ตอนที่ 94 ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็น
ส่วนยอดของต้นไม้ยังคงถูกปกคลุมไปด้วยหมอกในยามเช้า บางคนสามารถมองเห็นได้ผ่าน
ประตูที่ทอดไปสู่อาณาเขตนิกายหยุนไห่ที่เชิงเขา ผู้คนจำนวนมากที่ไปที่นิกายหยุนไห่
มีเพียงไม่กี่คนที่ได้เดินออกมาจากนิกาย
ในขณะนั้นชายหนุ่มและหญิงสาวกำลังเดินไปยังนิกายหยุนไห่ พวกเขากำลังมองไปที่ภูเขาที่
ตั้งของนิกายหยุนไห่และทั้งคู่ก็ยิ้ม
"หญิงสาว นี่เป็นนิกายหยุนไห่ ต้วนเทียนหลาง เป็นคนที่ทรงพลังอย่างมาก เขาทำลายนิกาย
หยุนไห่ภายในวันเดียว ... นั่นเป็นเหตุผลที่ทุกคนต่างชื่นชมเขาในแคว้นซู่วเย่ว ไม่มีใครกล้า
ยั่วยุเขาหรือครอบครัวของเขาในอนาคต นอกจากนี้ข้าได้ยินมาว่าเขามีศัตรูในเมืองต้วนเหลิน
ศัตรูของเขามีจิตวิญญาณลูกศรศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเขาได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นกับนิกายหยุนไห่เขา
เริ่มไอจนกระอักเลือด ดูเหมือนว่าเขาป่วยอย่างหนัก
เมื่อชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าที่ดูสุงศักดิ์บอกกับสาวน้อยผู้เลอโฉมเรื่องนี้พวกเขาทั้งคู่หัวเราะอย่างสุดใจ
"นอกจากนี้ตอนที่นิกายหยุนไห่ได้หายไปแล้ว นิกายซิงยี่ของพวกเราก็สามารถขยายใหญ่ขึ้นได้
อย่างรวดเร็ว ไม่มีใครในที่นี้จะกล้าโจมตีพวกเรา "
“อันที่จริง ถ้านิกายใหญ่ๆของแคว้นไม่ได้มาโจมตีเรา พื้นที่ทั้งหมดนี้ก็เป็นของเราอยู่ดี "
เด็กสาวหัวเราะและกล่าวว่า "ทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว นิกายหยุนไห่เคยทรงพลังอย่างมากและ
ตอนนี้ก็ไม่เหลืออะไรนอกจากฝุ่น เมื่อเวลาผ่านไปทุกสิ่งทุกอย่างย่อมตกต่ำลงไปตามการเวลา
นิกายที่เคยแข็งแกร่งจนทำให้ผู้คนจำนวนมากหวาดกลัว ศิษย์หลักอาจจะเป็นคู่มือที่ดี
แต่ถ้าเจ้าเป็นศิษย์ภายในก็ไร้ค่า นอกจากนี้เจ้าอายุแค่สิบเจ็ดปีแล้วและเจ้าต้องมีพลังอำนาจ
มากกว่านี้ เจ้าเป็นอัจฉริยะ อนาคตของเจ้าก็จะเต็มไปด้วยโอกาสที่ไร้ขีด จำกัด "
"ฮ่า ๆ ตอนนี้นิกายซิงยี่ของเราแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว มันเทียบไม่ได้กับนิกายหยุนไห่ที่เป็นอดีต
ไปแล้ว เรามีอัจฉริยะจำนวนมากมาย พวกเขามีทักษะและเทคนิคที่ดีเพียงไม่กี่เท่านั้นนั่นคือทั้งหมด
นิกายหยุนไห่ก็แค่กลุ่มที่มีผู้บ่มเพาะพลังกระจอกๆ ถ้าเราเพิ่มทักษะและเทคนิคของเราขึ้นเรื่อยๆ
เราจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา "
เมื่อชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าที่ดูสูงศักดิ์ได้ยินหญิงสาวคนนั้นเถิดทูนเขา เขารู้สึกภูมิใจอย่างมาก
และหัวเราะอย่างหยิ่งผยอง
"เป็นเช่นนั้นเองรึ?"
ในขณะนั้นมีเสียงมาจากข้างหลัง เด็กหญิงและเด็กชายหันกลับไปและเห็นคนสองคน
แต่เด็กหนุ่มและเด็กผู้หญิงไม่ได้มองไปที่คนใดคนหนึ่ง พวกเขาจ้องไปที่หญิงสาวตัวเล็กที่สวมเสื้อ
คลุมสีขาว พวกเขาหลงใหลในความงดงามของเธอ
พวกเขารู้สึกว่าไม่มีอะไรที่มีอยู่ในโลกนี้เทียบได้กับความงามของเธอ พวกเขาเห็นว่าหญิงสาวคน
สวยนั้นสวมเสื้อคลุมสีขาว เธอทำทุกสิ่งที่น่าสนใจในโลกนี้ไม่มีอะไรหน้าสนใจไปกว่าความงามของ
เธออีกแล้ว มีเพียงสิ่งเดียวที่ต้องการคือมองเธอตลอดไปเท่านั้น เธอดูไม่เหมือนคนอื่น ๆในโลกนี้
เด็กผู้ชายสวมเสื้อผ้าที่หรูหราดูสูงศักดิ์และเพื่อนของเขากำลังจ้องมองที่สาวสวยและรู้สึกว่ากำลัง
มองไปที่จิตวิญญาณ
ในโลกนี้ถ้ามีใครที่น่าตื่นตาตื่นใจก็คงจะเป็นความงดงามของหญิงสาวผู้นี้
หญิงสาวที่ยืนข้าง หลินเฟิง เมื่อเธอสังเกตเห็นว่าคนเหล่านี้กำลังจ้องมองไปที่เธอ ช่วยไม่ได้ที่
เธอจะยิ้มให้และส่ายหัว
หญิงสาวได้ทำตามที่เธอสัญญาไว้กับ หลินเฟิง พวกเขาออกจากภูเขาวายุทมิฬ และสิ่งที่น่า
แปลกใจมากที่สุดคือ หลินเฟิง ไม่ได้พบกับสัตว์อสูรจริงๆเลยแม้แต่ตัวเดียว พวกเขาพยายาม
หลีกเลี่ยงการต่อสู้กันทั้งหมดนั้นด้วยกัน
หลินเฟิง เริ่มคิดว่าภูเขาวายุทมิฬ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เล่ากัน มีเส้นทางบางเส้นทางที่มีความ
ปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ นี่เป็นเพียงแค่เพียงน้อยคนที่จะรู้เส้นทางเหล่านี้
"แน่นอนว่านิกายหยุนไห่ เป็นนิกายที่เส็งเคร็ง มิฉะนั้นแล้วพวกเขาจะถูกทำลายลงได้อย่างไร? "
ชายหนุ่มกล่าวอย่างหยิ่งผยอง
หญิงสาวที่อยู่กับชายหนุ่มช่วยไม่ได้ที่นางจะมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น เธอรู้สึกไม่สบายใจเพราะเด็ก
คนนั้นสวยกว่าเธอ
เธอมีความมั่นใจในตัวเองอย่างมากเมื่อใครเห็นรูปร่างหน้าตาของเธอและเชื่อว่าเธอนั้นสวยมาก
แต่ในตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอไม่มีตัวตนเมื่อยืนข้างหญิงสาวคนคนนั้น
ผู้หญิงคนนี้ช่างงดงามยิ่งกว่าเธอเสียอีก
"ตอนนี้นิกายกายหยุนไห่เป็นแค่นิกายเส็งเคร็งแท้ๆ แต่ทำไมศิษย์ของนิกายซิงยี่จึงกลัวที่จะเข้า
ไปใกล้ศิษย์ของนิกายหยุนไห่? ทำไมพวกเจ้าทุกคนอยู่ห่างจากนิกายตั้งสองสามร้อยเมตรเช่นนี้?
ทำไมพวกเจ้าทุกคนมองศิษย์ของนิกายหยุนไห่ด้วยความเคารพและนับถืองั้นรึ? "
หลินเฟิง กล่าวขณะที่ยิ้ม นิกายซิงยี่เป็นนิกายที่มีขนาดเล็กมาก พวกเขากล้าวิจารณ์นิกายหยุนไห่
เพราะมันถูกทำลายไปแล้ว ดูเหมือนพวกเขาลืมไปว่าพวกเขาเคยโค้งคำนับนิกายหยุนไห่มาก่อนหน้านี้
พวกเขาช่างไร้ยางอายจริงๆ
"นั่นเป็นเพราะมีข่าวลือที่บอกว่า นิกายหยุนไห่ มีทักษะและเทคนิคดีๆมากมายนั่นคือทั้งหมด ข้ามี
ความสุขที่พวกมันตายกันทุกคน นอกจากนี้เรามีความภาคภูมิใจในนิกายของเรา เราไม่เคยโค้งคำนับ
เบื้องหน้านิกายหยุนไห่ พวกมันเป็นแค่ขยะเท่านั้น "
สาวน้อยผู้หยิ่งยโสนั้นได้กลับมาสงบนิ่งและหยุดจ้องมองผู้หญิงคนนั้น ดวงตาของเธอทันใดนั้น
ก็ดูชั่วร้ายขึ้นมา
หลินเฟิง มาพร้อมกับสาวงามที่ดูคล้ายเทพธิดา เป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่อิจฉาเขา หญิงสาวที่งดงาม
คนนี้ควรจะมอบให้กับประมุขน้อยของนิกายซิงยี่ ในฐานะภรรยา
ทันใดนั้นศิษย์ที่หยิ่งผยองคนนั้นได้ยุดชั่วคราวและเริ่มมองไปที่ หลินเฟิง กับดวงตาที่เต็มไป
ด้วยเจตนาในการฆ่า
"หือ?"
หลินเฟิง ขมวดคิ้ว หัวใจของเขารู้สึกหนาวขึ้นมา ชายหนุ่มคนนั้นจู่ ๆ ก็มองหลินเฟิง
และต้องการที่จะฆ่า
คนที่อ่อนแอเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่ง ... กฎของป่าคือกฎของโลกนี้ ถ้ามีใครอยากจะฆ่าคนอื่น
เขาจะไม่มีความเมตตาและทำมันโดยไม่ลังเล
"ถ้าข้าเข้าใจเจ้าถูกต้อง ศิษย์ของนิกายซิงยี่นั้นแข็งแกร่งอย่างมาก มากกว่านิกายหยุนไห่ใช่หรือไม่?"
หลินเฟิง ถามอย่างเย็นชา
"ถูกต้องแล้ว. นิกายหยุนไห้ขยะๆนั้นจะสามารถเทียบได้กับศิษย์ที่ยิ่งใหญ่ของนิกายซิงยี่ได้อย่างไร? "
ชายหนุ่มเริ่มก้าวร้าวมากขึ้น เขาต้องการที่จะทำให้สาวสวยคนนั้นที่มาพร้อมกับ หลินเฟิง ประทับใจ
ในความมั่นใจและความแข็งแกร่งของเขา
"เฮ้ ข้าขอท้าศิษย์ภายในของนิกายหยุนไห่ซักวันหนึ่งและฉันก็จะไป ดูเหมือนเจ้าจะแข็งแกร่ง
เหมือนกันไม่ว่าเจ้ากำลังจะพูดอะไรอยู่ก็ตาม เรามาดูกัน!
หลินเฟิง มีรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาอยู่ที่มุมปากทำให้เขาดูไม่เป็นอันตรายและอ่อนแอ
"ฮ่าฮ่า ศิษย์ภายในของนิกายหยุนไห่ที่เส็งเคร็งนั้น พวกเขาไม่มีใครเทียบข้าได้ แต่เนื่องจากเจ้า
อยากรู้อยากเห็นข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่าผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งและความอ่อนแอของเจ้า
ที่เทียบข้าไม่ได้ "
ชายหนุ่มไม่คิดว่า หลินเฟิง จะเริ่มที่จะท้าทายเขา ช่วยไม่ได้ที่เขาจะมีความสุข หลินเฟิง
กำลังจะตายอย่างน่าสมเพช
"นอกจากนี้ทำไมขยะเช่นเจ้าถึงได้มีสาวที่งามอย่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้ เมื่อเจ้าตายเธอจะอยู่
กับข้าและข้าจะดูแลเธอเอง "
ขณะที่พูดคำเหล่านี้ภายในเสื้อผ้าของชายหนุ่มนี้ได้เอาดาบยาวออกมาและกวัดแกว่งออก
ไปในอากาศ เขาได้ปลดปล่อยจิตวิญญาณดาบของเขาและเริ่มก้าวไปที่ หลินเฟิง
และมองอย่างมั่นใจมากขึ้น
จิตวิญญาณขั้นที่สอง... และเจ้าคิดว่าเจ้าจะสังหารข้ารึ ช่างน่าแปลกใจยิ่งนัก "หลินเฟิง
พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและไม่แยแส
หลินเฟิง ยกมือขวาของเขาและดาบที่แข็งแกร่งและพลังปราณที่ทรงพลังอย่างมากได้ไหลออกมา
จากฝ่ามือของเขาและทะลวงขึ้นไปในอากาศ ชายหนุ่มแทบจะทรุดตัวลงทันทีที่เขาโดนกดดัน
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเป็นซีดเซียวเหมือนคนตายด้วยความตกใจ
"ความจริงที่ว่าเจ้าเป็นผู้ใช้ดาบช่างเป็นความอัปยศกับผู้ที่ใช้ดาบจริงๆ"
หลินเฟิง กล่าวอย่างเย็นชา ชายหนุ่มคนนั้นถูกแช่แข็งด้วยแรงกดดันจากปราณ ที่ หลินเฟิง
ได้ปลดปล่อยออกมา เลือดของเขาค่อยๆหยดลงจากลำคอและตาของเขาดูน่ากลัวอย่างมาก
เขาล้มลงบนพื้นอย่างแรง
เด็กสาวที่มากับเขาก็ดูน่ากลัว ... เพื่อนของเธอถูกฆ่าตายได้อย่างไร?
นี่มันความแข็งแกร่งอะไรกัน! ทำไมช่างทรงพลังเยี่ยงนี้! มีช่องว่างความระหว่าง หลินเฟิง และ
เพื่อนของเธออย่างมหาศาล
เมื่อหญิงสาวคนนี้เห็นว่า หลินเฟิง กำลังจ้องมองเธอ ช่วยที่ได้ที่เธอเริ่มสั่นด้วยความกลัว
"ข้าไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะแม้แต่นิดเดียวเพื่อฆ่าขยะจากนิกายซิงยี่"
ความรู้สึกที่หนาวเย็นของ หลินเฟิง ทำให้เขาดูเป็นคนชั่วร้ายเหมือนสัตว์อสูร
"บอกจุดประสงค์ของเจ้า ที่มายังนิกายหยุนไห่"
"นิกายหยุนไห่ ถูกทำลายล้างอย่างสมบูรณ์ เรามาที่นี่เพื่อหวังว่าจะโชคดีและดูว่าเราสามารถหา
ทักษะและเทคนิคดีๆได้หรือไม่ เราไม่ใช่กลุ่มเดียวที่มา ยังมีอีกหลายคนอยากมาที่นี่เพื่อ
จุดประสงค์เดียวกันนี้ "
ชายหนุ่มคนนั้นยังไม่ตายและรีบตอบ หลินเฟิง
"แล้วพวกที่กำจัดนิกายหยุนไห่ละ? พวกเขาไม่ได้ขโมยทุกอย่างไปหมดแล้วรึไง? "
"บรรดาผู้ที่ทำลายล้างนิกายหยุนไห่ อยู่ที่นี่เป็นเวลาสามวันหลังจากการสู้รบ พวกเขาขโมยเกือบ
ทุกอย่าง แต่อาจจะไม่สนใจเกี่ยวกับทักษะและเทคนิคบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์ต่อเรา
นอกจาก... "เด็กที่เพิ่งแพ้ หลินเฟิง ดูอับอาย เขาถูกทำให้อับอาย
"นอกจากอะไร?"
"นอกจากนี้ในหุบเขาแห่งความป่าเถื่อน ยังมีซากศพอยู่จำนวนมาก ... บางทีพวกเขาอาจ
จะพกบางสิ่งที่เราสามารถเอาไปได้
...
หลินเฟิง กำลังสั่นอยู่ด้วยความโกรธตั้งแต่หัวจรดเท้า สัตว์เหล่านี้ต้องการที่จะล่วงเกินศพ
ของเหล่าศิษย์และผู้อาวุโส
ดาบที่แข็งแกร่งและปราณดาบที่เฉียบคม ทะลวงไปทั่วบรรยากาศ
ทันใดนั้นชายหนุ่มคนนั้นก็หน้าซีดเหมือนคนตายอีกครั้ง ดาบเล่มนี้มีพลังอย่างมาก
ความแข็งแกร่งของ หลินเฟิง นี่มีมากแค่ไหนกัน ?!
"ทำให้การบ่มเพาะพลังของตัวเจ้าพิการซะ"
เสียงของ หลินเฟิง ฟังดูเลือดเย็น เขายอมรับในตอนแรกว่าจะปล่อยให้คนพวกนี้ไป แต่เมื่อ
เขาได้ยินมาว่าพวกเขาต้องการที่จะขโมยบางสิ่งที่จากศพของเหล่าศิษย์นิกายหยุนไห่
เขาไม่มีความเมตตาอีกต่อไป
ศิษย์สองคนนี้กำลังสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
"ข้าจะปล่อยให้เจ้าหายใจสามครั้ง จากนี้ถ้าเจ้าไม่ทำให้การบ่มเพาะพลังตัวเองพิการเจ้า
จะไม่ได้หายใจอีกเป็นครั้งที่สี่"
หลินเฟิง ได้บอกว่าชจะฆ่าพวกเขาด้วยเสียงที่กำลังสั่งนั่น
"ถ้าการบ่มเพาะพลังของข้าพิการก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนตาย?"
"เอาล่ะ ข้าจะจบชีวิตของเจ้าตอนนี้เลย"
หลินเฟิง ได้ปลดปล่อยปราณดาบที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกถูกกดดัน
ด้วยพลังปราณนั้นเหมือนโดนบดขยี้ ศิษย์สองคนนั้นอยู่ในความมึนงง
"เอาล่ะ ข้าจะทำลายการบ่มเพาะพลังของตัวเอง" ทั้งสองคนพูดขณะกำลังกัดฟันตัวเอง พวกเขา
ยกมือขึ้นและแทงไปที่จุดดันเทียน พวกเขากลายเป็นคนอ่อนแอมากจนไม่สามารถยืนได้
พวกเขาก็ล้มลงบนพื้นอย่างหมดสภาพ
"เมิ้งชิง ไปกันเถอะ"
หลินเฟิง กล่าวว่ากับเด็กสาวที่มากับเขา หลินเฟิง ช่วยเธอหาชื่อเพราะเธอบอกว่าเธอไม่มีชื่อ
นั่นเป็นชื่อเดียวที่เข้ามาในจิตใจของ หลินเฟิง เพราะ เมิ้งชิง หมายถึงความฝันและ ชิง หมายถึง
คนรักและผู้ชายคนไหนๆก็ฝันว่าจะมีผู้หญิงคนนี้เป็นคนรัก นั่นเป็นชื่อเดียวที่ หลินเฟิง
สามารถนำมาเปรียบเทียบกับเธอได้
แน่นอนว่าหญิงสาวคนนี้ไม่รู้ว่าทำไม หลินเฟิง ได้เลือกชื่อนั้นให้เธอ จริงๆแล้วโลกภายนอก
ไม่รู้จักตัวตนของเธออย่างสมบูรณ์
"ทำไมเจ้าไม่ฆ่าพวกมันละ?"
เมิ้งชิง ถาม หลินเฟิง ด้วยคำถามที่ทำให้ หลินเฟิง ประหลาดใจ เขาจ้องไปที่เธอ
"เมื่อข้ามองไปที่ดวงตาของพวกเขา ข้ารู้สึกจะอ้วก"
เมิ้งชิง ได้คำตอบของเธอแล้ว ใบหน้าของเธอเผยให้เห็นว่าเธอไม่เคยพูดกับคนอื่น
"เมื่อเจ้ามองเข้าไปในดวงตาของข้า เจ้ารู้สึกยังไง ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็น "
หลินเฟิง มึนงง กับการแสดงออกของ เมิ้งชิง ดูเหมือนว่าเธอจะมีความคิดดีๆ
และเธอก็วิ่งไปข้างหน้า
เมิ้งชิง ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของ หลินเฟิง แต่ หลินเฟิง พบว่าเธอน่ารักและมีเสน่ห์
ความอบอุ่นที่ไม่รู้จักได้เข้ามาเติมเต็มหัวใจของ หลินเฟิง
หลินเฟิง กำลังเฝ้าสังเกตุ เมิ้งชิง เขาชื่นชมในความงดงามของเธอ เธอดูอ่อนโยนและน่ารักมาก
ไม่มีอะไรสิ่งน่ารังเกียจเกี่ยวกับตัวเธอ ความคิดของเธอก็ช่างบริสุทธิ์และไร้เดียงสา หลินเฟิง
ได้พบว่ามันง่ายที่จะเข้าใกล้เธอ....
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น