง อย่างชั่วร้ายโดยเฉพาะและคิดว่าหลังจากการประมูลเขาจะจัดการกับ
หลินเฟิง เขาจะฆ่า หลินเฟิง หลังจากการประมูลเสร็จสิ้น
ชายชราใช้ความเงียบทำให้เขาเข้าใจเป็นการเตือนเขา
"ขอบคุณนายน้อยเมิ้ง ที่เข้าใจ." ชายชรากล่าวอย่างเฉยเมย จากนั้นเขาก็กล่าวเสริมทันทีว่า
"ข้าหวังว่าทุกคนจะฉลาดพอที่จะเคารพกฎของเรา ตอนนี้ข้าได้พูดเพียงพอแล้วและให้การ
ประมูลดำเนินการต่อไป "
เมื่อพูดจบชายชราเหลือบไปมอง หลินเฟิง เป็นครั้งสุดท้ายและภาพเงาของเขาก็กลายเป็นแสง
แล้วหายไป
หลินเฟิง มองภาพเงาที่หายไปขณะยิ้มอย่างมีความสุขในใจ ชายชราได้ทำสิ่งที่ชัดเจนมากถ้า
ชายหนุ่มคนนั้นอยากจะต่อสู้กับ หลินเฟิง ด้านนอกลานประมูลก็ทำได้ แต่ตราบเท่าที่พวกเขา
อยู่ภายในตลาดประมูลจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของชายชรา หลินเฟิง ได้ทำให้นายน้อยเมิ้ง
โกรธ แต่ขณะที่พวกเขายังคงอยู่ในการประมูลน้อยน้อยเมิ้ง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจาก
การสงบสติอารมณ์และปล่อยให้ หลินเฟิง นั่งอย่างสบายใจไปก่อน
อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่ หลินเฟิง พ้นจากการปกป้องของชายชรา นายน้อยเมิ้งจะได้ชำระแค้น
"ขอบคุณในความกรุณาของท่านนะคะ " สาวงามกล่าวขณะที่มอง หลินเฟิง การแสดงออกใน
สายตาของเธอเต็มไปด้วยความขอบคุณ เธอเข้าใจอย่างชัดเจนว่า หลินเฟิง ได้รู้สึกเมตตา
ต่อเธอซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงขอเธอจากชายชราและกลายเป็นนายใหม่ของเธอ เธอ
เข้าใจแล้วว่า หลินเฟิง รู้สถานการณ์ของเธอนั้นอยู่ในจุดที่จะต้องทนทุกข์ในอนาคต
หลินเฟิง ได้ช่วยเธอจากโชคชะตาที่เลวร้าย
"ข้าทำในสิ่งที่คนดีควรทำไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า" หลินเฟิง กล่าว
แต่สาวงามส่ายหน้าแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เห็นด้วยกับเขา ในสายตาของเธอชายหนุ่มสวมหน้า
กากสีเงินนั้นเป็นคนลึกลับอย่างมาก!
เขาดูอวดดีและหยิ่ง แต่จริง ๆ แล้วเขาซ่อนตัวตนอยู่ภายใต้หน้ากากของเขา เขาดูเป็นคนแข็ง
แกร่งมาก เขาดึงดูดความสนใจจากทุกคนโดยการทุบโต๊ะจนรับความสนใจจากชายชราจึงไป
สู่สถานการณ์ปัจจุบันในตอนนี้
สาวงามรู้สึกขอบคุณอย่างไม่มีที่สิ้นสุดกับ หลินเฟิง ทั้งๆที่มีทุกสิ่งทุกอย่าง หลินเฟิง ได้ปกป้อง
เธอและทำให้นายน้อยเมิ้งอัอายแล้วยังทำให้ผู้จัดการขายหน้าก็เพราะเธอ ถ้า หลินเฟิง ไม่ได้
ดูแลเธอ เธอคงจะกลายเป็นสมบัติของนายน้อยเมิ้ง และความตายจะถามหาเธออย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้เธอจะเคยคิดว่าเธอเป็นคนรับใช้ในตลาดประมูล เธอเป็นคนรับใช้ที่เหนือกว่าทาส
เพียงเล็กน้อย ถ้าเธอไม่สวยและร่าเริงเธออาจถูกบังคับให้เป็นทาส เธอไม่เคยได้รับการเคารพ
จากใครเลยเพราะศักดิ์ศรีของเธอไม่เคยมีความสำคัญกับใครมาก่อน
แต่ หลินเฟิง ได้ปกป้องทั้งชีวิตและศักดิ์ศรีของเธอไว้ เขาได้ช่วยเธอจากปัญหาและคิดถึง
ความดีของเธอ เธอจะจงรักภักดีและทุ่มเทให้กับ หลินเฟิง นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเธอได้
กลายเป็นของเขาแล้ว
หลินเฟิง ไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย หลินเฟิง ได้ทำเช่นนี้เพราะหน้ากากไม่สามารถซ่อน
ความเมตตาซึ่งอยู่ภายในหัวใจของเขาได้
ผู้หญิงคนนี้ได้รับความอับอายโดยชายหนุ่มเพราะ หลินเฟิง หลินเฟิง ไม่สามารถยืนดูผู้หญิง
ถูกทำให้ด่างพร้อยได้ เขาไม่สามารถยืนและเฝ้าดูคนที่ไร้เดียงสาต้องทนทุกข์ทรมานโดย
ไม่ทำอะไรบางอย่างได้ การกระทำไม่เคยอยู่ในใจของเขา..
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น