ตอนที่ 79 ไม่มีการประนีประนอม
ผู้พิทักษ์เป่ย เอ็นดู หลินเฟิง มาก เขาเกือบจะฆ่า ม่อเสีย?
หนานกงหลิง ไม่ได้เปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเขาพูดเรื่องดังกล่าวไปผู้อาวุโสหลายคนต่างแสดงสีหน้าที่ตกตะลึง พวกเขาทุกคนรู้ดีเกี่ยวกับ ผู้พิทักษ์เป่ย แต่แปลกใจที่ ผู้พิทักษ์เป่ย ใส่ใจ หลินเฟิง เป็นพิเศษ?
ไม่ไกลจาก หนานกงหลิง ด้านหลังมี ผู้อาวุโสท่านอื่นที่ทำหน้าประหลาดใจสุดๆ มันคือ ลู่หยวน
"โง่จริงๆ ไม่สงสัยเลยว่าทำไม ซูวเย่ ถึงได้ปกป้อง หลินเหิง ที่หน้าผาหินจัดอันดับ ไม่สงสัยเลยที่เขาได้ตัดสินใจเพื่อหยุดข้าไว้ "ลู่หยวน กำลังทำหน้าหดหู่ เขาไม่คิดเลยว่า หลินเฟิง มีภูมิหลังที่น่าสะพรึงกลัว เขาได้รับการคุ้มครองโดย ผู้พิทักษ์เป่ย ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจว่าทำไม ซู่วเย่ว บอกกับเขาว่าเขาจะเสียใจกับการกระทำของเขาในวันนั้น
Lin Feng ไม่ได้อยุ่ตอนนั้ย เขาไม่รู้ว่าหลังจากเหตุการณ์หมอกปีศาจเกิดขึ้น ผู้พิทักษ์เป่ย ได้โกรธอย่างมากจนพยายามจะฆ่า ม่อเสีย หลินเฟิว รู้สึกเสียใจเพราะเขาไม่สามารถตอบแทนการสนับสนุนได้และคนหนึ่งที่เคารพนับถือจริงๆ คือ ผู้พิทักษ์เป่ย
หลินเฟิง ไม่เต็มใจที่จะออกจากนิกายหยุนไห่เพราะเหล่าผู้พิทักษ์ได้แสดงความเมตตากับเขา นอกจากนี้เขายังมีเพื่อนที่ดีจริงๆเช่น หานหมาน, จิ้งหยุน, ผู้พิทักษ์เป่ย และ ผู้พิทักษ์คง และ หลิวเฟย ด้วยเช่นกัน
"แม้จะมีเรื่องเกี่ยวกับผู้พิทักษ์เป่ย ก็ตาม ม่อเสีย เป็นผู้อาวุโสที่เชื่อในตัวเองว่าเขาอยู่เหนือทุกคนและมักใช้อำนาจของเขาบ่อยครั้ง นี่คือความจริง."
"นอกจากนี้เมื่อสามวันก่อน ข้าไปรับเสื้อคลุมศิษย์ภายในและใบรับรอง การเป็นศิษย์ภายในของข้า เวิ่นเหลินหยาน พยายามที่จะสังหารข้าและเขาได้โจมตีเพื่อนของข้า เวิ่นเหลินหยาน เป็นศิษย์ของนิกายหยุนไห่แน่นอนข้าจะไม่ตำหนิ นิกายหยุนไก่เพราะเรื่องนี้ แต่ แต่ผู้อาวุโส ลู่หยวน อยู่ที่นั่นและไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเหล่านี้มันเกิดขึ้น "
"แต่ ลู่หยวนนั้นเป็นถึงผู้อาวุโสของนิกายหยุนไห่ เขาไม่เพียงแต่ไม่พยายามป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น แต่เขายังบอกกับข้าว่า สมควรจะตายเพราะข้านั้นไม่แข็งแกร่งเท่า เวิ่นเหลินหยาน ในนิกายใครที่ไม่แข็งแกร่งเท่า เวิ่นเหลินหยาน หรือเหนือกว่าสมควยตายงั้นรึ? ทั้งหมดนี้เป็นความจริง เมื่อการเผชิญหน้าเสร็จสิ้นลงข้าก็ขอเสื้อคลุมของศิษย์ภายใน และใบรับรองของข้าถึงสองครั้ง แต่ ลู่หยวน ตอบเพียงคำเดียว : ไปให้พ้น"
เมื่อหลินเฟิง พูดเสร็จแล้วทุกคนเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร เป็นเพราะเขายังถือว่าเป็นศิษย์สามัญและเพราะเขาไม่สามารถรับเสื้อคลุมและใบรับรองการเป็นศิษย์ภายในได้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีผู้อื่นในนิกายใช้อำนาจในการลงโทษเขา ลู่หยวน ใช้อำนาจของเขาในฐานะผู้อาวุโสที่พยายามจะเอาชนะให้กับ เวิ่นเหลินหยาน โดยการกดขี่ หลินเฟิง
ในขณะนั้นทุกคนกำลังจ้องมองไปที่ ลู่หยวน เขาสั่นจากหัวถึงเท้าด้วยความกลัว ร่างกายของเขารู้สึกเหมือนน้ำหนักอันมหาศาลกำลังกดทับลงมาบนตัวเขา เขาจะทำเช่นเดียวกันหรือไม่ถ้าเขารู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น?
"ลู่หยวน ที่ หลินเฟิง กล่าวมาเป็นความจริงงั้นรึ?"
เสียงของ หนานกงหลิง เปลี่ยนไป แต่ก็ฟังดูมั่นคงและน่าประทับใจ เขาจะไม่ทนถ้า ลู่หยวน โกหกในสถานการณ์เช่นนี้
“ท่านประมุข”.
ลู่หยวน มองลงไปที่พื้น เขาไม่กล้ามอง หนานกงหลิง ในขณะนั้นเขาเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อสิ่งที่เขาได้ทำ เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเขา? เขาได้ดูถูก หลินเฟิง เพราะ เวิ่นเหลินหยาน อย่างไรก็ตาม เวิ่นเหลินหยาน จะช่วยเขาในวันนี้รึไม่? เขาต้องเผชิญกับผลของการกระทำของเขาคนเดียว
เมื่อ หนานกงหลิง เห็นปฏิกิริยาของ ลู่หยวน เขาก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติมทุกอย่างที่ หลินเฟิง ได้กล่าวไว้เป็นความจริง ... และเขายังคงเรียกตัวเองว่าเป็นศิษย์สามัญ ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้า!
"เอาล่ะ ... เอาล่ะ ... ท่านมีอำนาจแต่ข้าก็เคารพทุกคนที่สามารถเป็นหนึ่งในศิษย์ภายในด้วยพลังของตัวเอง เมื่อทีานบอกให้เขา ไปให้พ้น ท่านได้บอกเป็นทางอ้อมว่าข้าควรจะไปใช่มั้ย? "
"ข้ามิกล้า"
ลู่หยวน ช่วยไม่ได้ที่เขาจะก้มหัวลงและมองลงไปที่พื้น เขารู้สึกหนาวสั่นวิ่งลงไปกระดูกสันหลัง เขาเป็นเพียงผู้อาวุโสศิษย์สามัญ ภายในนิกายเขาไม่ได้มีตำแหน่งพิเศษอะไร อันดับหรือสถานะ เขาไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ม่อเสีย และ ลู่หยวน ไม่สามารถเทียบกันได้. ม่อเสีย ได้พยายามฆ่า หลินเฟิง ทุกครั้งที่มีโอกาส เจตนาของสื่อออกมาทางสายตาอย่างชัดเจนทุกครั้งที่เขามอง หลินเฟิง
"ข้าจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้"
หนานกงหลิง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ทำให้ ลู่หยวน หวาดกลัว เขาไม่รู้ว่า หนานกงหลิง ตั้งใจจะทำอย่างไรกับเขานั่นคือเหตุผลที่เขากลัวมาก เขากลัวการลงโทษที่ไม่รู้ว่าจะร้ายแรงแค่ไหนที่เขาจะได้รับ
หนานกงหลิว มองไปที่ หลินเฟิง และไม่สามารถทำอะไรได้ แต่เปิดเผยรอยยิ้มที่ขุ่นเคืองบนใบหน้าของเขา ทุกครั้งพวกเขาได้พบว่าใครบางคนที่อยากจะฆ่า หลินเฟิง นั้นเป็นผู้อาวุโสของนิกายได้ทำผิดเสียเอง
"ท่านประมุขวันนี้ท่านต้องเข้าใจข้าและสิ่งที่ข้าพูดไป ข้าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ ม่อเสีย จะพยายามสังหารข้าอีกครั้ง ข้าไม่รู้เหมือนกันว่ามีกี่คนที่ชอบ ม่อเสีย และ ลู่หยวนในนิกาย ถึงแม้ว่าศิษย์ภายในจะมีฐานะสูงส่งในนิกายหยุนไห่ แต่ก็ยังต่ำกว่าของผู้อาวุโสเหมือนทุกครั้งก่อนหน้านี้ หากผู้อาวุโสต้องการจะสังหานข้าเขาสามารถทำมันได้อย่างอิสระทุกครั้งที่เขาต้องการ เช่นถ้าข้าไม่ใช่อะไรนอกจากขยะที่พวกเขาสามารถกำจัดได้ตลอดเวลา นี่คือทั้งหมดที่ศิษย์อย่างพวกเราหมายถึงเกี่ยวกับนิกาย ”
ทุกประโยคที่ หลินเฟิง กล่าวกำลังก้องอยู่ลึก ๆ ในใจทุกคน ทุกอย่างเป็นความจริงดังนั้นไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ที่เขาพูด หนานกงหลิง ไม่สามารถลบล้างสิ่งที่เพิ่งพูดไปได้
"หลินเฟิง, เจ้าต้องการให้ข้า, หนานกงหลิง ผู้นี้ทำอะไร?"
หนานกงหลิง กำลังจ้องมองไปที่ หลินเหิง ขณะที่พูดคำเหล่านี้
ทุกคนประหลาดใจ เพราะ หนานกงหลิง ต้องการให้ หลินเฟิง อยู่ ดูเหมือนว่าเขาได้วางฐานะประมุขนิกายไว้ มันฟังดูเหมือน หนานกงหลิง กำลังขอให้ หลินเฟิง อยู่
"ในความเป็นจริงทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเจ้า มันเกิดขึ้นเพราะในโลกนี้ความแข็งแกร่งและอำนาจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากปราศจากความแข็งแกร่งหรืออำนาจก็จะไม่มีค่าอะไรเลย นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นและฝังรากลึกลงไปภายในนิกาย "
เมื่อ หลินเฟิง เห็นว่า หนานกงหลิง จัดการเรื่องนี้ได้ดีเขารู้สึกผ่อนคลาย ในฐานะที่เป็นประมุขเขาลืมศักดิ์ศรีและเกียรติและความขายหน้า แต่เขาไม่สนใจ เขารู้ว่าการขอโทษสักสองสามครั้งและยอมรับความผิดพลาดของตัวเองเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยวิธีนี้ หนานกงหลิง ได้แสดงให้เห็นว่าเขารักและหวงแหนศิษย์ของเขาทุกคน เขาไม่ได้ปกป้องหน้าตาของเขาและเข้าใจว่าเขาผิด
“ท่านประมุขแล้วท่านบอกกับข้าว่ามีเพียงผู้ที่มีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพสามารถได้รับความเคารพและมีการพิจารณาในฐานะศิษย์ที่มีความสำคัญ แต่ท่านเคยคิดถึงเหล่าศิษย์ที่โดดเด่นเช่นเดียวกับคนอื่นๆมั้ย ที่มีการเริ่มต้นจากด้านล่างในขณะที่ถูกเรียกว่าไร้ค่า? ทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าพลังจะอยู่ที่จุดจุดหนึ่งของผู้บ่มเพาะพลังระดับต่ำ พวกเราทุกคนไม่เคยหยุดนิ่งและแต่ละคนก็ก้าวไปเอง ลองจินตนาการดูว่าผู้บ่มเพาะพลังระดับต่ำที่มีศักยภาพอย่างน่าเหลือเชื่ออาจคิดว่าพวกเขาไม่สำคัญตั้งแต่เริ่มต้น เพราะพวกเขาไม่ก้าวหน้าอย่างเร็วเท่าคนอื่น ๆ ถ้าพวกเขาคิดว่าพวกเขาไม่มีความหมายอะไรกับนิกายหยุนไห่ พวกเขาอาจจะท้อแท้กับการบ่มเพาะพลังในอนาคตของพวกเขา? พวกเขาจะมีศรัทธาในนิกายได้อย่างไรเมื่อพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น? พวกเขาจะเชื่อได้อย่างไรว่าพวกเขาจะได้รับการพิจารณาว่ามีความสำคัญและพวกเขาจะได้รับการยอมรับ? "
คำพูดของ หลินเฟิง ทำให้ หนานกงหลิง คิดถึงนิกายของตัวเอง แท้จริงพวกศิษย์ที่แข็งแกร่งได้เริ่มต้นจากพื้นฐานทั้งหมด แต่พวกเขาเพิ่งได้เห็นนิกายแสดงความสามารถเพียงครั้งเดียวเท่านั้น บางคนคิดว่าพวกเขาอ่อนแอมากในตอนแรก เป้าหมายของพวกเขาเหมือนกับ หลินเฟิง และถึงแม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นผู้ที่เกลียดชังพวกเขายังคงเป็นเช่นเดิม
"มีการลงโทษแบบเดียวกันไม่ว่าใครจะทำลายกฎไม่ว่าจะเป็นศิษย์สามัญหรือศิษย์ภายใน หรือแม้แต่ผู้อาวุโสที่ละเมิดกฎ นั่นคือวิธีเดียวที่จะใช้ชีวิตอย่างกลมกลืนและก้าวไปข้างหน้าร่วมกัน มีหลายกรณีที่ผู้อาวุโสสุ่มฆ่าศิษย์ หากกฎถูกทำลายผู้ฝ่าฝืนไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตามควรถูกลงโทษ "
"ไม่ว่าศิษย์หรือผู้อาวุโสควรถูกลงโทษด้วยวิธีเดียวกัน ผู้ฝ่าฝืนไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ควรถูกลงโทษ "
หนานกงหลิง ดูมึนงง ในทวีปเก้าเมฆา ผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งก็ต้องปฏิบัติตามกฎแม้ว่าจะมีสถานะหรืออำนาจที่สูงขึ้น เหตุใดจึงไม่ใช้บังคับในนิกายหยุนไห่?
หนานกงหลิง รู้ว่าเขาทำผิดพลาดมาก ด้านนอกของนิกายมีกฎสำหรับทุกคน แต่สำหรับนิกายหยุนไห่ละ?ถ้ามันไม่ได้เปลี่ยนไปเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับ หลินเฟิง มันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง มีเพียงผู้บ่มเพาะพลังไม่กี่คนที่ไม่เคารพนับถือเมื่อพวกเขาอ่อนแอ แต่จริงๆแล้วมีศักยภาพที่ไม่มีขีดจำกัด เมื่อพวกเขาแข็งแกร่งแล้วพวกเขาจะนับถือนิกายนี้ได้อย่างไรหากไม่เคยได้รับการยอมรับมาก่อน
"ผู้ชายคนนี้เป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง เขามีเสน่ห์และฉลาด เขาได้สอนอะไรหลายอย่าง"
หนานกงหลิง คิดขณะที่เขากำลังมองไปที่ หลินเฟิง และพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า "เจ้าเพิ่งสอนช้าและทำให้ข้าเข้าใจอะไรมากขึ้น หลินเฟิง ถ้าสักวันหนึ่งเจ้าจะเป็นผู้นำของนิกายหยุนไห่ แน่นอนมันจะเข้าสู่ยุคแห่งความมั่งคั่งและความรุ่งโรจน์ ข้าหวังว่าเจ้าจะอยู่ที่นี่ "
หลินเฟิง สักวันหนึ่งจะกลายเป็ผู้นำ?
ทุกคนมึนงง คำพูดของ หนานกวหลิง มีความหมายที่ซ่อนอยู่และมีผลต่อไปอย่างไร?
หลินเฟิง ส่ายหัว เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เขาแค่อยากจะทำให้ทุกคนเข้าใจข้อผิดพลาดในวิถีของพวกเขา เขามีศักยภาพและเข้าใจสิ่งต่างๆมากมาย แต่อาจไม่ใช่ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำที่ดี
"ท่านประมุข ข้าไม่รู้สึกเหมือนออกจากนิกาย ข้าต้องการให้ทุกคนเข้าใจถึงความโง่เขลาและการกระทำที่โหดร้าย ข้าก็มีมีเหตุผลที่จะอยู่ต่อไป "
คำพูดของ หลินเฟิง ไม่ได้เย็นชาและเฉียบคมเหมือนก่อนหน้านี้ แม้แต่ หนานกงหลิง ,ม่อเสีย และ ลู่หยวน รู้สึกสงบนิ่งขึ้นในขณะนั้น แม้ว่าเขาจะอยู่ในนิกายหยุนไห่ หลินเฟิง จะไม่อุทิศตัวให้กับนิกายในอนาคต อย่างไรก็ตามเขาชื่นชมและมีความเคารพต่อ หนานกงหลิง ที่เขาทำในวันนี้ นอกจากนี้เขาไม่อยากออกจากนิกายหยุนไห่โดยไม่จำเป็น เขาต้องการเหตุผลที่จะอยุ่ที่นี่
"หลินเฟิง ข้าจะป้องกันไม่ให้คนอื่นกลั่นแกล้งและข่มเหงเจ้าอีกต่อไผ ไม่จำเป็นต้องบอก ข้าจะทำมากยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้พวกเขาพยายามที่จะฆ่าเจ้าหรือทำผิดกับพวกเจ้า "
หนานกงหลิง ได้ให้สัญญาไว้
"นี่คืออนาคต สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ละ? ทุกคนที่ดูถูกและข่มขู่ข้าละ"หลินเฟิง กล่าว นี่เป็นความยุติธรรมจริงๆหรือ?
"คำพูดของช้าไม่ไร้สาระ ข้าจะทำให้การเพาะปลูกของ ลู่หยวน พิการและเขาจะไม่ได้เป็น ผู้อาวุโสอีกต่อไป เขาจะถูกไล่ออกจากนิกายด้วย "
คำพูดของ หนานกงหลิง มีความเฉียบคมและฉุนเฉียว ทุกคนประหลาดใจ หนานกงหลิง กำลังจะทำให้การบ่มเพาะพลังของผู้อาวุโสพิการ เพราะ หลินเฟิง นี่เป็นคำเตือนที่ชัดเจนสำหรับทุกคนในนิกายว่าทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว
"ท่านประมุข ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย" ลู่หยวน กล่าวเมื่อได้ยินคำพูดของ หนานกงหลิง ทำให้เขากลายเป็นคนอ่อนแอกว่าคนธรรมดา เขาจะอยู่รอดได้อย่างไร? เขาไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอีกต่อไป
"สิ่งที่เจ้าได้ก่อไว้ไม่สามารถยกโทษให้ได้" หนานกงหลิง กล่าวอย่างหนักแน่น การบ่มเพาะพลังของ ลู่หยวน ต้องถูกทำให้พิการกับสิ่งที่เขาทำไว้กับ หลินเฟิง เพื่อให้ หลินเฟิง สบายใจ
"เวิ่นเหลิน ช่วยข้าด้วย!"
ลู่หยวน รู้ว่า หนานกงหลิง จะไม่กลับกลับคำพูด เขาไม่สามารถทำให้ หนานกงหลิง เปลี่ยนความคิดได้ ดังนั้นเขาจึงตะโกนคำนี่ไปที่ เวิ่นเหลินหยาน
แต่ในขณะนั้น เวิ่นเหลินหยาน กำลังพยายามหาทางที่จะจัดการกับ หลินเฟิง เขาจะห่วง ลู่หยวน ได้อย่างไร? เขามองอย่างเย็นชาไปที่ ลู่หยวน และไม่สนใจเขาอีกต่อไป ซึ่งทำให้ ลู่หยวน รู้สึกเหมือนถูกทรยศ
"ใจดำและนี้มันไม่ยุติธรรมกับข้า!" ลู่หยวน ตะโกน
ลูหยวนเข้าใจว่า หลินเฟิง มีความหมายอย่างไร เวิ่นเหลินหยาน ไม่สนใจใคร นอกจากตัวเขาเองและไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องความสัมพันธ์ในอดีต ตอนนี้ ลู่หยวน เข้าใจว่าการหวังให้ เวิ่นเหลินหยาน ช่วยช่างเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ แต่เขาได้ทำให้ หลินเฟิง ต้องทนทุกข์ทรมานมากและสายเกินไปสำหรับความเสียใจ
"หลินเฟิง ตอนนี้เจ้าพอใจรึยัง?" หนานกงหลิง ถาม
หลินเฟิง มองไปที่ หนานกงหลิง ด้วยใบหน้าที่นิ่งเงียบและส่ายหน้า
"ท่านประมุข ดูเหมือนว่าท่านจะลืมเกี่ยวกับใครบางคนไป"
หนานกงหลิง ยิ้มให้อย่างเบื่อหน่ายขณะมองไปที่ หลินเฟิง ผู้ชายคนนี้ช่างใจแข็งซะจริง
ทุกคนตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาได้ยินและพวกเขามองไปที่ ม่อเสีย พวกเขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่า หลินเฟิง หมายถึง ม่อเสีย ควรเป็นคนต่อไปที่จะถูกลงโทษ ถ้าไม่ใช่ ม่อเสีย แล้วจะเป็นใครได้ละ?
แต่หลายคนคิดว่า หลินเฟิง จะพอใจเพราะ หนานกงหลิง ได้ทำตามในนามของเขา หนานกงหลิง ได้ถามเขาว่าจะเพียงพอหรือยังเป็นคำถามว่าควรจัดการกับปัญหาทั้งหมดที่พอแก้ไขได้
หลังจากนั้น ม่อเสีย เป็นคนสำคัญภายในนิกาย ไม่ใช่แค่ ม่อเสีย เป็นผู้อาวุโสที่มีสถานะสูงมาก แต่บิดาของเขาเป็นผู้ที่มีอำนาจสูง เขามีอำนาจและอิทธิพลมากมายภายในนิกาย ถ้า หนานกงหลิง ลงโทษ ม่อเสีย เขาก็จะลงโทษพ่อของเขาด้วยเช่นกัน หนานกงหลิง อยู่ในสถานการณ์ที่สำคัญมาก
แต่สำหรับ หลินเฟิง ไม่มีการประนีประนอมทั้งสิ้น คำพูดของเขาเป็นเหมือนดาบที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะตัดหัวของ ม่อเสีย...
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น