ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 75


ตอนที่ 75 นิกายหยุนไห่ได้ถอดทิ้งข้า












“กล้าดียังไงรึ ลู่หยวน ท่านไม่ยุติธรรมตอนนี้ หลินเฟิง เป็นศิษย์ภายในของนิกายหยุนไห่ ท่าน
ต้องมอบเสื้อคลุมและใบรับรองแก่เขานี่คือกฎภายในนิกายเรา เจ้าะกล้าพอที่จะฝ่าฝืนกฎของ
นิกายอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้เลยรึ? "ซูหยู พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

"ผู้อาวุโสซู" หลินเฟิง กล่าวด้วยเสียงที่อ่อนโยน ซูหยู หันกลับมามอง หลินเฟิง

"วันนี้ข้ามารับใบรับรองและเสื้อคลุมศิษย์ภายในของข้า แต่ผู้อาวุโสลู่ไม่ต้องการมอบให้กับข้า
เขาดูถูกข้าและบอกให้ข้านั้นไปให้พ้น ผู้อาวุโสซู ได้เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ใช่หรือไม่? "หลินเฟิง ถาม

"ใช่แล้ว" ซูหยู กล่าวพร้อมพยักหน้า เขาไม่เข้าใจประเด็นของ หลินเฟิง

 "ตอนนี้ข้ามีพยานว่าข้าได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม แค่นี้ข้าก็มีมากพอแล้ว" หลินเฟิง
ยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า "ถ้าพวกเขาปฏิเสธข้าไม่ยอมรับให้เป็นศิษย์ภายในนั่นหมายความ
ว่านิกายได้เลือกที่จะทอดทิ้งข้าผู้นี้"


เมื่อเสร็จสิ้นการพูด หลินเฟิง ก็รีบหันไปทาง หานหมาน เหล่าฝูงชนถึงกับมึนงงและไม่เข้าใจว่า
หลินเฟิง หมายถึงอะไร

"อย่าคิดว่าเจ้าหนีออกไปได้เพราะ ซูหยูู อยู่ที่นี่เพื่อปกป้องเจ้า ครั้งต่อไปที่ข้าเห็นเจ้าข้าจะฆ่าเจ้า"
เวิ่นเหลินหยาน รู้ว่าเขาไม่สามารถฆ่า หลินเฟิง ที่มี ซูหยู อยู่เบื้องหน้าได้ แต่คราวหน้าพวกเขา
จะได้พบกับ หลินเฟิง โดยลำพังอีกเขาจะฆ่า หลินเฟิง อย่างแน่นอน

 "ข้าจะรอเจ้าแล้วกัน" หลินเฟิง ได้พูดอย่างชัดเจนแม้ว่าความห่างชั้นระหว่างพวกเขาจะมีมากก็
ตาม เขาเริ่มเดินจากไปแล้วและเงาของเขาค่อยๆจางหายไป

ซูหยู ขมวดคิ้ว เขามองไปที่ ลู่หยวน อย่างเย็นชาพูดอย่างจริงจังว่า "ลู่หยวน ข้าไม่อยากเชื่อว่า
วันนี้เจ้าจะทำตัวโง่เขลาเช่นนี้! แล้วเจ้าจะเสียใจกับการกระทำของเจ้าในวันนี้เจ้าจะทำอะไรไม่ได้
นอกจากจะต้องเสียใจกับการกระทำเหล่านี้ คอยดูแล้วกัน "

เมื่อเขาพูดเสร็จ ซูหยู ก็ปัดฝุ่นจากแขนเสื้อของเขาแล้วจากไป ทำไม ลูหยวน ช่างโง่เขลายิ่งนัก?
เขาคิดว่าการสนับสนุน เวิ่นเหลินหยาน เป็นเรื่องถูกต้องงั้นรึ? คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเขาใน
อนาคต? เขายังไม่เข้าใจว่าทำไม ผู้พิทักษ์และประมุขนิกายถึงได้ให้ความสำคัญกับ หลินเฟิง?
ถ้าเขารู้ขึ้นมาแล้วละก็ เขาก็คงจะไม่มีทางคิดอคติแบบนี้กับ หลินเฟิง เป็นแน่

“ ข้าไม่มีทางเสียใจกับสิ่งที่ข้าทำ” ลู่หยวน กล่าว แสดงให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาไม่กลัวผลกระ
ทบใด ๆ แล้วบอกกับ เวิ่นเหลินหยาน ว่า :“ ช่างน่าเสียดายที่เราต้องปล่อยเขาไป”

"ไม่ต้องห่วงเขาจะตายแน่ไม่ช้าก็เร็ว" เวิ่นเหลินหยาน กล่าว คำพูดของเขาเป็นเหมือนงูพิษ เขา
จ้องมองด้วยท่าทางราวกับอสรพิษจากระยะไกลไปที่ หลินเฟิง ที่เดินจากไปเมื่อ หลินเฟิง ไปแล้ว
หลิวเฟย ก็เดินตามเขาไป สร้างความแปลกใจให้กับเขา หลิวเฟย เป็นแฟนของ หลินเฟิง และตก
เป็นของเขาแล้วทำให้ เวิ่นเหลินหยาน รู้สึกอับอายหลังจากทุกอย่างที่ หลินเฟิง และ หลิวเฟย
ได้กล่าวทิ้งไว้

............

"หลินเฟิง ... "

หลิวเฟย รีบไล่ตาม หลินเฟิง และตะโกนออกมาหาเขาว่า

"ฮ่า ๆ ข้าเพิ่งนึกออกว่าข้ามีสิ่งที่ต้องทำและข้าจะไปหา ปู้จุน ซักหน่อย"


เมื่อ หานหมาน เห็นว่า หลิวเฟย กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา รอยยิ้มขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
เขาแล้วเขาก็รีบดึง ปู้จุน และวิ่งไปข้างหน้าเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวกับทั้งคู่ ถ้าตัดสินจากท่าทางของ
หานหมานแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าก่อนหน้านี้เขาได้จะบาดเจ็บ

หลินเฟิง กลอกตามองบน ผู้ชายคนนั้นช่างเจ้าเล่ห์จริงๆ ......ทำไมถึงกลายเป็นคนเจ้าเลห์ได้เนี้ย?

 "หลินเฟิง เจ้าต้องระวังในครั้งต่อไปด้วย ถ้าเจ้าเห็น เวิ่นเหลินหยาน โปรดหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับเขา
 อยู่ให้ห่างจากเขาที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่อันตรายมาก "หลิวเฟย เตือน หลินเฟิง

เธอรู้ว่า เวิ่นเหลินหยาน จะพยายามฆ่า หลินเฟิง ถ้าเขามีโอกาสในวันข้างหน้า

"ข้าคิดว่าเจ้าเกลียดข้าซะอีก ตอนนี้เจ้าเป็นห่วงข้ามากขนาดนั้นเลย? "หลินเฟิง กล่าวขณะที่หัวเราะ
ราวกับว่าจะไม่สนใจคำเตือนของ หลิวเฟย

 หลิวเฟย ไม่พูด ผู้ชายคนนี้ช่างทำให้ประหลาดใจ ในอสถานะการณ์แบบนี้ยังทำให้เป็นเรื่องตลก
เธอรู้ดีว่า เวิ่นเหลินหยาน นั้นน่ากลัวเพียงใดและสถานะที่เขามีอยู่

"ฉันไม่อยากให้เจ้าตายเพราะต้องพาไปที่ลานศักดิ์สิทธิ์ซูวเย่ว" หลิวเฟย กล่าวขณะจ้องมองที่หลินเฟิง

"เป็นเช่นนั้นหรอกรึ? แต่ข้าไม่เคยบอกว่าข้าจะไปที่ลานศักดิ์สิทธิ์ซูวเย่ว "หลินเฟิง กล่าวต่อไปว่า"
ตอนนี้ข้าคิดถึงเรื่องนั้น ข้าจำได้ว่าเจ้าพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวเจ้าว่าเจ้าเป็นแฟนของข้ารึ? "

 "ข้าแค่พูดไปเพราะสถานการ์มันจำเป็นเพียงเท่านั้น" หลิวเฟย กล่าวยืนกรานขณะจ้องมองไปที่
หลินเฟิง โดยไม่กระพริบตา ผู้ชายคนนี้ก็ช่างกล้าที่จะทำให้สถานการณ์น่าอายมากขึ้นไปอีก เธอ
อยากจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า เวิ่นเหลินหยาน เป็นคนพูดเท็จ เธอต้องการให้เขาเลิกสร้างเรื่อง
โกหกเกี่ยวกับตัวเธอและดูถูกเขาในเวลาเดียวกัน

 "นี่เจ้าแค่พูดเพียงเพราะสถานการณ์มันบังคับจริงๆ งั้นรึ? หลินเฟิง ถามพลางกลอกตา มือของ
เขาเริ่มขยับไปหา หลิวเฟย

"นี่เจ้าจะทำอะไรหนะ?"

หลิวเฟย รู้สึกหนาวขึ้นที่กระดูกสันหลังของเธอและมองไปที่ หลินเฟิง อย่างระมัดระวัง

ผู้ชายคนนี้ ......... ..

"ตอนนี้เจ้าเป็นแฟนของข้าแล้ว ข้าควรเริ่มต้นทำตัวเหมือนแฟนของเจ้าอย่างเหมาะสมกับแฟน
สาวของข้าสิ ในฐานะแฟนของเจ้าข้าต้องตอบสนองความต้องการของเจ้าหนะสิ "หลิวเฟิง กล่าว
ขณะกำลังเดินไปหา หลิวเฟย ด้วยท่าทางที่แปลกประหลาด

 "ไอเจ้าบ้า! ฝันไปเถอะ!

 ใบหน้าของ หลิวเฟย แดงเป็นลูกตำลึง เธอโกรธและอายหนักมาก เธอเดินหนีไป

ไอคนบ้า ... เขาหมายถึงอะไรกัน "แฟนมีหน้าที่ตอบสนองความต้องการ"? ... แล้วเขาก็กล้าพูดว่า
เขาไม่ใช่คนโรคจิต

หลินเฟิง สังเกต หลิวเฟย ขณะที่เธอเดินหนีไป ร่างกายของเธอมีความสง่างามอย่างไม่น่าเชื่อกับ
การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งของเธอ เขามีรอยยิ้มนุ่มนวลบนใบหน้า ความรู้สึกของเขาที่มีต่อ หลิวเฟย
ที่เป็นคนเลวกำลังจางหายไปทุกวันๆ ตอนนี้เขามีความประทับใจที่ดีมากกับเธอและเริ่มงอกงามขึ้น
เธอน่ารักจริงๆ และไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่าเธอมีความสวยงามและน่าสนใจอย่างมากในแต่ละวัน

 "ทำไมข้าไม่เคยสังเกตเรื่องนี้มาก่อน?" หลินเฟิง ยิ้ม

เมื่อครั้งแรกที่เขามาถึงโลกนี้เขาคิดว่าโลกนี้ช่างเย็นชาและไร้ความปรานี ความมุ่งมั่นของเขา จิตใจ
ที่แข็งแกร่งและพลังของเขาเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถพึ่งพาได้

ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกคุ้นเคยในโลกนี้แล้ว เขาค่อยๆคลายความรู้สึกเหล่านั้น บางครั้งเขาเป็นไม่สุภาพ
ไปบ้างหรือทำตัวไม่เหมือนชาวบ้านไปบ้าง ... แต่เขาต้องทำให้คนอื่นเคารพ ผ่านกำลังหรือเขาจะถูก
รังแกไปตลอดชีวิต เขาเลือกที่จะไม่ตกอยู่ภายใตอำนาจของใครและถูกรังแกอีกครั้ง

 ความมุ่งมั่นและจิตใจที่เข็มแข็งของ หลินเฟิง เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อจริงๆ สำหรับผู้บ่มเพาะพลัง เขามี
ความภาคภูมิใจในทักษะดาบและมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะดาบของเขาขณะที่กำลังเติบโตขึ้น
เขาต้องการที่จะเติบโตไปเป็นคนที่แข็งแกร่ง

............


แสงที่สว่างและอบอุ่นได้ส่องให้เห็นพื้นดิน

ในวันนั้นนิกายหยุนไห่ดูไร้ผู้คน ไม่มีใครอยู่

แต่ในที่ห่างไกลนั้น มันกลับไม่ได้เงียบเหงาทั้งหมด : ภายในหุบเขาแห่งความป่าเถื่อน

หุบเขาแห่งความป่าเถื่อน เต็มไปด้วยสมาชิกทั้งหมดของนิกายหยุนไห่ อีกครั้งที่พวกเขาดูเหมือน
ฝูงมดพวกเขาทั้งหมดเบียดเสียดกันไหล่ชนไหล่

ผู้อาวุโสศิษย์ภายในและผู้อาวุโสศิษย์สามัญไม่ได้นั่งอยู่ในหุบเขา ตอนนี้พวกเขาอยู่ในบริเวณที่นั่ง
ที่สูงซึ่งสามารถมองเห็น ลานประลองแห่งชีวิต จากด้านบนได้

บริเวณที่นั่งนี้ยิ่งใหญ่และสง่างามสำหรับทุกคนที่มองเห็น มันสร้างมาจากหิน มุมมองของ หลินเฟิง
ถอนหายใจด้วยความชื่นชม เขาจำ ลานประลองแห่งชีวิต ก่อนหน้านี้ได้และคิดว่าบริเวณที่นั่งใน
หุบเขาแห่งความป่าเถื่อนนั้นยอดเยี่ยมมากขึ้น ส่วนของนิกายหยุนไห่ มักไม่ได้ใช้พื้นที่นั่งนี้บ่อยนัก
แต่คราวนี้พวกเขาต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นว่าการสอบเป็นศิษย์ภายในมีความสำคัญเพียงใด

 มันเป็นจุดเริ่มต้นของรอบที่สองของการสอบเป็นศิษย์ภายใน รายชื่อการจัดอันดับศิษย์สามัญมี
จำนวนร้อยชื่อ การจัดอันดับศิษย์ภายในมีแปดสิบเอ็ดรายชื่อ และรายชื่อศิษย์หลักมีเพียงสาม
สิบหกรายชื่อเท่านั้น

แต่เห็นได้ชัดว่าทุกคนที่เป็นศิษย์สามัญการจัดอันดับพวกเขาเสียเปรียบเรื่องพลังอย่างมากเมื่อศิษย์
สามัญที่แข็งแกร่งเข้าร่วมกับศิษย์ภายใน อันที่จริงแล้วการจัดอันดับศิษย์สามัญจะเสียเปรียบเรื่อง
ของความแข็งแกร่งมากที่สุด นี่คือเหตุผลที่ผู้คนชอบดูศิษย์ภายในและการจัดอันดับศิษย์หลัก

เมื่อมองดูรายชื่อการจัดอันดับก็เป็นไปได้ที่จะเข้าใจว่าพลังของศิษย์แต่ละคนมีมากแค่ไหน เมื่อเข้า
ใจว่าศิษย์แต่ละคนพลังมากแค่ไหนก็สามารถรับรู้ได้ว่า ความแข็งแกร่งของนิกายนั้นมีมากเพียงใด
หลังจากนี้ไป ศิษย์ทุกคนเป็นอนาคตของนิกาย

หลานกงหลิง ลุกขึ้นยืน ทุกคนต่างก็เงียบอย่างรวดเร็ว

หนานกงหลิง ยิ้มเล็กน้อยและพูด แต่ในขณะนั้นเขาดูแปลกใจและขมวดคิ้ว

เขาจ้องมองไปไกลท มีพายุเมฆฝนรุนแรงบนขอบฟ้า มีอากาศที่แปลกประหลาดเข้ามาใกล้ ทะเลหมอก
ที่รุนแรงแพร่กระจายบนท้องฟ้าเหมือนดั่งคลื่นที่ซัดมาจากมหาสมุทร

"หนานกงหลิง นั่นคือ ฉู๋ชิ่ง จากนิกายเห่าเย่ เขาพากลุ่มคนมากับเขาด้วย "

เมฆได้ปกคลุมผ่านท้องฟ้าและทำให้เกิดพายุที่น่าสะพรึงกลัว อากาศสั่นไหวด้วยแรงกดอากาษ เสียงของ
การปะทะที่ดัมากจนเข้าไปในหูของเหล่าศิษย์และดูเหมือนจะทะลุเข้าไปในจิตใจของพวกเขา

"เป็นพลังที่รุนแรง ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้!"

ทุกคนจ้องมองด้วยความประหลาดใจมองไปที่กลุ่มคนที่กำลังใกล้เข้ามา พวกเขาดูเหมือนว่ามีการขี่เมฆ
ที่รุนแรงนั้นอยู่

ในเวลาเดียวกันท้องฟ้ามีเมฆจำนวนมากและเกล็ดหิมะดูเหมือนจะตกลงมาจากท้องฟ้าที่ชัดเจนด้านบน

"หานซื่อเทียน แห่งภูเขาหิมะน้ำแข็งได้เดินทางมาเยือน"

มีเสียงดังซึ่งสะท้อนผ่านหิมะ เสียงมาพร้อมกับกลุ่มก้อนหิมะที่รุนแรงอย่างรวดเร็ว ทุกคนเริ่มรู้สึกหนาว

หานซื่อเทียน เป็นประมุขแห่งเมืองภูเขาหิมะน้ำแข็ง

"ต้วนหวู่เทียน และ เจิ้งหวู่ชาน มาเยี่ยมเยียนด้วย"

ได้ยินเสียงอื่น ๆ ในหิมะมากขึ้น พายุที่โหมกระหน่ำกำลังมุ่งหน้าไปยังพวกเขาบนขอบฟ้าและมีหิมะเต็ม
ไปทั่วบรรยากาศรอบตัว ทุกคนเริ่มสั่นจากความหนาวเย็นและกลัวความสามารถที่กำลังแสดงออกมา

ที่น่ากลัวที่สุดก็คืออากาศที่หนาวเย็นเต็มไปด้วยปราณดาบที่น่ากลัว มันคมและดูเหมือนว่ามันพร้อมที่
จะเจาะผ่านผิวหนังได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามแหล่งที่มาไม่สามารถเห็นได้ชัดเจน

ในระยะไกลมีเงาดำเคลื่อนผ่านท้องฟ้าเป็นสัตว์อสูรขนาดมหึมาสีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า กับ
ปีกของมันที่กระพรือแต่ละครั้งสร้างคลื่นลมที่รุนแรงในอากาศ

สัตว์อสูรสีดำขนาดใหญ่ที่มีความยาวยี่สิบสามสิบเมตรและหนาประมาณสี่เมตร คนที่กำลังขี่มันสวม
ชางเพ้า ซึ่งพัดอย่างสวยงามในสายลม
(คล้ายๆกี่เพ้า กี่เพ้าสำหรับหญิง ชางเพ้า= ผู้ชาย)

สัตว์อสูรเหล่านี้เป็นปลามังกรซึ่งสามารถบินผ่านท้องฟ้าและว่ายน้ำไปยังมหาสมุทรที่ลึกที่สุดได้ มีปีก
ขนาดยักษ์อยู่ด้านหลัง มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดและเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับ

"นี่มันอะไรกัน ช่างเป็นสัตว์อสูรที่น่ากลัวอย่างมาก!"

ทุกคนมึนงงจ้องมองไปที่ปลามังกร มันกลืนเมฆและพัดหมอกสีดำทมิฬออกมาด้วยะลมหายใจ

สิ่งที่น่ากลัวสำหรับฝูงชนนั่นมีมากยิ่งขึ้นรอบปีกใหญ่ๆของมันมีปราณจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ
เช่นเดียวกันกับปราณของดาบ ไม่มีใครรู้ว่าปราณดาบที่น่าสะพรึงกลัวนั้นมาจากไหน

ทันใดนั้นทุกคนก็เห็นดาบขนาดมหึมา ลอยอยู่ในอากาศมีเงายืนอยู่บนดาบนั้นด้วยรอยยิ้มที่หยิ่งยะโส



Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
คลิก >>  http://cpmlink.net/KuQOAA

ความคิดเห็น

Facebook