ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 123


ตอนที่ 123 พรมแดนต้วนเหลิน









"หลินเฟิง !!!!" คนที่สวมหน้ากากทองแดงแปลกๆนั้นคือ หลินเฟิง! ... และเขาเป็นคนที่ช่วย
ชีวิตพ่อของเธอไว้งั้นรึ?


หลิวชางหลาน มองหน้า หลินเฟิง เขาได้พบ หลินเฟิง เพียงสองครั้งและทั้งสองครั้งเขาก็สวม
หน้ากากทองแดง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น หลินเฟิง โดยไม่ได้สวมหน้ากาก


เขายิ้มและดูเหมือนเป็นคนที่มีอารมณ์ดี แม้อายุเขาดูลึกลับและดูเป็นผู้ใหญ่ก็ตาม มีเพียง
ปากของเขาที่แสดงให้เห็นรอยยิ้มที่ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่นักและซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาอาจ
เป็นคนอารมณ์ขันดีเช่นกัน


"เด็กงั้นรึ !" หลิวชางหลาน ตะโกนด้วยความมึนงงและกระซิบว่า : "เขานี่ช่างลึกลับยากที่
จะหยั่งถึงได้จริงๆ"


เป็นครั้งแรกที่ หลิวชางหลาน ได้เห็น หลินเฟิง การกล่าวของ หลินเฟิง เพียงสองสามครั้ง
นั้นลึกซึ้งและลึกลับบางครั้งก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อความคิด


ครั้งที่สองที่เขาได้พบกับ หลินเฟิง ได้โต้แย้งอย่างดุเดือดกับ ต้วนเทียนหลาง ปล่อยให้เขา
ยืนโง่และไม่สามารถตอบอะไรได้ เขาได้ทำให้ชื่อเสียงของลานศักดิ์สิทธิ์เสียหาย เป็นคนเดียว
ที่กล้าหาญเช่นนี้ในเมืองจักรพรรดิ นั่นคือชายหนุ่มที่กำลังยิ้มอยู่ตอนนี้


สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงต้องใช้สติปัญญาอย่างมากเท่านั้น แต่เขายังต้องกล้าและไม่เกรงกลัวที่
ทำให้ ต้วนเทียนหลาง เสียหน้าต่อหน้าคนมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ทำอะไรไม่เหมือน
ชาวบ้าน


หลิวชางหลาน คงไม่คิดว่าคนพิเศษเช่นนี้นั้นยังเป็นเด็กอยู่


"หลินเฟิง เจ้าพูดว่าเจ้า ....เป็นแฟนของหลิวเฟย." ทันใดนั้น หลิวชางหลานได้ถาม หลินเฟิง
เขามีความรู้สึกประหลาดใจซึ่งแสดงออกทางสีหน้าของเขาและถามว่า "มันเป็นความจริงงั้นรึ?"


ทันใดนั้นอยู่ๆ หลินเฟิง ก็กลายเป็นคนขี้อายซะอย่างงั้นและเกาหัวของเขาในขณะที่ยังคงเงียบ
หลิวเฟย กำลังจ้องมองไปที่เขาด้วยความตกใจ


"ท่านพ่ออย่างไปฟังไอ้บ้านั่น เขาเป็นคนชั่วช้าที่น่ารังเกียจ "ในขณะนั้นเธอโกรธที่ หลินเฟิง
พูด แล้วยังกล้าบอกว่าเขาเป็นแฟนของเธอ ต่อหน้าพ่อของเธอ ช่างน่าไม่อาย!


"คนชั่วช้าที่น่ารังเกียจ?" หลินเฟิง ดูอึดอัดอย่างมากหลังจากได้ฟังคำพูดเช่นนั้น จากนั้นเขา
ก็บอกกับ หลิวเฟย ว่า "เฟยเฟย เจ้าไม่ใช่คนที่ถามข้างั้นรึและบอกว่าเราอยู่ในความสัมพันธ์
เช่นนั้นต่อหน้าทุกคนในวันนั่น? ถ้าข้าเป็นคนชั่วช้าเจ้าก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน! "


".................. " ตาของ หลิวเฟย เกือบจะกลิ้งหลุดออกมา นี่มันบ้าอะไรกัน!


ดวงตาของ หลิวชางหลาน เบิกกว้าง เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลย!


หลินเฟิง จ้องที่ใบหน้าที่สวยงามของ หลิวเฟย ทำให้เธออาย ทำไมเธอถึงเริ่มเรียกเขาว่าเป็น
คนชั่วช้าอีกแล้ว?


ในขณะที่มองทั้งสองคนในสถานการณ์แปลกเช่นนี้ช่วยไม่ได้ที่ หลิวชางหลาน จะยิ้มและกล่าวว่า
 "เฟยเฟย ไม่เป็นไรพ่อเห็นมามากพอแล้ว ไปกันเถอะ "


Liu Fei โกรธมอง Lin Feng แล้วทำให้ม้าของเธอหันไปรอบ ๆ


ทั้งสามคนกำลังขี่ม้า ทันใดนั้นทหารหลายคนของกองทัพ หลิวชางหลาน เมื่อพวกเขาได้เห็น
หลินเฟิง กับกลุ่มคนเหล่านี้เริ่มเข้าใกล้มา ฝูงชนก็คุกเข่าลงและโค้งคำนับหัวของพวกเขา
กระแทกลงไปที่พื้นอย่างดัง


หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจและพบว่ามันแปลกมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คนเหล่านี้ไม่ได้คำนับต่อหน้า
หลิวชางหลาน ... หรือ หลิวเฟย ... แต่เป็นเบื้องหน้าเขา!


"ขอบคุณที่ช่วยชีวิตท่านแม่ทัพเอาไว้" ผู้คนในฝูงชนต่างขอบคุณ หลินเฟิง หลังจากนั้น
หลินเฟิง ก็ตกตะลึงไปอีกครั้ง


"ได้โปรดลุกขึ้น. ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้ "หลินเฟิง ตอบ คนเหล่านี้มีความแข็งแกร่งอย่างไม่น่า
เชื่อและมีประสบการณ์หลายอย่างที่ไม่ธรรมดาตลอดชีวิตของพวกเขา พวกเขาจะคำนับ หลินเฟิง
ไปทำไมกัน?


"หนุ่มน้อย เจ้าไม่ได้เพียงช่วยชีวิตแม่ทัพเท่านั้น แต่เจ้าช่วยกองทหารม้าหุ้มเกราะไว้ทั้งสองร้อยคน
ถ้าท่านแม่ทัพของเราเสียชีวิตเมืองของเราอาจจะตกอยู่ในอันตรายและอาจถูกรุกราน นั่นหมายความ
ว่าเจ้าได้ช่วยชีวิตและปกป้องชีวิตของผู้คนเอาไว้มากมายด้วยการกระทำของเจ้า "นายทหารคนหนึ่ง
มองอย่างเคร่งขรึมและกล่าวขอบคุณ.. หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เคยนึกถึงสิ่งเหล่านี้เลย


"โอ้ข้าเข้าใจแล้ว แต่แค่นี้เกินพอแล้ว กรุณายืนขึ้นด้วยเถิด."


หลินเฟิง ไม่ได้เป็นคนหยิ่งและทุกคนสามารถมองเห็นมันได้ ทุกคนลุกขึ้นยืนเมื่อ หลินเฟิง บอกพวกเขา
พวกเขาเห็นว่าเขาดูอายที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก


"ไม่เป็นไรตอนนี้ทุกคนสามารถแยกย้ายไปได้" หลิวชางหลาน กล่าวขณะโบกมือให้กับทุกคน
ทุกคนก็เงียบแล้วจากไป


"หลินเฟิง คนเหล่านี้ไม่ได้เป็นทหาร พวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ พวกเขาเป็นองค์ประกอบที่ดีที่สุดใน
กองทัพของข้า พวกเขาทั้งหมดสามารถนำกลุ่มคนเพียงไม่กี่ร้อยคนได้ ข้ามีเจ้าหน้าที่เพียงห้าร้อย
คนเท่านั้น ข้าไว้ใจพวกเขามากกว่าคนอื่น ๆ ในโลก ทหารที่มากับข้าไปยังเมืองจักรพรรดิเป็นยาม
ทั้งหมด เจ้าได้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ ในอนาคตถ้ามีโอกาสพวกเขาจะช่วยเจ้า "หลิวชางหลาน กล่าว


หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจและตอบว่า "ช่วย ... ข้า?”


"ใช่แล้ว ช่วยเจ้า" หลิวชางหลาน กล่าวอย่างจริงจังในขณะที่พยักหน้า เขากล่าวเสริมว่า "เจ้าสังเกต
เห็นไหมว่าบางคนต้องการทำร้ายข้า เมื่อถึงจุดหนึ่งพวกเขาอาจทำสำเร็จ ... ถ้าในอนาคตเจ้ามีส่วน
ร่วมในสงครามเหล่านี้พวกเขาก็จะช่วยเจ้าเอง "


หลินเฟิง ยิ้ม  ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต?


หลินเฟิง สังเกตเห็นประตูอื่น ๆ ของเมืองและถอนหายใจ พวกเขาอยู่ทางตอนเหนือของแคว้นที่ชาย
แดนติดกับแคว้นอื่นถ้ามีการโจมตีสักวันหนึ่งแม้ว่าจะยังไม่ได้เกิดขึ้นก็ตาม อาณาเขตของ
หลิวชางหลาน ก็จะเป็นด่านแรกของแคว้นที่ได้รับผลกระทบและเริ่มต่อสู้


เฟยเฟย, เจ้าไปก่อน หลินเฟิง และพ่อจะตามไป  "หลิวชางหลาน กล่าวกับ หลิวเฟย  หลิวเฟย
รู้สึกประหลาดใจและมึนงงที่พ่อของเธอให้เธอกลับไปก่อน


"ตามนั้น" เธอพูดขณะพยักหน้า เธอไม่ได้ขอให้พ่อของเธออธิบายและแล้วจากไป


หลินเฟิง เดินไปที่ประตูกัน หลิวชางหลาน กล่าวขณะที่มองไปที่ หลินเฟิง


หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่รู้ว่าทำไม หลิวชางหลาน ต้องการให้ หลิวเฟย กลับไป
ให้พวกเขาอยู่กันตามลำพัง


"ตกลง" หลินเฟิง กล่าวขณะพยักหน้า พวกเขาควบม้าไปทางประตูตะวันตกของเมือง มีกอง
กำลังจำนวนมากในพื้นที่นี้ แม้ว่าพวกเขากำลังมองไปที่ หลิวชางหลาน พวกเขาก็ไม่ได้เคลื่อน
ไหวออกจากตำแหน่งของพวกเขา


พวกเขาลงจากม้าจากนั้น หลิวชางหลาน เดินนำ หลิวเฟิง ไปทางบันไดทางด้านซ้ายของประตู
บันไดนำไปสู่ประตูทางออกซึ่งมีขนาดใหญ่มาก พวกเขาเดินขึ้นไปที่ด้านบนสุดของหอคอย
หลินเฟิง ก็รู้สึกถึงความรุนแรงของลมและความหนาวเย็นที่พัดมาบนใบหน้าของเขา


หลินเฟิง มองไปที่ภูมิประเทศและประหลาดใจอย่างมาก


"เมืองต้วนเหลิน เมืองพันใบมีด!" หลินเฟิง คิด


หน้าเขาเป็นทุ่งกว้างใหญ่ซึ่งไกลสุดลูกหูลูกตา  มีอาวุธมากมายที่วางอยู่บนพื้น บางส่วนของอาวุธ
เหล่านี้เต็มไปด้วยสนิมและเสื่อมลงเมื่อเวลาผ่านไป



"ตั้งแต่สงครามครั้งนั้น ข้าไม่เคยได้รับคำสั่งให้นำอาวุธออกจากตำแหน่งของพวกเขา ข้าได้ทอดทิ้ง
พวกเขาไว้ที่นั่นเพื่อรำลึกถึงวิญญาณที่กล้าหาญเหล่านี้ "หลิวชางหลาน กล่าวช้าๆ เขาชี้นิ้วไปไกล
ดูเหมือนดาบขนาดมหึมาตัดภูเขาออกเป็นสองส่วน มันแปลกคล้ายภูเขาที่เขาได้เห็นแสงแดดส่องใน
นิกายหยุนไห่, สถานที่ที่ หลิวเฟย เคยฝึกการบ่มเพาะพลัง สถานที่แห่งนั้นที่ถูกล้อมรอบไปด้วยคูเมือง


ในขณะที่คูน้ำทางธรรมชาติถูกล้อมรอบไปด้วยเนินเขาสูงจึงทำให้กองกำลังของ หลิวชางหลาน
สามารถยิงคนที่พยายามจะมาจากสถานที่นั้นได้ง่ายขึ้น พวกเขาถูกทำให้บาดเจ็บได้หากพวกเขา
มาจากสถานที่แห่งนั้น


"สถานที่นั้นเป็นพรมแดน ถ้าเจ้าไปที่นั่นแล้วมีจะโอกาสที่ดีสำหรับเจ้า มันถูกเรียกว่า พรมแดน
ต้วนเหลิน "


"พรมแดนต้วนเหลิน ..." หลินเฟิง กำลังคิดแล้วพูดออกมาเบาๆ


"นี่เป็นพรมแดนติดกับแคว้นม่อหยู แคว้นม่อหยู และประเทศ ซู่วเย่ว แตกต่างกันอย่างมากในแคว้น
ม่อหยู พวกเขาไม่ได้มีนิกายและพวกเขารวมกันอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นพวกเขาจึงแข็งแกร่งกว่าเรา
มากนักเนื่องจากมีอำนาจจากการรวมกัน พวกเขามีกองทัพขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครอง
เดียว ถ้าพวกเขาไม่กลัวกองทัพของข้าในเมืองต้วนเหลิน พวกเขาคงจะโจมตีไปนานแล้ว "
หลิวชางหลาน กล่าว นั่นเป็นเหตุผลที่ หลิวชางหลาน ได้พยายามอย่างยาวนานโดยไม่ได้ใช้ความ
กลัวนำกองทัพของเขาในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ เขาได้รับชัยชนะและสร้างตำนานที่นำความหวาดกลัว
มาสู่ศัตรูของเขา


"หลินเฟิง เจ้าเห็นว่าสถานการณ์เช่นนี้อันตรายต่อข้าแล้ว สักวันข้าอาจจะโดนพลากชีวิตไปและ
ข้าไม่ได้พูดเล่นๆเมื่อข้าพูดเรื่องนี้ ... "


หลินเฟิง เข้าใจว่าทำไม หลิวชางหลาน ได้ละทิ้งนิกายหยุนไห่ในอดีต เขาทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้อง
หลังเพื่อปกป้องแคว้นของเขาจากผู้รุกราน ในแคว้นซู่วเย่ว มีภัยคุกคามทั้งภายในและภายนอก
สถานการณ์มีความซับซ้อนอย่างมาก


"หลินเฟิง มีบางอย่างที่ข้าอยากถามเจ้า"


หลินเฟิง มึนงง เขาจ้องมองไปที่ หลิวชางหลาน หลิวชางหลาน ต้องถามอะไรจากเขา?


หลิวชางหลาน กล่าวอย่างช้าๆว่า "ได้โปรดดูแล เฟยเฟย ด้วย"






Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

Facebook