ตอนที่ 124 ตระกูลจักรพรรดิที่ชั่วร้าย
ดูแล หลิวเฟย? หลินเฟิง จ้องมองไปที่ หลิวชางหลาน และยิ้มให้อย่างเบื่อหน่าย ไม่ใช่เรื่องง่าย
ที่จะดูแล หลิวเฟย
ถ้าเพียงแค่หลิวเฟยคล้าย ๆ กับ เมิ้งชิง ละก็ ... แต่ในขณะนี้ หลินเฟิง ได้อาศัยอยู่กับ เมิ้งชิง ...
แล้ว หลิวเฟย ล่ะ? นั่นเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับ หลินเฟิง เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
นอกจากนี้ เมิ้งชิง ก็อยากจะดูแลเขาและต้องการให้เขาเล่าเรื่องราวให้เธอตลอดเวลา
"ท่านลุง หลิวชางหลาน ทำไมท่านถึงไว้ใจข้า?"
"เมื่อนิกายหยุนไห่ได้ถูกทำลายพวกเขาทั้งหมดเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องเจ้า ถ้าข้าไม่สามารถไว้ใจ
เจ้าได้ก็ไม่มีใครในโลกนี้ที่ข้าสามารถเชื่อถือได้แล้ว "หลิวชางหลาน กล่าวขณะที่มอง หลินเฟิง
อย่างไม่กระพริบตา จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า: "นอกจากนี้ข้าคิดว่า เฟยเฟย และเจ้าเป็นคู่ที่เหมาะ
สมกันดี ถ้าเจ้าต้องการที่จะดูแลเธอตลอดไปข้าไม่ได้คัดค้านเจ้าหรอกนะ. "
"เอ๊ะ ... ." หลินเฟิง ถึงกับตะลึงไปอีกครั้ง หลิวชางหลาน ได้ทำให้เขาประหลาดใจโดยพยายามทำให้
หลินเฟิง และ หลิวเฟย อยุ่เคียงข้างกัน เนื่องจากความงามที่น่าทึ่งของเธอข้อเสนอนี้จะยากที่
จะปฏิเสธสำหรับผู้ชายธรรมดาๆ
แน่นอน หลินเฟิง ไม่ใช่คนธรรมดา
"ลุงหลิวชางหลาน ข้าไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ข้าได้ฟังสิ่งที่ท่านพูดไว้และข้าสัญญากับท่านได้ว่าข้าจะ
พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อดูแลเธออย่างดี" หลินเฟิง กล่าวด้วยเสียงต่ำ
หลิวชางหลาน ยิ้ม. เขาชอบ หลินเฟิง เขากล่าวว่า "ข้าเข้าใจ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนแบบนั้น หลินเฟิง
เป็นคนเดียวที่ หลิวเฟย แสดงออกเช่นนี้
เมื่อ หลินเฟิง ได้ยินคำพูดที่คลุมเครือของ หลิวชางหลาน เขารู้สึกเหมือนอยากคลานเข้าไปในหลุม
และหายตัวไปจากโลกนี้ เขาอายอย่างมาก บางที หลิวชางหลาน ไม่คิดว่าสิ่งที่ หลินเฟิง หมายถึงคือ
เขาอาจไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์เพียงพอเรืองผู้หญิง แต่ถ้า หลิวชางหลาน รู้มันอาจจะน่าสงสัยก็ได้
แต่ หลินเฟิง มีทางเลือกอะไรอีกเล่า? ถ้าเขาปฏิเสธข้อเสนอของ หลิวชางหลาน น่าจะเป็นเรื่อง
ที่น่าสงสัย ...
เมื่อ หลิวเฟย เคยได้ยินมาว่าพ่อของเธอบอกว่าเขาต้องการที่จะใช้เวลาอยู่กับ หลินเฟิง เพียงลำพัง
เธอรู้สึกโกรธอย่างมากในใจเธอ
ในตอนนี้ หลินเฟิง และ หลิวเฟย อยู่ในบ้านของเธอ หลิวเฟย โกรธขณะที่มอง หลินเฟิง
และกล่าวว่า: "เจ้าบอกอะไรกับพ่อข้างั้นรึ?"
เธอจำได้ว่า หลินเฟิง ได้กล่าวว่าเขาเป็นแฟนของเธอต่อหน้าพ่อของเธอ เป็นไปได้ไหมว่าพ่อของ
เธอเข้าใจผิดเพราะ หลินเฟิง ในขณะนั้น หลิวชางหลาน ได้บอกให้ หลิวเฟย เดินทางไปซึ่ง
หลินเฟิง ดยไม่ต้องขอความเห็นจากเธอและไม่ได้ให้โอกาสเธอตอบแก้ตัว
ไอคนชั่ว หลินเฟิง เขาไม่ต้องการให้โต้แย้ง เขากำลังยิ้มอีกแล้ว
"ท่านพ่อ ข้าไม่อยากไป" หลิวเฟย กล่าวขณะที่ส่ายหัวและมองไปที่พ่อของเธอ
"อย่าสร้างปัญหาสิ เฟยเฟย! ข้าได้ตัดสินใจแล้วข้าจะไม่เปลี่ยนใจ ข้าบอก หลินเฟิง ให้อยู่ใน
เมืองต้วนเหลิน เป็นเวลาสามวัน สามวันนับจากนี้เจ้าทั้งสองจะต้องออกไปไหนด้วยกัน "
หลิวชางหลาน กล่าวอย่างเคร่งครัดและเข้มงวดกับคำพูดของเขา
"ท่านพ่อ!"หลิวเฟย ตะโกนใส่ซึ่งอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกขัดจังหวะโดย หลิวชางหลาน
“ไม่! เจ้าไม่ต้องพูดอะไรแล้ว! ข้าเป็นพ่อของเจ้าและเจ้าควรฟังข้า "
หลิวเฟย กำลังสั่นขณะจ้องพ่อของเธอซึ่งทำให้ หลิวชางหลาน อยากจะเอาคำพูดของเขากลับ
มาและให้ทางเลือก แต่เขาเชื่อมั่นว่า หลิวเฟย ต้องออกไป ดังนั้นเขาจึงไม่กลับคำพูด
"ข้าขอโทษ. ข้าจะไม่ขัดคำสั่ง "หลิวเฟย ไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่นและวิ่งไปที่ห้องของเธอด้วย
ใบหน้าสีแดง
เมื่อ หลิวชางหลาน เห็น หลิวเฟย วิ่งไปทั้งอย่างนี้ เขารู้สึกหมดหนทาง หลินเฟิง รู้สึกหมดแรงเช่น
กัน เนื่องจากปัญหาที่ หลิวชางหลาน ทำให้เขาต้องกังวลเกี่ยวกับความตายตลอดไปถ้าอยู่
กับ หลิวเฟย
"คนบางคนใจร้ายเกินไปจริงๆ ... " หลินเฟิง กล่าว
............
สามวันต่อมาฝุ่นตะหลบรอบ ๆ ม้าที่กำลังวิ่ง กองทหารม้าหุ้มเกราะฉีซู่วหลายร้อยคนกำลัง
วิ่งบนถนนโบราณ
"ลุงหลิวชางหลาน ท่านสามารถมากับเราที่นี่ได้เราน่าจะทำได้ดีตั้งแต่ตอนนี้" หลินเฟิง กล่าว
กับ หลินชางหลาน
ม้าของพวกเขาค่อยๆชะลอตัวและหยุดลง หลิวชางหลาน มองไปที่ หลิวเฟย เขามองอย่าง
ไม่เต็มใจนัก นอกจากนี้เขายังไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไรจะพบกันอีกครั้ง
"ท่านพ่อ ท่านกลับไปได้แล้ว" หลิวเฟย กล่าวอย่างไม่เต็มใจ เธอกำลังกัดฟันตัวเองพูด
"เฟยเฟย, เชื่อฟัง หลินเฟิง นะลูก"หลิวชางหลาน กล่าวขณะที่จ้องมอง หลิวเฟย อย่างจริงจัง
ถึงแม้ว่า หลิวชางหลานจะรู้จัก หลินเฟิง ได้ไม่นานเขารู้ว่า หลินเฟิง มีความแข็งแกร่งมาก
เขารู้สึกมั่นใจว่า หลินเฟิง สามารถดูแล หลิวเฟย ได้
หลิวเฟย เหลือบมองที่ หลินเฟิง แล้วพยักหน้าและกล่าวว่า "ท่านพ่อ,ข้าจะเชื่อฟัง."
"ดูแลตัวเองด้วย" หลิวชางหลาน กล่าวขณะหันกลับไปและควบม้าออกไปตามทาง
"หลินเฟิง ได้โปรดดูแลเธอให้ดี" หลิวชางหลาน ตะโกนลั่นมาจากที่ไกล ๆ
"น้องสาวขอให้เดินทางปลอดภัย"
"น้องชาย,ขอให้เดินทางที่ปลอดภัย."
ทหารม้าหุ่มเกราะฉีซู่วพวกเขาตะโกนคำเหล่านี้กับ หลิวเฟย และ หลินเฟิง และจาก
พวกเขาตาม หลิวชางหลาน ไป
หลิวเฟย จ้องมองพวกเขาอยู่พักหนึ่งโดยไม่ขยับไปไหน
หลินเฟิง ที่อยู่ข้างๆเธอก็เงียบไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
เมื่อวานนี้พ่อของข้าบอกว่าเขาเคยทิ้งนิกายหยุนไห่ในอดีตถึงแม้ว่าพวกเขาจะสอนอะไรให้เขามาก
ก็ตาม เขาคิดว่าเขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบการทำลายนิกายหยุนไห่ เขารู้สึกเสียใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ในใจของเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "
"พ่อของข้าบอกว่าในระหว่างการสู้รบครั้งยิ่งใหญ่กับชายแดนเมืองต้วนเหลิน แม่ของข้าถูกสังหาร
เขาไม่ได้พูดคุยกับเธอก่อนที่เธอจะถูกสังหาร เขารู้สึกผิดมาก "
"พ่อของข้ายังบอกด้วยว่าเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับเขตชายแดนเมืองต้วนเหลิน เขาไม่ได้มีเวลาดู
แลข้านั่นคือเหตุผลที่เขาได้ส่งข้าไปที่นิกายหยุนไห่ เพราะเขาไม่สามารถรับผิดชอบดูแลข้าได้
ในฐานะพ่อ เขากล่าวขอโทษข้าด้วยความเสียใจ เพราะว่าข้าเป็นลูกสาวของเขา "
"พ่อของข้ายังกล่าวอีกว่า ในช่วงสงครามของเขตแดนเมืองต้วนเหลิน เขาสูญเสียกองทหารจำนวน
มากเป็นแสน ๆ หรือมากกว่านั้น ... พวกเขาถูกฝังอยู่ข้างนอกเมืองต้วนเหลินและเขา ... ยังคงมีชีวิตอยู่
เขารู้สึกเสียใจ ว่าเขาไม่สามารถช่วยพวกทหารเห่านั้นได้ "
หลินเฟิง กำลังฟัง หลิวเฟย เล่าอย่างสงบ เขาพบว่าเรื่องราวเหล่านี้ทั้งหมดค่อนข้างซับซ้อนมาก
"ข้ารู้ว่าทำไมพ่อของข้าต้องการให้ข้าออกไป เขาไม่ต้องการให้ข้าเข้ามาเกี่ยวข้อง เขารู้สึกเสียใจและ
เสียใจในหลายสิ่งหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ข้ารู้ก็คือแคว้นซู่วเย่ว จะต้องเสียใจกับสิ่งที่พวกเขาทำและ
ที่กำลังทำกับพ่อของข้า แล้วซักวันหนึ่งพวกเขาจะต้องกล่าวขอโทษพ่อของข้า "
หลินเฟิง เงยหน้าขึ้นมองไปบนฟ้าขณะฟัง หลิวเฟย แม้ว่าแคว้นซู่วเย่วจะกล่าวขอโทษกับพวกเขานั้น
ก็ยังไม่เพียงพอ! ถ้าหลินเฟิง แข็งแกร่งพอเขาจะไปที่เมืองจักรพรรดิและถามตระกูลจักรพรรดิว่าพวก
เขารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาอยากรู้จริงๆว่าคนเหล่านี้รู้สึกอย่างไรจากกดบึ้งของหัวใจ
เฉพาะผู้ที่แข็งแกร่งพอถึงจะมีผลกระทบต่อผู้อื่นได้ ในโลกนี้ถ้ามีคนแข็งแกร่งมากพอที่จะทำลาย
ทั้งแคว้นด้วยน้ำมือของเขาและแน่นอนว่าจะไม่มีใครจะต่อต้านเขาได้
หลินเฟิง ไม่มีทางเข้าใจว่าทำไมความแข็งแกร่งจึงมีความสำคัญในดินแดนนี้นัก
"ถ้าเจ้าอยากจะร้องก็ร้องออกมาเถอะ ไม่เป็นไรนะ "หลินเฟิง กล่าวกับ หลิวเฟย ด้วยเสียงนุ่มนวล
หลิวเฟย มีความกดดันมากเกินไป เป็นอะไรที่น่าเสียดายสำหรับสาวงามในวัยสิบหกปี
เมื่อหลิวเฟยได้ยินคำพูดของ หลินเฟิง น้ำตาก็ไหลอย่างไม่หยุดหย่อนไหลลินไปตามแก้มนุ่มๆ
ทันใดนั้นเธอก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง เธอสั่น เธอแทบจะไม่อยากหายใจจากน้ำตาที่ไหลออกมา
อย่างไม่มีที่สิ้นสุดจากตาของเธอ
หลินเฟิง ยิ้มหัวเราะเบาๆ ผู้หญิงต่างก็เหมือนกันทั้งหมด แรงกดดันมากพอจะทำให้พวกเธอ
ร้องไห้ได้แม้ว่าพวกเธอาจะพยายามซ่อนมันไว้ก็ตาม
หลินเฟิง ควบม้าของเขาตามติด หลิวเฟย และวางมือบนบ่าของเธอ จากนั้นเขาก็กระโดดลงจาก
ม้าตัวเองไปบนม้าของ หลิวเฟย และกล่าวว่า "ไม่เป็นไรข้าจะซับน้ำตาให้เจ้าเอง"
หลิวเฟยหันกลับมองไปที่ หลินเฟิง ตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาและก้มลงไปที่อกของเขาขณะที่
ร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของ หลินเฟิง
ขณะที่ หลิวเฟยสงบลงแล้ว เธอมอง หลินเฟิง และกล่าวว่า: "เจ้านี่ช่างเป็นคนเลวทรามจริงๆ
เจ้าใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เช่นนี้ "
"เอ๋... ." หลินเฟิง ปวดหับกับอารมณ์ของผู้หญิงจริงๆ
"ดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังตกหลุมรักข้าอยู่นะ" หลินเฟิง กล่าว
หลิวเฟย มองไปที่เขาและพูดว่า: "รักตัวเองไปเถอะเจ้าบ้า."
"เจ้าหลอกใครก็ได้ แต่เจ้าหลอกข้าไม่ได้หรอก?" หลินเฟิง กล่าวขณะหัวเราะ จากนั้นเขาก็
กระโดดกลับไปที่ม้าหุ่มเกราะซีซู่วของเขา
หลิวเฟย ยังคงมีน้ำตาไหลรินออกมาและใบหน้าของเธอก็เป็นสีแดง แต่เธอไม่ต้องการ
ให้ หลินเฟิง เห็นเธอ
"ไปกันเถอะ" หลิวเฟย กล่าวกับ หลินเฟิง ม้าหุ้มเกราะได้วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับว่า
พวกมันสามารถเข้าใจคนที่ขี่มันได้ พวกมันออกไปด้วยความเร็วเต็มกำลัง หลินเฟิง ยิ้ม
การทำให้ หลิวเฟย รับฟังเขาได้นั้นจะเป็นงานที่ยากจริงๆ!
บนถนนสายเก่าแก่และโบราณเช่นนี้ฉากที่สวยงามของชายหนุ่มที่หล่อเหลาและเด็กสาวที่
เลอโฉมกำลังควบม้าวิ่งไปอย่างรวดเร็วสู่เส้นขอบฟ้า....
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น