ตอนที่ 74 การเผชิญหน้า
ดูเหมือนว่า หลินเฟิง จะไม่ได้ยิน เวิ่นเหลินหยาน เขาไม่สนใจว่ากำลังพูดอะไรอยู่ หลินเฟิง
ใช้คำพูดที่ส่งผลกระทบกับผู้คนส่วนใหญ่ แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่คู่ควรกับความทะนงตนของพวกเขา
"หานหมาน เขาเป็นคนที่ทำร้ายเจ้าหรือไม่" หลินเฟิง ถามหานหมาน เวิ่นเหลินหยาน เป็นคนที่ทำ
ร้าย หานหมาน และทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ
"ใช่" หานหมาน พูดขณะพยักหน้า จากนั้นเขาก็กระซิบข้างหู หลินเฟิง : "เวิ่นเหลินหยาน ไม่ได้
ใกล้เคียงกับความแข็งแกร่งของ ถูฟู่ ดังนั้นตอนนี้ ถูฟู่ ก่อนจะได้เป็นศิษย์หลักเขาอยู่ในอันดับแรก
ภายในศิษย์ภายใน เขาแข็งแกร่งและมีอารมณ์ที่รุนแรง ข้าไม่รีบร้อนที่จะแก้แค้นเขา ข้าเชื่อว่าในระยะ
เวลาสั้น ๆ เจ้าจะสามารถเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน "
เขาแข็งแกร่งงั้นรึ?
ศิษย์ภายในใครที่ผ่านไปยังชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สามอาจได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในศิษย์ชั้นนำ
โดยไม่มีปัญหา ผู้ที่ผ่านไปถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สี่และมีความแข็งแกร่งพอสามารถต่อสู้กับเหล่าศิษย์
หลักของนิกายได้ ถ้า เวิ่นเหลินหยาน ได้ผ่านไปในชั้นจิตวิญญาณที่สี่แล้ว แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการ
เป็นศิษย์ภายในและจะกลายเป็นศิษย์หลัก ตอนนั้นเขาอยู่ที่จุดสูงสุดของชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สาม
เขายังไม่พร้อมที่จะตัดผ่านไปยังจิตวิญญาณขั้นที่สี่
ผู้บ่มเพาะพลังในระดับนั้นมีพลังมหาศาลที่ลึกล้ำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถอยู่ยงคงกระพัน
และสามารถยั่วยุใครได้ตามต้องการ หลินเฟิง มั่นใจว่าถ้าเขาต้องต่อสู้กับตนแล้ว หลินเฟิง จะสามารถ
เอาชนะได้และถ้าเขาไม่สามารถสู้ได้ เขาก็มีวิธีหนีรอดมาได้อย่างไม่เป็นอันตราย
"ไม่จำเป็นต้องคุยกันอีกต่อไป นี่เป็นโอกาสเดียวที่ข้าจะให้เจ้า แม้ว่าเจ้าจะเป็นอัจฉริยะ แต่ข้าก็เอาชีวิต
ของเจ้ารได้ตลอดเวลา ตอนนี้คุกเข่าลงต่อหน้าข้าซะ "
เวิ่นเหลินหยาน คิดว่าเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดและความเย่อหยิ่งของเขาก็เด่นชัด เขาไม่รู้จริงๆว่าโลก
นี้กว้างใหญ่ขนาดไหน เขาคิดว่าเพราะ หลินเฟิง เพิ่งกลายเป็นศิษย์ภายในและอ่อนแอสามารถรังแกได้
ถึงเวิ่นเหลินหยาน ผู้ซึ่งกล้าที่จะสู้กับเหล่าศิษย์หลักบางคน อันที่จริงถึงเขาจะไม่มีข้อบกพร่องก็ตาม
แม้ว่า หลินเฟิง จะเข้าใจเรื่องพลังอำนาจ แต่เขาก็ยังอ่อนแอเกินไป จะไม่มีปัญหาในการเอาชนะ
หลินเฟิง ด้วยความคิดอย่างเดียวก็เกินพอ
เวิ่นเหลินหยาน มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างมาก มันไม่มีทางอ่อนแอกว่าพลังอำนาจดาบของ
หลินเฟิง เวิ่นเหลินหยาน มีความศรัทธาในความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของตน
"ไม่จำเป็นต้องคิดให้มากความ" หลินเฟิง กล่าวขณะที่ส่ายหัวและยิ้มอย่างเย็นชา เขากล่าวอีกว่า
"แม้ว่าเจ้าต้องการให้ข้าคุกเข่าลงและร้องขอความเมตตาจากเจ้า ข้าไม่จำเป็นต้องทำตามที่เจ้าพูด."
ทุกคนรู้สึกงงงวยจากคำพูดของ หลินเฟิง เขาก้าวร้าวและจะไม่หนีไม่ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับใคร
เขาได้แสดงออกถึงความกล้าเฉกเช่นกับจักรพรรดิเลยทีเดียว
เวิ่นเหลินหยาน เป็นศิษย์ภายในดับสูงสุด เขาได้รับความเคารพจากทุกคนและทุกคนกลัวความ
แข็งแรงของเขา เขาคิดอย่างไรกับ หลินเฟิง? เพียงแค่กลายเป็นศิษย์ภายในและไม่ได้มีอะไรดีมี
แต่ความบ้ามีข้อบกพร่องเต็มไปหมดที่เรียกว่าศิษย์สามัญ
"ฮิฮิ. เอาล่ะ ... เอาล่ะ ... "เวิ่นเหลินหยาน กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายซึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
นัยน์ตาสีฟ้าของเขา มีจุดประสงค์ในการฆ่าที่รุนแรงซึ่งทำให้ศิษย์คนอื่นๆ ตกอยู่ในอาการหวาดกลัว
"นี่แย่แล้ว! เวิ่นเหลินหยาน กำลังโกรธ "
ศิษย์บางคนในฝูงชนรู้ดีว่านี่เป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก พวกเขากลัว เวิ่นเหลินหยาน กันอย่างมาก
ไม่มีใครกล้าท้าทายเขาเพราะความแข็งแกร่งของเขาและเพราะอารมณ์ร้อนของเขาด้วย
หลินเฟิง รับรู้ถึงอากาศที่หนาวเย็นหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของ เวิ่นเหลินหยาน หลินเฟิง ไม่ได้รู้สึก
แบบเดียวกับเขา หลินเฟิง รู้สึกว่ามีเจตนาร้ายและความชั่วร้ายอยู่ในดวงตาของ เวิ่นเหลินหยาน
"เวิ่นเหลินหยาน เจ้าต้องการจะทำอะไร? เจ้าไม่ได้อยู่ในลานประลองแห่งชีวิตนะ "หลิวเฟย กล่าวขณะ
เดินไปเบื่องหน้าของ หลินเฟิง เพื่อขวางทาง
เวิ่นเหลินหยาน กล่าวว่า หลิวเฟย เป็นของเขาและประกาศว่าไม่ให้ใครทำแบบนั้นกับเธอได้ ในความ
เป็นจริง พวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ หลิวเฟย ได้เข้าใจถึงคนที่เขาเป็นแบบนั้น เขาดูแข็งแกร่ง
และมีความมั่นใจ แต่เขาก็เหมือนงูพิษ เขาไม่ได้รับความชื่นชมจากใครจริงๆหรอก
หลิวเฟย ยังคงต้องการ หลินเฟิง ไปที่ลานศักดิ์สิทธิ์ชู่วเย่ว ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการ
ให้เขาตายจากสถานการณ์ปัจจุบัน ในความคิดเห็นของหลิวเฟย หลินเฟิง นั้น ไม่
ได้อ่อนแอ แต่ยังไม่สามารถต่อสู้กับ เวิ่นเหลินหยาน ได้ ถ้าเขาสู้เขาก็จะตาย
"เจ้าเป็นของข้าและเจ้ายังปกป้องชายคนนี้อีก เจ้าไม่กลัวที่จะทำให้ข้าโกรธงั้นรึ?"
เวิ่นเหลินหยาน มองอย่างชั่วร้าย ในขณะนั้น ดูเหมือนดวงตาสีฟ้าของเขาสามารถฆ่า
เจ้าได้ ถ้าเจ้าจ้องมองมันเป็นนานเกินไป เขาได้เปิดเผยความตั้งใจฆ่าอย่างชัดเจน
"ข้าไม่เคยบอกว่าข้าเป็นแฟนของเจ้าหรือว่าข้าเป็นของ ของเจ้า หยุดเพ้อฝันได้แล้ว
ข้าไม่เคยมีความสัมพันธ์อันใดกับผู้ชายเช่นเจ้า มันตรงกันข้ามกับ หลินเฟิง นั้นเป็น
แฟนข้า ถ้าเจ้าสัมผัสเขาแม้แต่ปลายเล็บข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ารอดกลับไป "
หลิวเฟย กำลังจ้องมองไปที่ เวิ่นเหลินหยาน ด้วยความโกรธที่รุนแรง
"โอ้ไม่นะ !! นี่มันเป็นไปได้อย่างไร หลิวเฟย ยอมรับว่าเธอเป็นแฟนของ หลินเฟิง ไอ
เวรนั้นช่างโชคดีอะไรอย่างนี้! เขากุมหัวใจของสาวสวยที่สุดในนิกายหยุนไห่เสียแล้ว ! "
ทุกคนจ้องมองไปที่ หลินเฟิง และเต็มไปด้วยความอิจฉาและความหึงหวง
หานหมาน ผู้ซึ่งได้รับบาดเจ็บมองไปที่ หลินเฟิง ด้วยดวงตาที่เปิดเผยความเคารพอย่างเทิดทูน
บูชา ดูราวกับว่าเขาได้นับถือและให้ความสำคัญกับ หลินเฟิง อย่างแท้จริง เขารู้ว่าหลินเฟิง
ไม่เพียง แต่มีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่หัวใจของเขาช่างแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาเลย
ศิษย์หลักไม่มีใครสามารถเอาชนะหัวใจของ หลิวเฟย ได้แล้วจู่ ๆ หลิวเฟย ก็ยอมรับว่าเป็นแฟน
ของน้องชายร่วมสาบานของเขา !!! ช่างเป็นข่าวดีอะไรเยี่ยงนี้!
หลินเฟิง ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นและสับสนกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้ ทั้งหมดนี่มันอะไรกัน?
เมื่อไหร่กันที่พวกเขากลายเป็นคู่รัก?
หลินเฟิง มองไปที่ฝูงชนที่ล้อมรอบพวกเขา พวกนั้นมองตาเขาด้วยดวงตาชั่วร้าย
บัดซบ ทำไมต้องเป็นผู้หญิงคนนี้ .................. เป็นอีกครั้งที่เธอทำให้เขาตกที่นั่งลำบาก
"ดี ข้าก็แค่ฆ่าเจ้าซะ" เวิ่นเหลินหยาน ได้โกรธมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
"เจ้ากล้ารึ?" หลิวเฟย ตะโกนด้วยความโกรธ
"ในนิกายหยุนไห่ ไม่มีอะไรที่ทำร้ายข้าได้, เวิ่นเหลินหยาน เจ้าไม่กล้าหรอก"
เวิ่นเหลินหยาน หัวเราะอย่างชั่วร้ายราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจอะไรในโลกนี้อีกแล้ว
"เป็นเช่นนั้นรึ? เราจะได้เห็นดีกัน "เสียงที่พูดออกมาอย่างมั่นคง
เงาหนึ่งได้ปรากฏขึ้นในระยะไกลก็ยิงไปที่ถ้ำของเหล่าศิษย์ภายใน
"ใครกันช่างอวดดียิ่งนัก เวิ่นเหลินหยาน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นประมุขของนิกายหรือไง? "
เสียงหัวเราะที่เย็นชาดังขึ้น คนที่เพิ่งมาถึงกำลังมองไปที่ เวิ่นเหลินหยาน กับรูปลักษณ์
ที่เต็มไปด้วยความรังเกียจและความโกรธ
"ซูหยู นี่ไม่ใช่กงการไรของเจ้าและไม่ต้องแส่เข้ามายุ่ง"
(เสวี๋ยหยู อ่านยากไปขอเป็น ซูหยู เนอะ เอาจำง่ายๆกันดีกว่า)
เวิ่นเหลินหยาน กำลังมองคนไปที่ชายคนนั้นด้วยความดูถูกในตาของเขา
"เวิ่นเหลินหยาน นี่เจ้าไม่เกรงใจข้าจริงงั้นรึและยังไร้มารยาท !
นี่เจ้ากล้าดูหมิ่นผู้อาวุโสงั้นรึ? "
ศิษย์บางคนที่กำลังเฝ้าดูฉากนั้นตกใจ ซูหยู เป็นผู้อาวุโสของเหล่าศิษย์สามัญ
ไม่มีใครในกลุ่มศิษย์ภายในที่ไม่กล้าเสียมารยาทกับเขา
" หลินเฟิง และเพื่อนของเขาได้รับการรับรองเป็นศิษย์ภายในและชุดใหม่ของพวกเขาและเจ้า
ก็ขู่ว่าจะฆ่าเขา แล้วคนอื่นๆจะคิดอย่างไรกับนิกายหยุนไห่? ข้าแก่กว่าเจ้า เจ้าไม่สนใจอีกรึ? "
"ดินแดนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของข้า ดังนั้นเจ้าจึงไม่มีความจำเป็นต้องทำอะไรทั้งสิ้นที่นี้"
ได้ยินเสียงที่เย็นชาเข้าไปในถ้ำและชายหนุ่มวัยกลางคนสวมเสื้อสีฉูดฉาดก็ปรากฏตัวออกมา
จากเงามืด
"ผู้อาวุโสลู่" เวิ่นเหลินหยาน กล่าวกับชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีคราม เขาเป็นผู้อาวุโส เขา
เป็นผู้รับผิดชอบในการมอบใบรับรองการเป็นศิษย์ภายใน รวมทั้งเสื้อคลุม ศิษย์ภายใน ให้แก่ศิษย์
ใหม่ เและขายังเป็นผู้รับผิดชอบการจัดอันดับภายในเหล่าศิษย์อีกด้วย
ลู่หยวนพยักหน้าไปที่ เวิ่นเหลินหยานอย่างเป็นมิตร แต่เขาไม่เป็นมิตรกับซูหยู
(ผู้อาวุโสลู่ชื่อเต็มว่า ลู่หยวน แต่ลูกศิษย์จะเรียกกันว่าผู้อาวุโสลู่)
"ซูหยู เจ้าควรจะอยู่ที่ๆเจ้าควรอยู่ เจ้ามาทำอะไรที่นี่ อยากมีปัญหาเช่นนั้นรึ? "
"เจ้าหมายความว่าไง?" ซูหยู ถาม ขณะจ้องมองที่ ลู่หยวน
"ข้าหมายถึงอะไรงั้นรึ? นี่คือสถานที่ของข้า เราไม่จำเป็นต้องให้เจ้ากังวลเกี่ยวกับเรื่องของพวกเรา "
"เจ้าหมายความว่าภายในอาณาเขตของ เจ้า เวิ่นเหลินหยาน สามารถฆ่าเหล่าศิษย์ตามที่เขาต้องการ
ได้รวมทั้งศิษย์คนอื่น ๆ ด้วยงั้นรึ"
"แม้ว่าเขาจะฆ่าคนอ่อนแอบางคน ที่นี่ไม่มีที่สำหรับคนที่อ่อนแอจะมีชีวิตอยู่ และมีแต่คนที่แข็งแกร่งเท่า
นั้นที่จะสามารถอยู่รอดได้ ซูหยู เจ้ากำลังสร้างปัญหามากเกินไปเพราะเจ้าอยู่ที่นี่ "
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาไม่คิดว่าปัญหาระหว่าง หลินเฟิง และ เวิ่นเหลินหยาน จะนำไปสู่การโต้
เถียงระหว่างสองผู้อาวุโสของนิกาย อย่างไรก็ตามคำพูดของผู้อาวุโสลู่ เป็นคำที่รุนแรงและโหดเหี้ยมยิ่ง
ตามที่พี่ลู่ หลินเฟิง ด้อยกว่า เวิ่นเหลินหยาน ถึงแม้ว่าเขาจะถูกสังหาร แต่ก็ไม่ปัญหาทั้งหมด เขายังบอก
อีกว่า หลินเฟิง ไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่ ช่างน่าขันยิ่งนัก
หลินเฟิง เข้าใจว่าผู้อาวุโสลู่ หมายความว่าอย่างไร แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ใจของเขาก็ช่างเย็นชาเสียยิ่งกว่า
น้ำแข็งเสียอีก
เขากลายเป็นศิษย์ชั้นภายในและต้องมารับใบรับรองและเสื้อคลุมของเขา แต่คนที่รับผิดชอบเรื่องการให้สิ่ง
เหล่านี้จบลงด้วยการบอกว่าเขาว่า ไม่แข็งแกร่งพอและสมควรที่จะตายเพราะเป็นคนที่ด้อยกว่า
เวิ่นเหลินหยาน สิ่งที่ควรจะหมายถึงสิ่งใดกัน?
เกี่ยวกับ ซูหยู ครั้งแรกที่ หลินเฟิง ได้เห็นเขาเมื่อ ผู้พิทักษ์เป่ย มอบความรับผิดชอบในการปกป้อง
หอดวงดาราให้เขาา เขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่ไว้ใจได้ของ ผู้พิทักษ์เป่ย
"ผู้อาวุโสซู" หลินเฟิง กล่าวอย่างรวดเร็ซ ซูหยู หันกลับมามอง หลินเฟิง
"ขอบคุณขอรับ" หลินเฟิง ยิ้มหลังจากกล่าวขอบคุณ
หลินฌฟิง มองไปที่ เวิ่นเหลินหยาน และลู่หยวนและกล่าวว่า "ผู้อาวุโสลู่, หลินเฟิง มารับหนังสือรับรอง
และเสื้อคลุมใหม่"
ลู่หยวน เหลือบมองที่ หลินเฟิง ด้วยท่าทางดูถูก จากนั้นเขาก็มองไปที่ เวิ่นเหลินหยาน ไม่เพียงแต่
เวิ่นเหลินหยาน มีความแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ภูมิหลังของเขาก็น่าหวาดกลัว
เพราะเขาชื่นชม เวิ่นเหลินหยาน เขาจึงตัดสินใจว่าเขาเป็นศัตรูกับ หลินเฟิง
"ผู้อาวุโสลู่, หลินเฟิง มารับหนังสือรับรองและเสื้อคลุมสาวกใหม่ขอรับ"
หลินเฟิง กล่าวดังขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มากและขึงขัง
"เจ้าไม่ทราบรึว่ากำลังพูดอยู่กับใคร." ผู้อาวุโสลู่ กล่าวยวนในขณะที่ชำเลืองมองไปที่ หลินเฟิง
และตะโกนว่า : "ไปให้พ้น!"
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดรูปโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
คนโง่ิีกคน
ตอบลบ