ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 68


ตอนที่ 68 ผู้เชี่ยวชาญการใช้ดาบ











ในรอบแรกของการสอบศิษย์ภายใน ทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างดี ศิษย์ภายในรวมทั้งศิษหลัก
เพราะพวกเขาสามารถถูกท้าทายได้ตลอดเวลาโดยสาวกอื่นภายในนิกาย

หลี่หลิน ไม่มีข้อยกเว้นกฎนี้

 เมื่อหลี่หลินได้ยินว่าเขาถูกท้าทายโดย หลินเฟิง หัวใจของเขากำลังสั่นไหว ผู้ชายคนนั้นอาจจะ
ตัดผ่านไปชั้นจิตวิญญาณแล้วก็เป็นได้และต้องการแก้แค้นของเขา

แต่แล้ว หลี่หลิน ก็พยายามผ่อนคลายเพราะ หลินเฟิง ไม่ได้เรียกเขาแค่คนเดียวแต่เป็นสองคน
ทั้งเขาและ อวี่ห้าว

อวี่ห้าว นั้นเข้มแข็งกว่า หลี่หลิน ง เขามีจิตวิญญาณดาบที่ทรงพลังและเขาเป็นที่รู้จักในฐานะ
อัจฉริยะผู้ใช้ดาบ หลินเฟิง กล้าที่จะท้าทายเขา เขาอาจจะตายได้เพราะเขาไม่สามารถสู้กับ
อวี่ห้าว ได้นั้นเอง

เมื่อเข้าสู่ลานประลองแห่งชีวิต, หลี่หลิน เริ่มประสาทเสีย เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนกำลังมองไปที่เขา
เขาก็จะรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นอยู่ไม่เป็นจังหวะ

"เจ้ากำลังทำอะไร? ทำไมเจ้าถึงให้เขาเข้าสู่สนามต่อสู้ด้วยละ? "อวี่ห้าว เหลือบไปที่ หลี่หลิน
เขามึนงง นอกจากนี้เขาเกลียดการช่วยเหลือจากคนที่อ่อนแอเช่น หลีหลิน

"ข้าจะต่อสู้กับทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน"

หลินเฟิง ไม่ได้ตอบ อวี่ห้าว และพูดคำเหล่านี้ด้วยเสียงอันเย็นชาซึ่งทำให้ อวี่ห้าว ขมวดคิ้
วด้วยความโกรธ

ไอบ้าเอ้ย ...

เสียสติไปแล้วรึไง ...

ในประวัติศาสตร์ของนิกายหยุนไห่ ที่มีอายุย้อนไปนับพันปีไม่มีใครกล้าท้าทายสาวกที่สูงกว่าสอง
คนในเวลาเดียวกัน ในระหว่างการสอบศิษย์เป็นศิษย์ภายใน

 หลินเฟิง เป็นแค่ศิษย์สามัญคนหนึ่งได้ท้าทายศิษย์ภายในถึงสองคนให้สู้กับเขา ทำในสิ่งที่หน้าตกใจ
อย่างมาก คนหนึ่งในพวกเขาคือผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย มีจิตวิญญาณดาบ
หลินเฟิง ได้ทำลายสถิติใหม่ของการกระทำที่บ้าบิ่น

"ศิษย์สามัญคนนี้หยิ่งยะโสยิ่งนักและโอ้อวดพลังอำนาจเกินตัวอย่างชัดเจน แม้ว่าเขาจะมีความแข็ง
แกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่มันเป็นสิทธิที่จะทำแบบนั้นได้หรือ?"

ม่อเสีย กล่าวว่าด้วยเสียงอันหนาวเหน็บและดูถูก ไม่ใช่แค่ ม่อเสีย มีแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว แต่เขา
ก็มีสถานะที่สูงภายในนิกาย นอกจากนี้พ่อเขา ม่อชางหลาน ยังยืนอยู่ข้างหลังเขาด้วย ดังนั้นเขา
พยายามที่จะกู้หน้าบางส่วนที่เขาเสียไปก่อนหน้านี้

หนานกงหลิง มองด้วยสายตาที่เย็นชามองไปที่ ม่อเสีย แต่ก็ยังคงนิ่งสงบ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่า
เขากำลังคิดสิ่งใด

ทาง ผู้พิทักษ์เป่ย เขาหัวเราะและส่ายหน้า : "เด็กคนนี้ไม่มีขีดจำกัดเลยรึไง!"

"สองคน? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ไอ้เศษขยะ? "

ใบหน้าของ อวี่ห้าว บิดเบี้ยวด้วยความโกรธและแสดงออกถึงความรู้สึกน่ากลัว ภูมิหลังเขาเป็นใครกัน?
ผู้เชี่ยวชาญดาบที่มีจิตวิญญาณดาบและเขาเป็นศิษย์ภายใน?

อวี่ห้าว เกลียด หลินเฟิง เขาคิดว่า หลินเฟิง เป็นแค่ไอ้ขยะที่อวดดี เขาคิดว่าการเปรียบเทียบความแตก
ต่างระหว่างเขากับ หลินเฟิง ดั่งฟ้ากับเหว  อวี่ห้าว คิดว่าเป็นเกียรติสำหรับ หลินเฟิง ที่จะเรียกคนที่มี
ชื่อเสียงเช่นเขาขึ้นไปบนเวที

แต่ หลินเฟิง ไม่เพียงแต่เรียกเขามาบนเวทีเท่านั้น เขาเรียกคนอื่นอีก น่าแปลกใจที่เขาต้องการต่อสู้กับอีก
สองคนในเวลาเดียวกัน อวี่ห้าว ไม่ได้ถูกทำให้อับอายจากการกระทำของเขารึ?

“ใช่แล้ว!! เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? จู่ๆได้ท้าทายสองในเวลาเดียวกัน อวี่ห้าว มีจิตวิญญาณดาบที่ทรงพลัง
เขามีพลังมากมายและสามารถฆ่าเจ้าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว คุณยังจะอวดดีอีกงั้นรึ? "

หลี่หลิน กำลังเลียเท้าของ อวี่ห้าว และพยายามที่จะได้รับความกรุณาจาก อวี่ห้าว จากนั้น อวี่ห้าว จะทำ
ทุกอย่างตามลำพังและทำลาย หลินเฟิง ในขณะที่เขายืนและเฝ้าดูเฉยๆ จากนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องต่อสู้
นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนอย่างเขาที่อ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อสำหรับศิษย์ภายใน

ดูเหมือน อวี่ห้าว ที่ได้รับความชื่นชมจากคนอื่น ได้มีรอยยิ้มขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาและ
เขาก็กล่าวว่า "ฮ่าฮ่า หลี่หลิน เจ้าพูดถูกต้องพูดได้ไม่เลวนี้ ข้าไม่ควรเอาดาบของข้าไปจัดการกับศิษย์
สามัญที่ไร้ค่าเช่นนี้ ... เจ้าช่วยข้าดูแลมันหน่อย "

"แน่นอนขอรับ แต่สำหรับศิษย์ที่ไร้ค่าที่กล้าท้าทาย อวี่ห้าว เขาเพิ่งถูกทำให้อับอาย คู่หูเจ้าควรแสดงให้
มันเห็นถึงความแตกต่างขนาดใหญ่ช่องว่างระหว่างเจ้าและมัน

 เมื่อ หลี่หลิน ได้ยินคำพูดของอวี่ห้าว เขาก็กลัวว่าเขาจะต้องต่อสู้ เขาไม่ทราบว่า อวี่ห้าว ต้องการให้เขา
สู้หรือไม่ดังนั้นเขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อล่อลวง อวี่ห้าว ให้ต่อสู้ เขาไม่ต้องการมีส่วนร่วมใน
การต่อสู้กับ หลินเฟิง

"ไอ้ผู้ชายคนเป็นความอัปยศของนิกายพวกเราอย่างไม่เคยมีมา เขากำลังทำให้เพื่อนๆในนิกายหยุนไห่
ขายหน้า "สมาชิกในฝูงชนกล่าวขณะมองไปที่ หลี่หลิน เขาไร้ความรู้สึก แต่ผู้ชายคนนั้นอันที่จริงแล้วแค่
ปกต้องสถานะที่เขาเป็นอยู่แค่นั้นเอง

"เจ้านี่น่าสงสารจริงๆ ๆ " หลินเฟิง เยาะเย้ย หลี่หลิน "หลี่หลิน เมื่อข้ากำลังมองหาทักษะในหอดวงดารา
เจ้าโจมตี เฉินเฉิน แล้วเจ้าก็กลัวที่จะตายโดยเขาทำให้ทุกคนหัวเราะเยาะเจ้า บังเอิญมีศิษย์สามัญคนอื่น
อีกคนจึงตัดสินใจที่จะสู้กับข้าแทน เจ้ายังขู่ว่าจะสังหารข้า เจ้าดูถูกข้าหลายครั้งและเรียกข้าว่าขยะ
ตอนนี้ข้าท้าทายเจ้าและเจ้าดูเหมือนจะกลัวขึ้นมา?

"อวี่ห้าว, เจ้าที่มีจิตวิญญาณดาบอันยิ่งใหญ่, อัจฉริยะอะไร! เจ้าโจมตีข้าโดยไม่มีเหตุผล ในวันนั้น เจ้าบอก
ว่าเจ้าสามารถสังหารข้าได้ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังกลั่นแกล้งข้าและพยายามที่จะทำให้ผู้ที่อ่อน
แอกว่าตัวตนขายหน้า ตอนนี้ข้ายืนอยู่เบื้องหน้าเจ้าแล้ว เจ้าเต็มใจที่จะต่อสู้ แต่ดาบของเจ้าอยู่ที่ไหน?

หลินเฟิง กล่าวด้วยเสียงอันเย็นชา ทุกคนเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สาวกสองคนนี้มีเก่งมาก พวกเขาทั้งสองได้
ยั่วยุและข่มขู่ศิษย์สามัญ แต่ตอนนี้ที่เขาแข็งแกร่งขึ้นแล้วเขาต้องการแก้แค้น

ใบหน้าของ อวี่ห้าว ดูน่ารังเกียจมากขึ้นและเขากล่าวกับ หลี่หลิน ว่า "ข้าจะให้เวลาสามวิ ถ้าเจ้าไม่โจมตี
มันในเวลานั้นข้าจะทำให้การบ่มเพาะพลังของเจ้าพิการซะ"

หลี่หลิน โกรธมาก เขากำลังกัดฟันด้วยความเกลียดชังต่อ อวี่ห้าว

ในวันนั้น อวี่ห้าว ได้รังเกียจ หลินเฟิง และปฏิบัติต่อเขาราวกับว่าเขาเป็นคนไม่มีตัวตน ในขณะนั้น
พฤติกรรมของ หลินเฟิง กับเขานั้นคล้ายคลึงกันมาก

"เอาล่ะข้าจะเริ่มก่อนแล้วเจ้าปิดฉากมัน"

หลี่หลิน กล่าวด้วยความไม่เต็มใจ ... เขากำลังบังคับตัวเองให้ต่อสู้จริงๆ จากนั้นเขาก็เริ่มเคลื่อนตัวไป
ด้านหน้า หลินเฟิง

หลินเฟิง ส่ายหัว สไตล์ของเขาช่างดูน่าขันซะเหลือเชื่อ หลินเฟิง สงสัยจริงๆว่าผู้ชายคนนี้มีสถานะเป็น
ศิษย์ภายในได้อย่างไร

"หายไปซะ ... "

หลินเฟิง ปล่อยฝ่ามือออกไปและใช้ แปดฝ่ามือทะลายสวรรค์ สี่สังหาร ด้วยการโจมตีอย่างเฉียบพลันได้
แหวกผ่านอากาศและกระแทกเข้ากับร่างกาย หลี่หลิน

“ตู้ม!”

“ตู้ม!”

“ตู้ม!”

“ตู้ม!”

หลี่หลิน เป็นหนึ่งในศิษย์ที่อ่อนแอที่สุด ความแข็งแกร่งของเขาต่ำจนไม่สามารถจับคู่กับศิษย์สามัญได้เลย
 หลินเฟิง ได้โจมตีเขาด้วยทักษะเดียวในขณะที่ยังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ และทำให้ หลี่หลิน ลอยกระเด็นออก
ไปและกระแทกเข้าอย่างจังกับพื้นลานประลองแห่งชีวิต

หลังจากนั้น หลินเฟิง ก็ไม่สนใจ หลี่หลิน และกล่าวกับ อวี่ห้าว ว่า "แล้วเจ้าจะรออะไร? ข้าคิดว่าเจ้า
กำลังอยากจะสังหารข้าอยู่สินะ "

"สี่สังหาร ... . นั่นคือทั้งหมดของเจ้ารึ? นั่นเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของแปดสังหาร, ช่างน่าขันยิ่งนัก "

อวี่ห้าว รู้ว่า หลินเฟิง ใช้กระบวนท่าอะไรไปบ้าง ในนิกายหยุนไห่ หลายคนได้เรียนรู้และฝึกตนในระดับ
เดียวกัน ศิษย์ภายในส่วนใหญ่ที่ฝึกฝนมัน ทำได้แค่สี่สังหารและบุคคลที่มีพรสวรรค์บางคนทำห้าสังหาร
แต่มีน้อยคนที่สามารถทำมากกว่าสี่สังหาร ในบรรดาศิษย์ภายใน มันเป็นเรื่องยากมากที่ได้เห็นคนที่มี
พรสวรรค์พอที่จะหยุดสี่สังหารทะลายสะวรรค์ได้

หลินเฟิง ใช้แค่สี่ในแปดก็สุดยอดแล้ว แต่เขาก็สามารถควบคุมการโจมตีที่เขาใช้ได้อย่างอิสระ เขาไม่
ต้องการใช้พลังเต็มที่ในการจัดการกับ หลี่หลิน

"ถึงแม้ว่าข้าจะบอกว่าข้าจะสังหารเจ้า วันนี้เป็นการสอบศิษย์ภายใน ... แม้ว่าเราจะอยู่ในลานประลองแห่ง
ชีวิตก็ตาม เราก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าโดยตรง ดังนั้นในวันนี้ข้าจะทำให้การบ่มเพาะพลังของเจ้าพิการ
และทำลายทั้งสองแขนของเจ้าทิ้งซะ เจ้าจะตายไปครึ่งตัวหลังจากเราจบการต่อสู้นี้ "

อวี่ห้าว เริ่มโหดเหี่ยมมากขึ้น ตอนนี้เขามีความเกลียดชังต่อ หลินเฟิง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ในขณะที่พูด อวี่ห้าว ได้ปลดปล่อยดาบที่เขาแบกไว้ด้านหลัง ดาบของเขาสว่างและเปล่งประกาย แสงระยิบ
ระยับดูเหมือนน้ำในแม่น้ำเมื่อแสงแดดส่องลงมา มันเป็นแสงที่บริสุทธ์อย่างแท้จริง ปราณที่ไร้ตัวตนเริ่ม
แพร่กระจายผ่านทางอากาศ

แค่นั้นยังไม่พอ อวี่ห้าว ได้ปลดปล่อยจิตวิญญาณดาบของเขา มันเป็นเงาดาบที่แหลมคมซึ่งปรากฏอยู่ข้าง
หลังเขา มันชี้ไปบนท้องฟ้าราวกับว่ามันกำลังจะตัดตัวเองลงมาจากสวรรค์

แม้ว่าคนที่มีจิตวิญญาณดาบจะไม่อ่อนแอ หลินเฟิง ก็ยังมีอันตราย "

เหล่าศิษย์ในฝูงชนที่อยู่ใกล้กับเวทีสามารถรู้สึกถึงแรงกดดันและพลังปราณที่มีอยู่ในดาบ พวกเขารู้สึกว่า
พวกเขาถูกกดดันด้วยพลังของ อวี่ห้าว ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกปวดหัวและอึดอัด อย่างไรก็ตาม หลินเฟิง ผู้
ซึ่งยืนใกล้มากกลับไม่ได้รับผลกระทบนั่น

"ข้ารู้ว่าเจ้าชอบพึ่งพาจิตวิญญาณดาบของเจ้า ดังนั้นข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นการใช้ดาบที่แท้จริงเป็นยังไง"

หลินเฟิง กล่าวด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความตั้งใจในการฆ่า จากนั้นเขาก็เอาดาบที่เขาถืออยู่บนหลังออกมา
และปลดปล่อยปราณอันมหาศาลไหลผ่านบรรยากาศเคลื่อนไปทางดาบของ อวี่ห้าว ความกดดันภายใน
บรรยากาศก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

"เขาก็เป็นผู้ใช้ดาบ เขามีจิตวิญญาณดาบงั้นรึ? "

ทุกๆคนเริ่มสั่นเทาเมื่อรู้สึกถึงปราณที่อยู่ในดาบของ หลินเฟิง อวี่ห้าว สับสน ทุกคนตกใจเพราะ หลินเฟิง
ได้ปลดปล่อยความกดดันนี้โดยไม่ต้องปลดปล่อยจิตวิญญาณดาบ หลินเฟิง มีรอยยิ้มจางๆอยู่ตรงมุมปาก
ของเขา

 "ทำไมเขาถึงใช้ทักษะดาบทั้งๆที่เขาไม่มีจิตวิญญาณดาบ?"

อวี่ห้าว ก้าวไปข้างหน้า ทันใดนั้นเสียงดังสนั่นแผ่กระจายไปทั่วทั้งบรรยากาศ พลังทำลายล้างของดาบที่
กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จิตวิญญาณดาบหลังด้านหลังของเขาก็สว่างขึ้นเรื่อย ๆ

 ปราณของดาบ อวี่ห้าว กำลังรุนแรงขึ้นและตัดผ่านชั้นบรรยากาศเคลื่อนที่ตรงไปทาง หลินเฟิง

"เจ้าจำเป็นต้องมีดาบเพื่อใช้ทักษะดาบงั้นรึ? ผู้อยู่ในวิถีการบ่มเพาะพลังที่มี จิตวิญญาณดาบ จำเป็นต้อง
ใช้ทักษะดาบอย่างเดียวรึ? "หลินเฟิง มองอย่างสงบนิ่ง เขาก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า "แม้เจ้าจะไม่เข้าใจ
จิตวิญญาณดาบขั้นพื้นฐาน เจ้าต้องเชื่อมโยงพื้นฐานการใช้ดาบและการเคลื่อนไหว"

 “บู้ม!”

 ทันใดนั้นปราณที่ทรงพลังได้พุ่งไปยัง อวี่ห้าว แม้แต่ปราณเขาเองก็ต้านไม่ไหวถูกทำให้ถอยออกจากปราณ
ที่อีกฝ่ายปลดปล่อยมา

หลินเฟิง เริ่มรวบรวมพลังดาบเข้าไปยังปลายดาบของเขา พลังที่ปล่อยออกมาเป็นพลังที่น่าอัศจรรย์

"พลังอำนาจ เขากำลังใช้พลังอำนาจจากดาบ"

 คนในฝูงชนไม่ค่อยเห็นผู้บ่มเพาะพลังที่มีความรู้เกี่ยวกับพลังอำนาจของดาบ จะเห็นได้ก็ต่อเมื่อจะเป็นการ
ต่อสู้ระหว่างเหล่าศิษย์ภายในและศิษย์หลักเท่านั้น ทุกคนเริ่มรู้สึกถึงพลังมหาศาลที่มีอยู่ในดาบของ หลินเฟิง
ฝูงชนกำลังตื่นตระหนกและช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 "นั่นคือพลังอำนาจดาบ"

 "มันรุนแรงแค่ไหนกัน!"

 มีพลังปราณจำนวนมาก ซึ่งได้ปลดปล่อยออกมาจากดาบ สิ่งนี้ทำให้ หลินเฟิง สามารถจัดการ อวี่ห้าว
 ได้อย่างเต็มที่

 "โอ้ไม่นะ ... เขาเป็นศิษย์สามัญคนหนึ่งที่เพิ่งผ่านเข้าไปในชั้นจิตวิญญาณแล้วเขาก็ควบคุมพลังอำนาจ
ดาบของเขาได้สมบูรณ์แบบ ทำไมช่างอัจฉริยะเยี่ยงนี้! "

บางคนรู้ว่าพลังอำนาจนั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าใจและควบคุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ระดับของ หลินเฟิง
แม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังบางคนที่มาถึงจุดสุดยอดของชั้นจิตวิญญาณ ก็ไม่สามารถควบพลังอำนาจได้เท่า
ขอบเขตของหลินเฟิง แต่ หลินเฟิง ดูเหมือนจะควบคุมพลังได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 แน่นอนว่าศิษย์สามัญบางคนไม่ได้รู้ว่ามีพลังอำนาจอะไรและกำลังถามศิษย์คนอื่น ๆ ว่าหลินเฟิง
มีดาบที่ทรงพลังและแรงกดดันที่รุนแรงอะไรกัน

"เขาเป็นคนที่ผ่านการทดสอบกลองที่หน้าผาจ้านกู้ เขาอายุน้อยและมีพลังมาก ข้าแค่ฝันว่าจะแข็งแกร่งใน
วัยเดียวกับเขา แน่นอนเขาสมควรได้รับสถานะที่สูงภายในนิกาย เขาเหมาะสมที่ได้ชื่อว่าอัจฉริยะที่แท้จริง
เราควรดูแลเขาอย่างดีและให้เกียรติเขา เขาจะกลายเป็นอนาคตของนิกาย "

 หนานกงหลิง เข้าใจสิ่งที่ ผู้พิทักษ์เป่ย เคยพูดถึงมาก่อนหน้านี้แล้วและเข้าใจว่าทำไม หลินเฟิง
ถึงมีความสำคัญ เขาเป็นเสาหลักของนิกาย ต้องมีการแก้ปัญหาเพื่อที่ ม่อเสีย จะไม่พยายามฆ่าเขา
อีก ชายหนุ่มคนนั้นเป็นอัจฉริยะ...






Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อนเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
คลิก >>  http://cpmlink.net/KuQOAA

ความคิดเห็น

Facebook