ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 137


ตอนที่ 137 การต่อสู้ที่เอาชีวิตเป็นเดิมพัน









ตอนนี้ทำไม?


หลินเฟิง พยักหน้าและกล่าวอย่างเย็นชา "ตอนนี้ถ้าเจ้าพูดจบแล้วสินะ ข้ามีอะไรจะบอกเจ้า
ซักหน่อย น้องชายคนเล็กของเจ้านั่นเป็นเพียงขยะ เขาไม่มีค่าพออะไรเลยในสายตาของข้า
เขาพยายามที่จะขโมยห้องฝึกฝนของข้าไปดังนั้นข้าต้องทำให้เขาออกไป แต่เนื่องจากเขา
เป็นน้องชายคนเล็กของเจ้าเขาคิดว่าไม่มีใครกล้าท้าทาย จากนั้นเขาก็ทำลายกฎของสถาบัน
และคุกคามเพื่อนของข้าทุกวันเป็นเวลากว่าสามเดือน ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้า เขาดูถูก
เพื่อนของข้าและขัดขวางการฝึกของเธอ ข้าผิดด้วยรึที่ฆ่าเขา? "หลินเฟิง กล่าวขณะกำลัง
มองไปที่ เฮ๋ยหม่า

"เจ้าฆ่าน้องชายของข้า ... อันที่จริงส่วนหนึ่งเจ้าก็พูดถูก  แต่ว่า ... " เฮ๋ยหม่า กล่าวเขาต้อง
การพูดต่อ แต่ถูกขัดจังหวะโดย หลินเฟิง : "เจ้าบอกว่าเจ้าพูดจบไปแล้ว ดังนั้นโปรดหุบปาก!"


"ฮะ?" ฝูงชนต่างมึนงง ผู้ชายคนนั้นก้าวร้าวอย่างมากและกล้าสั่ง เฮ๋ยหม่า ให้หุบปาก เขา
คิดว่าทำตัวแบบนี้ได้เพราะมี เวิ่นห่าวซื่อ อยู่ข้างๆเขารึไง!


เฮ๋ยหม่า มึนงง แต่ทันใดนั้นเขาก็บอกว่า "เอาล่ะพูดต่อไป"


"เจ้าพูดเองนะว่าทีข้าฆ่าน้องเจ้าก็มีส่วนถูก น้องชายคนเล็กของเจ้าทำผิดกฎของสถานั่นเป็น
เพราะเจ้ายอมให้เขาทำเช่นนั้น เพราะเจ้ายอมให้น้องชายคนเล็กของเจ้าทำให้ข้าขายหน้า ถือว่า
เจ้าก็ทำให้ข้าขายหน้าโดยทางอ้อมเช่นกัน เมื่อเขาต้องการฆ่าข้าเจ้ายังยินดีที่ให้การสนับสนุน
แก่เขา ดังนั้นก่อนที่เจ้าจะทำให้ข้าขายหน้า เจ้าโกรธเพราะเจ้าเสียหน้าเมื่อสิ่งต่างๆไม่เป็นไปตาม
ที่วางแผนไว้ อาจเป็นได้ว่าเจ้านั้นโง่เง่าที่คิดว่าข้ายินดีที่จะยอมเสียหน้าเพียงเพราะเจ้านั้นแข็ง
แกร่ง "หลินเฟิง กล่าวด้วยเสียงที่จริงจังทำให้ทั้งฝูงชนมึนงงอีกครั้ง


ใช่แล้ว. คนประเภทนี้เห็นสิ่งต่างๆจากมุมมองของพวกเขาเองเท่านั้นและไม่มีทางเข้าใจมุมมอง
ของผู้อื่น


"แม้ว่าสิ่งที่เจ้าพูดจะเป็นความจริงแล้วยังไงล่ะ?" เฮ๋ยหม่า กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ต่างไปจากเดิม


"ข้าได้พบเจอผู้คนจำนวนมากมายที่คิดว่าพวกเขาอยู่เหนือทุกสิ่งในโลก ข้าได้แสดงให้พวกเขา
เห็นว่าพวกเขานั้นโง่งมและไร้สาระเพียงใด "หลินเฟิง กล่าวอย่างเฉยเมย จากนั้นเขาก็ยังพูดอีกว่า
: "เจ้าคงคิดว่าข้าพูดแบบนี้เพราะ เวิ่นห่าวซื่อ อยู่ที่นี่ อย่างไรก็ตาม เวิ่นห่าวซื่อ จะอยู่ที่นี่หรือไม่
เจ้าก็ไม่มีพลังพอที่จะฆ่าข้าได้ "


อย่าพยายามปฏิเสธสิ่งที่ข้าได้พูดไป เจ้ามีโอกาสที่จะฆ่าข้าได้ตลอดเวลาและเจ้าจะได้เห็นสิ่งที่
เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหมายเอาชีวิตของข้า เช่นเดียวกับที่เจ้ากล่าวไว้ว่าเมื่อมีคนกระทำความผิดต้อง
มีการลงโทษและบางครั้งราคาที่ต้องจ่ายก็อาจเป็นชีวิตของเจ้า "หลินเฟิง กล่าวดูเหมือนว่าเขา
กำลังขู่ เฮ๋ยหม่า


บางคนในฝูงชนขมวดคิ้ว ไม่เพียงแต่ หลินเฟิง จะพูดว่า..ไม่ว่า เวิ่นห่าวซื่อ จะอยู่ที่นั่นหรือไม่ก็
ตาม เฮ๋ยหม่า ไม่สามารถฆ่าเขาได้แล้วยังบอกด้วยว่า เฮ๋ยหม่า อาจจะตายหากทำเช่นนั้น


แต่ หยวนชาน ไม่สงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่ หลินเฟิงกล่าวไว้แม้แต่น้อย เขารู้ว่า เมิ้งชิง จะปกป้อง
หลินเฟิง  เขาได้เห็นพลังของเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง


เฮ๋ยหม่า มึนงงและพูดอย่างเย็นชา : "เจ้ามั่นใจในตัวเองสูงเหลือเกินนะ"


"ข้าไม่เคยมีความมั่นใจสูงเช่นนั้นและข้าก็ไม่เคยหยิ่งหรือคิดว่าข้าอยู่เหนือใคร ข้าไม่ใช่เจ้า
ที่กล้าพูดถึงชีวิตของคนอื่น ๆ ราวกับเป็นลูกไก่อยู่ในกำมือ นั่นมันไม่อวดดีเกินไปหน่อยรึ?
เจ้าคิดว่าเจ้าอยู่เหนือกว่าคนอื่น ๆ ในโลกนี้รึไง?ข้าอยากถามเจ้าหน่อยพลังเจ้าอยู่ระดับไหน? "


อวดดี? อยู่เหนือกว่าผู้อื่นในโลก?


เฮ๋ยหม่า ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า : "ข้าสามารถจัดการเจ้าด้วยสองนิ้วของข้าและฆ่าเจ้าได้
อย่างง่ายดาย ข้าได้ตัดผ่านไปถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นที่หกแล้ว ... "


"แล้วเจ้ายังกล้าที่จะอวดดี เจ้านี่ช่างไร้สาระจริงๆ เจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่ๆ "หลินเฟิง ได้ขัดจังหวะ
จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "เจ้าเพียงแค่ตัดผ่านชั้นยังชั้นจิตวิญญาณขั้นที่หกและเจ้ากล้าพูดเรื่อง
นั้นราวกับว่าเจ้าเป็นหนึ่งในนักบ่มเพาะพลังที่ไร้เทียนทานที่สุดในโลก แม้การที่เจ้านั้นบอกว่า
สามารถจัดการข้าด้วยนิ้วมือของเจ้าและฆ่าข้าได้ก็ตามที ข้าว่าเจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่ๆ! มีเพียง
พลังชั้นจิตวิญญาณขั้นที่หกเท่านั้นมันก็ไม่มีได้มีอะไรพิเศษ ช่างไร้สาระจริงๆ "


"โลกนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมีอัจฉริยะนับล้านคน ... และเจ้ายังกล้าพูดถึงตัวเองราวกับว่าเจ้านั้น
เป็นคนพิเศษและคนอื่น ๆอยู่ต่ำกว่าตัวเจ้า ข้าจะบอกอะไรกับเจ้าซักหน่อย : เจ้าเป็นเพียงหนู
ตัวเล็กๆที่มองเห็นได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น "


"พลังของผู้คนในโลกนี้มันยังไงกันแน่!"


"เป็นคำพูดที่เฉียบคมยิ่งนัก!"


มีบางคนในฝูงชนกล่าวขณะที่มองไปที่ เฮ๋ยหม่า ที่ถูกพูดจาดูถูกโดย หลินเฟิง เฮ๋ยหม่า ได้ตัด
ผ่านไปยังชั้นจิตวิญญาณขั้นที่หก ซึ่งไม่ถือว่าเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งมากนักในโลกภาย
นอก แต่ในสถาบันไม่มีใครกล้ายั่วยุเขา แทบจะไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้เลย แม้แต่
นักเรียนบางคนที่อยู่ชั้นจิตวิญญาณขั้นที่เจ็ดก็ไม่อยากต่อสู้กับเขา


แต่การบอกว่าชั้นจิตวิญญาณขั้นที่หกเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์อย่างมากในเส้นทางการบ่มเพาะ
พลัง เห็นได้ชัดว่าเป็นการพูดเกินจริง


จิตใจของเขาน่าเกลียดเหมือนกับท่าทางของเขา


หลินเฟิง หยุดพูดไปไม่กี่วินาทีและพูดต่อ : "แน่นอนเจ้าอาจคิดว่าเจ้านั้นเก่งกาจเพียงเพราะ
เจ้าเป็นหนึ่งในสิบนักเรียนที่ดีที่สุดของสถาบัน แต่เจ้าก็เหมือนหนูตัวเล็กๆไม่ได้มีความหมาย
อะไรเลยในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง ตอนนี้ข้าอยากจะถามว่าในเวลาสามเดือนถ้าข้าอยาก
จะท้าเจ้าสู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการต่อสู้ เจ้าจะกล้ายอมรับข้อเสนอไหม? "หลินเฟิง กล่าว


ทั้งฝูงชนตื่นตระหนก


หลินเฟิง กล้าท้าสู้กับหนึ่งในสิบนักเรียนที่ดีที่สุดของสถาบันนั้นคือ เฮ๋ยหม่า แล้วเขายังกล้าท้า
สู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันอีก


หลินเฟิง เพิ่งจะเข้าเรียนที่สถาบัน เขาคงไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่


"แน่นอน เขาไม่รู้ว่า เฮ๋ยหม่า มีพลังมากแค่ไหน"


"เด็กน้อยคนนี้กำลังทำลายชีวิตตัวเอง เขานั้นบ้าไปแล้ว "


ฝูงชนกำลังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ หลินเฟิง ไม่มีใครเชื่อว่า หลินเฟิง จะสามารถชนะได้
พวกเขาทุกคนคิดว่า หลินเฟิง กำลังประมาทและสูญเสียความรู้สึกและเหตุผลไป


แม้กระทั่งเพื่อนของ หลินเฟิง ก็ประหลาดใจไม่น้อยและไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งพูดไป พวกเขารู้
ว่า หลินเฟิง นั้นแข็งแกร่ง แต่แน่นอนว่าเขาไม่สามารถเอาชนะ เฮ๋ยหม่า ได้นั่นมันบ้ามาก


เวิ่นห่าวซื่อ มองไปที่ หลินเฟิง เขามั่นใจว่าหลินเฟิงจะสามารถเอาชนะในการต่อสู้นี้ได้


แน่นอนว่า หลินเฟิง ได้สร้างความอับอายให้กับ เฮ๋ยหม่า โดยการท้าเขาสู้


นักเรียนที่เพิ่งเข้ามาเรียนในสถาบันได้ทำให้น้องชายเขาขายหน้าแล้วยังทำให้เขาอับอาย
อีกสองครั้งแล้วยังท้าเขาสู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการต่อสู้อีก เขาได้เสียหน้าอย่างสมบูรณ์


เฮ๋ยหม่า มั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะแพร่กระจายไปทั่วสถาบันและเขารู้ว่านักเรียน
ระดับอื่น ๆ จะได้ยินเรื่องเหล่านี้แน่นอน


ในขณะนั้นหน้าที่ชั่วร้ายของ เฮ๋ยหม่า ดูยิ่งเลวร้ายและน่ากลัวมากขึ้น


เปลวไฟได้ลุกโชตช่วงในดวงตาของเขาดูแล้วช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ


"เจ้าคิดว่าเจ้าเสียหน้าเต็มๆสินะ?" หลินเฟิง ยิ้มแล้วถาม จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "เจ้ากำลังจะ
เสียหน้าอีกครั้ง เป็นเพราะข้าสืนะ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้าได้นำคนจำนวนมากไปกับเจ้า
เจ้าไม่เคยคิดเลยรึไงว่าข้าก็เสียหน้าเช่นกัน? "


"ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องมองข้าด้วยสายตาแบบนั้น ถ้าเจ้าต้องการกู้ชื่อเสียงของเจ้าคืนละ
ก็เจอกันในอีกสามเดือน แสดงให้ทุกคนเห็นหน่อยว่าเจ้า เฮ๋ยหม่า สามารถที่จะหยิ่งยโยได้
เพราะเจ้าเป็นนักบ่มเพาะพลังที่ยอดเยี่ยมจริงๆ "


เฮ๋ยหม่า มองด้วยความโกรธเคืองเขามอง หลินเฟิง และกล่าวว่า "ในอีกสามเดือนเจ้าจะเข้า
ใจว่าเจ้านั้นน่าสมเพชเวทนาจริงๆ"



เมื่อพูดเสร็จ เฮ๋ยหม่า หันกลับแล้วเดินจากไป


ทั้งฝูงชนประหลาดใจที่ เฮ๋ยหม่า ยอมตอบรับการต่อสู้ครั้งนี้


สามเดือนหลังจากนี้เขาจะทำให้ หลินเฟิง ต้องเสียใจกับความท้าสู้ตลอดไป


ฝูงชนได้มองไปที่ด้านหลังของ เฮ๋ยหม่า ที่เดินจากไปไกลแล้วมองไปที่ หลินเฟิง อีกครั้ง
พวกเขาตื่นเต้นอย่างมากและไม่สามารถอดทนรอชมการต่อสู้ครั้งนี้ได้


ทำไม หลินเฟิง ถึงท้าเขาสู้? เขามีความแข็งแกร่งเพียงใดถึงกับกล้าท้าสู้โดยเอาชีวิต
เป็นเดิมพันถึงความตาย?


ในเวลาสามเดือน เฮ๋ยหม่า จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากและสามารถกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมาได้


.....................................


สามเดือนเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว มันไม่ได้เป็นเวลานานนักในโลกของการบ่มเพาะ
พลัง


หลินเฟิง มองไปที่เพื่อนของเขา จากนั้นพวกเขาก็เริ่มเดินไปที่ทางออกของสถาบัน


เวิ่นห่าวซื่อ มองไปที่ หลินเฟิง แล้วกล่าวว่า "เฮ๋ยหม่า อยู่ที่จุดสูงสุดของชั้นจิตวิญญาณขั้น
ที่หก แม้กระทั่งนักเรียนที่อยู่ชั้นจิตวิญญาณขั้นที่เจ็ดด็ไม่กล้าท้าเขาสู้  แทบจะไม่มีใคร
สามารถเอาชนะเขาได้ในสถาบัน... แล้วพลังของเจ้าละอยู่ในระดับไหนแล้ว? ชั้นจิตวิญญาณ
ขั้นที่สี่ไม่ก็ห้า.... จ้าไม่สามารถเอาชนะเขาได้หรอก นอกจากนี้ เฮ๋ยหม่า ที่อยู่อยู่จุดสูงสุดของ
ชั้นจิตวิญญาณขั้นที่หกมีการพัฒนาที่รวดเร็ว มันจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับเจ้าที่จะเอาชนะ
ได้เพราะตอนนี้ถ้าเขายังคงพัฒนาต่อไป "


หลินเฟิง ยิ้ม เขารู้ว่ามันไม่ง่าย จากนั้นเขาก็กล่าวว่า : "ข้าต้องการกลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง
กว่าคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว"


เวิ่นห่าวซื่อ พยักหน้า เขาไม่เข้าใจจริงๆว่า หลินเฟิง หมายถึงอะไร ทำไมต้องเป็น เฮ๋ยหม่า?


หลินเฟิง เห็นการแสดงออกทางสีหน้าของ เวิ่นห่าวซื่อ แล้วเขากล่าวว่า "บ่อยครั้งที่ความ
แข็งแกร่งจะปรากฏขึ้นเมื่อตกอยู่ในอันตรายเจ้าต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อให้แข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว


เมื่อเขาได้ยินที่ หลินเฟิง กล่าว, เวิ่นห่าวซื่อ ก็มึนงงเสี่ยงชีวิตเพื่อให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นงั้นรึ?
หลินเฟิง ช่างเป็นคนที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ....





Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

Facebook