ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 72



ตอนที่ 72 การยั่วยวน










หลินเฟิง หยักไหล่และยิ้ม จะมาตำหนิการคิดแบบนั้นของเขาไม่ได้เพราะ หลิวเฟย ทำหน้า
แปลก ๆ

หลิวเฟย กำลังมองไปที่ หลินเฟิง และหัวใจเธอสั่นรัวอยู่ในอก ช่วยไม่ได้ที่เธอจะกัดฟันตัวเอง
เธอไม่เคยโกรธมากขนาดนี้ แต่เธอต้องควบคุมตัวเอง

 "มีบางอย่างที่ข้าต้องคุยกับเจ้า"

หลิวเฟย กล่าวแล้วเธอก็เงียบ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงและเธอพยายามจะพูดออกมา
 แต่ก็ไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากเธอ

"เจ้าต้องการจะพูดคุยเกี่ยวกับอะไรละ?" หลินเฟิง ถามดด้วยความแปลกใจ

 "เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้น ชู่วเย่ว?" หลิวเฟย ถาม

"แน่นอนข้ารู้ มันเป็นตระกูลจักรพรรดิ" หลินเฟิง ตอบทันที หลินเฟิงรู้ดีว่าตระกูลจักรพรรดิเป็น
ตระกูลที่แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัยและไม่มีใครกล้าที่จะท้าทายกับพวกเขา นี่คือเหตุผลที่พวก
เขาปกครองแคว้นได้อย่างง่ายดาย เฉพาะบุคคลที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถเป็นจักรพรรดิได้
และมีเพียงพลังเท่านั้นที่สามารถควบคุมแคว้นได้ นี่เป็นความจริง

หลิวเฟย รู้สึกประหลาดใจ เธอไม่รู้ว่า หลินเฟิง มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาตอบอย่างรวดเร็ว
โดยไม่ต้องใช้เวลาในการคิด

"ถูกตัอง ในแคว้นชู่วเย่วตระกูลจักรพรรดิแข็งแกร่งที่สุด แม้ว่าจะมีตระกูลและนิกายที่แข็งแกร่งใน
แคว้นอย่างเช่น นิกายหยุนไห่ แต่ก็ไม่มีใครที่จะกล้าเผชิญหน้ากับตระกูลจักรพรรดิได้ "หลิวเฟย
อธิบาย "อย่างไรก็ตามในขณะนี้จักรพรรดิได้ขอให้ศิษย์ที่โดดเด่นบางคนของแคว้นชู่วเย่ว ไป
ช่วยพัฒนาลานศักดิ์สิทธิ์ชู่วเย่ว พวกเขาจะได้รับทรัพยากรการบ่มเพาะพลังที่ดีที่สุดและอาจารย์
ที่ดีที่สุดพร้อมให้บริการ พวกเขาจะพัฒนาศักยภาพของแคว้นและพวกเขาจะกลายเป็นผู้นำ
ในอนาคต "

 ในขณะนั้น หลิวเฟย ก็หยุดพูดและมองไปที่ปฏิกิริยาของ หลินเฟิง

 หลินเฟิง มองไปที่ หลิวเฟย พร้อมยิ้มและถามว่า "แล้วจะทำอะไรกับข้างั้นรึ?"

หลิวเฟย มองไปที่ หลินเฟิง พร้อมกับความโกรธที่เพิ่มมากงขึ้นภายในตัวเธอ เธอกำลังสาปแช่งเขา
ภายใต้ลมหายใจของเธอ เขาฉลาดมากและเธอไม่เชื่อแม้แต่วิเดียวว่าเขาไม่เข้าใจสิ่งที่เธอต้องการ

"แล้วเจ้าไม่สนใจที่จะไปที่นั่นรึ? เจ้าไม่สนใจที่จะได้รับยาที่ดีที่สุด อาวุธที่ดีที่สุด เทคนิคการต่อสู้ที่
ดีที่สุดและเทคนิคความเร็วงั้นรึ "หลิวเฟย กล่าวขณะพยายามโน้มน้าวให้เขา

 หลินเฟิง เข้าใจว่า หลิวเฟย หมายความว่าอย่างไร เห็นได้ชัดว่าความตั้งใจอย่างมาก อย่างไรก็
ตามสิ่งที่เขาอยากรู้คือ หลิวเฟย ซ่อนอะไรไว้ข้างในตัวเธอ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ
ตระกูลจักรพรรดิเกี่ยวข้องกันอย่างไรและทำไมเธอถึงต้องมารับสมาชิกเอง?

เมื่อเขาคิดถึงวันที่เขาได้เห็น หลิวเฟย กับม้าหุ้มเกราะฉีซูว เขาเชื่อมากยิ่งขึ้นว่า หลิวเฟย มี
สถานะพิเศษในเมืองจักรพรรดิ


หลิวเฟย เห็นดวงตาของ หลิงเฟิง เป็นประกายด้วยการวางอุบายแล้วเธอก็ยิ้มและพูดว่า
 : "ฟังดูเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าตื่นเต้นไหม?"


หลินเฟิง เกาหัวของเขาขณะที่มองไปที่ หลิวเฟย และกล่าวพลางหัวเราะว่า
"ที่นั่นมีหญิงสาวคนไหนสวยเท่าเจ้าบ้างไหม"


“............”


เมื่อหลินเฟิง เห็นว่า หลิวเฟย แก้มเริ่มแดงขึ้นเขาก็หัวเราะและเริ่มเดินออกไป


"แม้ว่าตระกูลจักรพรรดิจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็มีตระกูลอื่นที่มีความทะเยอทะยานอย่างมาก
ตระกูลจักรพรรดิต้องการให้พวกเขาส่งศิษย์ที่ดีที่สุดของพวกเขามาและส่งไปที่ลาน
ศักดิ์สิทธิ์ ... เจ้าเชื่อจริงๆหรือว่ามันจะมีแค่นั้น? "


หลังจากคำพูดเหล่านี้ออกจากปากของ หลินเฟิง ทำให้ หลิวเฟย จ้องมองเขาด้วยท่าทางที่
ตึงเครียด เขาเป็นคนฉลาดกว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้เสียอีก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาสามารถ
ก้าวหน้าได้ในระยะเวลาอันสั้น เขาเป็นอัจฉริยะโดยแท้จริง แต่ไอบ้านี่กำลังทำให้ข้าเสียหน้า


หลิวเฟย อยู่ในอารมณ์ที่ไม่ดีนักเพราะสิ่งที่ หลินเฟิง ได้กล่าวออกมา ถ้าเธอมีโอกาสเธอก็
มอบความพ่ายแพ้ให้ไอคนบ้าคนนี้และทำให้เขาเสียใจกับทุกสิ่ง นั่นคือการแก้แค้นของเธอ
ที่ถูกเยาะเย้ยโดยเขามาตลอด เธอเริ่มติดตามเขาขณะที่เขาจากไป


............


ภูเขาน้ำแข็งทั้งเก้า เป็นชื่อของสถานที่ ที่ศิษย์ภายในอาศัยอยู่


ในภูเขาน้ำแข็งทั้งเก้ามีถ้ำขนาดมหึมาซึ่งเป็นที่นิยมของเหล่าศิษย์ภายในเพราะมีหน้าผา

ที่ด้านบนของหน้าผาที่สลักอยู่ในหินเป็นรายชื่อ ชื่อเหล่านั้นเป็นชื่อของศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด
มีทั้งหมดแปดสิบชื่อที่แกะสลักไว้ในหิน


สิ่งที่คนที่หลงใหลที่สุดคือมันดูเหมือนกระดานหมากรุก ชื่อทั้งแปดสิบชื่อแต่ละตัวเป็นเหมือน
หมากรุกที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ทั่วกระดาน บางชื่อจะถูกตัดออกในขณะที่ชิ้นอื่น ๆ ที่ไม่
สำคัญจตรงกันข้ามจะเปลี่ยนเป็นชิ้นที่มีชื่อของคนที่แข็งแกร่งแทน


พวกศิษย์ภายในทุกคนในนิกายหวังว่าชื่อของพวกเขาจะสลักอยู่บนกระดานเหล่านั้นสักวัน
เหมือนพวกเขาได้มาถึงจุดสูงสุดแล้วและจะได้รับความเคารพจากทุกคน

 ในขณะนั้นชื่อ ถูฟู่ ที่อยู่ด้านบนของรายชื่อได้ถูกลบออก พวกเขาทุกคนเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกที่จะกลายเป็นศิษย์หลักและเขาได้แม้กระทั่งการปกป้องจากการที่
เเป็นศิษย์หลัก

 จากนั้นชื่อใหม่ที่เข้ามาแทนที่ชื่อของ ถูฟู่ ในรายชื่อของศิษย์ภายใน


"เวิ่น เหลิน หยาน"

ชื่อของเขาปรากฏขึ้นที่นั่นเหมือนดาวหางที่พุ่งชนเข้าสู่ตำแหน่งสูงสุด เขาใช้เวลาเพียงปีเดียว
และเขาอยู่ในอันดับสูงสุดของการจัดอันดับศิษย์ภายใน ทุกคนรู้ความแข็งแกร่งของเขาเป็นอย่าง
ดี เขามีพลังพอที่จะเข้าร่วมกับศิษย์หลัก แต่เขาตัดสินใจที่จะอยู่ในฐานะศิษย์ภายในต่อ ทุกคนรู้
เหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น เขาไม่ได้ต้องการที่จะเข้าร่วมเป็นศิษย์หลักเพราะเขาเป็นคน
หยิ่งเกินไปและปฏิเสธที่จะรับการจัดอันดับอันต่ำต้อยในหมู่ศิษย์หลัก เขาอยากปกครองศิษย์
ภายใน ดีกว่าที่จะถูกบรรดาศิษย์หลักเหยียบย่ำ

เวิ่นเหลินหยาน อายุสิบหกปี เขาเป็นศิษย์รุ่นเยาว์ในนิกายหยุนไห่ ที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศ เขาไม่
เคยเป็นศิษย์สามัญเพราะเขาได้เข้าร่วมเป็นศิษย์ภายในโดยตรง เมื่อเขาได้เข้าร่วมกับศิษย์ภายใน
เขาได้ต่อสู้อย่างดุเดือดและชื่อเสียงของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในการจัดอันดับ ปีหนึ่งผ่าน
ไปและชื่อของเขาถูกแกะสลักไว้ในหินชั้นบนกระดานแล้ว

มีหลายคนเชื่อใจ เวิ่นเหลินหยาน และเชื่อในพลังของเขา เขาประสบความสำเร็จอย่างมากในหนึ่งปี
เขาใช้เวลาต่อสู้เพื่อไปสู่จุดสูงสุด เขาอาจจะเทียบได้กับคนอย่าง หลินหูเฮชาน หรือ ถูฟู่


ด้านนอกถ้ำคนกลุ่มหนึ่งมาถึง พวกศิษย์ทุกคนมองดูกลุ่มนี้ด้วยความนับถือ

 "เวิ่นเหลินหยาน มาถึงแล้ว"

 กลุ่มชายหนุ่มสวมชุดสีขาว เขาดูถือตัวและทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ เขามีตาสีฟ้าเข้มและมี
หน้าตาที่ดูแปลกตา ชายหนุ่มคนนี้ชื่อ เวิ่นเหลินหยาน


"เวิ่นเหลิน , ขอแสดงความยินดี!" ศิษย์ที่ยืนอยู่ข้างๆเขากล่าวขณะยิ้ม


"การอยู่อันดับสูงสุดในหมู่ศิษย์ภายใน ... นั่นคือทั้งหมดที่ข้าทำได้" เวิ่นเหลินหยาน ตอบอย่างไร้
ความกังวล เขาเหลือบไปที่ชื่อของเขาบนหินและกล่าวว่า "เฉินซิง เจ้าควรนึกถึงความแข็งแกร่ง
ของเจ้าในปัจจุบัน เจ้าควรจะมีชื่ออยู่บนหินจัดอันดับนั่น"

"ใช่ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุด" เฉินซิง กล่าวขณะพยักหน้า เฉินซิง เป็นศิษย์ภายในที่แพ้
หลินเซียนต่อหน้าทุกคนเมื่อเธอมายังนิกาย ตั้งแต่นั้นมา เฉินซิ่ง ก็ฝึกหนักกว่าที่เคยฝึกมาก่อน
หน้านี้ เขาไม่ได้อยู่ไกลจากการตัดผ่านชั้นจิตวิญญาณที่สองนัก เขายังถือว่าเป็นอัจฉริยะหนุ่ม
เขาเป็นที่นับถือในหมู่ศิษย์ภายใน แม้กระทั่ง เวิ่นเหลินหยาน ก็เคารพเขาและความมุ่งมั่นของเขา

 "เฮ้" เวิ่นเหลิหยาน ยิ้มให้ ทันใดนั้นเขาเหลือบมองฝูงชน เขาได้มีประกายแสงสีฟ้าส่องออกมา


"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าขอประกาศว่า หลิวเฟย เป็นของข้า ถ้าใครพยายามที่จะวุ่นวายกับเธอ
แล้วอย่าโทษข้าว่าเป็นคนใจร้ายแล้วกัน "

ทุกคนถอนหายใจเมื่อได้ยินว่า เวิ่นเหลินหยาน พูด เขาสนใจ หลิวเฟย มานานแล้วและตอนนี้เขา
เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในศิษย์ภายในเขาต้องการที่จะป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาใกล้ หลิวเฟย

เวิ่นเหลินหยาน เป็นคนบ้าที่พูดเรื่องนี้เพราะทุกคนรู้ว่าเขาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมเป็นศิษย์หลักเพราะ
เขาต้องการที่จะเป็นศิษย์ภายในต่ออันดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามมีศิษย์หลักหลายคนที่สนใจ หลิวเฟย
ในสายตาของ หลิวเฟย เวิ่นเหลินหยาน ไม่ได้อยู่ในสายตา


ฝูงชนทั้งกลุ่มก็ไม่มีเสียงพูดออกมาเมื่อได้ยินเสียง เวิ่นเหลินหยานพูดก้องอยู่ข้างในหัว

 "เจ้าพูดแบบนั้นได้อย่างไรว่า หลิวเฟย เป็นของเจ้า ? อะไรที่เจ้าคิดว่ามีค่าคู่ควรกับเธอ? พวกเรา
อยากได้ยินจากปากของ หลิวเฟย  เอง"หานหมาน รู้ว่า หลินเฟิง และ หลิวเฟย อยู่ด้วยกันในตอน
นั้น เขาโกรธเมื่อได้ยินว่า เวิ่นเหลินหยาน ได้ประกาศอย่างห้าวหาญ


"หือ?" ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ


"ใครเป็นคนที่กล้าหาญพอที่จะกล้าท้าทาย เวิ่นเหลินหยาน? เขารนหาที่จะตายรึยังไง? "

ฝูงชนกำลังกระซิบกัน ไม่เพียงแต่ เวิ่นเหลินหยาน จะเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างมาก แต่เขาก็ได้รับการ
ยกย่องในนิกายหยุนไห่ แม้แต่ศิษย์หลักบางคนก็ไม่กล้าท้าทายเขา

"พูดได้ดี" เวิ่นเหลินหยาน กล่าวในขณะที่หันไปมอง ดวงตาสีฟ้าของเขาเปิดเผยความตั้งใจในการฆ่า
ทันใดนั้นได้เห็นภาพของงูพิษยิงพิษออกมาจากมือของเขา

“ตู้มม!”

ร่างของ หานหมาน กระเด็นไปชนกับกำแพงหน้าผา เลือดไหลออกจากปากของเขา ดวงตาของเขา
แสดงออกอย่างเปิดเผยราวกับว่าเขาไม่ได้เชื่อฟัง

 "ถ้าเจ้าพูดคำอื่น ข้าจะฆ่าเจ้าที่คุณยืนอยู่ตรงนั้น"

 เวิ่นเหลินหยาน ฟังอย่างสงบและเงียบแต่ยังมั่นคง

"แย่จัง" หานหมาน พูดขณะพ่นเลือดออกมา เขามองอย่างเย็นชาไปที่ เวิ่นเหลินหยาน และกล่าวว่า
"อย่าคิดว่าเจ้าแข็งแกร่งเพราะเจ้าต้องใช้เวลาหนึ่งปีในการไปถึงจุดสูงสุดของการจัดอันดับ เมื่อน้อง
ชายข้ามาถึงเขาจะลบชื่อของเจ้าออกจากรายชื่อในเวลาไม่นาน "


"ฮะ? ใครเป็นน้องชายของเจ้า? บอกข้ามา "เวิ่นเหลินหยาน กล่าว คำพูดของเขาเต็มไปด้วย
ความรังเกียจ


"หลินเฟิง แฟนของ หลิวเฟย"

 หานหมาน พูดออกไปอย่างตั้งใจ หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างการสอบที่ หลินเฟิง ได้กล้าที่จะฆ่า
ศิษย์ภายในต่อหน้าทุกคนรวมทั้งพวกผู้ใหญ่ หานหมาน เชื่อมั่นว่าจะไม่มีใครกล้าท้าทาย หลินเฟิง
ได้อย่างง่ายดาย เขายังมั่นใจได้ว่า หลินเฟิง จะต้องใช้เวลาไม่นานนัก ก่อนที่เขาจะทำให้
เวิ่นเหลินหยาน ตกใจ หานหมาน เชื่อว่า หลินเฟิง สามารถเอาชนะเขาได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี

"ใครคือ หลินเฟิง?"

เวิ่นเหลินหยาน กล่าวอย่างไม่สนใจ เขาไม่ได้ใส่ใจที่จะไปสอบในวันนั้นเขารู้ว่าไม่มีใครกล้าที่จะ
ท้าทายเขาเพราะเขาเป็นหนึ่งในศิษย์ภายในที่แข็งแกร่งที่สุด

"คนที่เพิ่งตัดผ่านเข้าสู่ชั้นจิตวิญญาณ แต่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญพลังอำนาจ เขาไม่มีอะไร
เขาไม่มีอะไรเทียบเจ้าได้หรอก เวิ่นเหลินหยาน "

เฉินชิ่ง กล่าวด้วยความดูถูกอย่างมาก

 "โอ้ เจ้าคิดอย่างนั้นจริงรึ?"

ทันใดนั้นเสียงดังก้องผ่านความเงียบงัน เป็นสองร่างได้ปรากฏตัวในระยะไกล..







Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดรูปโฆษณา เพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ


ความคิดเห็น

Facebook