ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 104


ตอนที่ 104 จิตวิญญาณทางสายเลือด
















หลินเฟิง ประหลาดใจ เขาคงจะไม่คิดว่า เมิ้งชิง จะเข้าร่วมด้วยอีกคนอย่างรวดเร็ว


ลุงวังรู้สึกประหลาดใจและตะโกนด้วยความโกรธว่า "พวกเจ้าทั้งสองคนทำงานร่วมกัน อย่างไร
ก็ตามไม่จำเป็นต้องกล่าวหาด้วยความดูถูกเช่นนี้เลย เจ้าสองคนนั้นแข็งแกร่งมาก ถ้าเจ้าต้อง
การที่จะฆ่าข้า เพียงแค่ฆ่าข้าไปเท่านั้น ไม่จำเป็นใช้เหตุผลอะไรมาอ้าง "


"งั้นเจ้าอยากจะตายแบบนั้นใช่ไหม?" หลินเฟิง ตอบอย่างใจเย็น แต่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
เพราะชายชราที่ไร้อย่างอายคนนั้น


"ฉันมีทางเลือกอะไรได้เล่า? เจ้ากำลังปฏิบัติกับชายชราคนหนึ่งอย่างข้าด้วยวิธีการที่
น่ากลัวเช่นนี้ "ลุงหวังกล่าว


"ไม่ต้องกังวลมีเหตุผลเพียงพอสำหรับเจ้าที่จะตาย"  หลินเฟิง กล่าว


เมิ้งชิง เริ่มพูดและกล่าวว่า "หลินเฟิง ไปหาอีกคน เจ้าอาจพบของที่สามารถนำมาใช้เป็น
หลักฐานได้   บางสิ่งบางอย่างซึ่งจะช่วยให้หลายๆคนสามารถสื่อสารได้แม้ว่าจากระยะทางไกล
แม้จะอยู่คนละที่ก็ตาม


"ฮะ?" หลินเฟิง มึนงงและเหลือบไปมอง เมิ้งชิง ทันทีหลังจากนั้นเขามองไปที่ลุงหวังอีกครั้ง ถ้า
เมิ้งชิง กล่าวถูกต้องและลุงหวังมีของดังกล่าวจะเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุ
กอย่างที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทาง


หน้าของลุงวังเปลี่ยนไปอย่างมาก


"ฮ่าๆ, ข้าต้องการตามหาเขาจริงๆ"  หลินเฟิง คิดขณะจ้องมองไปที่ลุงหวังและยิ้มอย่างเย็นชา


"หยุดทำให้ข้าลำบากใจได้แล้วด้วยความโง่เขลาที่บ้าบอและไร้เหตุผลของเจ้า! ถ้าเจ้าต้องการ
ที่จะฆ่าข้าเพียงแค่ฆ่าข้าก็พอ! ไม่จำเป็นต้องลบหลู่ข้าอย่างนี้! ข้าเป็นคนชราที่อ่อนแอ แต่ข้า
ไม่สมควรที่จะถูกกระทำเช่นนี้ "ลุงหวังกล่าว


"เจ้าไม่จำเป็นต้องพยายามทำให้ทุกคนคิดว่าเจ้าตกเป็นเหยื่อ นั่นทำให้เจ้าน่าขยะแขยงมาก
ยิ่งขึ้นถ้า หลินเฟิง ไม่พบอะไร ข้าจะตายเอง "เม้งชิง กล่าวเธอดูใจเย็นแต่คำพูดของเธอคมชัดมาก


หลินเฟิง มอง เมิ้งชิง ยิ้มและพูดว่า: "ถ้าข้าไม่พบอะไรเจ้าฆ่าข้าได้เลย ข้าไม่อยากให้เจ้าตาย
เมิงชิง ชีวิตของข้าก็เพียงพอแล้ว "


เมื่อ หลินเฟิง พูดจบร่างของเขาหายไปและก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าลุงหวัง จากนั้นเขาก็เริ่มจับ
เขาอย่างแน่นหนาและเดินเร็วเพื่อให้ชายชราไม่ได้มีเวลาพูด


มือของ หลินเฟิง คลำไปทั่วร่างของชายชราและเป็นระยะเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นหยิบกระเป๋าสีดำ
ขนาดเล็กออกมา หลินเฟิงจึง ปลดผนึกออกและเอาขวดปิดสนิทออกมาจากมัน


"ตอนนี้เจ้าจะพูดว่ายังไง?" หลินเฟิง กล่าวขณะกำลังมองไปที่ชายชราที่กำลังสั่น
หลินเฟิง ทำสายตาที่หยอกล้อไปทางเขา


ต้วนเฟิง และ จิ้งหยุน ต่างประหลาดใจ พวกเขาจ้องมองที่ลุงหวัง พวกเขาต้องการคำอธิบาย


"นายน้อยข้าใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบท่านครัวเสมอ ข้าเคยอยู่ใกล้กับปู่ของท่านแล้วข้า
ก็อยู่ใกล้กับพ่อของท่านและตอนนี้ข้าอยู่เคียงข้างท่าน ข้าดูแลท่านมาตั้งแต่เด็ก ท่านจำ
ความรักและความสัมพันธ์ของข้าที่มีต้อท่านได้หรือไม่ ข้าจะโกหกท่านได้อย่างไร? "


ลุงหวังกำลังมองไปที่ ต้วนเฟิง ด้วยท่าทางที่รักใคร่และสายตาที่อ่อนโยน


"ข้าจำได้ แต่ ... ทำไมเหรอ?"


ต้วนเฟิง หวังว่าลุงหวังจะให้คำตอบจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ตอบมันมา


"ถ้าท่านจำได้ ฉันไม่มีอะไรจะพูดอีก ถ้านายน้อยต้องการให้ข้าอยู่ข้าจะมีชีวิตอยู่
แต่ถ้าท่านต้องการให้ข้าตายข้าจะตาย "


เมื่อ ต้วนเฟิง ได้ยินลุงหวังกล่าว หัวใจของเขาสั่นไหว เขาสั่นไหวด้วยคำพูดของลุงหวัง


แต่ก็ไม่เหมือนกันกับ หลินเฟิง  ลุงหวังช่างไร้ยางอายและหน้าด้าน?


"เมิ้งชิง เดาได้ถูกต้องและเราพบหลักฐานว่าเจ้าเป็นคนทรยศ เจ้าคิดว่าการพูดจาเล่น
ลิ้นเพียงสองสามคำจะเพียงพอที่จะลืมทุกสิ่งทุกอย่างได้งั้นรึ? "หลินเฟิง กล่าว
ซึ่งทำให้ลุงหวังตัวสั่น


"หนุ่มน้อย หลินเฟิง,เรื่องนี้ไม่มีมีอะไรเกี่ยวกับเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ "ลุงหวังกล่าว


"ไม่มีอะไรเกี่ยวกับกับฉัน?" หลินเฟิง กล่าวขณะที่ใช้ดาบยาวของเขาซึ่งทำให้ลุงหวังมองเขา
ด้วยความตกใจ หลินเฟิง กล่าวเพิ่มเติมว่า "ท่านไม่ได้บอกว่าท่านอยากจะตายก่อนหน้านี้
หรอกรึ? ตอนนี้เรามีข้อเท็จจริงที่เจ้าไม่สามารถหักล้างได้แล้ว ท่านเป็นคนทรยศทำไมท่าน
ถึงไม่บอกว่าท่านต้องการที่จะตาย ท่านคิดว่าเราจะปล่อยให้ท่านเดินเกมตามที่ท่านต้องการสินะ? "



ลุงหวังได้รู้สึกปราณที่อันตรายจากดาบของ หลินเฟิง ซึ่งกดลงบนลำตัวของเขา เขาสั่นจาก
หัวจรดเท้าด้วยความกลัว แรงกดดันเพียงอย่างเดียวก็ทำให้สั่นไปยั้นกระดูกสันหลังแล้ว


"นายน้อย" ลุงหวังกล่าวขณะกำลังมองไปที่ ต้วนเฟิง ซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายของชีวิต


"ไม่จำเป็นต้องขอร้องเขา แม้ว่าเขาบอกข้าว่าจะปล่อยเจ้าไปก็ตาม แต่ข้าไม่ปล่อย ข้าจะฆ่า
เจ้าไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะแก้แค้นให้กับทุกคนที่ตายไปเพราะเจ้าโดยเฉพาะพวกยามหนุ่มเหล่านี้
พวกเขาตายตาหลับเมื่อเจ้าตาย ใครจะสนใจถ้าเจ้าตาย? "



เมื่อ หลินเฟิง พูดจบดาบยาวของเขาปักลงไปบนตัวลุงหวัง เลือดได้ไหลพุ่งกระจายเป็นสายน้ำ
และเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ชายชราคนนี้เป็นคนไร้ยางอาย , โกหก จะปล่อยให้
คนแบบนี้มีชีวิตต่อไปได้อย่างไร?


“เสียงหายใจ ... ..”


ต้วนเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เขาดูเศร้ามากที่ถูกทรยศและการเสียชีวิตของลุงหวัง เขาหัน
กลับไปและกล่าวว่า "พี่ใหญ่หลินเฟิง ข้าขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง"



"ไม่เป็นไร. เจ้าเพิ่งถูกหลอกโดยเขานั่นแหล่ะ "หลินเฟิง กล่าว หลินเฟิง ไม่ได้ตำหนิ ต้วนเฟิง
ต้วนเฟิง ยังเด็กอยู่เข้าเพิ่งอายุสิบสี่แล้วลุงหวังเป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุด เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่
เขาจะเชื่อใจลุงหวังเ มันป็นเรื่องปกติของ ต้วนเฟิง


"ขอบคุณ พี่หลินเฟิง ข้าหวังว่าท่านจะไม่ปฏิเสธที่จะเดินทางต่อไปกับข้าไปที่เมืองจักรพรรดิ "
ต้วนเฟิง กล่าวราวกับว่าเขาได้ลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่ดวงตาของเขายังเผยถึงความ
เศร้าของเขาออกมา


พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองจักรพรรดิด้วยกัน เฉพาะ ต้วนเฟิง, จิ้งหยุน, หลินเฟิง และ
เมิ้งชิง เท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่ ต้วนเฟิง ได้เจอประสบการณ์ที่โหดร้าย
จากผู้คนที่ม่ความสามรถ


สิ่งที่ทำให้เขากลัวมากที่สุดก็คือคนที่พยายามจะฆ่าเขานั้นคือกองทหารกำลังจากกองทัพ
และเป็นผู้พิทักษ์แคว้นซู่วเย่ว


"อืม ... ไม่มีปัญหา" หลินเฟิง กล่าวขณะพยักหน้า จากนั้นเขาก็ถาม ต้วนเฟิง ว่า "เจ้ายังคง
ต้องการเดินทางไปยังเมืองจักรพรรดิ์อีกงั้นรึ?"


"ตั้งแต่ตอนที่พวกเราออกมาไม่มีความจำเป็นต้องหนีไปอีกที่หนึ่ง" ต้วนเฟิง กล่าวด้วยดวงตา
ที่เศร้าสร้อย ทันใดนั้นการแสดงออกทางสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปราวกับว่าเขามีความศรัทธา
และกล่าวว่า "พี่ใหญ่หลินเฟิง ท่านไม่จำเป็นต้องเดินทางกับเราเลย"


"ถนนใหญ่นี้ที่นำไปสู่เมืองจักรพรรดิเต็มไปด้วยคนหลายประเถท เราจำเป็นต้องหาเส้นทางอื่น
 และพวกเราสบายดี "


หลินเฟิง รู้ว่า ต้วนเฟิง หมายถึงอะไรและส่ายหัว


"อืมข้าได้ดูแผนแล้ว แต่ข้าไม่รู้ว่าถนนกี่สายที่นำไปสู่เมืองจักรพรรดิ ให้ข้าขับรถม้าไป "
จิ้งหยุน กล่าว


ต้วนเฟิง รู้สึกลำบากใจเพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นและก็ยังกังวลอยู่เรื่อย ๆ :
 "น้องจิ้งหยุน อย่าฝืนตัวเองเกินไปแล้วกัน"


ทั้งสี่คนเดินไปที่รถม้าและ จิ้วหยุน ขับรถม้าขณะที่อีกคนอื่นนั่งอยู่ในรถม้า หลินเฟิง และ
ต้วนเฟิง กำลังคุยกันอยู่ภายในรถม้า


"ต้วนเฟิง มีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องการจะถามเจ้าหน่อย"


"เอาล่ะถามข้ามา."


"ลุงหวังกล่าวหาว่าข้าทรยศต่อนิกายหยุนไห่และข้าถูกส่งมาโดย ต้วนเทียนหลาง เพื่อฆ่า
เจ้า ต้วนเทียนหลาง เกี่ยวข้องกับเจ้าอย่างไรรึ? ทำไมเขาถึงอยากฆ่าเจ้านัก? "


เมื่อ ต้วนเฟิง ได้ยินคำถามของ หลินเฟิง เขาทำได้แค่ยิ้มอย่างบูดเบี้ยว


"ข้าขอโทษข้าอาจจะอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป เจ้าไม่จำเป็นต้องตอบ "หลินเฟิง กล่าว


"ที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ต้องขอขอบคุณท่าน ไม่มีปัญหาที่ท่านอยากรู้ "ต้วนเฟิง กล่าวขณะที่สั่น
หัว จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากเรื่องภายในครอบครัวมักจะซับซ้อนเช่นนี้ "


"ชื่อครอบครัวของข้าคือต้วน ท่านรู้อยู่แล้ว  เป็นสิ่งที่ไม่ชัดเจนนักสำหรับท่าน มันเป็นชื่อ
ที่เป็นของตระกูลจักรพรรดิและข้าก็ยังเป็นสมาชิกของตระกูลนั้นด้วย "


"แต่เพราะปู่ย่าตายายของข้าได้ทำผิดพวกถึงได้อยู่ที่เมืองหยุนหยาง วันนี้ไม่มีอะไรที่ทำ
ให้ข้าแตกต่างจากคนธรรมดาในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ "


ต้วนเฟิง กำลังพูดอย่างช้าๆในขณะที่เขาเล่าเรื่องราวของเขา หลินเฟิง กำลังฟังเขาอย่างใจ
เย็น เขาประหลาดใจเพราะเขาคงไม่คิดเลยว่า ต้วนเฟิง จะเกี่ยวข้องกับตระกูลจักรพรรดิ


"หลินเฟิง ท่านรู้หรือไม่ว่าตระกูลต้วนเป็นครอบครัวของตระกูลจักรพรรดิที่ปกครองแคว้น?"


"ใช่ข้ารู้. พวกเขามีความแข็งแกร่งและได้รับความนับถือจากทุกคนในแคว้นซู่วเย่ส "
หลินเฟิง ตอบ


"อย่างไรก็ตามหลายปีมานี้ข้าไม่รู้ว่าตระกูลต้วนได้ปกครองแคว้นและระยะเวลานานเท่าไหร่
กันที่พวกเขาจะสามารถครองแผ่นดินได้ทั้งแคว้นอย่างรุ่งเรืองได้" ต้วนเฟิง กล่าว


หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เคยถามตัวเองด้วยคำถามนั้น การครองแคว้นและการรักษา
ความรุ่งเรืองเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ตระกูลต้วนได้ปกครองแคว้นมาเป็นเวลานาน เป็นไป
ไม่ได้ที่พวกเขาจะครองแคว้นทั้งหมดได้ในตอนนี้ พวกเขาเคยเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุด
ในแคว้น


"จิตวิญญาณ!" ทันใดนั้น หลินเฟิงได้ ตะโกน หลินเฟิง คิดว่าเป็นไปได้ ความน่าจะเป็นที่จะสืบ
ทอดจิตวิญญาณของบรรพบุรุษของคนนั้นเป็นไปได้สูงมากดังนั้นบางทีสมาชิกในครอบครัว
ตระกูลต้วนจึงมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากเพราะมีจิตวิญญาณที่สืบทอดมา


"ถูกตัอง. นั่นคือเหตุผลจิตวิญญาณของพวกเรา ยิ่งไปกว่านั้นมันคือจิตวิญญาณเลือด "
ต้วนเฟิง ตอบขณะพยักหน้า


"จิตวิญญาณเลือด? ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน "หลินเฟิง กล่าว เขาไม่เคยได้ยินเรื่อง
จิตวิญญาณเลือดมาก่อนเลย


"พี่ชายหลินเฟิง จิตวิญญาณเลือดนั้นเป็นหาได้ยากเช่นเดียวกับขนนกฟินิกซ์และเขา
ยูนิคอร์น มันเป็นของที่หายากมาก เป็นแบบนั้นในดินแดนเทียนหลง ทั้งหมด เป็นเรื่องปกติที่
ท่านไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย "ต้วนเฟิง อธิบาย แม้กระทั่งในดินแดงเทียนหลง อันกว้างใหญ่และ
เกือบจะไม่มีที่สิ้นสุด แต่จิตวิญญาณเลือดก็หาได้ยากมากดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่หาได้ยากใน
แคว้นซู่วเย่ว ซึ่งเป็นแคว้นเล็ก ๆ ในภูมิภาคนี้



"มีเรื่องเล่ากันว่าผู้ครอบครองจิตวิญญาณเลือดมีพลังอำนาจอย่างมาก นอกจากนี้ยังกล่าวได้อีก
ว่าพลังงานทั้งหมดของพวกเขาสามารถไหลเวียนได้อย่างอิสระในระบบเลือดของพวกเขา ความ
สามารถชนิดนี้ช่วยเพิ่มแนวทางการบ่มเพาะพลังของผู้ครอบครองจิตวิญญาณเลือดได้ รุ่นต่อไป
ได้รับการถ่ายทอดทางจิตวิญญาณอย่างเป็นระบบ แต่ในบางกรณีก็ได้จะกลายเป็นสิ่งที่อ่อนแอ
ลงไปในหลายชั่วอายุคน "


"กระบวนการสืบทอดจิตวิญญาณเลือด ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้ "หลินเฟิง กล่าว


"มันน่ากลัวจริงๆ ข้าไม่เข้าใจถึงประโยชน์ทั้งหมดที่มาพร้อมกับจิตวิญญาณเลือดเลย "ต้วนเฟิง
กล่าวพร้อมยิ้มอย่างบูดเบี้ยว เขายังเด็กเกินไป ความแข็งแกร่งของเขาไม่มีอะไรเทียบได้กับผู้
บ่มเพาะพลังผู้ใหญ่ภายในตระกูลที่ครอบครองจิตวิญญาณเลือด


"หลินเฟิง หลังจากฟังคำอธิบายทั้งหมดของข้าท่านอาจเข้าใจว่าทำไมตระกูลจักรพรรดิถึงได้
อยู่เหนือกกฎของแคว้นนี้โดยไม่จำเป็นต้องถาม"









Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ




ความคิดเห็น

Facebook