ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 88


ตอนที่ 88 ถอนรากถอนโคน












“เอาล่ะ แค่นั่นเพียงพอแล้วสำหรับวันนี้ ข้าได้เสนอโอกาสที่ดีให้แก่เจ้า แต่เจ้ากลับไม่เห็น
คุณค่าของมัน ตอนนี้เจ้าได้ตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ไปแล้ว... "


ต้วนเทียนหลาง หยุดพูดแล้วยกมือขึ้น


เขาโบกมือลงมาเป็นสัญญาณ ทันใดนั้นพายุลูกธนูเริ่มแหวกผ่านอากาศมาพร้อมทั้งได้ปลด
ปล่อยพลังปราณที่แข็งแกร่ง


"พวกมันกำลังโจมตี!"


ฝูงชนได้ตระหนักว่าพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เห็น ต้วนเทียนหลาง
โบกมืออีกครั้งและได้กล่าวว่า "ถอนรากถอนโคนให้หมด!"


คำพูดนั้นได้ดังก้องอยู่ในใจของทุกคนราวกับว่าคำพูดดังกล่าวนั้นมาจากยมบาลที่น่าหวาดกลัว


“วูซ ...วูซ ...วูซ ...”


เสียงโหยหวนเต็มไปทั้งบรรยากาศ สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นลูกธนูที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้ลอยเต็มท้องฟ้าเหนือ
หุบเขาแห่งความป่าเถื่อน อย่างไรก็ตามลูกธนูไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ลานประลองแห่งชีวิตที่ ต้วนเทียนหลาง
ยืนอยู่ นี่เป็นตำแหน่งเดียวที่ไม่ได้เป็นเป้าหมายสำหรับลูกธนูเหล่านั้น


ฝูงชนกำลังมองไปที่ลูกธนูที่ลอยเหนือหัวของพวกเขาอย่างหวาดกลัว พวกเขาส่วนใหญ่ได้ยอมแพ้
และหมดหวังที่จะมีชีวิตรอด


มีลูกธนูจำนวนมากและแต่ละดอกก็มีความรวดเร็วและทรงพลังเหมือนดาวตกที่ตกลงมาจากฟากฟ้า
ทหารม้าหุ้มเกราะฉีซู่ว มีความแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ


เสียงกรีดร้องที่น่าสยดสยองอาจจะได้ยินและสะท้อนผ่านทั้งหุบเขา ศิษย์ของนิกายหยุนไห่บางคน
ได้ถูกลูกธนูปักที่หัว ไหล่ หน้าอกและแขน ... เลือดสีแดงชานไหลเต็มไปทั่วหุบเขาดั่งมหาสมุทร


เฉพาะผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งภายในหุบเขาจึงสามารถหลีกเลี่ยงลูกศรได้ การหลบลูกธนูทำได้
ยากและนี่เป็นเพียงคลื่นลูกแรกของลูกธนูเท่านั้น


หนานกงหลิง มองไปที่ลูกธนูที่ลอยอยู่เหนือหัว เขายังคงยืนอยู่บนอัฒจันทร์ ลูกธนูบางดอกบิน
เหนือหัวของเขา แต่เขาก็สามารถจัดการไม่ให้มันลอยต่อไปได้ ความโศกเศร้าจากความสูญเสีย
ในครั้งนี้สามารถมองเห็นได้ในดวงตาของ หนานกงหลิง ขณะที่เขากำลังมองไปรอบ ๆ ในสถานะ
การณ์ปัจจุบัน จากนั้นเขาก็หลับตาลงเพราะมองไม่อยากเห็นลูกศิษย์ผู้มีค่าของเขาถูกฆ่าตาย
ต่อหน้าต่อตา เหล่าศิษย์ทั้งหมดนับถือและเทิดทูนเขาในฐานะประมุขนิกาย ที่ด้านหน้านั้น
เขาแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น มันทำให้เขารู้สึกหมดแรง


ผู้อาวุโสของนิกายมีความรู้สึกเช่นเดียวกันที่พวกเขาเฝ้าดูสถานะการณ์การนองเลือดที่อยู่ข้างหน้า
พวกเขา พวกเขาไม่คิดเลยว่านิกายหยุนไห่นั้นจะต้องมาเผชิญความยากลำบากอันเลวร้ายเช่นนี้
นี้รู้สึกเหมือนฝันร้ายจริงๆ พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่า การทำลายล้างนิกายหยุนไห่จะเกิดขึ้นในวันนี้


คลื่นลูกแรกของลูกธนูได้หมดลงแล้ว เลือดจากเหล่าศิษย์ที่ตายไปแล้วสร้างกระแสเลือดเล็กๆ ไ
หลผ่านหุบเขาซึ่งจมอยู่ในความเงียบงัน


หลินเฟิง ที่ยืนอยู่ในลานประลองแห่งชีวิต กำลังมองไปที่เลือดที่กำลังไหลผ่านหุบเขา แสงแดดส่องลง
มาบนผิวของเขา แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นใด ๆเลย เขาแค่รู้สึกถึงความหนาวเย็นที่ไม่มีที่สิ้น
สุดวิ่งผ่านเส้นเลือดของเขา


ในหุบเขาแห่งความป่าเถื่อน คนบางคนได้เข้ารับการรักษาในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังต่อสู้กับความ
ตาย แม้ในช่วงเวลาสุดท้ายของพวกเขา บรรดาผู้ที่กำลังจะตายร้องไห้จากความเสียใจในขณะที่
มองไปบนท้องฟ้าและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด


ถ้าเป็นโลกก่อนหน้านี้ ศิษย์หลายคนที่ยังเด็กมากๆคงจะกำลังไปโรงเรียนกันอยู่


พวกเขามีพ่อ แม่ พี่สาวน้องชาย ... อนาคตของพวกเขายังคงยังไม่สิ้นสุด


พวกเขามายังนิกายหยุนไห่เพื่ออยากจะแข็งแกร่งขึ้นและศึกษาทักษะด้านการบ่มเพาะพลัง พวกเขา
หวังว่าชีวิตของพวกเขาจะดีขึ้นและช่วยให้ครอบครัวมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


แต่หลังจากที่เสียงของ ต้วนเทียนหลาง ได้สะท้อนไปทั่วหุบเขาแล้ว ความเป็นไปได้ในอนาคตของ
พวกเขาก็กลายเป็นฝุ่นผงไป ได้จบชีวิตลงที่นี่และร่างกายของพวกเขาได้ลอยอยู่ในทะเลเลือด


หัวใจของ หลินเฟิง ไม่เคยรู้สึกหนาวเย็นมาก่อน เขารู้สึกหนาวเย็นมากจนรู้สึกว่าหัวใจกำลังเสีย
เลือดจากบาดแผลที่โดนทิ่มแทง ศิษย์เหล่านี้ก็เหมือนกับตัวเขาที่สร้างมาจากเลือดและเนื้อ พวกเขา
จะยังคงมีชีวิตที่ยืนยาวกว่านี้ ศิษย์เหล่านี้ไม่ได้ทำอะไรผิดและกำลังพยายามทำให้ครอบครัวให้ดีขึ้น


“เสียงพ่นลมออกมา.........”


หลินเฟิง ได้พ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ออกมาจากความรู้สึกทีอ้างว้างก่อนหน้านี้ของเขา จากนั้นเขาก็
มองเข้าไปใกล้เส้นเลือดสีแดงที่เต็มไปด้วยเลือด จากดวงตาเปิดกว้างและรู้สึกว่ากำลังจมน้ำตาย
ในบ่อแห่งความเศร้าโศกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


ผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งสามารถขโมยอนาคตซึ่งเป็นของคนที่อ่อนแอกว่าในโลกใบนี้ไปได้... พวก
เขาสามารถฆ่าคนเหล่านั้นและทำลายล้างพวกเขาเช่นเดียวกับที่ทำกับแมลง


นั่นคือความจริงที่โหดร้ายและหน้าเศร้าของโลกนี้ คนที่ไม่แข็งแกร่งก็เหมือนแมลง
ที่ถูกบดขยี้โดยผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งเหล่านั้น


"ยิง….."


เสียงของ ต้วนเทียนหลาง แผ่กระจายไปทั่วบรรยากาศอีกครั้งทำให้หินโผล่ขึ้นมา ลูกธนูที่แหลม
คมและอันตรายเริ่มทะลุผ่านอากาศอีกครั้งดั่งจิตวิญญาณที่ชั่วร้าย ที่กำลังตกลงมาจากฟากฟ้า


เสียงกรี๊ดลั่นด้วยความกลัวแพร่กระจายไปทั่วบรรยากาศ ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้ ศิษย์สามัญที่
อ่อนแอโดยเท่านั้นที่จ้องมองด้วยความหมดหวัง


“อ่าาาาาาาาาาาาาาาาาา ......”


เสียงตะโกนที่น่าสยดสยองเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานเต็มไปทั่วหุบเขา


หลิวเฟย คุกเข่าลงบนพื้นมองไปที่ซากศพในขณะที่หยิบผมยาวสวยของเธอด้วยพลังเพื่อที่ดึงให้
ขาดออกจากหัวของเธอ แก้มที่บอบบางของเธอไม่ได้มีสีเหมือนดอกกุหลาบอีกต่อไป
และเธอจ้องมองออกไปอย่างไม่มีชีวิตชีวา


คนที่ฆ่าคนเหล่านี้คือทหารม้าหุ้มเกราะฉีซู่ว ... กองทัพของพ่อของเธอเอง


คนที่ถูกฆ่าคือเหล่าศิษย์ของนิกายหยุนไห่... พวกเขาเป็นเพื่อนๆของเธอ ... แต่เป็นเพื่อนของพ่อด้วย


เธอชอบคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่ยืนอยู่ที่นั่นและมองดูพวกเขาถูกฆ่าด้วยหัวใจที่แตกสลายในขณะที่
ไม่สามารถป้องกันการสังหารหมู่ได้


"ต้วนหาน พาเธอมาที่นี่" ต้วนเทียนหลาง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ขณะกำลังมองไปที่ หลิวเฟย


ด้วนหาน พยักหน้าเล็กน้อยและเดินไปทาง หลิวเฟย


แต่ในขณะนั้นภาพเงาที่รวดเร็วและไวมากได้ลงมาหยุดที่หน้า หลิวเฟย มันคือ หลินเฟิง


"ไปให้พ้น ถ้าเจ้าอยากจะตายไม่ต้องห่วงมันก็เป็ฯแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น "
ต้วนหาน กล่าวในขณะที่ไม่สนใจ


แต่ หลินเฟิง ทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของ ต้วนหาน เขาจ้องไปด้วยดวงตาดำทมิฬของเขา
เขากำลังมองไปที่ ต้วนหาน ด้วยท่าทางเย็นชาและสงบ


ด้วยความโหดเหี้ยม สำหรับบางคนจะยังคงสงบอยู่ขณะที่หลายพันคนได้รับและถูกฆ่า?


"หือ?" ต้วนหาน ขมวดคิ้วและมองตาของ หลินเฟิง ซึ่งดูชั่วร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ


ดวงตาที่หนาวเย็นและชั่วร้ายเหล่านี้ทำให้ ต้วนหาน สั่นสะท้าน


"ตอนนี่เจ้าต้องการจะตายใช่ไหม ข้าจะทำมันให้จบเอง"


ต้วนหาน ตะโกนในขณะที่ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขาโกรธมากเพราะเขา
ได้สั่นสะท้านจากความกลัวต่อหน้า หลินเฟิง และ ต้วนหาน รู้สึกอับอายขายหน้า


แม้ว่าเขาจะไม่ปฏิเสธความจริงที่ว่า หลินฌฟิง เป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์ แต่เขา
ก็ยังคงคิดว่า หลินเฟิง ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำให้เขาเสียเกียรติเพราะมาจากตระกูลไร้ชื่อเสียง


สายตาของ หลินเฟิง และ หลิวเฟย ได้สบตากันทำให้เขาโกรธมาก เขาต้องการให้ หลินเฟิง
คุกเข่าลงแทบเท้าของเขา เขาต้องการที่จะแสดงให้ หลิวเฟย เห็นว่า หลินเฟิง เป็นคนอ่อนแอ
 เขาไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับสายเลือดที่สูงส่งซึ่งไหลผ่านเส้นเลือดของเขา


ดาบของ ต้วนหาน เริ่มเรืองแสง เขามีจิตวิญญาณดาบและได้เรียนรู้ทักษะดาบตั้งแต่ยังเยาว์วัย
ทักษะดาบของเขาก้าวหน้ามากจนแทบไม่จำเป็นต้องใช้ดาบเพื่อใช้ทักษะดาบของเขา ในมือ
ของเขาเกือบทุกส่วนสามารถกลายเป็นดาบได้


ปราณดาบที่ทรงพลังอย่างมากได้โผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขาและสร้างกระแสลมที่
รุนแรงเคลื่อนไปหา หลินเฟิง


ต้วนหาน ไม่ได้ใช้ทักษะเฉพาะใด ๆ เขาต้องการที่จะแสดงให้ หลิวเฟย เห็นว่าเขามีพลังมาก
เพียงใดและสามารถฆ่า หลินฌฟิง ได้ด้วยคลื่นง่ายๆจากฝ่ามือของเขา


"ทะลวงมัน."


ร่างกายของ หลินเฟิง เคลื่อนไหวอย่างสง่างามต่อการโจมตีเบื้องหน้าของเขา เขาคว้าดาบ
ของเขาและแทงไปที่ ปราณดาบของ ต้วนหาน ไปยังจุดที่อ่อนแอที่สุด


ต้วนหาน สามารถเข้าใจทันที เขาเข้าใจเกี่ยวกับปราณที่เขากำลังใช้อยู่ มันชัดเจนมากสำหรับ
เขาซึ่งบางส่วนของมันแข็งแกร่งอย่างมากและส่วนใดบ้างที่อ่อนแอที่สุด


“ฟึบ!”


ปราณดานของ ต้วนหาน ได้หายตัวไปในทันที


ดาบของ หลินเฟิง ซึ่งเต็มไปด้วยปราณที่อันตรายยังคงเคลื่อนที่ไปยัง ต้วนหาน ด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ


ต้วนหาน รู้สึกประหลาดใจ แต่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เขายกมือขึ้นและปล่อยพลังปราณ
ที่แข็งแกร่งยิงออกไปยังดาบของ หลินเฟิง เต็มไปด้วยเสียงลม


อย่างไรก็ตามปราณนี้ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดการโจมตีนั้น ดาบที่วิ่งไปหาเขาไม่ได้ชะลอลงแม้ต่น้อย
ดาบยังคงเต็มไปด้วยปราณแห่งความตายซึ่งมีกลิ่นอายเหมือนความตายและกำลังจะทำลายล้าง


ต้วนหาน ขมวดคิ้ว เขาเป็นผู้บ่มเพาะพลังชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สี่ เขาแข็งแกร่งกว่า หลินเฟิง มาก
แต่ทำไมดาบของ หลินเฟิง จึงทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยดีนัก


ต้วนหาน ยกมือทั้งสองข้างเพื่อหยุดปราณแห่งความตายที่แข็งแกร่งนั่น แต่ไม่ได้ผล ร่างของเขา
ถูกถล่มโดยการโจมตีที่มีประสิทธิภาพของ หลินเฟิง


"ตายซะ!"


หลินเฟิง ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและไร้ความปราณี ปราณจากดาบยาวของเขาทำให้
รู้สึกว่ามีความตายอยู่ภายในดาบนั้น

พลังอำนาจดาบของเขาก็ได้ปลดปล่อยออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจากดาบยาวของเขา พลังปราณ
และพลังอำนาจที่โผล่ออกมาจากดาบของ หลินเฟิง ดูเป็นธรรมชาติราวกับถูกดูดซึมได้โดยตรง
จากพลังของสวรรค์และโลก


"เป็นไปได้อย่างไร?"


ต้วนหาน จ้องมองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา พลังอำนาจดาบของดาบเล่มนี้รวมเข้าด้วยกันอย่าง
ลงตัว แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของการฝึกซ้อมเขาก็ยังไม่สามารถทำได้


ดาบนั้นเร็วพอๆกับสายฟ้าและพลังที่น่าเหลือเชื่อของมัน ต้วนหาน ไม่มีเวลาสวนกลับการโจมตีด้วย
พลังเช่นนี้ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการหลบ


"เขาอาจจะใช้ทักษะดาบสวรรค์ ความสามารถในการกักเก็บพลังนั้นในระหว่างการโจมตีครั้งที่สอง
ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ หลินเฟิง เป็นอัจฉริยะเมื่อพูดถึงทักษะที่เขาเรียนรู้มา พลังของเขาน่ากลัวจริงๆ
แน่นอนเขาจะไม่ตายในวันนี้ "


ผู้พิทักษ์เป่ย ให้ความสนใจ หลินเฟิง เหมือนก่อนหน้านี้ ทุกคนในนิกายหยุนไห่ตายได้ยกเว้น หลินเฟิง

ผู้พิทักษ์เป่ย ไม่ได้โหดร้ายหรือไร้ความปราณีเมื่อคิดว่าทุกคนจะตายได้ยกเว้น หลินเฟิง เขาคิดว่าถ้า
มีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตก็ต้องเป็น หลินเฟิง เพราะเขาเป็นความหวังเดียวในอนาคตที่นิกายมี
ผู้พิทักษ์เป่ย คิดว่าถ้าเขาจะต้องตายก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร ตราบใดที่ หลินเฟิง ยังมีชีวิตอยู่


"เคลื่อนที่ด้วยเงา"


ต้วนหาน เริ่มเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเต็มพิกัด ร่างทั้งร่างของเขาดูเหมือนเงาขณะพยายาม
หลบหนีดาบสังหารของ หลินเฟิง


จากนั้นเขาก็หยุดและมองไปที่เสื้อผ้าของเขา พวกมันถูกฉีกขาดจากการโจมตีก่อนหน้าหน้านี้
เมื่อเขาเห็นแบบนั้นแล้ว ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและเขามองอย่างชั่วร้าย


หลินเฟิง ได้สร้างความประหลาดใจเกือบทำให้เขาบาดเจ็บและทำให้เขาเสื้อผ้าเขาฉีกขาด


ถ้าเขาก้าวช้าลงไปเพียงก้าวเดียว ดาบสังหารนั้นจะเจาะเข้าไปในกลางอกโดยตรง


ต้วนหาน รู้สึกอับอายและอัปยศเหล่านั้น ผู้ที่ผ่านไปถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สี่ ทันใดนั้นได้รับ
บาดเจ็บโดย หลินเฟิง ซึ่งเพิ่งอยู่ชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สอง เช่นเดียวกับเมื่อครู่ที่ผ่านมาเขา
ได้รับความอัปยศจาก หลินเฟิง อีกครั้ง


"เจ้านี่โชคดีมาก แต่ตอนนี้ข้าคงต้องจริงจังหน่อยแล้ว"


ต้วนหาน พยายามซ่อนความโกรธและสงบลง แน่นอนเขาไม่ยอมรับว่าเขาเกือบจะได้รับบาดเจ็บ
จาก หลินเฟิง เนื่องจากความเย่อหยิ่งของตัวเอง เขาค่อนข้างจะเชื่อว่า หลินเฟิง โชคดีซะมากกว่า


"เจ้าผ่านไปถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สี่ ข้ามีเพียงจิตวิญญาณขั้นที่สอง  เห็นได้ชัดว่าเจ้า
แข็งแกร่งมากและเห็นได้ชัดว่าข้านั้นไม่ได้มีค่าพอที่จะต่อสู้ด้วย แต่ข้าเกือบทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บ
เจ้าถือว่ามันโชคดีมาก ข้าเห็นว่าเจ้านั้นไม่ได้จริงจัง แต่เจ้าเพียงแค่วิ่งหนีไปกับหางของเจ้าที่อยู่
ระหว่างขาของเจ้าแค่นั้นเอง ต้วนหาน เจ้าไม่คิดว่าตนเองช่างไร้ยางอายบ้างรึ "


หลินเฟิง มีรอยยิ้มอยู่ตรงมุมปากของเขา ดวงตาอันดำทมิฬของเขากำลังแผ่เจตนาการฆ่า
คำพูดของเขากำลังเยาะเย้ย ต้วนหาน อยู่ในขณะนี้...






Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

Facebook