ตอนที่ 111 ความขัดแย้ง
หลินเฟิงและกลุ่มของเขา มองอย่างเย็นชาไปที่คนเหล่านั้นที่พูดเรื่องเหล่านี้
พวกเขาเห็นเฉพาะคนเหล่านี้ที่กำลังยิ้มอยู่
"พวกเจ้ากำลังพูดอะไรหะ?" ต้วนเฟิง ถามอย่างเย็นชา
แต่ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของ หลินเฟิง กล่าวทันทีว่า "ต้วนเฟิง ไปกันเถอะไปๆ
แลใส่ชื่อของเจ้าในรายชื่อ "
เมื่อเสร็จสิ้นการพูด หลินเฟิง ยังคงขับรถม้าไปข้างหน้า
"คับพี่ใหญ่หลินเฟิง" ต้วนเฟิง กล่าวด้วยความแปลกใจเมื่อมองไปที่ หลินเฟิง ที่กำลังยิ้ม
และส่ายหัว
"มีคนโง่อยู่มากมาย เจ้าไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงหรอกจะใช้พลังกับพวกคนโง่เช่นนี้งั้นรึ?"
ต้วนเฟิง รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่ได้คาดหวังคำตอบที่ตลกเช่นนี้ เขาหัวเราะและส่ายหัว
อย่างไรก็ตามคำพูดของ หลินเฟิง ทำให้คนเหล่านี้โกรธและใบหน้าของพวกเขาดูน่าเกลียด
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฟิง
"เจ้าขอทานสกปรก ไม่ได้อย่ามาสร้างปัญหาใกล้ๆกับสถาบันสำนักสวรรค์ ข้าจะทำลาย
การบ่มเพาะพลังของพวกเจ้าซะ" ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดอย่างเย็นชา
อย่างไรก็ตาม หลินเฟิง เมินเฉยต่อเขา เขาเริ่มคุ้นเคยกับพวกโง่ ๆ ในโลกนี้
"ซู่ชิว เจ้ากำลังโต้เถียงกับใคร?" เสียงที่ออกมาจากเบื้องหลัง ซู่ชิว ในขณะนั้นคนของ ต้วนหยู
ก็ปรากฏตัวขึ้น
"ไม่มีอะไรก็แค่พวกจนๆ" ซู่ชิว กล่าวอย่างเฉยเมย ในขณะนั้น ซู่ชิว ได้กระโดดลงมาจาก
หมาป่าจันทราของเขา
แม้ว่าสถานะของ ต้วนหลี่ ไม่ได้อยู่ในลำดับชั้นของตระกูลต้วน ชื่อครอบครัวของพวกเขาก็ยังคง
เป็นต้วน และพวกเขาต้องได้รับความเคารพจากคนอื่น
มุมมองที่ชีวิตของพวกเขาคือการแบ่งคนออกเป็นชนชั้นที่แตกต่างกัน ได้แก่ ชั้นล่าง ชั้นกลาง
และชั้นสูง ความคิดของพวกเขาถูกปลูกฝังจากระบบดังกล่าว นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาดูถูก
หลินเฟิง เมื่อพวกเขาเห็น ต้วนหยู นั้นเดินออกมา
ดังนั้นพวกเขาสามารถแสดงให้เห็นว่าชนชั้นทางสังคมของพวกเขานั้นต่ำกว่าของ ต้วนหยู
แต่ยังสูงกว่าของ หลินเฟิง
"ถ้าพวกเขาเป็นคนจนไม่จำเป็นต้องโกรธ ไปและใส่ชื่อของพวกเจ้าลงในรายชื่อซะ "ต้วนหยู
กล่าว ในขณะนั้นรอยฝ่ามือของ หลินเฟิง บนแก้มของเธอได้หายไป บ้านของเธอมียาเพียงพอ
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะรักษาอาการบาดเจ็บดังกล่าวเล็กน้อย แต่ศักดิ์ศรีของ
เธอได้รับผลกระทบและได้บาดลึกเข้าไปในหัวใจของเธอ การบาดเจ็บทางอารมณ์นั้น
ไม่ได้รักษะให้หายได้ง่ายๆ
หนึ่งในสิ่งที่เป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดสำหรับเธอก็คือข่าวดังกล่าวได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในเมือง
จักรพรรดิ คนอื่นจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับเธอ?
ต้วนเฟิง มาที่โต๊ะที่ชายชราอยู่ ชายชราคนนั้นกล่าวว่า "ได้โปรดมอบจดหมายแนะนำให้แก่ข้า"
"เอาล่ะ" ตอบ ต้วนเฟิง ตอบและส่งมอบให้แก่ชายชรา ชายชราที่ดูตกใจเขาได้เงยหน้าขึ้นและ
ถามว่า "ครอบครัวของคุณชื่อต้วนงั้นรึ"
"ถูกต้อง" ต้วนเฟิง ตอบ
"โอว ตกลง. ไปที่นั่นและรับบัตรของเจ้าแล้วเจ้าสามารถเข้าสถาบันได้ แน่นอนว่ามีใครคนบาง
คนจะต้อนรับเจ้าเมื่อเจ้าเข้าไป "ชายชราคนนี้กล่าวขณะที่ชี้ไปที่สถานที่ที่ ต้วนเฟิง ไปรับบัตร
เป็นศิษย์ของเขา ต้วนเฟิง พยักหน้า
"พี่ใหญ่ หลินเฟิง ไปกันเถอะเข้าไปข้างใน" ต้วนเฟิง บอกกับ หลินฌฟิง หลังจากนั้นชายชรา
กล่าวว่า "คนพวกนี้เป็นใคร? จดหมายแนะนำของพวกเขาอยู่ที่ไหน? "
จดหมายแนะนำ?
หลินเฟิง และคนอื่น ๆ ไม่มีจดหมายแนะนำ พวกเขาจะมีมันได้อย่างไร? หลินเฟิง ส่ายหน้าและ
กล่าวว่า "พวกเราแค่มากับเขา เราไม่มีจดหมายแนะนำ "
"ถ้าเจ้าไม่มีหนังสือแนะนำเจ้าจะไม่ได้เป็นสมาชิกของสถาบันสำนักสวรรค์และถ้าเจ้าไม่ใช่สมาชิก
ของสถาบัน เจ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปภายใน แม้แต่สมาชิกในครอบครัวก็ไม่สามารถเข้าไป
ภายในได้ เจ้าควรออกไปได้แล้ว "ชายชราคนนั้นกล่าวอย่างสงบนิ่ง แต่ยังคงออกเสียงอย่างที่
เข้มงวดราวกับว่าเขากำลังสั่งพวกเขา
หลินเฟิง เพิ่งตระหนักว่าหลาย ๆคนที่มาที่นี่เป็นครอบครัวชนชั้นสูง แต่คนที่ติดตามมาเป็นกลุ่ม
ไม่มีใครสามารถเข้าได้ นั่นอาจเป็นเพราะกฎนั้น
"คนโง่มักไม่เข้าใจกฎได้ พวกเขาไม่มีแม้แต่จดหมายแนะนำตัวและทำให้พวกเขาดูโง่เหมือนกันหมด"
ซู่ชิว กล่าวถึงการมาของพวกเขาและให้ชายชรานั้นได้ยิน
"ซู่ชิว กล่าวถูกต้อง พวกคนจนสกปรกๆเหล่านี้มาจากไหนกัน? น่าอับอายยิ่งนัก "หญิงสาวคนหนึ่ง
ที่อยู่ข้างๆเขาชื่อ ซงหลิง กล่าว คำพูดทั้งหมดที่เธอกล่าวนั้นหยาบคายและรุนแรง
"ต้วนหยู เจ้าคิดว่าไง?" ซงหลิง ถาม ต้วนหยู เธอรู้ว่า ต้วนหยู เป็นคนที่หยิ่งที่สุดในบรราดาพวกเขา
เธอยังคิดว่า ต้วนหยู จะไม่ลังเลและตบพวกคนจนที่ต่ำต้อยเหล่านี้
แต่ในขณะนั้น ซงหลิง สังเกตเห็นว่า ต้วนหยู กำลังจ้องมองชายหนุ่มคนหนึ่ง เธอกำลังหวาดกลัว
เธอดูแปลกไปและทั้งโกรธและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
หลินเฟิง หันไปและเห็น ต้วนหยู หลินเฟิง ยิ้มด้วยความประหลาดใจที่เห็น ต้วนหยู
"ไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อนของเจ้า เจ้าและเพื่อนของเจ้าเป็นขยะเช่นเดียวกัน มีเพียงเรื่องไร้สาระที่ออก
มาจากปากเช่นเดียวกับที่ออกจากปากของเจ้า "หลินเฟิง กล่าวอย่างเย็นชาซึ่งทำให้ ซงหลิง
และ ซู่ชิว โกรธ
ไอ้ขอทานคนนั้นกล้าที่จะยั่วยุให้พวกเขา? นอกจากนี้เขายังกล้าที่จะยั่วยุ ต้วนหยู, อวดดีจริงๆ!
แต่ ซงหลิง และ ซู่ชิว มองไปที่ ต้วนหยู และเห็นว่านอกเหนือจากเธอกำลังอายแล้วเธอดูเหมือนจะ
ไม่ได้ตั้งใจว่าจะทำอะไรเลย ปกติ ต้วนหยู มักจะรู้สึกภาคภูมิใจและอารมณ์เสียได้ง่าย... แต่ในขณนี้
เธอกลับเงียบ ซงหลิง และ ซู่ชิว รู้สึกประหลาดใจมากและพบว่าเหตุการณ์นี้มันแปลกเกินไป
"ปากของเจ้ากำลังพูดถึงอะไร?" ซงหลิง กล่าวขณะที่จ้องมองที่ หลินเฟิง เมื่อเธอเห็นว่า ต้วนหยู
ไม่ได้พูดอะไร สิงโตที่เธอนั่งอยู่ก็คำรามออกมาด้วยความโกรธ
สัตว์อสูรชั้นจิตวิญญาณนั้นฉลาดมากและสามารถรับรู้อารมณ์ของนายของพวกมันได้
"ไม่ฉลาดแล้วยังแสดงความโง่ออกมาอีก...ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมสถาบันสำนักสวรรค์ถึงได้ยอมรับ
ขยะเช่นนี้ไว้" หลินเฟิง กล่าวขณะที่ส่ายหน้า เขาได้ทำให้อับอายขายหน้าเป็นครั้งที่สอง หลินเฟิง
นั้นพอจะมีความอดทนอยู่บ้าง แต่คนเหล่านี้ดูไม่ค่อยจะมีความอดทน พวกเขาไม่สามารถแบกรับ
ความโง่เขลานั้นได้อีกต่อไป
"ขอทานเช่นเจ้าที่ไม่ได้มีหนังสือแนะนำกล้าดียังไงที่กล่าวถึงการตัดสินใจของสถาบันสำนักสวรรค์
เจ้าช่างเป็นคนไร้ยางอายจริงๆ วันนี้แม้ว่าสถาบันจะไม่อนุญาตให้ทำอะไร แต่ข้าจะตบเจ้า "
ซงหลิง กล่าวอย่างเย็นชา ไม่มีใครเคยกล้าเรียกเธอว่าเป็นขยะ
"พอได้แล้ว! วันนี้เป็นวันลงทะเบียนของสาบันสำนักสวรรค์ ไปให้พ้น ชายชรากล่าวด้วยความโกรธ
"อาจารย์นี่เป็นจดหมายแนะนำตัวของข้า กรุณารับไว้ด้วย "ซงหลิง เดินไปหาชายชรา เธอยืนอยู่
ข้างๆ หลินเฟิง และให้จดหมายแนะนำตัวแก่ชายชรา
เมื่อชายชราเห็นลายเซ็นในจดหมายแนะนำของเธอ ดูเหมือนจะประหลาดใจ จากนั้นเขาก็กล่าวทันทีว่า
"เจ้าสามารถไปรับบัตรของเจ้าได้แล้วไปที่นั่นได้ จากนั้นเจ้าสามารถเข้าสถาบันได้ "
"อย่าใจร้อน"ซงหลิง กล่าวขณะกำลังมองไปที่ หลินเฟิง ในขณะนั้น ซู่ชิว ก็ไปหาชายชราคนนี้
เพื่อมอบหนังสือแนะนำ
ชายชรามองมาอย่างระมัดระวังและพูดขณะที่พยักหน้า : "ไม่เลวไม่ถึงอายุสิบเจ็ดก็ไปถึงชั้นจิตวิญญาณ
ขั้นที่สองได้ ตระกูลซู่ ได้ให้กำเนิดคนหนุ่มที่มีความสามารถ "
"ขอบคุณท่านอาจารย์ผู้ทรงเกียรติ"ซู่ชิว กล่าวขณะที่ยิ้มและดูน่าภาคภูมิใจ
"ซู่ชิว ... . อย่างไรก็ตามอย่าตื่นเต้นเกินไป มีอัจฉริยะมากมายในสถาบันสำนักสวรรค์... และในครั้งต่อไป
ให้เลิกทำให้ตระกูลซู่ขายหน้าได้แล้ว "
"แน่นอนข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะไม่ทำ "ซู่ชิว กล่าวขณะที่ส่ายหน้า จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่ หลินเฟิง
และพูดอย่างเย็นชาว่า : "อย่างไรก็ตามท่านอาจารย์ตอนนี้มีใครบางคนที่สมควรจะถูกลงโทษ"
มีแสงในดวงตาของชายชราขณะที่เหลือบไปที่ หลินเฟิง
แม้ว่าวันนี้เป็นวันลงทะเบียนของสถาบันสำนักสวรรค์ แต่ก็ห้ามไม่ให้สร้างความวุ่นวายต่อสู้กับคนที่
ไม่มีจดหมายแนะนำมันคงเป็นไปไม่ได้สินะ "ชายชรากล่าว ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับ หลินเฟิง
และคนอื่น ๆจากนั้นเขาก็กล่าวเพิ่มเติมว่า "พลังและอิทธิพลของสถาบันสำนักสวรรค์กว้างขวางมาก"
"ถ้าข้าไม่ตบปากสกปรกของเจ้า ข้าไม่สมควรที่จะเป็นสมาชิกของสถาบันสวรรค์" ซู่วชิว กล่าวขณะยิ้ม
หลังจากนั้น คนเหล่านี้ไม่ได้มีหนังสือแนะนำและพวกเขาก็ทำอะไรไม่คิด พวกเขาอยากมีปัญหา
ในขณะนั้นมีผู้คนจำนวนมากขึ้นได้เข้ามาใกล้เพื่อดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง พวกเขาจะไม่คิดว่าจะมีใคร
บางคนสร้างปัญหาขณะที่อยู่ใกล้ๆกับสถาบัน
"ขอทานยังไงก็เป็นขอทาน พวกเขาควรจะถูกลงโทษด้วยการประจารย์ให้อับอาย "ชายหนุ่มคนหนึ่ง
พูดกับฝูงชน เขาสวมเสื้อผ้าที่งดงามและน้ำเสียงของเขาดูหยิ่งมาก คนเหล่านี้คิดว่าคนธรรมดา
ไม่เคยเป็นที่ยอมรับในสถาบันสำนักสวรรค์ แม้ว่าจะเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งก็ตามสมาชิกของ
ตระกูลที่รวยและทรงพลังมีทรัพยากรมากขึ้นและมีเงินลงทุนในการบ่มเพาะพลังมากขึ้น ดังนั้นถึงแม้
จะเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่มีทางบ่มเพาะพลังไปไกลได้
"ขยะเช่นพวกเจ้า ใช้ประโยชน์จากพลังของพวกเขาในการกลั่นแกล้งคนอื่น ๆ นอกเหนือจา
กความสามารถในการซื้อยาที่มีราคาแพงมาก ๆแล้ว เพื่อเพิ่มพลังการเพาะปลูกของคน ๆ หนึ่งแล้ว
นอกจากมีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้รึไง? "เสียงดังกล่าวมาจากในฝูงชนที่ขัดแย้งกับสิ่งที่คนอื่น ๆ
กำลังพูด ผู้บ่มเพาะพลังเพาะปลูกที่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยและมีเกียรติ อีกสองคนเห็นด้วยกับเขา
มุมมองและความคิดเห็นต่าง ๆ ก็โผล่ออกมาท่ามกลางคนในฝูงชน
ในเมืองจักรพรรดิมีผู้บ่มเพาะพลังหลายคนที่มาจากตระกูลและครอบครัวที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียง
หลายคนหยิ่งจริงๆ เมื่อเวลาผ่านไปความขัดแย้งและความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างชนชั้นทางสังคม
ที่ต่างกัน นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเมืองจักรพรรดิ ในเมืองอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้แทบไม่เคยเกิดขึ้น...
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น