ตอนที่ 158 ลานประมูล
“แกร๊กก!”
“โฮ่ววว...... .”
เสียงที่ชัดเจนสองเสียงและแตกต่างกันไปได้กระจายอไปทั่วทั้งสนาม เสียงแรกคือเสียงกระดูก
ที่ถูกบดขยี้ ครั้งที่สองเหมือนเสียงหอนที่เจ็บปวดอย่างมาก ...
เสียงทั้งสองถูกปล่อยออกมาจาก ...อสูรสิงโตเพลิง
มีรอยดาบขนาดใหญ่ที่เฉือนผ่านด้านหลังของอสูรสิงโตเพลิง เลือดได้สาดกระจายไปบนขนของ
มัน ร่างที่ใหญ่โตของมันคลานบนพื้นด้วยความเจ็บปวด พลังปราณสีขาวได้อ่อนแอลง ออกจาก
ปากของมัน แต่ก็ยังคงมีการผสมกับเปลวไฟอยู่เล็กน้อย
ฝูงชนมึนงงเมื่อเห็นผลลัพของการโจมตี ถึงแม้ว่า หลินเฟิง จะแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่อสูร
สิงโตเพลิงที่มีความแข็งแกร่งระดับจิตวิญญาณขั้นที่ห้าไม่สามารถต้านทานการโจมตีเพียง
ครั้งเดียวจากเขาได้อย่างไรกัน?
หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจมาก ๆ แต่ทันใดก็มียิ้มกว้างๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา การต่อสู้
ครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างแน่นอน ดังนั้นแผนนี้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ อสูรสิงโตเพลิง
จึงไม่สามารถทนต่อแรงระเบิดได้จากฝ่ายตรงข้ามได้
"ขอบคุณสำหรับของขวัญของเจ้า ข้ารู้สึกขอบคุณจริงๆ! "หลินเฟิง กล่าวขณะเงยหน้าและมอง
ไปที่นักเรียนชนชั้นสูงบนที่นั่งผู้ชม หลินเฟิง หัวเราะเยาะเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสุข
น่าแปลกใจที่อสูรสิงโตเพลิง ไม่สามารถทนต่อการโจมตีแม้แต่ครั้งเดียวได้และมีเพียงคำอธิบาย
เดียวเกี่ยวกับเหตุผลนี้ พวกเขาทำให้อสูรสิงโตเพลิงมันอ่อนแอก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น พวก
เขาได้เตรียมสัตว์อสูรที่อ่อนแอนี้ไว้ให้เป็นของขวัญแก่ มู่ฟาน แล้ว มู่ฟานก็น่าจะสามารถเอา
ชนะได้อย่างง่ายดาย นักเรียนของลานศักดิ์สิทธิ์ซู่วเย่ว เอาชนะสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งและทรงพลัง
ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เขาจะได้รับเกียรติจากสถาบันได้มากขนาดไหนกัน?
ความคิดของทุกคนกำลังโกลาหล พวกเขาสับสนเพราะไม่มีอะไรเป็นไปตามแผน หลินเฟิง ได้
ชนะอสูรสิงโตเพลิง ... หลินเฟิง ได้ทำให้สัตว์อสูรเชื่องในขณะที่ มู่ฟาน เสียชีวิตจากการโจมตีเพียง
ครั้งเดียว
หลินฌฟิง เข้าใจว่าทำไมคนที่ดูแลกรงจึงมองเขาด้วยความอิจฉาก่อนหน้านี้ เขารู้ว่าสัตว์อสูร
ที่อ่อนแอนี้กำลังจะเป็นของ หลินเฟิง
เมื่อเขาได้ยินว่า หลินเฟิง ขอบคุณ นักเรียนชั้นสูงก็ดูหงุดหงิด การแสดงออกของเขาน่าเกลียด
อย่างเหลือเชื่อ ทุกคนคาดเดาได้ว่าเขาทำให้สัตว์อสูรนั้นอ่อนแอลงเพื่อที่เขาจะทำให้ มู่ฟาน
ได้รับชัยชนะ
ฝูงชนมองไปที่กลุ่มนักเรียนของลานศักดิ์สิทธิ์ซู่วเย่ว ราวกับว่าพวกเขาน่ารังเกียจ
ลานศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นเรื่องไร้สาระจริงๆ และวิธีการของพวกมันช่างขี้ขลาดจริงๆ พวกเขาไม่ได้
แข็งแกร่งและมีอิทธิพลเท่าที่พวกเขาเคยแสดงให้เห็น พวกเขาพยายามทำให้มันดูเหมือนจริง
แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นพวกเขาเป็นแค่ไอพวกหลอกลวงเท่านั้น
นักเรียนหนุ่มชนชั้นสูงยิ้มอย่างเย็นชาไปที่ หลินเฟิง และกล่าวว่า "ทำไมต้องขอบคุณข้าล่ะ?
แม้ว่าเจ้าจะทำให้อสูรสิงโตเพลิงที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามัน
จะปฏิบัติตามและปฏิบัติตามเจ้าตลอด ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะควบคุมสัตว์อสูรตัวนี้ เป็นเรื่องที่ดี
ที่สุดที่เจ้าจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ในกรณีที่สัตว์อสูรรู้สึกอยากกินเจ้าในซักวัน
เมื่อ หลินเฟิง ได้ยินสิ่งที่นักเรียนชนชั้นสูงกล่าว เขาดูน่าขบขันยิ่งนักและกล่าวไปว่า "อย่า
กังวลไปเลยสิ่งที่เจ้าพูดไม่ได้เป็นความกังวลของข้าเลย แม้ว่าอสูณสิงโตเพลิง จะแข็งแกร่ง
กว่าข้ามากหลายเท่าก็ตาม"
เมื่อพูดจบ หลินเฟิง ไปหาชายที่ดูแลกรงและพูดว่า : "ตอนนี้อสูรสิงโตเพลิงเป็นของข้า
แล้วใช่มั้ย?"
"ใช่แล้ว" ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เต็มใจที่จะมอบให้ แต่ หลินเฟิง ไม่ได้รอฟังคำตอบ
เขาได้จับโซ่เกี่ยวกับสัตว์อสูรและเริ่มดึงอสูรสิงโตเพลิงออกไปจากกรง
หลินเฟิง เดินออกจากกรงและสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อลิ้มรสและสนุกกับช่วงเวลานี้
หลินเฟิง จึงได้เหลือบไปมองจำนวนผู้คนที่มองเขา
ภายใต้หน้ากาก เขามีรอยยิ้มขนาดใหญ่ จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "ความสามารถในการเอาชนะ
สัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณขั้นที่ห้าเป็นเรื่องที่ดี เมื่อโตเต็มวัยมันจะไปถึงระดับซุน ข้าจะทำมัน
ให้เป็นจริง "
ฝูงชนประหลาดใจ ทำใหเป็นจริง? แท้จริงเขาหมายถึงอสูรสิงเพลิง จะทำเงินให้กับเขา
หลินเฟิง เขากำลังหมายถึงอะไร?
ไม่มีใครมีเวลาที่จะถามก่อน หลินเฟิง พูดต่ออีกว่า : "ถ้าเจ้าชอบอสูรสิงเพลิงนี้ทำไมมันจะ
เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับมันไป เราไปดูกันว่ามันจะขายได้เท่าไหร่? มาร่วมประมูลกันเถอะ "
ทุกคนต่างประหลาดใจเมื่อได้ยิน หลินเฟิง กล่าว ความเลือดเย็นของเขามีมากแค่ไหนกัน
ประมูลงั้นรึ?
เขาต้องการที่จะขายสัตว์อสูรที่มีค่าหลังจากชนะมัน?
ในขณะที่ฝูงชนเข้าใจสิ่งที่ หลินเฟิง ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เขาจะไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าอสูรสิงโต
เพลิงเพราะเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะนำมันติดตัวไปกับเขา หลินเฟิง ไม่ได้ต้องการอสูรสิงโตเพลิง
ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
"ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้ว? นั่นคืออสูรสิงโตเพลิงเชียวนะ! "
หลายคนคิดว่า หลินเฟิง คงบ้าในการขายสัตว์อสูรตัวนี้ พวกเขาคิดว่าการขายอสูรสิงโตเพลิง
เป็นทางเลือกที่โง่เขลา
แน่นอนว่านี่เป็นทางเลือกของ หลินเฟิง เขาไม่อยากรู้สึกเหมือนมีสิงโตเพลิงที่น่าเกลียดเดิน
เคียงข้างเขา
เขาจะทำอย่างดีที่สุด
เขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะรักษาสัตว์ที่มีค่าเช่นนี้ได้ ถึงแม้จะเป็นสัตว์อสูรที่ตัวใใหญ่ก็ตาม แต่
เขาก็ไม่อยากเป็นที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากนัก ในขณะที่เขาไม่อายหากมีคนยั่วยุ
เขาไม่ต้องการมัน เขาเข้าใจดีว่าในโลกนี้เขาจะดึงดูดความสนใจของคนผิดประเภทและอาจ
เป็นปัญหาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้หากมีสัตว์เลี้ยงที่มีค่าเช่นนี้
สิ่งที่ หลินเฟิง ต้องการในขณะนี้คือเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น เขาไม่ต้องการพึ่ง
พาความแข็งแกร่งของสัตว์อสูร หลินเฟิง ไม่อยากเป็นที่ดึงดูดความอิจฉาของคนอื่นซึ่งอาจ
ทำให้เขาเดือดร้อนได้ เขามีศัตรูมากเกินไปแล้วการเป็นเจ้าของสัตว์อสูรตัวนี้น่าจะเป็น
เการกระตุ้นผู้คนให้กลายเป็นศัตรูของเขา
ความคิดเห็นของผู้อื่นจะไม่ทำให้ หลินเฟิง เปลี่ยนความคิดของตัวเอง มันเป็นการยากที่
จะทำให้เขาเปลี่ยนใจ เขาเข้าใจว่าเขาไม่ได้มีความแข็งแกร่งพอที่จะเป็นเจ้าของสัตว์อสูร
ตัวนี้
หลินเฟิง จึงปล่อยสัตว์อสูรไว้และออกไปจากลานประลองนักโทษ เขาเดินตรงไปยังเขตตลาด
มีบางคนจากลานประลองนักโทษ ออกมาและเดินตาม หลินเฟิง เป็นกลุ่มผู้ชมในลาน
ประลองที่ดูสง่างามอย่างไม่น่าเชื่อ
บางคนอยากเห็นว่าจะประมูลสัตว์ตัวนี้อย่างไร คนอื่น ๆ บางคนก็สนใจที่จะซื้ออสูรสิงโตเพลิง
มีหลายคนที่ตามมาจากลานประลองนักโทษนั้นไม่ได้น้อยเลย กับศิลาบริสุทธิ์ พวกเขามีศิลา
บริสุทธิ์สำรองเพียงพอและอสูรสิงโตเพลิงนี้เป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับพวกเขา
ถ้าพวกเขามีอสูรสิงโตไฟเพลิง แล้วถ้าพวกมันไปถึงระดับซุน ซึ่งจะทำให้มันล้ำค่ามากกว่านี้
นอกจากนี้การมีสัตว์อสูรที่เดินอยู่ข้างๆพวกเขา ขณะที่พวกเขาเดินทางจะทำให้พวกเขา
ประทับใจและเป็นดั่งแม่ทัพ
ขณะที่ หลินเฟิง และกลุ่มคนที่กำลังเดินอยู่ มีฝูงชนมากขึ้นและใหญ่ขึ้นผู้คนต่างถูกดึงดูด
ด้วยความน่าประทับใจของคนกลุ่มนี้
เป็นเรื่องที่คุยกันอย่างกว้างขวาง ข่าวที่ใครบางคนต้องการที่จะขายอสูรสิงโตเพลิงได้แพร่
กระจายอย่างรวดเร็วผ่านเขต นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้คนจำนวนมากเข้ามาใกล้เพื่อดูภาพมัน
หลินเฟิง พอใจกับเรื่องนี้ เขากลัวว่าจะไม่มีคนมากพอที่จะสนใจซื้อ
ยิ่งคนสนใจมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น ด้วยวิธีนี้ราคาจะสูงมากซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับ
หลินเฟิง
หลินเฟิง มาถึงหน้าลานที่ทำขึ้นมาเพื่อการประมูลโดยเฉพาะ มีศาลาที่นั่งหลายพันที่นั่ง
สถานที่นี้ไม่ใหญ่เท่าอาณาเขตของลานประลองนักโทษ สถานที่แห่งนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่น
เมื่อมองไปที่วิวทิวทัศน์ ผู้คนสามารถชมการประมูลในขณะที่มีชามาบริการและตัดสินใจว่า
ต้องการซื้อของมีค่าหรือไม่
เมื่อ หลินเฟิง เห็นที่นี่เขาก็ยิ้มและเดินไปทางนั้น
เมื่อ หลินเฟิง กำลังจะมาถึงลานประมูล กลุ่มคนได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาทำให้เขาหยุดลง
"คนอย่างเจ้าไม่ควรมีอสูรสิงโตเพลิง " เด็กหนุ่มพูดอย่างเย็นชาในขณะที่จ้องมองไปที่
หลินเฟิง
หลินเฟิง มองและพูดอย่างเฉยเมย : "ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะออกไปให้พ้นทางของข้าและ
ไปไกลจากที่นี่"
คนเหล่านี้ต่างมึนงงเมื่อได้ยินเสียง หลินเฟิง พูด ปราณน้ำแข็งถูกปลดปล่อยออกจาก
ร่างกายของพวกเขา ทุกคนที่อ่อนแอได้ถอยห่าง
"เราจะจ่ายศิลาบริสุทธิ์ร้อยก้อนระดับกลางและมอบอสูรสิงโตเพลิงกับพวกข้า"
คนกลุ่มหนึ่งกล่าว
"ข้าให้โอกาสเจ้า แต่เจ้าก็ยังทำตัวขี้โกง" หลินเฟิง กล่าวต่อไปว่า "ข้าจะนับถึงสาม ถ้าเจ้าไม่
ไปให้พ้นทาง ข้ามีกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังข้าที่จะฆ่าเจ้า. ใครจะขายอสูรสิงโตเพลิงเพียงศิลาบริสุทธิ์
ระดับกลางร้อยก้อน? เจ้าคิดว่าข้าโง่รึไง? "
เมื่อพวกเขาได้ยิน หลินเฟิง การแสดงออกในกลุ่มก็เปลี่ยนไป มีหลายคนที่อยู่ข้างหลัง หลินเฟิง
ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและทำให้ดูว่าน่ากลัว พวกเขาต้องการบีบบังคับให้มอบอสูรสิงโต
เพลิงให้กับกลุ่มของพวกเขา
"หนึ่ง!" หลินเฟิง เริ่มนับ ในขณะนั้นผู้คนเริ่มก้าวไปข้างหน้ามากขึ้น
"สอง!" หลินเฟิง นับต่อ เขามีรอยยิ้มแปลกๆ เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มีท่าทีตอบสนอง
สายตาของ หลินเฟิง ก็เผยให้เห็นเจตนาฆ่า ซึ่งทำให้กลุ่มกลุ่มนี้ที่ขวางทางตกใจอย่างสมบูรณ์
"จำข้าไว้ นี่มันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก" เป็นผู้นำของกลุ่มที่ขู่ขวางทางและกลุ่มของพวกเขา
ก็เริ่มเคลื่อนออกไป
"ตามที่คาดไว้เจ้าไม่ยอมรับความปรารถนาดีของข้า ไอพวกปัญญาอ่อน" หลินเฟิง กล่าวอย่าง
เย็นชาและพูดว่า "ในชีวิตเจ้าต่อไปนี้ เจ้าควรเรียนรู้วิธีใช้สมองของเจ้าและอย่าข่มขู่ใครสักคน
ที่เพิ่งแสดงความเมตตาอันยิ่งใหญ่ให้ ”
"ใครบางคนที่กล้าที่จะพยายามที่จะให้มอบอสูรสิงโตเพลิงด้วยศิลาบริสุทธิ์ร้อยก้อนระดับกลาง!
ฆ่าคนเหล่านี้ทั้งหมดที่ข่มขู่ข้า และข้าจะเอาศิลาบริสุทธิ์ระดับกลางหนึ่งร้อยก้อนสำหรับการที่
เจ้าไม่คำนึงว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการประมูล "หลินเฟิง พูดอย่างเย็นชา
เขาดูสงบมากเช่นเคย แต่การแสดงออกบนใบหน้าของผู้คนที่ขวางทางก็ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก..
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น