ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 82


ตอนที่ 82 การตื่นขึ้นมาของอัฉริยะ









ขณะนั้นมีศิษย์ภายในบางคนที่ตาสว่างขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งยี่สิบอันดับแรก


พวกเขาถือว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ พวกเขาหยิ่งและภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ หลินเฟิง ผู้ที่อยู่ใน
ลานประลองแห่งชีวิต ได้กล้าที่จะพูดเรื่องไร้สาระและท้าทายให้ศิษย์ภายในทุกคนให้ต่อสู้กับเขา


แต่มีหลายคนที่กังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของ หลินเฟิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ เหลยโพ
หลินเฟิง แข็งแกร่งจนทำให้เขาสามารถฆ่า เหลยโพ และทุกคนที่ขู่เขา


สิ่งที่ทำให้พวกเขากังวลมากยิ่งขึ้นคือมีอัจฉริยะหลายคนได้สังเกตเห็นว่า หลินเฟิง ไม่ได้ปลด
ปล่อยจิตวิญญาณของเขาเลย ถ้าเขามี จิตวิญญาณดาบละ ความแข็งแกร่งของเขาคงราวกับ
ปีศาจดีๆนี่เอง แน่นอนว่ามันน่ากลัวและอันตรายอย่างยิ่งที่จะก้าวขึ้นไปบนเวทีเดียวกับเขา



ไม่มีใครกล้าตอบรับ หลินเฟิง เพราะหลายๆคนได้คิดอย่างลึกซึ้งแล้ว บรรยากาศก็จมอยู่ใน
ความเงียบงัน ความเงียบนั้นไม่นานก็ถูกพังทลายลงบางอย่าง มันคือปราณดาบที่ถูกปล่อยออก
มาจากร่างของ หลินเฟิง ซึ่งได้แพร่กระจายออกไปในอากาศ


"เวิ่นเหลินหยาน, เจ้าเรียกข้าว่าขยะ, ใครบอกว่าเจ้าสามารถสังหารข้าได้อย่างง่ายดาย ข้า
ต้องให้เจ้าลงมาแล้วขอร้องให้เจ้าสังหารข้าเลยรึไง? ตอนนี้เจ้ามีโอกาสที่จะสังหารข้าแล้วเจ้ากำลัง
รออะไรอยู่? ปกติเจ้าไม่กลัวที่จะท้าสู้นิหว่าเหมือนก่อนหน้านี้ที่เจ้าบอกว่าข้ามันไร้ค่า? ”


หลินเฟิง กำลังมองไปที่  เวิ่นเหลินหยาน เมื่อทุกคนได้ยินเสียงสงบของเขาขณะที่เขาถ่มน้ำลายใส่
หน้าของ เวิ่นเหลินหยาน พวกเขาก็ตกใจ

 หลินเฟิง ยังคงสร้างความแปลกใจให้ใครต่อใครอย่างต่อเนื่อง

เขากล้าที่จะท้าทายอันดับสูงสุดของเหล่าศิษย์ภายในทั้งหมด

เวิ่นเหลินหยาน ที่อยู่จุดสูงสุดของระดับชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สาม แม้ว่า เหลยโพ จะอยู่ในชั้นจิตวิญญาณ
ขั้นที่สามเหมือนกัน ไม่มีใครกล้าที่จะเปรียบเทียบ เหลยโพ กับ เวิ่นเหลินหยาน พวกเขาไม่มีอะไร
ที่เหมือนกันเลย


ผู่บ่มเพาะพลังชั้นจิตวิญญาณระดับเดียวกันนั้นไม่สามารถเทียบได้กับ หลินเฟิง แม่แต่น้อย หลินเฟิง อยู่ใน
ชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สอง แต่สามารถเอาชนะและฆ่า เหลยโพ ที่อยู่ในชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สามได้ ทักษะที่
ได้รับการฝึกฝนและประสบการณ์การต่อสู้มีบทบาทสำคัญอย่างมากโดยไม่คำนึงถึงระดับขั้น

เวิ่นเหลินหยาน ก็คล้ายกับ หลินเฟิง เขาได้ตัดผ่านไปชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สาม แต่ศิษย์หลักที่อยู่ในชั้น
จิตวิญญาณขั้นที่สี่ไม่กล้ายั่วยุเขา

"เจ้าประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไป เพียงเพราะเจ้าฆ่า เหลยโพ นั้นไม่ได้หมายความว่าเจ้าสามารถ
เป็นคู่ต่อสู้กับข้าได้ เหลยโพ ไม่มีอะไรเทียบกับข้าได้ ในสายตาของข้า เหลยโพ เป็นเช่นเดียวกับเจ้าไม่ต่าง
จากขยะดีๆนี่เอง. "

เวิ่นเหลินหยาน กำลังมองไปที่ หลินเฟิง พร้อมกับตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ หลินเฟิง ไม่ได้อ่อนแอ แต่
การท้าทาย เวิ่นเหลินหยาน ก็เหมือนกับการฆ่าตัวตาย ผู้แข็งแกร่งก็ยังเป็นผู้แข็งแกร่งอยู่วันยังค่ำ ในสายตา
ของ เวิ่นเหลินหยาน หลินเฟิง นั้นเป็นแค่ขยะที่อ่อนแอ

"คุณพูดมากเกินไปแล้วไอสารเลว เป็นเพราะเจ้าต้องการแสดงให้เห็นต่อหน้าทุกคนงั้นรึ? "

หลินเฟิง ไม่เข้าใจว่า เวิ่นเหลินหยาน หมายถึงอะไร หลินเฟิงพูดเสริมว่า "เจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้น
เนื่องจากเจ้ามีพลังมากมายและเจ้าคิดว่าข้าไม่ต่างอะไรจากขยะ งั้นก็ปีนขึ้นมาบนเวทีการต่อสู้ได้เลยสิ
แสดงให้ทุกคนเห็นว่าเจ้านั้นแข็งแกร่งและสังหารข้า แสดงพลังอำนาจที่แท้จริงของเจ้าให้ทุกคนเห็น
จะดีกว่าที่ใช้ปากเน่าๆของเจ้า ทุกคนจะเชื่อเจ้าเมื่อเจ้านั้นเข้าสู่เวทีการต่อสู้นี้และพิสูจน์คำพูดของเจ้า
หรือเจ้าหดหัวจากการพูดจาใหญ่โตของเจ้า"

"ทุกคนสามารถพูดจาใหญ่โตได้ เหลยโพ ยังเรียกข้าว่าขยะก่อนที่ข้าจะฆ่าเขา เขาบอกว่าเขาแข็งแกร่ง
กว่าข้า เแล้วสุดท้ายเกิดอะไรขึ้นในตอนจบ?"


คำพูดของ หลินเฟิง ตรงไปตรงมาและเขาก็ยั่วยุ เวิ่นเหลินหยาน แต่สิ่งที่เขาพูดก็คือความจริง ทุกคน
สามารถพูดจาใหญ่โตได้ แต่ที่สำคัญคก็คือเมื่อการกระทำของเจ้าสามารถพิสูจน์สิ่งที่เจ้าพูดได้

ถ้า เวิ่นเหลินหยาน เข้าไปในลานประลองแห่งชีวิต เขาจะได้รับเกียรติศักดิ์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด เขาจะ
ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่น่านับถือโดยทุกคนในนิกาย โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไร


เขาไม่เพียงแต่ไม่ปีนขึ้นไปบนเวทีการต่อสู้เท่านั้น แต่เขายังคงพูดและ0คุยโม้เกี่ยวกับความ
มหัศจรรย์ของเขา


ในสายตาของเขา หลินเฟิง ไม่ได้ต่างอะไรจากแมลงที่เขาสามารถบดขยี้ได้ตลอดเวลา ถ้าหาก
สามารถบดขยี้ หลินเฟิง ได้ตลอดเวลาแล้วทำไมเขาต้องต่อสู้? แค่พูดและดูถูก หลินเฟิง ก็เพียง
พอแล้ว แต่มันเพียงพอที่จะถือว่าเขาเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งแล้วงั้นรึ?


เวิ่นเหลินหยาน เหลือบมองผู้คนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาด้วยความหยิ่ง

"พวกเจ้าไปและฆ่ามัน ข้าให้เกียรติแก่เจ้าในการฆ่ามัน "


นัยน์ตาของคนหลาย ๆ คนสว่างไสวด้วยความตั้งใจในการฆ่าเมื่อได้ยิน เวิ่นเหลินหยาน
เวิ่นเหลินหยาน ถือเป็นผู้บ่มเพาะพลังยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน การให้ความนับถือสำหรับ
การรฆ่า หลินเฟิง ... พวกเขาทั้งหมดรู้ว่ามันหมายถึงอะไร


เวิ่นเหลินหยาน มีเม็ดยาสร้างรากฐาน เขามียาเหล่านั้นอยู่มากมาย : ยาเม็ดชนิดหนึ่ง
มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยใช้ยาเหล่านี้เป็นแรงดึงดูดในการฆ่า


"ฉันจะไปฆ่ามัน" ร่างๆหนึ่งได้กล่าวขณะที่เคลื่อนย้ายไปที่เวทีการต่อสู้ มันเป็นชายหนุ่มอายุสิบเจ็ดปี
ไม่เกินสิบแปดปี เขาจ้องมองด้วยสายตาที่เฉียบคม เขามองด้วยสายตาที่ชั่วหลาย


"เสี่ยวถง , ผู้เชี่ยวชาญมีด"


"นั่นคือเขา. หลินเฟิง ต้องเจอกับปัญหาเป็นแน่ "


ศิษย์รุ่นเยาว์ได้ออกจากฝูงชนเมื่อ ถูฟู่ กลายเป็นศิษย์หลัก มีศิษย์สองคนที่น่านับถือและแข็งแกร่ง
อย่างมากคือ เวิ่นเหลินหยาน และ ถงชู่


แม้ว่า เสี่ยวถง อยู่ในอันดับที่หกในการจัดอันดับของศิษย์ภายใน แต่ไม่มีใครสงสัยเกี่ยวกับข้อเท็จจริง
ที่ว่า เสี่ยวถง แข็งแกร่งกว่าคนอื่น ๆ อีกสี่คนที่อยู่เหนือเขาในการจัดอันดับ


นั่นเป็นเพราะจิตวิญญาณของ เสี่ยวถง เป็นจิตวิญญาณมีด ผู้คนก็ไม่เชื่อมั่นในตัวเขามากเท่าไหร่ แต่
เขาก็คล้ายกับ หลินเฟิง เขาเชี่ยวชาญการใช้พลังอำนาจ เขาเขาสามารถควบคุมพลังอำนาจของมีดได้


เสี่ยวถง ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้มีด เช่น หลินเฟิง ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญพลังอำนาจดาบ มีช่องว่างขนาด
ใหญ่ระหว่างพวกเขาเกี่ยวกับพลังอำนาจ อย่างไรก็ตาม เสี่ยวถง ได้จฃตัดผ่านเข้าไปในชั้นจิตวิญญาณขั้น
ที่สาม ซึ่งจะช่วยลดช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งและพลังอำนาจของพวกเขา


เสี่ยวถง กับ หลินเฟิง เป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อมากๆ


"เอาล่ะออกไป อย่าฆ่าเขาทันที เมื่อลมหายใจสุดท้ายออกมาทำให้เขาคุกเข่าลงต่อหน้าข้าเพื่อให้เขา
เข้าใจก่อนที่เขาจะตายว่าข้าแข็งแกร่งกว่าเขา ความแตกต่างระหว่างเขาและข้านั้นคนละชั้นกัน "


เวิ่นเหลินหยาน กล่าวว่าด้วยเสียงไม่สนใจ


"ไม่ต้องกังวลข้าเข้าใจ"



เสี่ยวถง พยักหน้าเล็กน้อยและจากนั้นก็ขึ้นไปบนเวทีการต่อสู้กลางเวที เขากำลังเผชิญหน้ากับ
หลินเฟิง และมองว่าเขาได้รับชัยชนะแล้ว

 จากนั้นเขาก็หยิบมีดยาวขึ้นมาจากด้านหลังแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังว่า
"ข้าใช้มีดมาเป็นเวลานานแล้ว ถูกฆ่าโดยมันควรจะเป็นเกียรติสำหรับเจ้าแล้ว. "

"ถ้าข้าเข้าใจถูกต้อง เจ้าหมายความว่าเจ้าเลือกที่จะมีการต่อและต้องมีหนึ่งคนต้องตาย ถูกต้องมั้ย"

หลินเฟิง ถามคำถามด้วยน้ำเสียงไม่สนใจ

"เจ้าคิดว่าข้ามีเวลาที่จะเล่นกับเจ้างั้นรึ?"

เสี่ยวถง กำลังมองไปที่ หลินเฟิง อย่างชั่วร้าย การแสดงออกของเขาเชียบคมดั่งใบมีด
 ร่างกายของเขากำลังแผ่รังสีเจตนาที่จะฆ่า

เสี่ยวถง คว้ามีดยาวของเขาและบรรจงแกะมันราวกับว่ามันเป็นภรรยาของเขา


"มีดเป็นอาวุธที่ทรงพลังมาก มันเป็นมีดที่ดีที่สุดในบรรดามีดทั้งหมด เป็นจิตวิญญาณที่
มีพลังมหาศาล "เสี่ยวถง กล่าว


"ข้าเคยได้ยินแต่ดาบดีที่สุดในบรรดาอาวุธประเภทมีด นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินมาว่ามีดนั้นดีที่
สุดในบรรดาอาวุธประเภทมีด "


หลินเฟิง ถามคำถามกับ เสี่ยวถง


"เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องแบบนั้นบ้าง? ความแหลมคมของดาบนั้นมากมายยิ่ง พลังอำนาจของดาบ
ก็ยากที่จะควบคุมอีกด้วย เจ้าสามารถเปรียบเทียบมีดกับดาบได้อย่างไร? วันนี้ข้าจะแสดงให้เจ้า
เห็นว่ามีดเป็นอย่างไร เจ้าจะเข้าใจว่ามันเป็นอาวุธที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา "เสี่ยวถง กล่าว

พลังอันทรงพลังโผล่ออกมาจากมีดยาวของเขาและแผ่กระจายไปทั่วทั้งบรรยากาศราวกับพายุที่บ้าคลั่ง
 ดูเหมือนว่ามันสามารถตัดได้ทุกสิ่งที่ขวางทางของมัน

"พลังอำนาจมีด"

หลินเฟิง รู้สึกประหลาดใจ ชายคนนั้นกำลังโอ้อวดมีดของเขา? หลินเฟิง นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญพลังอำนาจ
และพลังอำนาจของมีดนั้นอ่อนแอกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกัน

ดาบของ หลินเฟิง ปล่อยคลื่นพลังออกมามีเสียงสะท้อนไปในอากาศ บรรยากาศเต็มไปด้วยพลังอำนาจ
ของทั้งสอง เป็นการต่อสู้กันของพลังอำนาจ ความแหลมคมสามารถทะลุและตัดได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า
พวกเขา

"พลังอำนาจของดาบและมีด....ทำไมมันหน้ากลัวเยี่ยงนี้!"


หลายคนที่อยู่ใกล้กับเวทีการต่อสู้ได้จับตามองพลังอำนาจที่เพิ่งได้รับการปลดปล่อยออกมา หลายคน
อาจรู้สึกถึงพลังธรรมชาติของพลังอำนาจที่กดดันอยู่ พวกเขาอยู่ใกล้เกินไป พวกเขามีความรู้สึกว่า
กำลังจะถูกตัดและทิ่มแทงโดยการเผชิญหน้ากันของทั้งสองพลังอำนาจ


"แต่ดูเหมือนว่ามีดของ เสี่ยวถง จะแข็งแกร่งขึ้นมาก เพราะเขาเป็นผู้บ่มเพาะพลังของชั้นจิตวิญญาณขั้น
ที่สาม เขาแข็งแกร่งกว่า หลินเฟิง  ดูเหมือนว่าตอนนี้ หลินเฟิง คงโชคร้าย "

"เจ้าคิดว่าดาบนั้นดีกว่ามีดงั้นรึ?"

เสี่ยวถง หยิ่งใส่ หลินเฟิง

"เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริงๆ" หลินเฟิง ถอนหายใจ

หลินเฟิง ไม่ตอบคำถามของ เสี่ยวถง และมองอย่างเยาะเย้ยไปที่เสี่ยวถง


"ข้านี่โง่เขลางั้นรึ เอาล่ะ ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นกันว่าใครเป็นคนโง่เขลา "


เมื่อ เสี่ยวถง พูดเสร็จ เขาได้ปลดปล่อยพลังอำนาจที่รุนแรงออกมาจากมีดและมีพลังมากขึ้น ดูเหมือนว่า
มันจะถูกห่อมล้อมไปด้วยปราณและพลังอำนาจดาบโดยสมบูรณ์


"จิตวิญญาณสวรรค์!" หลินเฟิง เพียงแค่ใช้ความคิด


หลินเฟิง ได้ปลดปล่อยจิตวิญญาณของโดยไม่ได้พูดออกมา ทุกสิ่งรอบตัวเริ่มเปลี่ยนไปสู่โลกแห่งความมืด


โลกทั้งใบถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดโดยสนิท เขาสามารถเห็นทุกสิ่ง เขาสามารถรับรู้และสัมผัสได้ถึง
พลังอำนาจของใบมีดทุกชิ้นๆและพลังอำนาจดาบรอบตัวเขา เขารู้ว่าอนุภาคพลังงานทั้งหมดอยู่ที่ใดและ
ตรงกับที่พวกมันเคลื่อนไปรอบ ๆ ในชั้นบรรยากาศ


สายตาของ หลินเฟิง เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท เหมือนหลุมดำ


"มีดเป็นอาวุธมีดที่ดีที่สุด มันมีพลังมากเกินไป ดาบนั้นไม่สามารถเทียบไม่ได้กับอาวุธที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ "


เสี่ยวถง ก้าวไปข้างหน้าและก็เปลี่ยนสีของบรรยากาศ มันเต็มไปด้วยพลังใบมีดอันน่าสะพรึงกลัวจาก
มีดของเขา


เสี่ยวถง เคลื่อนตัวไปยัง หลินเฟิง และดูเหมือนว่าเขานั้นไร้เทียมทาน พลังที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ
ดูเหมือนจะตกลงมาจากฟากฟ้าสู่ร่างของ หลินเฟิง และเริ่มกดทับไปที่ หลินเฟิง


“แหลกสลายไปซะ!”


เสี่ยวธง ตะโกนเสียงดังมากขณะที่เขาแทงมีดของเขาไปข้างหน้า ดูเหมือนท้องฟ้าเต็มไปด้วยใบมีด
พุ่งลงมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


หลินเฟิง ใจเย็นและสงบนิ่ง เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่กลัวอเกรงสิ่งใด ดูเหมือนว่าเขาไม่สนใจพลัง
อำนาจมีดของ เสี่ยวถง แต่อย่างใด


แสงระยิบระยับของดาบเริ่มเพิ่มขึ้นสู่ท้องฟ้าและบรรยากาศที่พลังอำนาจมีดของ เสี่ยวถง
ได้อ่อนแอลง


“ตู้ม!”


หัวใจของ หนานกงหลิง สั่วเทา มีดของ เสี่ยวถง เหมือนกับมีดที่กำลังตัดเนยอย่างง่ายๆ มันเร็ว
ดุจสายฟ้าด้วยการโจมตีของมัน พลังอำนาจดาบของ หลินเฟิง ถูกฉีกเป็นชิ้นๆด้วยพลังอำนาจ
ของมีด ดูเหมือนว่าร่างของ หลินเฟิง อาจฉีกขาดได้ทุกวินาที แทนที่จะหลบหนี หลินเฟิง กลับ
ใช้ดาบนั่นสวนกลับไป ทำไมกัน?


ถึงแม้ว่า หลินเฟิง สามารถใช้ดาบของเขาได้อย่างยอดเยี่ยม แต่พลังอำนาจของดาบนั้นยังไม่แข็ง
แกร่งเท่าพลังอำนาจใบมีดของ เสี่ยวถง ถ้า หลินเฟิง สามารถจัดการพลังอำนาจมีดของ เสี่ยวถง
ได้อาจจะไม่มีปัญหา แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ ถ้า หลินเฟิง ไม่ได้หลบการโจมตีนั้น
ร่างกายของ หลินเฟิง ก็จะถูกตัดออกเป็นสองส่วน


ในช่วงเวลาสั้นๆ  หนานกงหลิง มีหลายล้านความคิดไหลเข้ามาในใจของเขา ศิษย์หนุ่มคนนั้นที่
สักวันหนึ่งเขาอาจผงาดได้ซักวัน ... เขาจะถูกฆ่าตายอย่างง่ายดายไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้งั้นรึ?


หลินเฟิง รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เขาะควบคุมตัวเองได้ดียิ่งขึ้น


เสี่ยวถง กำลังยิ้มอย่างเยาะเย้ย เขาคงไม่คิดว่าจะจะสามารถฆ่า หลินเฟิง ได้อย่างง่ายดาย
 มีทางเลือกที่ไหนกันละ? หลินเฟิง เอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นเอง ถ้า หลินเฟิง ได้รู้จัก
พลังอำนาจของมีดก่อนหน้านี้ เขาจะไม่พูดว่าพลังอำนาจมีดอ่อนแอกว่าพลังอำนาจของดาบ
นอกจากนี้มีดนั้นไม่ได้เร็วกว่าดาบงั้นรึ?


โง่เขลายิ่งนัก!


เสี่ยวถง ได้เห็นร่างของ หลินเฟิง ถูกตัดออกเป็นสองส่วนแล้ว


ฝูงชนได้คิดภาพนั้นไว้แล้ว ทุกคนหยุดหายใจ พวกเขาจ้องเขม็งไปที่เวทีการต่อสู้และรู้สึกว่าไม่มี
อะไรเกิดขึ้นเลย ทั้งมีดและดาบ


สุดท้าย แสงที่อันตรายของมีดได้หายไป ดูราวกับเวลาได้หยุดลง


มีดของ เสี่ยวถง อยู่เหนือหัวของ หลินเฟิง ประมาณยี่สิบเซนและตอนนี้ หลินเฟิง จับดาบที่เอาของเขา


เกิดอะไรขึ้น? ทั้งสองร่างของพวกเขาแข็งตัวอยู่ในตำแหน่งแปลก ๆ


มีสายลมเบาๆได้พัดมาในอากาศ ใครบางคน ได้ทำลายความเงียบอย่างน่าสะพรึงกลัวในเวทีนั้น


"ใครชนะ?"



ทันใดนั้นมีคนถามกันไปมา มันไม่ได้เป็นที่ชัดเจนสำหรับพวกเขาว่าใครเป็นผู้ชนะ ทุกอย่างเกิด
ขึ้นเร็วเกินไป พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


เสี่ยวถง ที่ดูเหมือนเขากำลังจะพูดอยู่ ทุกคนมึนงง เขาได้ฆ่า หลินเฟิง จริงๆรึ?


"เจ้าทำได้อย่างไร?"


คนที่ถามคำถามนี้คือ เสี่ยวถง ที่ดูเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น


ในขณะนั้น หลินเฟิง พูดอย่างช้าๆ


"พลังอำนาจมีดและพลังอำนาจของดาบนั้นเหมือนกัน พลังอำนาจเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มพลังโจมตี
รวมทั้งความสามารถอื่น ๆ ที่จำเป็นในการต่อสู้ มีดนั้นใช้งายได้หลากหลายสำหรับการใช้ชีวิต มัน
เป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยเรา แต่ดาบของข้านั้นแตกต่างออกไป มันถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์
ในการฆ่าเท่านั้น "


หลินเฟิง ยืนตรงกับหัวของ เสี่ยวถง ที่มีเลือดไหลออกจากหน้าอกของเขา เลือดไหลออกจากร่าง
กายของเขาไปยังพื้นดินอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกคนก็จ้องที่เลือดจำนวนมากนั้นด้วยความตกใจ


"ฉันเข้าใจแล้ว ...... " เสี่ยวถง กล่าวในขณะที่ดวงตาของเขาค่อยๆปิดตัวลง จากนั้นร่างกายของ
เขาก็ล้มฟุบลงบนพื้นอย่างช้าๆ


ทันทีหลังจากที่ฝูงชนไม่สามารถเชื่อสายตาของพวกเขาได้ หลินเฟิง ส่งร่างนั้นไปในฝูงชน
เขาปฏิเสธที่จะปล่อยให้มันคงอยู่บนเวทีด้วยความอับอาย


เสี่ยวถง ได้ตายแล้ว อัจฉริยะอีกคนหนึ่งถูกฆ่าโดย หลินเฟิง!


"ทำไมมันน่ากลัวเช่นนี้!"


ทุกคนมีความรู้สึกว่าพวกเขากำลังอยู่ในความฝันเมื่อ มองไปที่ หลินเฟิง มันเหมือนกับว่าเขามี
พลังอำนาจเหนือธรรมชาติ เขาเป็นเหมือนดั่งเทพแห่งตายเมื่อเขายืนอยู่กลางเวที ดูเหมือนว่า
ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน หลินเฟิง ก็
แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ


"เสียงถอนหายใจ... " หนานกงหลิง สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เขาไม่รู้ว่าจะคิดอย่างไรดี


อัจฉริยะที่มีคุณค่าของนิกายหยุนไห่ตายไปแล้วและเป็นเพราะ หลินเฟิง ต้องการพิสูจน์ว่า
เขามีพลังมากแค่ไหน


หนานกงหลิง ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนี้


ถึงแม้ หนานกงหลิง ต้องเสียใจกับการเสียลูกศิษย์จำนวนมาก แต่ก็ยังรู้สึกพอใจที่ได้มีศิษย์เช่น
หลินเฟิง เขายังรู้สึกยินดีที่ได้เห็นอัจฉริยะโดยแท้จริงตื่นขึ้นมา


ความแข็งแรงชนิดของพลังอำนาจนั้น ใครจะสามารถทัดเทียมได้?


เขาเริ่มเชื่อในตัวของ หลินเฟิง หลินเฟิงต้องการเวลาเพียงเล็กน้อยและไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้
 แม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังของ ม่อเสีย ร้อยคนก็ไม่สามารถเอาชนะ หลินเฟิง ได้....








Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

Facebook