ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 130


ตอนที่ 130 ชั้นที่6













"ให้ข้าฝึกฝนอย่างสงบๆหน่อยเถอะ! ไปให้พ้น! "หลินเฟิง กล่าวอย่างเย็นชา ในขณะนั้น
บรรยากาศเริ่มหนาวขึ้นมาอีกครั้ง
 

ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มีการแสดงออกที่หยิ่งเหมือนเดิมอีกต่อไป เขามองอย่างหวาดกลัว 
หลินเฟิง นั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ!
 

"แล้วข้าจะทำยังไงได้ล่ะ?" ฝ่ายตรงข้ามกล่าวขณะที่เขาดูถูกตัวเอง ที่ต้องมาเจอคนที่
แข็งแกร่งกว่าอย่าง หลินเฟิง
 

ในขณะนั้นคนอื่นๆที่อยู่ในห้องอื่นๆก็สูญเสียสมาธิในการฝึกฝนและการบ่มเพาะพลัง
ของพวกเขาถูกขัดจังหวะอย่างมาก พวกเขารู้สึกได้ถึงปราณน้ำแข็งที่หนาวเย็นของ หลินเฟิง
มันได้บุกเข้าไปในหอคอยทั่วทั้งหมดและมีแรงกดดันอย่างเหลือเชื่อ แน่นอนพวกเขาไม่ได้ไป
และดูสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่ต้องการที่เผชิญหน้ากับความยากลำบากจากใครบางคนที่
สามารถสร้างปราณที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้
 

"เจ้าจะออกไปจากที่นี้หรือไม่?" หลินเฟิง กล่าวอย่างดุดันพร้อมด้วยดวงตาที่เบิกกว้างกับเจตนา
ที่จะฆ่า ศัตรูกำลังสั่นจากหัวจรดเท้า
 

เขาเหลือบไปมองที่ หลินเฟิง อย่างชั่วร้ายและเดินไปหาห้องอีกห้องหนึ่งภายในหอคอย ห้องปัจจุบัน
ของเขาตอนนี้เป็นของ หลินเฟิง
 

"ผู้ที่แข็งแกร่งสามารถรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าตนด้วยความแข็งแกร่งนั้นทำให้ผู้ที่อ่อนแอกว่า ไม่กล้า
ตอบโต้  นั่นคือความเป็นจริงในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง "หลินเฟิง คิดขณะเรียกจิตวิญญาณของ
เขากลับเข้าไปในร่าง  ชายหนุ่มชุดดำต้องการขโมยห้องของ หลินเฟิง จนกระทั่ง หลินเฟิง แสดง
พลังที่แท้จริงของเขา เขาคิดว่า หลินเฟิง นั้นอ่อนแอ
 

คนที่สองก็อยากจะยึดห้อง หลินเฟิง เพราะรบกวนการฝึกฝนของเขา แต่เมื่อพิจารณาถึงความ
แข็งแกร่งของ หลินเฟิง ที่แสดงให้เห็นแล้วคนที่สองก็กลัวและจากไปทันที เขาไม่กล้าที่จะทำอะไร
กับคนที่แข็งแกร่งกว่า
 

เส้นทางการบ่มเพาะพลังเต็มไปด้วยคนที่มีจิตใจอำมหิตคำว่า "เมตตา" ไม่มีความหมายอะไรเลย 
คนที่อ่อนแอและเป็นมิตรจะถูกรังแกอย่างต่อเนื่อง คนที่แข็งแกร่งและชอบรังแกผู้อื่นกลับถูกนับถือ
คนที่แข็งแกร่งได้รับความเคารพยกย่องจากทุกคน
 

"หยวนชาน, เจ้าใช้ห้องนั้นได้ เจ้าควรเตรียมศิลาบริสุทธิ์บางส่วนของเจ้าไว้ด้วย ถ้าก้อนศิลา
สามก้อนที่ข้าวางไว้ไม่เพียงพอในการฝึกฝนเป็นเวลาสามเดือนโปรดใช้ของเจ้าเองเผื่อไว้ด้วย "
หลินเฟิง บอก หยวนชาน หยวนชาน พยักหน้า เขาไม่อยากขัดใจ หลินเฟิง ที่ออกมาจากห้อง
ที่กำลังฝึกฝน  เขาเชื่อมั่นว่าการพึ่งพาความแข็งแกร่งของ หลินเฟิง จะไม่มีใครหน้าไหนกล้า
มาเผชิญหน้ากับ หลินเฟิง ในการหาห้องอื่นภายในหอคอย
 

"ต้วนเฟิง และ จิ้งหยุน นั้นอ่อนแอเกินไป ถ้าปราณบริสุทธิ์หนาแน่นและเข้มข้นมากเกินไปจะ
ไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขา หลิวเฟย เธอไปที่ห้องนั้น "หลินเฟิง ชี้ไปยังอีกห้อง
 

ต้วนเฟิง และ จิ้งหยุน ไม่ได้พูดอะไร แต่ หลิวเฟย กล่าวว่า "ถ้าข้าใช้ห้องนั้นแล้วเจ้าละ?"
 

"ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก ข้าจะหาห้องอื่นที่เหมาะสำหรับข้ามากกว่านี้ "
 

“ตามนั้น.”
 

"แล้วเจอกันในอีกสามเดือน" หลิวเฟย กล่าวแล้วเดินเข้าไปในห้องฝึกฝนทันที
 

หลินเฟิง พา ต้วนเฟิง และ จิ้งหยุน ตามไปเพื่อช่วยพวกเขาหาห้องที่พวกเขาบ่มเพาะพลังได้
 ชั้นที่สิบเอ็ดและสิบสองทุกห้องเต็มหมด พวกเขาจึงขึ้นไปยังชั้นที่สิบสาม จากนั้นเขาก็พบ
ห้องสองห้องที่ว่างอยู่


จากชั้นที่สิบเอ็ด ห้องทุกห้องต้องใช้ศิลาบริสุทธิ์คุณภาพต่ำ พวกเขาต้องการศิลาบริสุทธิ์
คุณภาพต่ำเพียงก้อนเดียวสำหรับหนึ่งวัน ศิลาบริสุทธิ์คุณภาพปานกลางของ หลินเฟิง
นั้นเพียงพอที่จะฝึกฝนเป็นเวลาสามเดือน
 

มันทำให้ หลินเฟิง ถอนหายใจด้วยความเสียใจบางอย่าง ต้นทุนการบ่มเพาะพลังนั้นสูงเกินไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยากบ่มเพาะพลังให้เร็วขึ้น ถ้าเขาไม่ได้ไปที่วิหารโบราณเขาก็คงไม่มี
ศิลาบริสุทธิ์แน่นอน ตอนนี้ต้องขอบคุณวิหารโบราณที่ไม่ได้มีเพียงแต่ศิลาคุณภาพต่ำ แต่
มีศิลาบริสุทธิ์คุณภาพปานกลาง

 
ยิ่งคนเดินเข้าไปในหอคอยสูงขึ้นมากเท่าไรก็ยิ่งมีผู้คนน้อยลงและทำให้มีห้องว่างเปล่ามากขึ้น 
คนที่ตั้งใจจะฝึกในห้องเหล่านี้ไม่ได้แข็งแกร่งนัก พวกเขามักไปไม่ถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สาม 
พวกเขาเป็นนักเรียนที่ไม่ได้มีศิลาบริสุทธิ์มากมายในการฝึกฝน
 

ในทางตรงกันข้ามผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งนั้นมีศิลาบริสุทธิ์มากมาย นักบ่มเพาะพลังคนนั้น
ต้องการที่จะฝึกลงไปชั้นที่ต่ำลงไปของหอคอยและถ้าพวกเขาแข็งแกร่งพอพวกเขาก็จะฝึกที่
ชั้นใต้ดินซึ่งอยู่ติดกับพลังปราณฟ้าดินที่มีความหนาแน่นเข้มข้นอย่างมาก

 
นี่คือวัฏจักรที่เลวร้ายคนที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วก็จะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งในขณะที่คน
ที่อ่อนแอกว่าก็จะมีความก้าวหน้าช้ากว่าอย่างมาก
 

หลินเฟิง เป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่และเขาต้องการห้องที่ดีกว่านี้ เขาไม่อยากอยู่ที่ด้านบน
ของหอคอยดังนั้นทันทีเขารีบเดินกลับลงไป เขาเดินผ่านชั้นที่สิบเก้า ... และมาถึงชั้นที่หก
เขาก็หยุดลงทันที

 
มีห้องสำหรับฝึกฝนอยู่แปดห้องอยู่ที่ชั้นหก หากมีห้องว่างหลุมที่ใช้ใส่ศิลาบริสุทธิ์จะ
กะพริบเล็กน้อย
 

หลินเฟิง เดินไปรอบ ๆ และหยุดอยู่ตรงมุมห้องระหว่างสองห้อง จากนั้นเขาก็นั่งลงและ
เริ่มนั่งสมาธิ
 

ความรู้สึกที่สดชื่นและปราณที่บริสุทธิ์ได้ห่อหุ้มร่างกายของเขา

 
ชั้นที่หกไม่ไกลจากพื้นดินมากนัก แม้ว่า หลินเฟิง จะไม่ได้อยู่ในห้องก็ตาม ปราณที่บริสุทธิ์
ซึ่งอยู่นอกห้องยังคงหนาแน่นกว่าปราณบริสุทธิ์ในห้องของชั้นที่สิบ บนชั้นที่สิบต้องจ่าย
ศิลาคุณภาพระดับต่ำสามกก้อนในหนึ่งวันเพื่อใช้ห้อง ถึงไม่ได้อยู่ในห้อง แต่นั่งอยู่นอกห้อง
ของผู้ที่ใช้ห้องชั้นที่หก จึงเป็นประโยชน์มากกว่าในการบ่มเพาะพลังของเขา
 

ถ้านักเรียนเลือกชั้นได้ตามใจปรารถนาพวกเขาจะไปที่ชั้นล่างสุด แต่ก็ชัดเจนว่าทุกคนที่อยู่
ชั้นแรกสุดจะมีความแข็งแกร่งอย่างมาก มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่มีโอกาสได้เลือกห้องชั้นแรก
ได้ ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้รับเลือกให้เข้าถึงสิ่งที่ดีที่สุดในโลก

 
แต่ หลินเฟิง ในขณะนี้กำลังฝึกฝนอยู่นอกห้องที่ชั้นหก ทันทีที่เขาอยู่ในสภาวะของการฝึก
ฝน เขาไม่คิดว่าทุกวินาทีนั้นไม่ได้เหมือนปกติทั่วไป
 

ไม่นานหลังจากนั้นมีบางคนเดินผ่านไปและได้เห็น หลินเฟิง ฝึกอยู่นอกห้องฝึกฝน พวกเขา
คิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกจริงๆที่จะทำแบบนี้ในหอคอยชั้นที่ต่ำลงมา  พวกเขาประหลาดใจ
อย่างมากในการกระทำของเขา

 
"นั่นมันอะไรกัน…? ช่างน่าแปลกใจที่มีคนนั่งสมาธิอยู่นอกห้องที่อยู่ในชั้นล่าง เขาไม่กลัว
ที่จะถูกรบกวนอการบ่มเพาะพลังรึไง  "มีคนสงสัยเมื่อเห็น หลินเฟิง ทำแบบนั้น
 

การบ่มเพาะพลังคือการบรรลุสันติสุขและความสงบในจิตใจ มันเป็นไปได้ที่จะมีประสิทธิภาพ
ในซึมซับพลังปราณฟ้าและดินได้ก็ต่อเมื่อสภาวะจิตใจดังกล่าวนั้นสงบนิ้ง
 
 
คนขี้อิฉาจะไม่ลังเลที่จะพยายามรบกวนเขา
 

แต่ หลินเฟิง นั่งอยู่นอกห้องที่มีผู้คนจำนวนมากเดินผ่านไปมาได้ วิธีการนี้อาจไม่ดึงดูด
ความสนใจของคนอื่นงั้นรึ? แต่เป็นการกระทำที่บ้าบอสิ้นดี ความรู้สึกที่ลึกซึ้งและความหนา
แน่นของปราณได้ไหลอวนย่างรวดเร็วรอบ ๆ ตัวเขาและทะลุเข้าไปในร่างกาย ช่างน่าแปลกใจ
ที่ไม่มีใครรบกวนเขา

 
"ผู้ชายคนนั้น ... แม้ว่าเขาจะไม่มีศิลาบริสุทธิ์สำหรับห้องของตัวเองก็ตาม เขาก็ไม่ควรฝึก
อย่างนั้น ... ถ้ามีใครรบกวนเขาในช่วงเวลาสำคัญที่สุดในการฝึกของเขาละ? นั้นเป็นเรื่องที่
น่ากลัวจริงๆสำหรับเขา. "

 
"ผู้ชายคนนั้นช่างโง่เขลานัก ถ้ามีคนประสงค์ร้ายโจมตีเขาทีเผลอ ผลที่ตามมาอาจเป็นผลร้าย
ต่อการบ่มเพาะพลังในอนาคตของเขา "
 

หลายคนกำลังคิดเช่นเดียวกันเมื่อพวกเขาเดินผ่าน หลินเฟิง และเห็นเขานั่งอยู่ในที่โล่งๆ อันที่
จริงมันเป็นสิ่งต้องห้าม ไม่ให้คนอื่นรบกวนเมื่อพวกเขาอยู่ในห้องและได้เริ่มฝึกฝน สถาบันสำนัก
สวรรค์ไม่ยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้เนื่องจากต้องการให้นักเรียนมีสภาพแวดล้อมการเพาะปลูกที่ดีที่สุด
 

แต่ หลินเฟิง ไม่ได้อยู่ในห้องฝึกฝนการบ่มเพาะพลัง  เขาตัดสินใจฝึกนอกห้องที่ชั้นหก การทำ
เช่นนี้เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก
 

อย่างไรก็ตาม หลินเฟิง กำลังนั่งอยู่ข้างห้องฝึก ทันใดนั้นปราณที่บริสุทธิ์ในห้องที่อยู่ถัดจาก หลินเฟิง
เริ่ม เบาบางลง บางคนสังเกตเห็นสิ่งนี้และกำลังมองด้วยความประหลาดใจ


นั่นอาจหมายความว่าเวลาของคนในห้องนั้นได้หมดแล้ว  มีใครบางคนอาจจะออกมาและเห็น 
หลินเฟิง นั่งอยู่ที่นั่น
 

ในเวลาเดียวกัน หลินเฟิง ก็ลืมตาขึ้น ปราณบริสุทธิ์รอบ ๆ ตัวเขาก็ค่อยๆซึมซับเข้าไปในร่างกาย
 เขามองไปที่ประตูห้องถัดจากเขาและลุกขึ้นยืน

 
ฝูงชนประหลาดใจ พวกเขาเพิ่งเข้าใจว่าทำไม หลินเฟิง ถึงนั่งอยู่นอกห้องที่มีคนอยู่ เขาไม่ได้วาง
แผนที่จะฝึกนอกห้องเป็นนานนัก ในขณะที่กำลังรอห้องฝึกว่าง

 
แต่ หลินเฟิง ก็ได้รับมันเช่นกัน?

 
ในขณะนั้นหลายคนเริ่มตัดสินใจเดินตรงไปยังห้องนั้นด้วยสีหน้าที่ที่มุ่งมั่น พวกเขาเข้าใจทุกอย่าง
แล้วว่าทำไมถึงถึงมาที่ชั้นที่หก







Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ






ความคิดเห็น

Facebook