ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 153


ตอนที่ 153 อสูรสิงโตเพลิง













หลิวเฟย ยืนอยู่ข้างหลังของ หลินเฟิง เธอมองไปที่เงาทั้งสองและกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า "อย่า
กังวลว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่ง ถ้ามีปัญหาที่ชายแดนพวกเขาจะรู้วิธีจัดการกับมัน "
 

หลินเฟิง ไม่ได้ตอบอะไร ชายแดนเป็นสถานที่ที่อันตราย เธอจะรับประกันได้อย่างไรว่ามัน
ไม่เป็ยอันตรายกับพวกเขา?

 
แต่ ปู้จุน ได้กล่าวไว้ว่าด้วยเครื่องหมายทาสบนใบหน้าของพวกเขา พวกเขาจะต้องสวมหน้า
กากตลอดเวลาในเมืองจักรพรรดิ วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการไปและปกป้องชายแดน
 

การตัดสินใจของ ปู้จุน เป็นเรื่องของผู้บ่มเพาะพลังปลูกที่เลือดร้อนและต้องการความกล้า
หาญมากนี่เป็นลักษณะที่ต้องใช้ในการเป็นนักเรียนทะหารภายในสถาบัน
 

"เจ้าฟื้นตัวจนเกือบหายดีแล้วจากอาการบาดเจ็บ แต่เจ้ายังต้องพักผ่อนนะ" หลิวเฟย
กล่าวเมื่อเห็น หลินเฟิง ไม่ตอบอะไรกลับมา

 
หลินเฟิง หัวเราะและพูดว่า : "นี่อันที่จริงแล้วเจ้าก็เป็นห่วงข้าเหรอ?"

 
การแสดงออกของ หลิวเฟย ได้เปลี่ยนไปและเธอพูดว่า : "ใครสนกันห่ะ? เจ้าคนต่ำช้า "

 
ขณะกำลังพูด หลิวเฟย เดินไปที่ประตูทันที หลินเฟิงยิ้มอย่างบูดเบี้ยว ดูเหมือนว่า หลิวเฟย
จะคิดแต่ว่าเขานั้นเป็นคนต่ำช้าอยู่ตลอดเลย
 

หลินเฟิง ส่ายหัวและเริ่มออกมา ข้างหลังเขา เขาได้ยินว่ามีใครบางคนติดตามเขามาด้วยนั้น
เป็น เมิ้งชิง เธอได้ติดตามเขาอย่างเงียบ ๆ
 

หลินเฟิง หยุดเดินแล้วหันกลับมายิ้มอย่างบูดเบี้ยวและกล่าวว่า "เมิ้งชิง เจ้าไม่จำเป็นต้อง
มากับข้าในครั้งนี้"

 
เมิ้งชิง ส่ายหัวและไม่ตอบ เธอขยับเข้าใกล้เขา หลินเฟิง ยิ้มแห้งๆแต่เขาไม่ได้พูดอะไร หลัง
จากที่ทุกอย่างได้เกิดขึ้น เมิ้งชิง รู้สึกเป็นห่วงว่าบางสิ่งอาจเกิดขึ้นกับ หลินเฟิง

 
นอกจากนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายถ้า เมิ้งชิง อยู่กับเขาเมื่อเขาอยู่นอก เขามีศัตรูเป็นจำนวนมาก

 
"ไม่ต้องกังวลไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นในตอนนี้หรอกข้าจะระวังตัว "หลินเฟิง กล่าวอีกครั้ง แต่ 
เมิ้งชิง ก็ยังไม่สนใจไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ตาม

 
"เมิ้งชิง ผู้คนจะจำข้าไม่ได้ในตอนนี้ แต่ถ้าเจ้าอยู่กับข้าพวกเขาจะจำพวกเราได้ทันที" หลินเฟิง
กล่าวขณะที่ถอดหน้ากากเงินออกและปิดหน้ากลับไปอีกครั้ง
 

เมิ้งชิง พูดทันทีว่า "เอาล่ะเจ้าไปคนเดียว ยังไงก็ต้องระวังตัวด้วย"

 
"ข้าจะพยายาม"หลินเฟิงกล่าวพร้อมยิ้มให้กับเธอ จากนั้นเขาก็หันกลับแล้วเดินจากไป
 

หลินเฟิง มาถึงหน้าสถานที่ซึ่งดูเหมือนเมืองเล็ก ๆ ในเมืองจักรพรรดิ เขาจ่ายค่าผ่านทางและ
เข้ามา โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาไปที่ลานประลองนักโทษ
 

เช่นเดียวกับครั้งล่าสุดลานประลองนักโทา เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก หลินเฟิง มองไปที่ผู้คน
จากด้านบนของเวที

 
หลินเฟิง เริ่มเดินลงบันไดไปอย่างช้าๆ แล้วจึงมองเห็นลานประลองได้ชัดเจนมากขึ้น

 
ภายในกรงมีทาสและสัตว์อสูรจำนวนมาก นั่นเป็นสถานที่ที่น่ากลัวที่เต็มไปด้วยกลิ่นอาย
แห่งความตาย

 
ในขณะนั้นมีใครบางคนขยับไปอยู่หน้า หลินเฟิง และขวางทางของเขา

 
หลินเฟิง มองไปที่คนที่อยู่ข้างหน้าเขาจากใต้หน้ากาก หลินเฟิงมอบศิลาบริสุทธิ์ปานกลาง
และคนเหล่านั้นก็ได้ปล่อยให้เขาผ่านไปโดยไม่มีปัญหาใด ๆ เขากำลังเข้าไปยังที่นั่งด้านล่าง

 
หลินเฟิง นั่งลงบนแถวแรกและมองไปที่ลานประลองอย่างใจเย็น

 
ในขณะนั้นสัตว์อสูรงูกำลังต่อสู้กับผู้บ่มเพาะพลัง หัวงูแบนและกว้างมันดูน่าเกลียดจริงๆ มี
แถวยังมีหมอกสีดำออกมาจากปาก

 
งูนั่นแข็งแกร่งมาก มันยังตัวเล็กเมื่อเทียบกับตัวโตเต็มวัย มันเป็นสัตว์เลื้อยคลานระดับจิต
วิญญาณขั้นที่สอง ยังต้องใช้เวลาในการโตเต็มวัย
 

สัตว์อสูรและผู้บ่มเพาะพลังค่อนข้างคล้ายกันเมื่อเริ่มบ่มเพาะพลัง การต่อสู้ทำให้ทั้ง
สองมีแข็งแกร่งขึ้นและได้ประสบการณ์ชีวิตที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับมนุษย์ สัตว์อสูรทั้งหลายนั้น
ไม่ได้มีศักยภาพที่เท่าเทียมกัน มนุษย์บางคนมีพรสวรรค์และความสามารถตามธรรมชาติใน
ขณะที่อีกคนไม่ได้มี สัตว์อสูรก็เช่นกันในเรื่องนี้ มีบางตัวที่อาจกลายเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวเมื่อ
โตเต็มวัยในขณะที่บางตัวนั้นมีความแข็งแกร่งที่จำกัด

 
สัตว์อสูรนั้นมีความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อไปถึงระดับจิตวิญญาณ แม้กระทั่งจะบอกว่าเมื่อ
ถึงจุดสูงสุดของระดับจิตวิญญาณบางครั้งพวกมันก็สามารถเอาชนะสัตว์อสูรตัวอื่นๆในระดับ
ต้นของระดับซุนได้ พวกมันนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แต่งูที่กำลังต่อสู้อยู่ในขณะนี้เป็นสัตว์อสูร
ระดับจิตวิญญาณขั้นที่สองเท่านั้น มันห่างไกลจากการโตเต็มไวอยู่มาก
 

สิ่งที่ หลินเฟิง แปลกใจก็คือการที่เขาจำผู้บ่มเพาะพลังที่กำลังต่อสู้กับงูนั้นได้
 เขารู้จักชายผู้นั้นเป็นอย่างดี


นั่นคือ หลินหง เป็นลูกชายของ หลินต้าเถาเป็นน้องชายของ หลินเซียน เขาเคยเรียนที่
หมู่บ้านภูเขาหิมะน้ำแข็งมาก่อน แต่มาเข้าร่วมกับลานศักดิ์สิทธิ์ซู่วเย่ว
 

ในขณะนี้ หลินหง ได้ตัดผ่านไปถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สองแล้ว หลินเฟิงไม่ได้รู้สึกว่า หลินหง
มีความแข็งแกร่งอะไรเป็นพิเศษ ตระกูลหลินเกลียดหลินเฟิงและเรียกเขาว่าขยะ พวกเขาคิดว่า
หลินเฟิง อ่อนแอเป็นพิเศษ แต่ในขณะนี้เขาได้ตัดผ่านไปถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นที่ห้าแล้ว อาจ
จะไม่มีสมาชิกรุ่นเยาว์ของตระกูลหลินคนไหนที่สามารถเอาชนะเขาได้ ในหมู่ผู้ที่แก่กว่าในตระกูล
ยังไม่มีใครที่สามารถเอาชนะ หลินเฟิง ได้ ความจริงที่ว่า หลินหง ได้ไตัดผ่านไปถึงชั้นจิตวิญญาณ
ขั้นที่สองเป็นเรื่องปกติธรรมดาและไม่มีอะไรพิเศษสำหรับใครบางคนที่มีพรสวรรค์
 

หลินเฟิง เหลือบไปมองฝูงชน จากนั้นกลุ่มคนก็ให้ความสนใจ พวกเขายังนั่งอยู่บนที่นั่งคนดู 
พวกเขาดู หลินหง และพูดพึมพำระหว่างกันและกัน

 
"มองไปที่งูตัวนั้นสิ แม้ว่าจะมีความแข็งแกร่งอย่างมาก หลินหง ก็สามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย
การโจมตีด้วยน้ำแข็งของ หลินหง อาจทำให้งูตัวแข็งได้เลย เห็นได้ชัดว่าเขาจะชนะการต่อสู้ครั้งนี้ "

 
"ฮี่ฮี่ แน่นอน เป็นเรื่องที่ดีที่ แม่นางหลินเซียน อนุญาต หลินหง ให้ต่อสู้กับงูตัวนี้ "

 
หลินเฟิง ได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างที่คนเหล่านี้กำลังพูด เขายิ้มอย่างเย็นชา ดูเหมือน หลินเซียน จะ
แข็งแกร่งขึ้นจากที่พวกเขาได้พบกันครั้งล่าสุด เธอนั่งอยู่กับ ฉู๋จั่นเผิง ซึ่งเคยเป็นนักเรียนที่ลาน
ศักดิ์สิทธิ์  ด้วยความแข็งแกร่งของเขามันเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะดูแล หลินเซียน การอยู่
ใกล้ชิดกับเขาสถานะของ หลินเซียน ในสังคมมีแต่สูงขึ้นไปและสูงยิ่งขึ้นเท่านั้น

 
"จิตวิญญาณน้ำแข็งและไฟ ... ข้าสงสัยว่าระดับการบ่มเพาะพลังของเจ้าในวันนี้ถึงไหนแล้ว ... "
หลินเฟิง กล่าว จากนั้นเขาก็หยุดมองไปที่ หลินเซียน เธอไม่มีความหมายอะไรกับเขาเลย

 
เขาหันกลับไปและยังคงเฝ้าดูการต่อสู้ ในขณะนั้นพลังปราณของ หลินหง ได้กดดันงูและ
เขาก็ใกล้จะชนะการต่อสู้
 

ในขณะเดียวกัน หลินเซียน ที่นั่งอยู่ห่างจาก หลินเฟิง ก็ไม่พอใจเมื่อเธอมองไปที่เขา เธอมอง
หน้ากากสีเงินของ หลินเฟิง คนที่สวมหน้ากากสีเงินที่กำลังนั่งอยู่บนที่นั่งผู้ชมและเฝ้าดูการ
ต่อสู้อย่างสงบ แสงไฟได้กระพริบผ่านสายตาของ หลินเซียน
 

"หือ?" หลินเซียน คิดขณะที่กำลังจ้องมองไปที่หน้ากากสีเงินนั้น ย้อนกลับมาที่เมืองหยางโจว
เธอเคยเห็นหน้ากากนั้นมาแล้ว ... และในขณะนี้เธอเห็นหน้ากากแบบเดียวกันอีกครั้ง

 
"มันเป็นเรื่องบังเอิญงั้นรึ?"หลินเซียน คิดในใจ
 

เธอไม่เคยลืมเศษขยะที่ถูกไล่ออกจากตระกูลหลินที่สวมหน้ากากแบบเดียวกันนี้

 
มันไม่น่าเป็นเขาไปได้ นิกายหยุนไห่ถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิง ผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่เป็นทาส 
เป็นไปไม่ได้ที่ หลินเฟิง จะนั่งนิ่งอยู่ที่ลานประลองนักโทษ และเฝ้าดูการต่อสู้อย่างสบายใจ
นอกจากนี้เขายังนั่งอยู่แถวหน้าอีก ...

 
หลินเซียน ไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่า หลินเฟิง นั้นรอดชีวิต เธอเพิ่งรู้ว่าทั้งทหาร
ม้าหุ้มเกราะฉีซู่วได้ไปที่นั่นและทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะไม่ไร้สาระไปหน่อยเหรอ ถ้ามี
คนหนีรอดไปได้? ไม่งั้นข่าวลือดังกล่าวคงแพร่กระจายไปแล้วมันน่าหัวเราะจริงๆ !

 
ในขณะนี้ หลินหง ในที่สุดก็ชนะอสูรงู เขาหยิบศิลาบริสุทธิ์แปดก้อนที่มีคุณภาพปานกลาง
และเดินไปทางออกของกรง

 
คนที่รับผิดชอบด้านข้างของกรงนำศพของงูออกไปและแทนที่ด้วยสัตว์อสูรตัวใหม่
 

เมื่อฝูงชนเห็นสัตว์อสูรตัวใหม่พวกเขาทั้งหมดก็ถึงกับมึนงง
 

สัตว์ป่าอสูรนั้นตัวสีแดงและถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง

 
พลังปราณที่รุนแรงได้ออกมาจากร่างกายของมัน

 
สัตว์ป่าอสูรที่ดูน่าเกลียดอย่างเหลือเชื่อ เมื่อเปิดปากมันก็จะมีฟันที่แหลมคมราวกับมีด
ปรากฏขึ้น สัตว์อสูรนั้นดูสง่างามจนแทบจะดูเหมือนกับราชาแห่งอสูร
 

สิ่งที่ฝูงชนแปลกใจก็คือว่ามันมีสองปีกสีแดงบนหลังของมัน

 
"สัตว์อสูรอะไรช่างน่าหวาดกลัวเยี่ยงนี้" หลินเฟิง คิด เมื่อเขาเห็นมัน มันดูสง่างามและพลัง
ปราณที่แข็งแกร่งอย่างมากได้ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของมัน แค่มองไปที่มันก็พอที่จะทำ
ให้ผู้คนถึงกับหวาดกลัวได้ ถึงแม้ว่าผู้เลี้ยงดูในกรงได้นำสัตว์เข้ามาข้างในเขาก็ระมัดระวัง
เป็นอย่างมากเขากลัวว่าสัตว์อสูรนั้นจะโจมตีเขาได้ทุกเมื่อ

 
"มันเป็นอสูรสิงโตเพลิง   ... . "หลายคนจำได้ว่า อสูรสิงโตเพลิง เป็นสัตว์อสูรที่น่ากลัวอย่างยิ่ง 
มีข่าวลือเกี่ยวกับพวกมันซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ถ้ามันได้มาถึงระดับซุน ก็กล่าวได้ว่า
มันจะได้รับพลังพิเศษและแทบจะอยู่ยงคงกระพัน

 
คนที่นำสัตว์เข้ามาในกรงเริ่มพูดเสียงดังว่า "นี่เป็นอสูรสิงโตเพลิง มันเป็นสัตว์ระดับจิตวิญญาณ
ขั้นที่ห้า คนที่ชนะมันได้จะได้รับศิลาบริสุทธิ์ที่มีคุณภาพปานกลางยี่สิบก้อน ถ้าหากสามารถ
ทำให้มันเชื่องได้ ได้โดยไม่ต้องฆ่ามัน ก็สามารถนำมันติดตัวกับไปได้ "
 



Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

Facebook