ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 80


ตอนที่ 80 พลังอำนาจของดาบ












ม่อเสีย มองไปที่ หลินเฟิง พร้อมกับเจตนาที่เต็มไปด้วยความตั้งใจในการฆ่า ไอเด็กเหลือขอคนนี้ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอำนาจและสถานะจริงๆ เขาคิดว่าเป็นเพราะตัวเองเป็นอัจฉริยะแล้วสามารถสร้างปัญหาให้ ม่อเสียได้งั้นรึ?

"ไร้สาระ" ม่อเสีย กล่าวอย่างเสียงดัง

"ท่านประมุข,ต้วนเทียนหลาง และคนอื่น ๆ อยู่ที่นี่เพื่อดูการสอบศิษย์ภายในของเรา เราควรดำเนินการต่อโดยเร็ว "


ม่อชางหลาน นั่งอยู่ที่นั่นตลอดและในที่สุดก็เปิดปากของเขา ดวงตาของเขามีรังสีที่หนาวเย็น
เล็ดรอดออกมา เขายังคงเงียบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน
ผู้พิทักษ์เป่ย พยายามฆ่า ม่อเสีย? ด้วยความโกรธของเขา? หลังจากเขายู่ในนิกายหยุนไห่มา
หลายปี ผู้พิทักษ์เป่ย ได้พยายามฆ่าลูกชายของ ม่อชางหลาน เพราะศิษย์คนนี้?

เป็นไปได้ไหมว่า หนานกงหลิง ต้องการให้ ม่อเสีย คุกเข่าลงและยอมรับความผิดพลาดของเขา
ต่อหน้าทุกคนเพียงเพราะศิษย์รุ่นเยาว์คนนั้น?

เมื่อ หนานกงหลิง ได้ยินที่ ม่อชางหลาน กล่าวช่วยไม่ได้ที่เขายังคงยิ้มอยู่ ถ้า ม่อชางหลาน 
ไม่ได้อยู่ที่นี่บางที หนานกงหลิง อาจจะลงโทษ ม่อเสีย แต่ หนานกงหลิง ได้เข้าร่วมนิกายหยุนไห่
ทีหลัง ม่อชางหลาน ม่อชางหลานนั้นเป็นสมาชิกอาวุโสของนิกายหยุนไห่ หนานกงหลิง สามารถ
ลงโทษ ม่อเสีย เพื่อให้ หลินเฟิง รู้สึกดีขึ้น แต่เขาไม่กล้าไปรบกวน ม่อชางหลาน

หนานกงหลิง อยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ในฐานะประมุข เขาต้องคิดและวิเคราะห์สถานการณ์อย่างถูกต้อง เข้าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก

"หลินเฟิง ขอสอบศิษย์ภายในต่อและพูดคุยถึงปัญหาในภายหลังได้มั้ย?"

เมื่อ หลินเฟิง ได้ยิน หนานกงหลิง เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าสถานะของเขายังไม่สูงพอ ผู้อาวุโสศิษย์
ภายใน ที่มีพ่อเป็นผู้อาวุโสที่ใหญ่ที่สุด... พวกเขามีความสำคัญมากกว่าศิษย์รุ่นเยาว์ แม้ว่าเขาจะ
ไม่เคยเห็นอัจฉริยะมาก่อน แต่ ม่อเสีย ต้องถูกลงโทษด้วยสิ่งที่เขาได้ทำไว้กับ หลินเฟิง ผ่านไป ...
หลินเฟิง ยังคงต้องทนทุกข์ทรมานและถูกข่มเหงเพราะว่าเขาอ่อนแอ?

ถ้าเขาไม่ถูกลงโทษเขาก็จะดูถูกและคุกคาม หลินเฟิง หรือพยายามที่จะฆ่าเขาเพราะเขารู้ว่า
หนานกงหลิง จะไม่ทำอะไรกับเขาเพราะพ่อของเขานั่นเอง

หลินเฟิง ส่ายหัว เขาดูมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าเขาจะอ่อนแอ แต่เขาก็ยังคงเป็นมนุษย์และศิษย์
ของนิกาย เขาสมควรได้รับเกียรติและศักดิ์ศรีเหมือนทุกคนเช่นกัน

ม่อเสีย ต้องการจะฆ่า หลินเฟิง อย่างแน่นอนและพยายามที่จะฆ่าเขาถึงสองสามครั้ง ถ้า หนานกงหลิง
ไม่ได้ทำในสิ่งที่ หลินเฟิง ต้องการ หลินเฟิง จะถูกรังแกต่อไปโดย ม่อเสีย และคนอื่นๆ ที่มีสถานะสูง
ภายในนิกาย ม่อเสีย จะคิดว่าเขาสามารถทำอะไรได้โดยไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับการกระทำของเขา

"ท่านประมุข ข้าเข้าใจสถานะของ ม่อเสีย นั้นสูงในนิกายและพ่อของเขาก็ยิ่งสูงขึ้นและมีความสำคัญ
มากขึ้นไปอีก แต่หมายความว่าพวกเขาสามารถกลั่นแกล้งและข่มขู่ข้าได้งั้นรึ? ทำไมข้าถึงต้องอยู่ใน
นิกายหยุนไห่ ถ้าข้าอยู่ในอันตรายอย่างนี้? "

หลินเฟิง รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งกับประเด็นนี้ ม่อเสีย ต้องถูกลงโทษด้วยการกระทำของเขา ไม่มีทาง
เลือกอื่นที่ หลินเฟิง จะยอมรับมันได้

บรรยากาศในหุบแห่งความป่าเถื่อนเงียบสนิท ทุกคนกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ 
หลินเฟิง หรือ ผู้อาวุโสศิษย์ภายในอย่างม่อเสีย ทุกคนอยากรู้ว่า หนานกงหลิง กำลังวางแผนที่จะเลือก
ใครกันแน่ 


หลายคนกำลังยิ้มอย่างเบื่อหน่าย หลินเฟิง รู้สึกมั่นคงและแน่วแน่กับ หนานกงหลิง เขาต้องตัดสินใจใน
ตอนนี้ เป็นการตัดสินใจที่ยากยิ่ง!

"นี่มันไร้สาระ!"

เสียงดังแผ่ซ่านไปทั่วบรรยากาศ เป็นศิษย์ภายในที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ปัจจุบัน เขาเป็นมีอันดับศิษย์
ภายในอยู่ในลำดับที่ยี่สิบอันดับแรกในการจัดอันดับความแข็งแกร่ง

"มันเป็นเรื่องไร้สาระจริงๆ หลินเฟิง! ม่อเสีย มีสถานะที่สำคัญในนิกายและเขาแข็งแกร่งอย่างมาก เจ้าคิด
ว่าเจ้าสามารถทำอะไรได้? ม่อเสีย ได้รับความอับอายและถูกกล่าวหาว่าจากศิษย์สามัญบางคนที่เพิ่งฆ่า
ศิษย์ไปหลายคน แล้วมันยังไง? เจ้ายังกล้าที่จะเปิดปากสกปรกและพูดเรื่องไร้สาระ ข้ารู้สึกละอายจริงๆที่
ได้เป็นศิษย์นิกายเดียวกับเจ้า ข้ารู้สึกแปดเปื้อนและขายหน้า "

ชายหนุ่มคนนั้นมีน้ำเสียงเย็นชาและกล้าพูดว่าคำพูดของ หลินเฟิง นั้นเป็นเรื่องไร้สาระ

เมื่อ ม่อเสีย ได้ยินศิษย์คนนั้นพูด เขาฉีกยิ้มให้เห็นได้อย่างชัดเจนและมองไปที่ศิษย์นั้นด้วยความเห็นชอบ

"เหลยโพ ไม่จำเป็นต้องลดตัวเองลงไปในระดับเดียวกับเด็กปากร้ายนั้น ท่านประมุขเป็นคนฉลาด ข้ารู้
ว่าการตัดสินใจของเขาจะยุติธรรมและไม่ลำเอียง "

"ผู้อาวุโส ข้ารู้ดีว่าท่านประมุขเป็นคนฉลาด แต่เด็กน้อยคนนั้นที่คิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ ช่างเป็นคน
อวดดีเกินไปแล้ว ถ้าข้าเจอเขาระหว่างการสอบศิษย์ภายใน ข้าจะฆ่าเขาแน่ ๆ "

เหลยโพ กล่าวต่อ ม่อเสีย ทั้งคู่บอกว่า หนานกงหลิง เป็นคนฉลาดโดยการประจบเขา ถ้า หนานกงหลิง
 ลงโทษ ม่อเสีย จะเห็นได้ชัดว่านี่เป็นการกระทำของคนโง่

"ข้าเห็นว่า ม่อเสีย ได้เลี้ยงดูสุนัขจรจัดจำนวนมาก ไม่น่าแปลกใจที่เขาได้รับความนับถือจากคน
มากมายและยอมให้ตัวเขาเองได้สังหารลูกศิษย์จำนวนมากของนิกายนี้ "

คำพูดของ หลินเฟิง นั้นแหลมคมอย่างมาก เขากำลังมองหาที่ ม่อเสีย อย่างเยาะเย้ย เหลยโพ ต้องการ
ปกป้อง ม่อเสีย และเขาต้องจ่ายค่าตอบแทนสำหรับเรื่องนี้ "

"ปากร้ายยังไงรึ"

ม่อเสีย สาปแช่ง หลินเฟิง และเหลือบมอง เหลยโพ แสดงว่าเขายินดีรับความช่วยเหลือจากเขา

"ท่านประมุข ข้า เหลยโพ เป็นคนใจกว้างและมีน้ำใจ แต่ หลินเฟิง ได้ดูหมิ่นและทำให้ข้ารู้สึกอับอาย
ขายหน้า เขาเรียกข้าว่าเป็นสุนัขจรจัด เขามันเป็นสัตว์เดียรัจฉาน ข้าขอท้าสู้กับเขาใน
ลานประลองแห่งชีวิต ข้าหวังว่าท่านประมุขจะไม่คัดค้าน

เหลยโพ ที่กำลังโมโหได้ขอคำตอบจาก หนานกงหลิง เพื่อขออนุญาตให้สู้กับ หลินเฟิง

หนานกงหลิง ขมวดคิ้ว เหลยโบ ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ยี่สิบอันดับแรกและเขาได้ผ่านเข้า
ไปในชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สามแล้ว เขามีความแข็งแกร่งอย่างมากภายในบรรดาเหล่าศิษย์ภายใน
แม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สอง ก็ไม่สามารถเป็นคู่มือกับเขาได้ แม้ว่า หลินเฟิง จะเก่ง
ที่สุดเมื่อใช้ดาบ ช่องว่างระหว่างการบ่มเพาะพลังของพวกเขานั้นมากเกินไป มันอาจจะเป็นอันตราย
เกินไปสำหรับ หลินเฟิง ที่จะสู้กับเขาด้วยจิตวิญญาณขั้นแรกเท่านั้น

เมื่อ หนานกงหลิง กำลังจะปฏิเสธ หลินเฟิง ได้เริ่มพูด

"ท่านประมุข ข้าเป็นคนใจกว้างและมีน้ำใจ แต่ ม่อเสีย สร้างความอับอายและรังแกข้า จากนั้นสุนัข
ตัวน้อยที่หลงผิดของเขากล้ากล่าวหาว่าข้าปากเสีย... ไม่จำเป็นต้องให้เขาไปขอให้ท่านประมุข
อนุญาตให้ต่อสู้กับข้า มาเริ่มกันเลยดีกว่า! "

หลินเฟิง เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ หนานกงหลิง อย่างเฉยเมย หลินเฟิง รู้สึกมั่นใจกับคำพูดของเขา
หัวใจของ หนานกงหลิง เริ่มเต้นเร็วขึ้น

เป็นไปได้ไหมที่ หลินเฟิง ได้ซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาไว้?

เมื่อ หนานกงหลิง คิดว่า หลินเฟิง อาจซ่อนความความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาไว้เขาก็อยากรู้
อยากเห็นจริงๆและช่วยไม่ได้ที่เขาจะพูดว่า "ข้ายอมให้เจ้าสู้ได้"

"ขอบคุณขอรับ, ท่านประมุข."เหลยโพ กล่าวขณะมองไปที่ หนานกงหลิง ที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นมาก
จากนั้นเขาก็เดินไปที่ใจกลางเวทีต่อสู้และปีนขึ้นไปบนนั้น เขากำลังเผชิญกับ หลินเฟิง

"การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้กับการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เราทั้งสองต้องทำให้ชีวิตของใครคนหนึ่ง
ตายไป ท่านประมุขกล่าวไว้แบบนั้นเอง หลินเฟิง วันนี้ทุกคนจะได้เห็นเจ้าตายเหมือนสุนัข "

เหลยโพ กล่าวคำพูดเหล่านี้ด้วยเสียงก้าวร้าวเขากลัวว่า หนานกงหลิง จะกลับคำพูดของเขาเกี่ยว
กับการต่อสู้ในการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน

คำพูดของ หลินเฟิง ก่อนหน้านั้นช่างร้ายกาจมาก ม่อเสีย ไม่สามารถออกจากสถานการณ์ที่น่า
อับอายและน่าอึดอัดใจนี้ได้ ถ้า เหลยโพ สามารถฆ่า หลินเฟิง แล้ว ม่อเสีย จะรับเขาเป็นศิษย์ของ
เขาเองและช่วยเขาพัฒนาการบ่มเพาะพลัง

"เจ้ามั่นใจมากเหลือเกินนะ"

"แน่นอน. เจ้าเพิ่งกลายเป็นศิษย์ภายใน เจ้าเป็นแค่เด็กน้อย เจ้าอาจมีความสามารถตามธรรมชาติ
และมีศักยภาพสูง แต่ด้านหน้า ข้าเป็นผู้บ่มเพาะพลังระดับจิตวิญญาณขั้นที่สาม เจ้านั้นอ่อนแอ
เกินไป ข้าไม่จำเป็นต้องปลดปล่อยจิตวิญญาณของข้าเพื่อฆ่าเจ้าด้วยซ้ำ "

เมื่อ เหลยโพ พูดเสร็จสิ้น ปราณที่แข็งแกร่งได้รับการปล่อยตัวออกจากร่างกายของเขา มันมีพลัง
มากจนผู้ชมรู้สึกกดดันที่เขาปล่อยมันออกมาในอากาศและแม้แต่ฝุ่นที่เข้ามาใกล้เขาก็ระเบิดได้ 
ขณะที่เขาเคลื่อนไหว เสียงราวกับฟ้าผ่าได้ดังก้องจากร่างของเขา

ความแตกต่างระหว่างผู้บ่มเพาะพลังชั้นจิตวิญญาณขั้นที่หนึ่งและขั้นที่สามช่างห่างไกลกันมหาศาล
แม้ว่าจะเป็นอัจฉริยะก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งกว่าได้ แม้ว่า หลินเฟิง จะ
ควบคุมพลังอำนาจของดาบได้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะชนะ
"ข้าจะบอกอะไรเจ้าซักหน่อย จิตวิญญาณของข้าคือจิตวิญญาณสายฟ้า ข้าแข็งแกร่งดั่งสายฟ้า
การโจมตีของข้ามีประสิทธิภาพและรวดเร็ว แต่เจ้าไม่มีค่าพอที่จะได้รับเกียรติที่ได้เห็นข้าปลดปล่อย
จิตวิญญาณ "
เหลยโพ จับมือขวาของเขาขึ้นไปในอากาศ มันเริ่มแพร่กระจายเป็นประกายสายฟ้า ดูเหมือนว่าเขา
กำลังใช้บางสิ่งที่มีประสิทธิภาพมาก

ผู้ที่เป็นเจ้าของจิตวิญญาณสายฟ้า สามารถโจมตีได้อย่างรุนแรง นอกจากนี้การโจมตีแต่ละครั้ง
ของพวกเขายังมีความรวดเร็วและใช้อย่างชำนาญ เหลยโพ ใช้เวลาในการตัดผ่านไปยังชั้น
จิตวิญญาณขั้นที่สามไม่นานนักและมีชื่อของเขาอยู่ในการจัดอันดับศิษย์ภายใน เขาอยู่ในอันดับ
ที่ยี่สิบเอ็ด แต่เขาก็จะได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ยี่สิบ

"แปดสังหารทะลายสวรรค์"

หลินเฟิง ไม่รู้สึกอยากคุยกับ เหลยโพ อีกต่อไป เขาผลักมือไป และการโจมตีที่รุนแรง ทั้งหกได้ถูก
ปล่อยออกไปและพุ่งตรงไปทาง เหลยโพ

“หืม.”

เหลยโพ ยิ้มอย่างเย็นชา การโจมตีของ หลินเฟิง หกครั้ง ในขณะที่เขารับการปะทะด้วยสายฟ้าของ
เขาและพังทลายในพริบตา "

"พลังอำนาจ."

หลินเฟิง ก้าวไปข้างหน้าและพลังอำนาจของดาบอันทรงพลังเริ่มพุ่งเข้าสู่บรรยากาศโดยรอบ บรรยา
กาศโดยรอบถูกปราณดาบของเขาดูดซับและเป็นพลังอำนาจดาบอย่างสมบูรณ์

เขาปล่อยฝ่ามือออกอีกครั้งและอีกหกการโจมตีได้พุ่งออกไปที่ เหลยโพ

แต่ หลินเฟิง รู้อย่างชัดเจนว่าการโจมตีเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อ เหลยโพ มากนัก ทันใดนั้นเขา
ก็วิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่น่าทึ่งและเสียงการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วดังขึ้น บรรยากาศทั้งหมดเต็ม
ไปด้วยปราณและพลังอำนาจของดาบราวกับดาบของเขาเป็นหนึ่งเดียวกับเวที

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พลังอพนาจของดาบกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงมื่อดูดซับพลังงานรอบตัว 
พลังอำนาจของดาบแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เขาใช้ฆ่าห้าคนที่เป็นศิษย์ภายในเสียอีก

พลังอำนาจอันเหลือเชื่อเริ่มกดดันร่างกายของ เหลยโพ เหลยโพ รู้สึกว่าเขาถูกรัดคอและแทบจะ
หายใจไม่ออก มันเจ็บปวดมากราวกับว่ากระดูกของเขากำลังจะถูกบดขยี้จากความกดดันนั้น

"จิตวิญญาณขั้นที่สอง"

เหลยโพ มึนงงแล้วเขาก็ตะโกนว่า "เจ้าไม่ได้อยู่ในชั้นจิตวิญญาณขั้นที่หนึ่ง 
เจ้าอยู่ที่ชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สอง!"

ฝูงชนทั้งหมดก็เกิดความโกลาหล หลินเฟิง ได้ซ่อนพลัที่แท้จริงของเขาไว้! พลังมหาศาลอะไรกันีน้! 
เมื่อไม่นานมานี้ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็น หลินเฟิง ในระยะเวลาสั้น ๆ หลินเฟิง ได้แสดงความสามารถของ
เขาซ้ำแล้วซ้ำอีก และตอนนี้กลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจของทุกคน

ตอนนี้ความสามารถของพลังอำนาจของชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สองทำให้เขาสามารถต่อสู้กับผู้บ่ม
เพาะพลังของชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สามได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงได้ยอมรับการท้าทายของ
เหลยโพ โดยไม่ลังเลใจ

"ชายหนุ่มคนนี้เป็นอัจฉริยะจริงๆ ... และเขาได้เรียนรู้ทั้งความเร็วละเชี่ยวชาญด้านทักษะ ... "

หนานกงหลิง รู้สึกร่างกายของเขากำลังสั่น เขายังคงจำได้ว่าครั้งแรกที่เขาได้พบกับ หลินเฟิง
หลินเฟิง อยู่ที่ชั้นพลังปราณ เขาอ่อนแอมาก แม้แต่ หลินเซียน ของนิกายเห่าเย่วก็อาจทำให้เขา
ขายหน้าได้ในวันนั้น ในระยะเวลาสั้น ๆ เขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด

หลินเฟิง ได้ตัดผ่านชั้นจิตวิญญาณและฆ่าศิษย์ที่มีอันดับไปห้าคน ในขณะนี้เขากำลังต่อสู้กับผู้
บ่มเพาะพลังชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สาม และดูเหมือนว่าเขาได้เปรียบเหนือคู่แข่งของเขาเสียอีก

"เจ้ามันดีแต่พูด เจ้ามันอ่อนแอเกินไปที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้า "

หลินเฟิง เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนว่าเขาได้หายตัวไป ดาบของเขาตัดผ่านเสื้อผ้าของ
เหลยโพ และ เหลยโพ รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงราวกับเนื้อของเขาถูกแยกออกเป็นชิ้น ๆ พลังอำนาจ
ของดาบเป็นสิ่งที่น่ากลัว มันเป็นครั้งแรกที่  เหลยโพ  รู้สึกถึงพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง เขาหวาดกลัว

"ตายซะ!" เหลยโพ ตะโกน 

เสียงกระหึ่มดังสนั่นเริ่มแพร่กระจายอย่างไม่หยุดยั้งตลอดทั้งบรรยากาศ เมื่อพวกเขาปะทะกับปราณ
ดาบพวกเขาก็เริ่มมีประกายแสงออกมา ดูเหมือนว่าพายุที่น่าสะพรึ่งกลัวได้รับการปลดปล่อยออกมา
จากร่างกายของ เหลยโพ

หลินเฟิง ร่ายกระบวนท่าส่งฝ่ามือไปข้างหน้า

"แปดสังหารทะลายสวรรค์"

มีการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวจากฝ่ามือ หลินเฟิง การโจมตีของเขามีความรุนแรงมากจนทำให้
กลืนกินท้องฟ้าและปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดด้วยพลัง

"สายฟ้าศักศิทธิ์!"

เหลยโพ ตะโกนเสียงดังมากและทันใดนั้นเสียงคำรามซัดออกมาจากมือของเขาและเริ่มกระหน่ำ
บรรยากาศโดยรอบ เหล่าฝูงชนตาบอดชั่วคราวมองไม่เห็นการโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้ ดูเหมือน
ว่าพลังที่อันตรายภายในสายฟ้าที่ผ่าลงมานั้นไม่มีที่สิ้นสุด ในพริบตามันได้หายไปเมื่อเทียบกับการ
โจมตีของ หลินเฟิง แปดครั้ง

"ทักษะดาบสังหาร."

การโจมตีของ หลินเฟิง ไม่ได้หายไปอย่างสิ้นเชิงและดาบของเขาเต็มไปด้วยพลังอำนาจของดาบ
อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ดาบสังหาร เป็นทักษะที่ต้องใช้ความเร็วสูงสุด ยิ่งเร็วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งระเบิดได้มากเท่านั้น มันเป็นการ
โจมตีที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง

พลังอำนาจดาบของ หลินเฟิง มีพลังอย่างมากเมื่อทะลุผ่านชั้นบรรยากาศและกลืนกินทุกอย่าง
ในเส้นทางของมัน

"สายฟ้าศักดิ์สิทธ์พิโรธ!"

เหลยโพ ตะโกนเสียงดังมากและดูเหมือนว่าร่างทั้งตัวของเขากำลังกลายเป็นพายุสายฟ้า ทั้งสอง
มือของเขายกขึ้นเพื่อโจมตีพลังทั้งหมดอยู่ในพายุสายฟ้า

“ตู้มมมมมมมมมมมมมมม !!!”

สายฟ้าได้ปะทะกับปราณของดาบและอำนาจของดาบ ประกายแสงระยิบระยับทำให้ฝูงชนมองไม่เห็น
และความร้อนได้แผดจ้าวิ่งออกไปข้างนอกจากการปะทะกัน พลังของคลื่นกระแทกกันอย่างรึนแรง
มากจนทำให้ผิวหนังของศิษย์ติดขัดและพวกเขาไม่สามารถลืมตาได้

เหลยโพ รู้สึกว่ามีอาการปวดรุนแรงมาจากร่างกายของเขา เขาไม่เคยคิดเลยว่า หลินเฟิง จะมี
พลังมากมายเช่นนี้

สิ่งที่ทำให้เขาหวาดกลัวก็คือพลังอำนาจของดาบที่อยู่ในการโจมตีแต่ละครั้งกำลังแข็งแกร่งมากขึ้น
เรื่อยๆ

ดาบเล่มนั้นถูกล้อมด้วยพลังอำนาจของดาบ มันไม่เพียงแต่มันไม่อ่อนแอลง แต่ยังเแข็งแกร่งขึ้นซึ่งทำให้
เหลยโพ รู้สึกว่าเขากำลังล้มลงภายใต้น้ำหนักของพลังอำนาจของดาบที่กดทับลงมามากขึ้นนั้นเอง....





Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

Facebook