ตอนที่ 146 ทำเครื่องหมาย
"นี่เจ้าจะทำอะไรหน่ะ?" ไป๋ซื่อ ตะโกนด้วยความโกรธเมื่อเห็นเขาหยุดที่ทางเข้าของกรง
เวิ่นห่าวซื่อ เหลือบไปมอง ไป๋ซื่อ เวิ่นห่าวซื่อ พบว่าช่างน่าสมเพชที่ ไป๋ซื่อ ต้องมาอยู่ในสถาน
การณ์เช่นนี้เพราะความโง่เขลาของตัวเอง ไป๋ซื่อ คิดว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่มีอำนาจมากที่สุดใน
โลกและด้วยเหตุนี้เขาจึงตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้
"ถ้าข้าอยู่ตรงนี้ ข้าจะไม่ให้ใครหน้าไหนเข้าไปในกรงทั้งนั้น" เวิ่นห่าวซื่อ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่
เย็นชา
หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดว่า เวิ่นห่าวซื่อ นั้นโหดเหี้ยมใช่ย่อย ดูเหมือนว่าชายหนุ่ม
ที่สวยราวกับผู้หญิงคนนี้นั้นไม่สามารถคาดเดาได้ง่ายอย่างที่คิด
ไป๋ซื่อ จ้อง หลินเฟิง และเห็นว่าเขาไม่รีบไปฆ่าตน หลินเฟิง ยกดาบของตัวเองและค่อยๆเริ่ม
เดินไปทาง ไป๋ซือ อย่างช้าๆ
"เจ้าจะทำอะไรกับข้า?" ไป๋ซือ ที่แทบจะหายใจไม่ออกกล่าวขณะที่ความกลัวได้เริ่มกลืนกิน
จิตสำใต้นึกของเขา
อย่ากังวลไปเลย ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า "หลินเฟิง กล่าวอย่างเฉยเมย ไป๋ซื่อ ประหลาดใจ ทันทีหลังจาก
นั้นรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของ หลินเฟิง แล้วเขากล่าวว่า "ตระกูลของเจ้าชอบทำเครื่องหมาย
บนใบหน้าของผู้คนและทำให้พวกเขากลายเป็นทาสไปตลอดชีวิต ข้าจะทำเครื่องหมายบนหน้า
ของเจ้าเพียงเท่านั้น เรามาดูกันว่าเจ้าจะกล้าดูถูกเหยียดหยามและทำให้ทาสอับอายขายหน้า
อีกหรือไม่ "
ทำเครื่องหมายบนหน้า? เหมือนทาส?
"พวกเจ้าไม่ได้ยินรึไง? เข้ามาและช่วยข้าออกไป ! "ไป๋ซื่อ ตะโกนด้วยความโกรธขณะ
ที่เขาเริ่มร้อนรนมากขึ้น
บางคนเดินเข้าไปในกรงแล้วทันใดนั้น เวิ่นห่าวซื่อ ก็กระโดดขึ้นมาอยู่ข้างหน้าพวกเขาและกล่าวว่า
"ถ้าเข้ามาอีกสามก้าวข้าจะชักดาบของข้าออกมา ถ้าข้าถูกบังคับให้ชักดาบออก เมื่อนั้นดาบข้า
ต้องอาบไปด้วยเลือด "เวิ่นห่าวซื่อ กล่าวอย่างใจเย็น ทุกคนหยุดเดินไปที่กรง ไม่มีใครกล้าที่จะ
ก้าวไปข้างหน้า
"คนชั่วต้องถูกจัดการ" พลังปราณดาบจำนวนมหาศาลได้ถูกปลดปล่อยออกจากร่างกาย หลินเฟิง
ไป๋ซื่อ เต็มไปด้วยความกลัว เขาไม่ได้รับความช่วยเหลือขณะที่พวกคนเหล่านั้นอยู่ข้างนอกทั้งหมด
ต่างก็หวาดกลัวที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า
"ถ้าเจ้าปล่อยให้ข้าออกไปข้าจะให้ศิลาบริสุทธิ์จำนวนมากได้นะ แค่นั้นไม่พอข้าขอเสนอทักษะการ
ต่อสู้ระดับสูงและทักษะการเคลื่อนไหว "
"ข้อเสนองั้นรึ?" หลินเฟิง หัวเราะ คนที่มีฐานะร่ำรวยแท้จริงแล้วมักจะใช้วิธีการเช่นนี้โดยใช้เงินและ
อิทธิพล พวกเขาคิดว่าทุกคนอยู่ต่ำกว่าพวกเขาและสามารถซื้อได้ด้วยศิลาบริสุทธิ์เพียงน้อยนิด
"ถ้าข้าปล่อยเจ้าไป เจ้าจะให้ศิลาบริสุทธิ์ส่วนหนึงพร้อมทั้งทักษะการต่อสู้ระดับสูงและทักษะการ
เคลื่อนไหวด้วยงั้นรึ?" หลินเฟิง กล่าวอย่างเย็นชาก่อนที่จะพูดอีกว่า : "เจ้าคิดว่าข้าโง่งั้นรึ?"
หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ตระกูลไป๋จะไม่มีวันลืม หลินเฟิง พวกเขาจะไม่ปล่อยให้เขาออกไป
อย่างง่ายดายแน่ๆ
ถ้า หลินเฟิง ไม่ได้ทำอย่างนี้เขาจะไม่สามารถแก้แค้นให้ หานหมาน และเพื่อนคนอื่น ๆ ของเขาจาก
นิกายหยุนไห่ ซึ่งได้ถูกเปลี่ยนเป็นทาสไปต่อสู้และใบหน้าของเขาถูกล่วงเกินด้วยการทำเครื่องหมาย
ในลานประลองนักโทษ
หลินเฟิง และ ตระกูลไป๋ได้เป็นศัตรูกันแล้ว เขาต้องฆ่าพวกนั้นหรือพวกนั้นฆ่าเขา จะไม่มีสันติภาพ
ระหว่างพวกนั้นตราบเท่าที่ หลินเฟิง ยังมีชีวิตอยู่ หลินเฟิง คิดแบบนี้เพราะตอนนี้เขาเป็นประมุขของ
นิกายหยุนไห่
ไป๋ซื่อ ได้แสดงออกถึงสีหน้าที่น่าเกลียดออกมา เมื่อได้ยินคำพูดของ หลินเฟิง
"ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องข้าตระกูลไป๋ ไม่มีทางปล่อยให้เจ้าออกไปแน่และพวกเขาจะตามล่าเจ้าจนกว่า
เจ้าจะตาย"
"ตามที่คาดไว้เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริงๆ" หลินเฟิง กล่าวโดยไม่ฟังคำพูดของ ไป๋ซื่อ ในขณะนั้น ไป๋ซื่อ
ปล่อยเสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองออกมา มีการทำเครื่องหมายบนใบหน้าของ ไป๋ซื่อ
หน้าของ ไป๋ซื่อ ถูกจับด้วยมือและเลือดได้ไหลผ่านมือนั้นอย่างไม่หยุดหย่อน หลินเฟิง มองอย่าง
ช่างเย็นชาและไร้ความปราณี เขาไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น เขาไม่ได้รู้สึกสงสารหรือเห็นอกเห็นใจหลัง
จากได้เห็น ไป๋ซื่อ ในสภาพที่น่าสมเพชเช่นนี้
กับคนเช่นเจ้านี่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแก้ปัญหา จะต้องเข้าใช้ความรุนแรงเท่านั้น
หลินเฟิง ใช้ดาบของเขาเพื่อทำเครื่องหมายทาสไว้บนหน้า ไป๋ซื่อ ทันใดนั้นมันก็เต็มไปด้วยเลือด
จากการเฉือนด้วยดาบของเขาแล้วเอานิ้วหนึ่งของ ไป๋ซื่อ ที่ปิดหน้าออกไป
ไป๋ซื่อ สั่นด้วยความกลัวและความเจ็บปวดจากนั้นมันก็ทำให้เขาค้องทรุดตัวล้มลงกับพื้น
"อะไรที่ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมเช่นนี้!" คนจำนวนมากในฝูงชนคิด พวก
เขายังคงเงียบและจ้องมองคนที่อยู่ในกรงของลานประลองนักโทษ
ในวันนี้นั้นฝูงชนได้เห็นการแสดงที่น่าชื่นชม พวกเขาได้เห็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นและพวกเขา
ไม่เคยคาดหวังไว้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้
หลินเฟิง ที่ดูสงบลงและไม่แสดงอะไรออกมาเหมือนก่อนหน้านี้ เขายังคงถือดาบอยู่ในมือ เขา
หันกลับมาและพูดเบาๆ ว่า "ไปเถอะ"
หานหมาน และ ปู้จุน เดินไปกับ หลินเฟิง เวิ่นห่าวซื่อ เริ่มเดินกลับไปด้วยเช่นกัน ในขณะนั้น
บรรดาผู้ที่เข้ามาใกล้กรงเพื่อช่วย ไป๋ซื่อ รีบวิ่งไปเพื่อช่วยเขา
"กล้าดียังไงที่ไม่ฟังข้า ตายซะ" เวิ่นห่าวซื่อ พูดด้วยน้ำเสียงที่หนาวเหน็บ หลินเฟิง กำลังเดิน
อยู่ข้างหลังเขาและเลือดยังคงหยดจากดาบของ หลินเฟิง
ดาบของ หลินเฟิง ทำให้ทุกคนกลัว
หานหมาน กำลังเดินอยู่ข้างหลังพวกเขา แต่ละก้าวของเขาทำให้พื้นสั่นสะเทือน ทุกคนเข้าใจ
ได้ทันทีว่าเขานั้นแข็งแกร่งเพียงใด
คนเหล่านี้รู้ดี ถ้าพวกเขาขวางทางอาจไม่ใช่ความคิดที่ดี จึงไม่อยากลนหาที่ตายโดยเปล่า
ประโยชน์
ช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นฝูงชนก็มองเห็นเพียงหลังของ หลินฮองและเพื่อนของเขาเท่านั้น
เมื่อพวกเขาได้เห็น หลินเฟิง ลงไปในกรงพวกเขาไม่รู้ว่า หลินเฟิง ตั้งใจจะทำอะไร พวกเขา
ไม่คิดว่า หลินเฟิง จะฆ่าชายชราที่อยู่ในระดับชั้นจิตวิญญาณขั้นที่เจ็ด
"ไอขยะเอ้ย! เจ้ามันก็แค่ขยะ! "เสียงโกรธกระจายไปทั่วบรรยากาศของลานประลองนักโทษ
หลังจาก หลินเฟิง และเพื่อน ๆ จากไป มันเป็นชายหนุ่มที่สวมชุดเหลืองที่กำลังโกรธ ในวัน
นี้เขาได้รับความอับอายจาก หลินเฟิง มันเกิดขึ้นได้ยังไง? ข้าคนตระกูลหยูนะ !
พวกเขาไม่เคยถูกลบหลู่ ใครกันกล้าดียังไงมาทำให้ตระกูลหยูอับอาย?
เมื่อสมาชิกของตระกูลไป๋ เห็นชายหนุ่มชุดเหลืองลุกขึ้นยืน พวกเขาก็ประหลาดใจ
"ถ้ามีคนกล้าพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ข้าจะฆ่ามันคนนั้นทิ้ง!" ชายหนุ่มชุดเหลืองกล่าว
กับคนที่นั่งถัดจากเขาไป
พวกเขาประหลาดใจ แต่พวกเขาเชื่อฟังฟังและพยักหน้าตอบรับ แต่ภายในใจนั้นพวกเขา
กำลังดูถูกอยู่ เขาได้ยั่วยุ หลินเฟิง เขาได้ทำให้ ไป๋ซื่อ ได้รับผลที่ตามมาเช่นนี้... และด้าน
บนนั้นเขาได้ขอให้ฝูงชนห้ามบอกเรื่องนี้กับทุกคน เขากลัวที่จะขายหน้าและทำให้
ตระกูลหยูเสียหน้า
"หลินเฟิง ถ้าเจ้าไม่ตายข้าจะไม่มีวันกอบกู้ศักดิ์ศรีของข้าได้" ก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าพูด
เรื่อง หลินเฟิง เพราะเขากลัวว่า หลินเฟิง จะลงโทษเขาด้วย หลินเฟิง นั้นน่ากลัวมาก
เขาได้เห็นแล้วว่า หลินเฟิง ได้ทำเครื่องหมายลงบนหน้าของ ไป๋ซื่อ มันน่ากลัวเกินไป!
หลินเฟิง เป็นคนไร้ความปราณีออย่างแท้จริงเมื่อตอนที่เขาอยู่บนเวทีลานประลองนักโทษ!
............
ตัดกลับมา หลินเฟิง อยู่บนเตียงในห้องนอนทันใดนั้นเขารู้สึกว่ามีมือกำลังจะแตะหน้า
ผากของเขา
หลินเฟิง นอนส่ายหัวและค่อยๆลืมตา
ภาพเงาที่สวยงามกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา
ในขณะนั้น เมิ้งชิง ที่ดูไร้อารมณ์เธอได้มองไปที่ หลินเฟิง และกล่าวอย่างสุขุมว่า :
"เจ้าตื่นแล้วสินะ"
ร่างกาย หลินเฟิง เจ็บและรู้สึกแข็งไปทั้วตัวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าหลังจากต่อสู้กับชายชรา
แต่อวัยวะที่สำคัญของเขายังทำงานได้ดี
"เจ้าอยู่ที่นี่ตลอดเวลาเพื่อคอยดูแลข้าเลยงั้นรึ?" หลินเฟิง ถาม เมิ้งชิง
เมิ้งชิง ส่ายหน้าของเธอและกล่าวว่า "เปล่าซักหน่อย ครั้งนี้เพียงเท่านั้น"
"จริงรึ?" หลินเฟิง ถามอย่างไม่มั่นใจ
"ใช่ แล้วมีปัญหาอะไร?"เมิ้งชิง ตอบ หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจและหัวเราะ
ทันใดนั้นประตูได้เปิดออกอย่างเสียงดัง หลิวเฟยเข้ามาในห้อง เมิ้งชิง ยืนขึ้นและกล่าวว่า
"เขาตื่นแล้ว เจ้าไปไปคุยกับเขาสิ."
เมื่อพูดจบ เมิ้งชิง ก็รีบออกไป หลิวเฟย ทำหน้าแปลกใจด้วยความงุนงง
เมิ้งชิง ไม่ได้ปล่อยให้ หลินเฟิง อยู่เพียงลำพังแม้แค่วินาทีเดียวแม้กระทั่งตอนที่เขากำลัง
หลับอยู่ ทำไมเธอจึงรีบออกจากห้องเมื่อเขาตื่นขึ้นมาล่ะ?
"เอาล่ะ" หลิวเฟย กล่าวขณะพยักหน้าแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจ เธอได้เดินไปที่เตียงของ หลินเฟิง
และมองด้วยความโกรธไปที่เขาซึ่งทำให้ หลินเฟิง ตกใจ
ข้าเพิ่งตื่นขึ้นมาทำไม หลิวเฟย จึงได้โกรธข้านั? ข้าทำอะไรผิดอีก?
"ทำไมเจ้าถึงทำอะไรเช่นนี้ เจ้าไม่เคยคิดถึงผลที่ตามมาบ้างรึไง?" หลิวเฟย ถาม
เธอโกรธอย่างเห็นได้ชัดเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นที่ลานประลองนักโทษ
หลินเฟิง ยิ้มแล้วหัวเราะและคิดว่า "ผลที่ตามมาอะไรหว่า?"
เมื่อเขาเห็นว่าเพื่อนจากนิกายหยุนไห่ของเขาได้กลายเป็นทาสและถูกตีตราทำเครื่องหมายราว
กับเป็นสัตว์ หลังจากการทำลายล้างนิกายแล้วจะให้เขาทำอย่างไรได้ล่ะ?
"เพื่อคนที่มีใบหน้าที่สวยงามและอ่อนโยนเช่นเจ้าแล้ว ข้าก็จะทำหน้าเช่นนี้และไม่สนใจผลที่ตาม
มาเช่นกัน" หลินเฟิง กล่าวติดตลกขณะหัวเราะ
เมื่อ หลินเฟิง พูดจบหัวใจของ หลิวเฟย เริ่มเต้นรัวในอกและใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง !!
มันช่างดูสวยงามและอ่อนโยน !!
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น