ตอนที่ 99 สถาบันสำนักสวรรค์
ทั้งม้าทั้งสามกำลังวิ่งด้วยความเร็วเต็มกำลังที่ถนนใหญ่นั่น
ภายในรถม้า ต้วนเฟิง และ จิ้งหยุน ที่นั่งอยู่ข้างๆกันขณะที่ หลินเฟิง และ เมิ้งชิง
ก็ นั่งอยู่ข้างๆกันเป็นคู่คนละมุม
"หลินเฟิง เจ้ากับ เมิ้งชิง ทำรู้จักกันได้อย่างไร?"
จิ้งหยุน กำลังจ้องมองไปที่ เมิ้งชิง แต่ เมิ้งชิง ก็ยังทำตัวเหมือนก่อนหน้านี้คือเฉยเมย มันดู
เหมือนว่ากล้ามเนื้อบนใบหน้าของเธอไม่ขยับเลย หรืออันจริงแล้วเธอไม่มีความรู้สึก
แต่มันก็ทำให้เธอสวยขึ้น ความสวยงามของเธอช่างงดงามอย่างแท้จริง
จิ้งหยุน ไม่ได้ถาม หลินเฟิง ว่าเขารอดชีวิตจากการสังหารหมู่นิกายหยุนไห่เพราะกลัวว่า
จะทำให้ หลินเฟิง เจ็บกับเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขายังคงเจ็บอย่างมากภายในใจ
เป็นเรื่องแปลกที่ หลินเฟิง ได้รอดชีวิตและคนอื่น ๆ ทั้งหมดกลับเสียชีวิต
แน่นอนว่า จิ้งหยุน จะไม่ได้โทษ หลินเฟิง ตรงกันข้ามเธอมีความสุขมากที่ หลินเฟิง ได้รอดชีวิต
เป็นความจริงที่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่นี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอแล้วตอนนี้
"เราเจอกันที่ภูเขาหนะ"
หลินเฟิง ตอบ จิ้งหยุน เพราะ เมิ้งชิง อาจไม่ได้ยินดีนักถ้า หลินเฟิง เล่าอดีตของเธอกับคนอื่น ๆ
"โอ้ดีเลย ทำไมเจ้าถึงมุ่งหน้าไปเมืองจักรพรรดิ?" จิ้งหยุน ถาม
เมืองจักรพรรดิเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งมาก เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลัง
ที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นซู่วเย่ว นอกจากนี้ยังมีคนอีกมากมายที่กำลังตามหา หลินเฟิง
"เพราะว่ามีคนมากมายอยู่ในเมืองจักรพรรดิ" หลินเฟิง ตอบ แต่ จิ้งหยุน ไม่ได้ยินเขา
"และเจ้า จิ้งหยุน? ทำไมเจ้าถึงไปที่เมืองจักรพรรดิ? "หลินเฟิง ถามขณะที่กำลังมองไปที่ จิ้งหยุน
และ ต้วนเฟิง จากสิ่งที่ จิ้งหยุน เคยบอกกับ หลินเฟิง มาก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่า ต้วนเฟิง ได้ขอให้
เธอไปกับเขาที่เมืองจักรพรรดิ และเขาไปที่นั่นเพราะเขามีนัด ต้วนเฟิง ต้องออกเดินทางทันทีและ
เดินทางไปตลอดจากเมืองเล็ก ๆของเขาโดยไม่หยุดซึ่งหมายความว่าคนที่เขาต้องไปพบบ่อยๆนั้น
ไม่ใช่คนธรรมดา
จิ้งหยุน มองไปที่ ต้วนเฟิง ที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆเธอ ต้วนเฟิง หัวเราะและกล่าวว่า "หลินเฟิง, พี่ใหญ่,
จิ้งหยุน มาพร้อมกับข้าที่เมืองจักรพรรดิเนื่องจากพี่ใหญ่ของข้าต้องการให้ข้าไปที่นั่นเพื่อฝึกฝน
การบ่มเพาะพลังในสถาบันสำนักแห่งหนึ่ง"
"สำนัก?" หลินเฟิง ตอบอย่างมึนงงและถามว่า "ลานศักดิ์สิทธิ์ซู่วเย่วรึ?"
"ไม่ใช่" ต้วนเฟิง กล่าวขณะที่ส่ายหัว: "สถาบันสำนักสวรรค์"
"สำนักสวรรค์?" หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับสำนักสวรรค์
"ใช่แล้ว สำนักสวรรค์" ต้วนเฟิง กล่าวในขณะที่พยักหน้าและกล่าวเสริมว่า "สำนักสวรรค์
ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก คนจำนวนมากไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ จริงๆแล้วไม่ได้รับผู้สมัครจาก
ภายนอก ต้องมีใครบางคนฝากเจ้า ซึ่งเป็นเหตุผลที่พี่ใหญ่ของข้าฝากข้าเข้าเช่นกัน. "
"ฝากงั้นรึ? ไม่รับผู้สมัครจากภายนอก "หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจ เป็นสถาบันที่เหมือน
นิกาย แต่มีความแตกต่างเล็กน้อย?
ในนิกายเช่นนิกายหยุนไห่มีศิษย์มากมายนับไม่ถ้วน พวกเขาถูกแยกออกเป็นชนชั้นต่าง ๆ
: ศิษย์สามัญ ศิษย์ภายในและศิษย์หลัก จากนั้นก็มีผู้อาวุโสสามัญและผู้อาวุโสภายใน ตามลำดับ
ชั้นเป็นที่เข้มงวดอย่างมากและศิษย์ต้องพึ่งพาความสามารถของตนเองในการก้าวขึ้นไปบน
ลำดับชั้นและเพื่อได้รับการพิจารณาจากนิกาย
สถาบันเป็นสิ่งใหม่ในแคว้นซู่วเย่ว พวกเขายอมรับเฉพาะคนหนุ่มสาวที่มีพรสวรรค์อย่างมาก
เท่านั้น พวกเขามีอาจารย์ฝึกที่ภ่ายถอดการเพาะปลูปที่ดีเยี่ยมและได้รับอาวุธที่ดีที่สุดและ
ทรัพยากรอื่น ๆ อาจารย์จะช่วยให้ศิษย์รุ่นเยาว์กลายเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่ง
ก่อนหน้านี้ในแคว้นซู่วเย่ว ไม่มีสถาบันใดๆ เป็นแนวคิดที่มาจากดินแดนอื่น ดังนั้นจึงมีสถาบัน
จำนวนน้อยในแคว้นและพวกเขาไม่ได้มีชื่อเสียง พวกเขาไม่สามารถเทียบกับรากฐาน
ของนิกายๆใหญ่ได้
การจัดตั้งลานศักดิ์สิทธิ์ซู่วเย่ว ช่วยให้นักบ่มเพาะพลังรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์และโดดเด่นที่สุด
บางส่วนได้รับคำแนะนำ ลานศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างขึ้นเพื่อถ่วงดุลความสำคัญของนิกายและสถาบัน
ที่ได้รับความนิยมน้อยกว่าในแคว้น
"หลินเฟิง พี่ชาย ท่านเป็นศิษย์ของนิกายหยุนไห่ ท่านอาจจะแข็งแกร่งเช่นเดียวกับ จิ้งหยุน
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมข้าจะพูดคุยกับพี่ชายของข้าและดูว่ามีวิธีใดบ้างเพื่อให้ท่านเข้าร่วม
กับสำนักสวรรค์ได้หรือไม่ "
ต้วนเฟิง ยิ้มอย่างจริงใจ แม้ว่าเขาจะยังเด็กอยู่ แต่เขาก็โตเต็มที่แล้ว นอกจากนี้เขายังมีบุคลิก
ที่แข็งแกร่งในแง่ของวิธีการที่เขาได้พูดคุยกับเหล่ายามที่ที่หยิ่งยะโส
"โอ้ใช่แล้ว! หลินเฟิง เจ้าควรจะมาที่สถาบันสวรรค์ "
การแสดงออกของ จิ้งหยุน เริ่มสดใสขึ้น นิกายหยุนไห่ ได้ถูกทำลายล้างไปแล้วดังนั้นหาก
หลินเฟิง เข้าร่วมกับสถาบันสวรรค์ มันก็จะไม่เป็นการทรยศต่อนิกาย นอกจากนี้ จิ้งหยุน
ไม่ได้ถามหลินเฟิง ตัวเองว่า หลินเฟิง แข็งแกร่งพอหรือไม่
ในช่วงรอบแรกของการสอบศิษย์ภายใน, จิ้งหยุน ได้เห็นด้วยกับตาของตัวเองว่า หลินเฟิง
แข็งแกร่งมากแค่ไหน เขาฆ่าศิษย์ภายในด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากดาบของเขาและ
ได้กลายเป็นศิษย์ภายใน
หลินเฟิง หัวเราะ แต่ไม่ตอบ แม้ว่านิกายหยุนไห่ได้ถูกทำลายล้างไปแล้ว หลินเฟิง ก็ยังเป็น
ประมุขของนิกายหยุนไห่คนใหม่ !
............
รถคันนี้อยู่ห่างไกลออกมาจากเมืองเล็ก ๆ แล้ว ดวงอาทิตย์ตอนเย็นสาดส่องลงบนพื้นดิน
ด้านในของรถม้า หลินเฟิง, ต้วนเฟิง และ จิ้งหยุน กำลังคุยกันอย่างไม่หยุดหย่อนขณะที่
เมิ้งชิง เงียบและหลับตา เธอดูเหมือนจะหลับไปแล้ว เธอดูมีความสุขดีและเงียบสงบขณะที่
ตัวเธอโยกไปมาโดยรถม้า
หลินเฟิงเอาผ้าขึ้นมาและหุ้มรอบไหล่ของ เมิ้งชิง อุณหภูมิต่ำมากและ เมิ้งชิง
ได้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่หนานัก
ในขณะนั้น จิ้งหยุน ทำหน้าตาแปลก ๆ
ไม่นานหลังจากนั้น เมิ้งชิง ได้ลืมตาขึ้นเธอมองไปรอบ ๆ ตัวเธอและสังเกตเห็นว่า หลินเฟิง
ได้พันผ้ารอบไหล่ของเธอ เธอดูแปลกใจมาก เธอไม่เคยมีประสบการณ์อะไรเช่นนี้มาก่อน
ดังนั้นเธอจึงรู้สึกแปลกๆ
"เสียงสั่น ... ." ทันใดนั้นรถม้าก็เริ่มสั่นไหว
ในขณะนั้นลุงหวังดึงบังเหียนขึ้นและหยุดรถ พื้นดินยังคงสั่นอยู่ มันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
"ลุงหวังมีอะไรผิดปกติเหรอ?" ต้วนเฟิง ถามจากด้านใน
"นายน้อยมีโจร โปรดอย่าออกมา ข้าจะเจรจากับพวกเขา "ลุงหวังกล่าวอย่างขึงขัง
ลุงหวังจึงออกไปหาโจรเพื่อเจรจากับพวกเขา
“อ่าาา ......”
ช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากได้ยินเสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองซึ่งทำให้คนเหล่านั้น
กลัวคนในรถม้า
"ส่งมันมาให้ข้าใครคนหนึ่งที่คุยรู้เรื่อง!" มีคนหนึ่ง ตะโกนอย่างก้าวร้าว
"ข้าจะไปดู" ต้วนเฟิง รีบกล่าว จากนั้นเขาก็เดินออกจากรถม้ามี หลินเฟิง จับตาดูอยู่
และจิ้งหยุน เมิ้งชิง ไม่ได้ทำตามพวกเขาและอยู่ภายในรถ
ไม่ไกลจากรถม้ามีโจรสิบกว่าคนที่ไม่ได้ดูเป็นมิตร
หนึ่งในยามที่เขาเดินไปหาโจรกล่าวว่า "ข้าจะไปดู"
"ทุกคนพวกเรา ...... " ยามหนุ่ม กล่าว
โจรเหล่านี้กำลังขี่ม้า หนึ่งในนั้นผู้ที่ถือมีดอยู่ในมือของเขากระโดดลงจากม้าของเขา
และกระโจนตัวเองไปที่ยามหนุ่ม
ชายหนุ่มประหลาดใจมากเขาก็คว้าหอกของเขาและเสียบมันไปทางมีดนั่น
แต่ในขณะนั้นโจรถึงตัวยามหนุ่มแล้วกรีดคอด้วยมีด เลือดได้ไหลออกจากลำคอของยาม
หนุ่มในขณะที่เขาล้มลงบนพื้นอย่างไร้ชีวิต
จิ้งหยุน มึนงง เพราะเลือดทั้งหมดนั่นอยู่ใกล้กับเธอมาก เธอจึงถึงกับอ้วกออกมา
หน้าเธอซีดตายเหมือนคนตาย
"ข้าบอกว่า ส่งคนหนึ่งมาให้ข้าที่คุยรู้เรื่อง! ผู้หญิงคนนี้ดูเลวร้ายมาก! "
โจรชี้ไปที่ จิ้งหยุน ด้วยมีดของเขา ในขณะนั้นโจรคนอื่น ๆ ก็หัวเราะอย่างชั่วร้าย
“แน่นอน! ใช่ เราต้องการพูดคุยกับสาวสวยคนนี้! "โจรกล่าวพร้อมกับคิดถึงเกี่ยวกับ
บางอย่างหวังที่จะล่วงเกิน
เมื่อ จิ้งหยุน ได้ยินว่าโจรเหล่านี้กำลังพูดอะไรอยู่ใบหน้าของเธอก็ยิ่งซีดมากขึ้น
"จิ้งหยุน เข้าไปในรถ" หลินเฟิง กล่าวบอกกับ จิ้งหยุน ขณะที่ผลักเธอเข้าไปในรถ
"เด็กน้อยช่างน่าแปลกใจที่เจ้ากล้าซ่อนเด็กผู้หญิงไว้ เจ้าอยากตายงั้นรึ ... "
โจรทุกคนกำลังมองไปที่ หลินเฟิง อย่างจริงจัง
"แน่นอนเราต้องฆ่าชายคนนั้นและนำหญิงสาวมาเพื่อทำให้พวกเรามีความสุข!"
"เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?"
หวันชิงชาน กล่าวด้วยความโกรธอและตะโกนไปที่ หลินเฟิง เขากำลังโกรธมาก
หลินเฟิงยังคงมั่งคั่งและไม่หวั่นไหว มองไปที่ หวันชิงชาน เขากำลังทำอะไรอยู่งั้นรึ?
มันฟังดูเหมือน หวันชิงชาน ต้องการให้เขามอบ จิ้งหยุน ให้กับโจรพวกนั้น
"เจ้ามันขยะจริงๆ เจ้าสร้างปัญหาให้พวกเรา ตอนนี้นี่เป็นปัญหาของเจ้าแล้วและถ้าเจ้า
ต้องการหลบหนีไม่ต้องหวังว่าพวกเราจะช่วยเหลือเจ้า เราจะไม่ช่วยเจ้า "
หวันชิงชาน ไม่มีความรู้สึกใด ๆ เขาอยากรู้ว่าศิษย์ของนิกายหยุนไห่เป็นคนแบบใด
"ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า" หลินเฟิง ตอบอย่างเย็นชาก่อนที่จะวิ่งไปหาโจร
"ฉันจะคุยกับพวกเจ้าอีกสักพักแล้วกัน"
หลินเฟิง ยืนอยู่ใกล้กับผู้นำโจรขณะที่เขาพูดด้วยน้ำที่เย็นชา
"เจ้าอยากจะตายสินะ!"
โจรที่มีมีดยาวกระโดดไปหา หลินเฟิง ขณะที่แทงด้วยมีเซึ่งทำให้เกิดเสียงดังขณะเจาะผ่านอากาศ
ทันใดนั้นก็มีประกายแสงพุ่งไปทั่วท้องฟ้า หลินเฟิง ได้นำดาบอ่อนออกมา
ไม่มีใครได้เห็นการเคลื่อนไหวของเขาและเขาค่อยๆเริ่มชักดาบของเขาออกมา ทันใดนั้นเลือดได้
พุ่งออกมาจากคอหอย โจรนั่นได้ตายแล้ว
ความเร็วของ หลินเฟิง เพิ่มขึ้นอย่างมากและความเร็วของเขาเพียงอย่างเดียวพิสูจน์ได้ว่า หลินเฟิง
เป็นผู้บ่มเพาะพลังทรงพลังอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงสามารถโจมตีได้อย่างรวดเร็ว ทักษะดาบของเขา
ก็สูงมากและเขามักจะฆ่าคนด้วยการตีเพียงครั้งเดียวจากดาบของเขา
นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? โจรถูกฆ่าด้วยวิธีใดกัน?
"ข้าไม่ดีพอสินะ ให้คนที่อยากคุยมาคุยงั้นรึ ใช่แบบนี้ไหมละ?" หลินเฟิง กล่าวอย่างไม่แยแสกับโจร
หลินเฟิง ได้สังเกตท่าทีของโจรเหล่านั้น
ดูเหมือนว่าการโจมตีด้วยดาบเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะทำคนส่วนใหญ่ตกใจ
หวันชิงชาน ตกใจอย่างมาก เขาไม่ค่อยมีความสุขเพราะ หลินเฟิง ได้ฆ่าโจรในทางตรงกันข้ามเขารู้สึก
ประหลาดใจ และไม่พอใจที่ได้เห็นว่า หลินเฟิง นั้นแข็งแกร่งมาก
พวกเขาไม่คิดว่าระดับการบ่มเพาะพลังของ หลินเฟิง นั้นสามารถโจมตีได้อย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว
พวกเขารู้ว่าเขาสามารถใช้ดาบของเขาได้อย่างรวดเร็วเพื่อโจมตีอย่างรุนแรงถึงตายได้
สหาย นี้ไม่มีเกี่ยวข้องกับเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วม "ผู้นำของโจรกล่าวด้วยเสียงต่ำกับ หลินเฟิง
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขากลัว หลินเฟิง ถึงกับมึนงง
หลินเฟิง สงสัยและกล่าวว่า : "เจ้าไม่ต้องการที่จะฆ่าข้าเมื่อก่อนหน้านี้งั้นรึ? ข้ากำลังรอเจ้าให้ทำเช่นนั้นอยู่."
"หืม ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนี้แล้วก็อย่าโทษพวกเราถ้าทำไม่สุภาพแล้วกัน"
หัวหน้าโจรมองไปที่โจรคนอื่น ๆทุกคนและกล่าวว่า "ฆ่ามันซะ"
โจรสามคนมุ่งหน้าไปหา หลินเฟิง ด้วยความเร็วเต็มพิกัด หลินเฟิง ถูกล้อมรอบไปด้วยการโจมตี
จากบุคคลทั้งสามคน
"ตายซะ."
โจรได้เอามีดยาวของเขาซึ่งกำลังแพร่กระจายปราณที่แข็งแกร่งอย่างมากไปยังร่างของ หลินเฟิง มันเป็น
ความรู้สึกเช่นเดียวกับในหุบเขาแห่งความป่าเถื่อน เมื่อเขาเผชิญหน้ากับปราณทหาร อย่างไรก็ตาม
ความแตกต่างระหว่างพวกเขาก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว
"ตายซะ."
เสียงอีกคนหนึ่งเต็มไปทั่วอากาศ มีดที่หมุนอยู่ในอากาศซึ่งดูอันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ
โจรทั้งหมดบนม้ารีบพุ่งไปที่ หลินเฟิง พร้อมกันเพื่อฆ่าเขา
หลินเฟิง ก็กระโดดขึ้นไปในอากาศ ในขณะที่ดูเหมือนว่าเขากำลังลอยอยู่ในอากาศเขาก็อยู่ในตำ
แหน่งแปลก ๆ ในขณะนั้นเขามีความสูงเท่ากับจอมโจรที่นั่งอยู่บนม้า
"ทักษะเพลงดาบสังหาร"
ดาบของ หลินเฟิง เรืองแสงและปล่อยแสงไปสู่ท้องฟ้า มันเป็นการปลดปล่อยในปริมาณที่น่าทึ่งของ
ปราณดาบสังหาร งซึ่งสร้างการไหลเวียนในอากาศ ในพริบตาโจรถูกล้อมรอบไปด้วปราณที่เหลือเชื่อ
ปราณดาบสังหารของ หลินเฟิง ก็มีรูปทรงโค้งที่สวยงามและแหลมคมเมื่อตัดผ่านอากาศ ม้ากำลังบ้า
ร้องอย่างบ้าคลั่ง โจรทั้งหมดล้มลงอย่างไร้ชีวิตจากด้านหลังของม้าของพวกนั้น
ด้วยการตีด้วยดาบเพียงครั้งเดียวทุกคนก็ถูกฆ่าตาย!
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
มาตายแท้ๆๆตัวประกอบอิอิ
ตอบลบ