ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 113


ตอนที่ 113 นิ้วเดียว









ไป๋ซื่อ ยืนอยู่กลางฝูงชน เสื้อผ้าที่งดงามของเขาไม่สามารถซ่อนความชั่วร้ายบนใบหน้าของเขาได้
เขามีใบหน้าที่ดูหน้ากลัว เขาดูคล้ายกับสัตว์อสูรที่ชั่วร้าย


คำพูดของ หลินเฟิง ทำให้เขาโกรธมาก ถ้าเขาไม่สู้คนก็จะเยาะเย้ยเขาไปจนตาย


การต่อสู้ระหว่าง หลินเฟิง และ ซู่ชิว ทำให้ไม่สามารถเดาความแข็งแกร่งจริงๆของ หลินเฟิง ได้
พวกเขาไม่ได้มีโอกาสได้ดูระดับพลังของ ซู่ชิว สิ่งเดียวที่ผู้คนสามารถมั่นใจได้คือ ซู่ชิว นั้น
อ่อนแอกว่า หลินเฟิง


"เขาอายุประมาณสิบหกปีแต่เขาก็แข็งแกร่งเอาการ เขาน่าจะอยู่ที่จุดสูงสุดของชั้นจิตวิญญาณขั้น
ที่สองและเขาแข็งแกร่งกว่า ซู่ชิว มาก "ไป๋ซื่อ กล่าวขณะที่เขาพยายามจะสร้างความมั่นใจให้กับ
ตัวเอง ไป๋ซื่อ ได้ตัดผ่านไปถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สามแล้วและสามารถเอาชนะ ซู่ชิว ได้อย่างง่าย
ดายหากเขาต้องการ


ตอนแรกเขาคิดว่า หลินเฟิง เป็นเพียงคนจนหรือขอทานเพียงเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของ
หลินเฟิ งรวมทั้งบุคลิกของเขาที่แสดงออกมาทำให้ ไป๋ซื่อ ถึงกับมึนงง สำหรับเขาแล้วลักษณะ
ท่าทางแบบนั้นไม่เหมือนคนที่แข็งแกร่งแต่อย่างใด


ไป๋ซื่อ ไม่มั่นใจเพราะไม่ว่าเขาจะชนะหรือแพ้การต่อสู้ครั้งนี้จะไม่มีประโยชน์อันใดเลยแม้แต่น้อย


ถ้าเขาชนะไม่มีใครจะยอมรับความแข็งแกร่งของเขาได้ อันที่จริงการชนะคนจนเป็นเรื่องปกติ
ธรรมดาเห็นๆอยู่แล้ว สำหรับเขาแล้วไม่มีใครจะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่ายกย่องที่ชนะคนแบบนี้
บางคนอาจคิดว่าเขาได้ใช้อำนาจในการข่มขู่ผู้ที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตามถ้าเขาแพ้เขาจะเสียหน้า
และอาจกลายเป็นว่าจะไม่มีค่าพอที่ใครพูดถึงได้ เขาอาจจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้
ทำงานหนักเพื่อที่จะสร้างชีวิตทั้งหมดของเขาไป


"เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าเจ้าต้องการให้ข้าแสดงให้เห็นว่าข้านั้นแข็งแกร่งแค่ไหน?" ไป๋ซื่อ  ถามด้วย
เสียงที่ชั่วร้ายมาก ลักษณะการพูดของเขาทำให้ หลินเฟิง นึกถึงน้ำเสียงของ เวิ่นเหลินหยาน
ที่เหมือนงูพิษ


"ใช่แล้วข้าแน่ใจ" หลินเฟิง ตอบขณะพยักหน้า


"เจ้าคิดยังไงเกี่ยวกับผลที่ตามมาบ้าง?" "ถ้าข้าแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของข้าแล้วเจ้า
แน่ใจได้เลยว่าจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต."


"ฮ่าๆๆ" หลินเฟิง หัวเราะขณะที่ดวงตาเป็นประกาย จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า "เจ้า
เป็นผู้บ่มเพาะพลังที่ร่ำรวยที่ปากเน่าจริงๆ ข้าเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับการที่พวกเจ้าชอบพูดซะแล้ว
เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกต่อไป ข้าได้ยินเรื่องไร้สาระแบบนี้มามากพอแล้วในวันนี้ "


ในเวลาเดียวกันขณะที่พูด หลินเฟิง เหลือบมองไปที่ ซู่ชิว ซู่ชิว และ ไป๋ซื่อ ก็ไม่ต่างกันสำหรับเขา


"ฮ่าฮ่า เจ้าได้ยินนั่นไหม? ไป๋ซื่อ ควรหยุดพูด "


"ใช่แล้ว ผู้บ่มเพาะพลังและขุนนางเหล่านี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากเมื่อเจ้าฟังพวกเขา แต่ถ้าเจ้า
ท้าทายพวกเขา เขาเหล่านั้นก็ไม่สามารถทนต่อการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้ "


คนธรรมดาถึงกับตื่นเต้น แต่คนที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและขุนนางดูโกรธมากขึ้นโดยเฉพาะ
อย่างยิ่ง ไป๋ซื่อ เขารู้สึกอยากฆ่า หลินเฟิง ที่อยู่ตรงนั้น


"เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าเจ้าเข้าใจผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของเจ้าอย่างชัดเจน?" ไป๋ซื่อ กล่าว
ขณะที่เดินออกมาจากฝูงชน น้ำเสียงเขาเหมือนกับงูพิษ


"เจ้าคิดถึงผลที่ตามมาทุกๆครั้งที่เจ้าเรียกข้าว่าขอทานบ้างหรือยัง?" หลินเฟิง กล่าวขณะที่ก้าว
ไปข้างหน้าพลังปราณที่แหลมคมและโหดร้าย เริ่มโผล่ออกมาจากร่างกายของเขา


"ข้าเป็นถึงขุนนางชนชั้นสูงข้าร่ำรวยข้าเป็นสมาชิกของตระกูลไป๋ในเมืองจักรพรรดิ ข้ายังไม่ได้อายุ
ถึงสิบแปดปี แต่ข้าได้ตัดผ่านไปถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สามแล้ว ข้ามีสถานะที่สูงในสังคม ข้าเป็น
อัจฉริยะ ข้าแข็งแกร่งที่สุด ข้ามีทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าต้องการ แล้วเจ้ามีปัญหาอะไร? มันผิดที่ข้าจะ
เรียกเจ้าว่าเป็นคนขอทานงั้นรึ? มันไม่ใช่ความจริงรึไง? "ไป๋ซื่อ กล่าวขณะเดินไปอีกก้าว พลัง
ปราณที่ชั่วร้ายและพลังปราณที่เย็นได้เคลื่อนไปหา หลินเฟิง ดูเหมือนว่าจุดประสงค์ของการโจมตี
คือการทำลายอวัยวะภายในของ หลินเฟิง ไป๋ซื่อ ใช้พลังทั้งหมดที่เขามีหลังจากตัดผ่านไปถึงชั้น
จิตวิญญาณขั้นที่สาม


"ข้าเกิดเป็นคนธรรมดาไม่เคยใช้เงินทองจำนวนมากซื้อทรัพยากรณ์และเพื่อทำให้ตัวเองก้าวหน้า
ข้าเพิ่งอายุได้สิบหกปีและข้าได้ผ่านไปถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สามแล้ว เจ้าพอจะเป็นคู่ต่อสู้ให้กับ
ข้าได้หรือไม่? "หลินเฟิง กล่าวคำพูดที่เฉียบคมเหมือนดาบ ทันใดนั้นปราณดาบที่น่าตกตะลึง
และพลังอำนาจได้ลอยขึ้นไปในอากาศ


พื้นดินและท้องฟ้าได้ปล่อยเสียงดังกึกก้อง ฝูงชนต่างก็มึนงง หลินเฟิง เพิ่งอายุสิบหกปีแต่อยู่ใน
ระดับเดียวกับ ไป๋ซื่อ พวกเขาทั้งสองได้ตัดผ่านไปในชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สาม อย่างไรก็ตาม
ไป๋ซื่อ ได้เติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมการบ่มเพาะพลังที่ดีกว่า หลินเฟิง ไป๋ซื่อ มีทุกสิ่งที่เขาต้อง
การเพื่อเพิ่มการบ่มเพาะพลังของตัวเอง นอกจากนี้เขามีอายุแก่กว่า หลินเฟิง สองปี
ความแตกต่างนี้มากเกินไป


"เป็นศิษย์ที่โดดเด่นไม่ได้มีหนังสือแนะนำสถาบันสำนักสวรรค์?" บางคนในฝูงชนคิดว่า หลินเฟิง
มีความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ


ซู่ชิว ผู้ยืนอยู่ข้างๆ ซงหลิง ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาไม่รู้ว่าจะคิดอย่างไรดี เขาได้วิพากษ์วิจารณ์
ว่า หลินเฟิง เป็นคนที่ไม่ได้เป็นนักบ่มเพาะพลังที่ร่ำรวยและไม่ได้เป็นขุนนางชนชั้นสูง ... มันเป็น
เรื่องตลกสำหรับเขาเพราะไม่มีจดหมายแนะนำ แต่ในขณะนั้นเขาตระหนักได้ว่า หลินเฟิง มีความ
สามารถโดยธรรมชาติอย่างมากและมีพรสวรรค์มากกว่าพวกเขาเสียอีก แม้กระทั่ง ไป๋ซื่อ ก็ได้
สูญเสียความงดงามของเขาเมื่ออยู่ด้านหน้าของ หลินเฟิง


เส้นทางการบ่มเพาะพลังเต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่างๆมากมาย เป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่ง
กว่าคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหลังของพวกเขาก็ตาม เป้าหมายคือยืนอยู่เหนือมนุษย์ทั้งมวล


เมื่อพลังอำนาจที่ หลินเฟิง ได้ปลดปล่อยออกมากระแทกไปบนร่างกายของ ไป๋ซื่อ ไป๋ซื่อรู้สึกว่า
กำลังพ่ายแพ้ต่อความแข็งแกร่งนั่น เขาบอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะ เขาจึงไม่สามารถเสียหน้าได้
อย่างง่ายดาย เขาถอยหลังไปสองสามก้าวและได้ปลดปล่อยพลังอำนาจของเขา พยายามที่
จะทำให้ หลินเฟิง ล้มลง เขาไม่เคยนึกถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเขาอาจจะทำให้ตัวเองลำบากก็ได้
พลังอำนาจของ หลินเฟิง มีพลังมากกว่าเขา มันรุนแรงและเฉียบคม


"บนเส้นทางของการเป็นผู้บ่มเพาะพลังนอกเหนือจากความเร็วที่ระดับพลังคืบหน้าแล้ว ต้อง
เข้าใจทักษะและเทคนิค นั่นคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ อย่างไรก็ตามแน่นอนว่าจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่
สำคัญที่สุด จิตวิญญาณเป็นเหมือนดั่งวิญญาณ ข้ามีจิตวิญญาณของสัตว์อสูร ยิ่งไปกว่านั้น
มันเป็นจิตวิญญาณงูสีขาว เจ้าจะสู้ข้าได้อย่างไร? "ไป๋ซื่อ กล่าวขณะที่ถูกกดดันโดยพลังอำนาจ
ของ หลินเฟิง เขาจะไม่ยอมแพ้ต่อขอทาน เขาจะปลดปล่อยจิตวิญญาณของเขา ทันใดนั้น
เงาของงูและดวงตาทั้งสองที่ซ่อนความน่าหวาดกลัวได้ปรากฏตัวเหนือร่างกายของเขา
มันมองไปที่ หลินเฟิง อย่างชั่วร้าย


"อย่างที่คาดไว้เลย มันเป็นจิตวิญญาณสัตว์อสูร" หลินเฟิง กล่าวขณะที่ยิ้ม " สายตาของงูสีขาว
จ้องมองไปที่เขา ทำให้ หลินเฟิง นึกถึงตาคู่นั้นของ เวิ่นเหลินหยาน  ตามที่คิดไว้พวกนั้นมี
จิตวิญญาณประเภทงู


"แท้จริงจิตวิญญาณก็เป็นดวงวิญญาณดวงหนึ่ง แต่มีบางคนที่ไม่นึกถึงจิตวิญญาณของพวก
เขาจนไม่สามารถทนต่อการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้"หลินเฟิง กล่าวอย่างไม่แยแส เขาใช้ทักษะ
การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ดั่งเงาจันทร์แล้วไปปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของ ไป๋ซื่อ ขณะที่เขายก
นิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว


"เจ้าอยากตายนักใช่ไหม!" ไป๋ซื่อ กล่าวขณะที่ยิ้มอย่างเย็นชา หลินเฟิง ได้ดูถูกเขาอย่างมาก
ที่จะโจมตีเข้าด้วยนิ้วเพียงนิ้วเดียว


ไป๋ซื่อ เริ่มขยับมือเพื่อสกัดการโจมตี ในขณะนั้น ไป๋ซือ ก็แปลกใจ ความแข็งแกร่งนั่นและพลัง
มหาศาลได้กระแทกเข้ากับร่างของเขา ดูเหมือนว่านิ้วของ หลินเฟิง นั้นคมเหมือนดาบ
บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยพลังปราณที่อันตรายมันช่างน่าขนหัวลุก


"ข้าไม่สามารถเผชิญหน้ากับการโจมตีของนิ้วนั่นได้" ไป๋ซื่อ คิด เขาเริ่มตื่นตระหนก เขามี
ความรู้สึกว่านิ้วเพียงนิ้วเดียวนั้นกำลังจะพลากชีวิตของเขาไป"


พลังปราณของ หลินเฟิง ปกคลุมโดยรอบ แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ในขณะที่ฝูงชนไม่ทราบ
ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในขณะนั้น แต่สำหรับ ไป๋ซื่อ แล้วทุกอย่างมันชัดเจนเขาถูกล้อมด้วยปราณ
ดาบ เขามีความรู้สึกว่าเขาจะถูกบดขยี้ได้ตลอดเวลา


“แกร๊กก.”


ไป๋ซือ มีความรู้สึกเจ็บปวดมืออย่างมากมีรอยเลือดจางๆ ปรากฏขึ้น เขาไม่สามารถทนการโจมตี
ได้อีกต่อไป ร่างกายของเขาถูกบดขยี้และแผลเริ่มปรากฏขึ้นทั่วร่างของเขา


"หนี" ไป๋ซื่อ กำลังจะล้มลงภายใต้แรงกดดันนั้นและตัดสินใจที่จะถอยหนี แต่นิ้วของ หลินเฟิง
ยังคงปล่อยพลังที่น่ากลัวมากยิ่งขึ้น


"ตายซะ" หลินเฟิง กล่าวเพียงคำเดียว จากนั้นนิ้วของ หลินเฟิง ก็เริ่มเปล่งแสงสว่างจ้าและพลัง
ที่ทรงพลังได้พวยพุ่งขึ้น


เสียง บดขยี้ ได้กระจายไปทั่วบรรยากาศโดยรอบ ไป๋ซื่อ พูดเขาๆและจิตวิญญาณงูขาวของเขา
เริ่มปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งมากขึ้น แต่ในขณะนั้นจิตวิญญาณงูขาวของเขาก็กรแตกกระจาย
และหายตัวไป ไป๋ซื่อ คุกเข่าลงบนพื้น


ทุกคนมึนงงและจ้องมองที่ ไป๋ซื่อ บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความเงียบ


"ฟึบ, ฟึบ." ในขณะนั้นฝูงชนเห็นเลือดได้พวยพุ่งออกจากหัว ไป๋ซื่อ


นิ้วของ หลินเฟิง น่าหวาดกลัวมากเกินไป!


ความหมายของ หลินเฟิง คือบางคนใช้จิตวิญญาณของตน แต่ไม่สามารถต้านทานการโจมตีเพียง
ครั้งเดียวได้ ขณะที่บางคนไม่ได้ใช้จิตวิญญาณ แต่ก็ยังคงแข็งแกร่ง ฝูงชนรู้ว่า ไป๋ซื่อ ใช้จิต
วิญญาณของเขา แต่ยังไม่สามารถต้านทานการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้เพราะ หลินเฟิง ไม่จำเป็น
ต้องใช้จิตวิญญาณของเขาซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเขานั้นแข็งแกร่งกว่า ไป๋ซื่อ


ในขณะนั้น หลินเฟิง กำลังมองไปที่ ไป๋ซื่อ ที่คุกเข่าลงบนพื้น เขารู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดว่านิ้ว
เดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามของเขาพ่ายแพ้ได้ ดังนั้นเขาจึงพอใจกับตัวเองมาก


"ข้ายังไม่ได้ใช้พลังของดาบได้อย่างเต็มที่เลย เฉพาะบางส่วนของร่างกายของข้าเท่านั้นที่สามารถใช้
พลังอำนาจดาบได้ ข้าเพิ่งเริ่มใช้พลังอำนาจ หลังจากที่ไม่ได้ใช้นานแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ร่างกาย
และพลังอำนาจดาบของข้า ยังไม่สามารถรวมกันได้อย่างสมบูรณ์ แต่การที่สามารถใช้นิ้วมือเพื่อควบ
คุมพลังอำนาจดาบได้ก็สำเร็จแล้วและเพียงพอที่จะทำให้ ไป๋ซื่อ คุกเข่าลง  "หลินเฟิง กล่าว มื่อสักครู่
ก่อนหน้านี้เขาพยายามใช้นิ้วและพลังอำนาจดาบเข้าด้วยกัน เป็นการโจมตีที่มีประสิทธิภาพมาก


หลินเฟิง ได้ก้าวหน้าอย่างมากในฐานะผู้เชี่ยวชาญดาบ เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้และเข้าใจ
มากขึ้นเกี่ยวกับวิถีการใช้ดาบ


"ข้ายังห่างไกลจากความสามารถในใช้ร่างกายและพลังอำนาจดาบไปพร้อมกัน แต่ข้าอยากเข้าใจว่า
ผลของมันจะเป็นอย่างไรในการใช้งานครั้งแรก" เห็นได้ชัดว่า  หลินเฟิง ยังห่างไกลจากความสามารถ
ในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวนั้น ผลงานที่น่าทึ่ง แต่เขาต้องการที่จะคืบหน้าไปช้าๆทีละขั้นตอน
เพื่อให้เขามีพื้นฐานของความแข็งแกร่งบนรากฐานที่มั่นคง


"แค็ก, แค็ก" ไป๋ซื่อ กำลังไอแล้วเลือดก็ไหลออกมา เขายังไม่สามารถยืนได้


เขาเคยเป็นคนที่หยิ่งมาก่อนหน้านี้และพูดราวกับว่าเขาอยู่ในระดับที่เหนือกว่า หลินเฟิง หลินเฟิงยิ้ม
 หลินเฟิง ได้ใช้เพียงนิ้วเดียวเพื่อเอาชนะ ไป๋ซื่อ หลังจากที่เขาปลดปล่อยจิตวิญญาณ ไม่มีที่ไหนใน
โลกนี้ที่เขาจะซ่อนตัวจากความอัปยศได้


หลินเฟิง กำลังมอง ไป๋ซื่อ ดวงตาของเขาไม่ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจออกมาแม้แต่น้อย


หลินเฟิง กล่าวทันทีว่า "เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะ เจ้านั้นภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มาจากตระกูลที่ร่ำรวย
และขุนนางชนชั้นสูง เจ้าเรียกข้าว่าขอทาน ตอนนี้เจ้าจะทำอะไรต่ออีก? "หลินเฟิง กล่าวอย่างเย้ยหยัน
 คำพูดของ หลินเฟิง ทำให้ ไป๋ซื่อ รู้สึกเหมือนกำลังถูกตบหน้า การถูกตบนั้นเจ็บปวดมาก
ซู่ชิว ได้ทำลายความภาคภูมิใจของเขา เขาไม่น่าเข้ามายุ่งเรื่องนี้เลย


นอกจากนี้ไม่เพียง แต่ ซู่ชิว ที่ขายหน้า แต่ทุกคนที่เป็นขุนนางชนชั้นสูงและผู้บ่มเพาะพลังที่ร่ำรวย
ที่กำลังเฝ้ามอง แต่ละคนมีใบหน้าที่น่าเกลียด เหมือนเป็นการตบหน้าพวกเขาทางอ้อมโดย หลินเฟิง...







Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

Facebook