ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 110


ตอนที่ 110 เบื้องหลังม่านที่หนาทึบ










ในใจกลางเมืองจักรพรรดิมีพระราชวังขนาดใหญ่อันงดงาม


รอบ ๆ พระราชวังมีทหารยามเดินไปรอบ ๆ


วังนี้เป็นสถานที่สำคัญของเมืองจักรพรรดิ รวมทั้งแคว้นซุ่วเย่วด้วย พระราชวังแห่งนี้เป็นของ
ตระกูลจักรพรรดิ


ข่าวลือดังกล่าวบอกว่ามี 8100 จุดตรวจสอบในพระราชวัง จุดตรวจเหล่านี้มีม่านหนทึบซึ่งจะ
ต้องเดินผ่าน เฉพาะผู้ที่ผ่านพ้นจุดตรวจเหล่านี้เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงพระราชวังภายในได้


ในขณะนั้นมีเงาเดินเข้าไปในพระราชวัง มีคนๆหนึ่งเดินตามปกติราวกับเดินบนถนนธรรมดา
ไม่มีใครขวางทางเขา


คนๆนั้นใส่ชุดสีดำ การแสดงออกทางสีหน้าของชายคนนั้นหนักแน่นมั่นคงและสงบนิ่งดุจขุนเขา


ชายคนนั้นเดินผ่านม่านที่หนาทึบและมาถึงหน้าบ่อน้ำ ข้างบ่อน้ำมีม้านั่งที่มีคนนั่งขณะที่พวกเขา
กำลังตกปลาที่อยู่ในบ่อ


คนนั้นสวมเสื้อคลุมสีขาวดูเรียบง่ายและดูเป็นกันเอง อายุประมาณยี่สิบปี ชายในชุดสีดำและ
คนที่สวมเสื้อคลุมสีขาวดูคล้ายๆกัน ชายในชุดสีขาวกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งและตกปลาช่างดูลึกลับ


ชายชุดสีดำมาถึงเบื้องหลังชายเสื้อคลุมสีขาวและไม่ได้พูดอะไร


หลังจากนั้นชายที่อยู่ในชุดคลุมสีขาวที่กำลังตกปลาก็เริ่มสั่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งมือของเขาและ
ด้วยการดึงอย่างรวดเร็วเขาก็ดึงปลาสีเงินขึ้นจากน้ำซึ่งใส่มันลงไปในตระกร้าไม้ไผ่ข้างๆเขา
น้ำหนักปลาประมาณครึ่งกิโลกรัม วิธีที่ชายในชุดคลุมสีขาวจับปลาช่างงดงามและมีราศี ทันที
หลังจากนั้นรอยยิ้มขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา


"น่านชาน มาสิ นั่งลงๆ" ชายหนุ่มคนที่สวมชุดสีขาวกล่าวกับชายในชุดสีดำขณะยิ้มอย่างอบอุ่น


"องค์จักรพรรดิ" หนานชาน กล่าวขณะคำนับ เขาไม่ได้นั่งลง


"หนานชาน, ข้าไม่ได้เห็นเจ้าเลยช่วงนี้ แล้วเจ้ามาทำอะไรทำที่นี่?"


"ฮี่ฮี่" หนานชาน ยิ้มขณะพยักหน้าและพูดว่า : "องค์จักรพรรดิ ฉู๋จั่นเผิง และ ลั่วสื่อ อยู่ที่นี่แล้ว"


"ลานศักดิ์สิทธิ์กำลังจะเปิดตัวดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลย เจ้าคงไม่ได้มาเพียงเพื่อบอกข้า
เพียงเพาะเรื่องแค่นี้ "


ชายหนุ่มยังคงมีรอยยิ้มที่อบอุ่นและเป็นกันเองบนใบหน้าของเขา แต่เขาก็ดูฉลาดมาก


"องค์จักรพรรดิทรงพระปรีชาทรงรู้ล่วงหน้าอย่างแม่นยำยิ่ง วันนี้ที่ร้านอาหารของ ชิงซิน
ได้ถูกทำลาย ข้ายังได้พบกับสองคนที่น่าสนใจมาก "


"ร้านอาหารของ ชิงซิน? ร้านอาหารของเธอค่อนข้างเป็นสถานที่ที่ดีที่ควรไป หนานชาน,
ชิงซิน นั้นไม่ใช่สาวเด็กตัวเล็กๆอีกต่อไปแล้ว เจ้าตั้งใจจะแต่งงานกับเธอเมื่อไหร่กัน?
ข้ามีความยินดีที่จะจัดงานแต่งงานให้เจ้า "


ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องที่ หนานชาน ได้บอก เขาได้เปลี่ยนเรื่องและเริ่มพูดถึง
ชีวิตส่วนตัวของ หนานชาน


ชายที่สวมชุดสีดำดูดีใจ องค์จักรพรรดิทรงใส่ใจผู้อื่น เขาช่างเป็นคนใจดีจริงๆ


ชิงซิน เป็นผู้หญิงที่เขาชอบดังนั้นหากองค์จักรพรรดิมีรับสั่งเช่นนี้ครอบครัวของพวกผู้หญิง
ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการน้อมรับสั่ง ดังนั้นประโยคของชายหนุ่มจึงเพียงพอที่
จะทำให้หัวใจของ หนานชาน เต้นเร็วขึ้นด้วยความปิติยินดี


แต่ หนานชาน คิดว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะพูดถึงงานแต่งงานของเขา


"องค์จักรพรรดิ วันนี้ ต้วนหยู ได้ไปที่ร้านอาหารของ ชิงซิน เธอทำตัวเป็นเด็กและได้ก่อเรื่อง
ขึ้นมาและเธอได้ยืนอยู่ตรงข้ามกับชายหนุ่มอายุสิบหกปีที่แล้วทันใดนั้น เขาก็ตบเธอ "



"หือ?" ชายหนุ่มยิ้มและพูดว่า : "นี่เป็นเรื่องตลกและที่น่าสนใจ ใครกันที่จะกล้าตบเธอนอก
เมืองจักรพรรดิช่างเป็นคนที่หายากจริงๆ ข้ามั่นใจว่า ต้วนหลี่ จะช่วยเธอจัดการกับสถาน
การณ์เช่นนี้ นอกจากนี้จะเป็นไปได้อย่างไรที่ ชิงซิน จะยืนกอด อกดูเฉยๆจริงไหม? "


"องค์จักรพรรดิกล่าวถูกต้องแล้ว ทุกคนได้เข้าไปจัดการ แต่ในท้ายที่สุดมันก็ไม่เพียงพอและ
ในที่สุดร้านอาหารก็ถูกทำลาย ข้าน้อยยังต้องหลบหนีไปกับ ชิงซิน มีเด็กที่มีพลังระดับซุนอยู่ที่นั้น"


หนานชาน ยิ้มให้ชายหนุ่มที่ดูยิ่งสนใจเรื่องราวของเขามากขึ้น ชายหนุ่มคนนั้นก็กล่าวว่า
"เด็กที่อยู่ระดับซุน มันเป็นไปไม่ได้. นางมาจากตระกูลไหน? "


"องค์จักรพรรดิ ข้าไม่แน่ใจว่ามาจากตระกูลไหล มีเด็กที่อยู่ระดับซุนแต่เป็นเด็กสาว เธอช่าง
สวยมาก เธอดูอ่อนโยนไร้เดียงสาและสง่างามมาก เธอมาจากตระกูล ...หืมมมมมม ... "


หนานชาน พยายามจะทำให้เรื่องราวของเขาดูน่าสนใจยิ่งขึ้นซึ่งทำให้ชายหนุ่มหัวเราะ ชายหนุ่ม
คนนั้นก็กล่าวว่า "หนานชาน เจ้าก็รู้ว่าข้าทำอย่างไร แต่เด็กสาวคนนั้นอยู่ระดับซุนสินะ
แล้วสถานะทางสังคมของเธอละ?"


"ข้าน้อยไม่รู้จริงๆ ข้าไม่เคยเห็นเธอมาก่อน แต่ข้าคิดว่าองค์จักรพรรดิน่าจะมีความสนใจใน
ชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง "


"โอ้?" องค์จักรพรรดิอยากรู้จริงๆในขณะนั้น ใครจะน่าสนใจมากกว่าที่เด็กสาวระดับซุน?


"เขาชื่ออะไร?"


"หลินเฟิง" ชายชุดสีดำตอบ


"หลินเฟิง" ชายหนุ่มกระซิบ "ในวันที่นิกายหยุนไห่ถูกทำลายไป ศิษย์คนหนึ่งได้รับการช่วย
ชีวิตเอาไว้และข้าแน่ใจว่าชื่อของเขาคือ หลินเฟิง"



“เป็นจริงงั้นรึ นั่นคือเขา. เรื่องราวชีวิตของเขาช่างน่าสนใจยิ่งกว่า ...... "ชายคนที่สวมชุด
สีดำกล่าวทำให้องค์จักรพรรดิลุ้นใจจดใจจ่อ


"บอกข้ามา!" ชายหนุ่มกล่าวขณะหัวเราะด้วยแสงไฟกระพริบในดวงตาของเขา


"หลินเฟิง มาจากเมืองหยางโจว" ชายสวมชุดสีดำกล่าว


"เมืองหยางโจว ... . หลินเฟิง ... "ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงต่ำ เขาคิดเพียงไม่กี่วินาทีแล้วใบหน้า
ของเขาก็แข็งกร้าวขึ้น ตาของเขาเป็นประกายแล้วเขาก็กล่าวว่า : "ลูกชายของเธอคนนั้น?"


“ถูกต้องแล้ว เป็นลูกชายของเธอคนนั้น. "ชายชุดดำพยักหน้า


ชายหนุ่มดูเหมือนจะสนใจและกล่าวว่า: "ข้าสนใจเขาจริงๆ  ช่วยบอกข้าหน่อยให้มากกว่านี้
ยังไงซะ หนานชาน เจ้าไม่ควรบอกคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ "


"องค์จักรพรรดิข้ารู้ว่าจะทำอย่างไร" หนานชาน ตอบขณะยิ้ม


หลินเฟิง ไม่รู้ว่ามีคนพูดถึงเขาในขณะนั้น สิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ หลินเฟิง ไม่ได้มีสถานะทาง
สังคมในเมืองหยางโจวหรือในเมืองจักรพรรดิ เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่มีภูมิหลังที่ทรงอำนาจ
เพื่อปกป้องตัวเขา


ทั้งสี่คนออกจากรถม้าและกำลังมองไปที่ สถาบันสำนักสวรรค์ที่มีขนาดใหญ่โต มีผู้บ่มเพาะพลัง
จำนวนมากเดินผ่านไปมา ส่วนใหญ่ดูหยิ่งยะโสอย่างมาก


ชื่อของสถาบันได้รับการเขียนด้วยลายมือตัวอักษรตัวใหญ่ตัวหนาและมีสีสันที่ปากทางเข้าเมือง


ใต้ซุ้มประตูทางเข้า มีชายชราบางคนนั่งอยู่บนเก้าอี้และมีโต๊ะอยู่ตรงหน้า
บนโต๊ะพวกเขามีหมึกและพู่กัน


คนที่อยู่ข้างๆพวกเขาได้ให้จดหมายกับชายชรา หลังจากนั้นผู้บ่มเพาะพลังก็มีความสุข
ที่ได้เข้าสู่สถาบันสำนักสวรรค์


"โฮ่ววววววว." ในขณะนั้นสัตว์อสูรที่โหดร้ายได้คำรามซึ่งทำให้คนหลาย ๆ คนสนใจ


ทุกคนหันกลับไปและเห็นหญิงคนหนึ่งสวมเสื้อสีแดงนั่งอยู่กับสัตว์อสูร


สัตว์อสูรนั้นคือสิงโตก๊อบบลินสีน้ำตาล ขนของมันหนาและดูเหมือนเปลวเพลิง เสียงคำราม
ของมันเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว


"นั่งอยู่บนสัตว์อสูรชั้นจิตวิญญาณ มันเป็นไปได้อย่างไร "


บางคนประหลาดใจ บางคนมองด้วยความอิจฉา


"ซงหลิง!" ในขณะนั้นภาพเงาได้บินผ่านอากาศและมาทางด้านหลังผู้หญิงที่สวทเสื้อคลุมสีแดง


"หมาป่าจันทรา ... สัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณ" ดวงตาของผู้คนในกลุ่มหลี่ลง พวกเขาเห็นชาย
หนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่ด้านหลังของมัน ชายหนุ่มคนนั้นอายุประมาณสิบหกปี


สถาบันสำนักสวรรค์มีชื่อเสียงสมคำร่ำลืออย่างแท้จริง "


ทุกคนประหลาดใจ ถึงแม้ว่าสถาบันสำนักสวรรค์ ไม่ได้เป็นที่รู้จักกันดีในเมืองจักรพรรดิมากนัก
ชื่อเสียงของมันก็อย่างที่เห็นในขณะนี้ เป็นที่รู้กันดีว่ายอมรับเฉพาะศิษย์ที่โดดเด่นและศิษย์ที่มา
จากตระกูลและครอบครัวที่ดีที่สุดของแคว้น


แน่นอนว่าบางคนไม่ได้ให้ความสนใจกับสัตว์อสูร บางคนมีเพียงดวงตาที่เปิดเผยความมุ่งมั่น
และจิตใจที่มุ่งมั่นอยากจะประสบความสำเร็จ


"ต้วนเฟิง ดูเหมือนว่าพวกเราสภาพไม่ค่อยดีนัก" หลินเฟิง ที่ขับรถม้ากล่าว พวกเขารู้สึกถึงปราณ
ที่ปล่อยออกมาจากสัตว์อสูร ทันใดนั้นม้าที่ขับเคลื่อนรถม้าของพวกเขาก็ได้หยุดลง พวกมัน
ปฏิเสธที่จะเดินต่อไปเพราะกลัวสัตว์อสูร หลินเฟิง ยิ้มอย่างบูดเบี้นวและพยายามทำให้ม้า
เดินหน้าต่อไป


"พี่ใหญ่หลินเฟิง ข้ามาที่นี่เพื่อฝึกฝนเพื่อเป็นผู้บ่มเพาะพลังไม่ใช่เพื่อความสนุก"
 ด้วนเฟิง กล่าวขณะที่ส่ายหน้าและยิ้ม


ในขณะนั้นบางคนได้หันมาและมองไปที่ หลินเฟิง ต้วนเฟิง และคนอื่น ๆ พวกเขากล่าวว่า
"กลุ่มคนคนจนอีกกลุ่มหนึ่งมาถึงแล้ว พวกเขาดูน่าสังสมเพชจริง ๆ "








Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

Facebook