ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 64


ตอนที่ 64 ดาบสังหาร









"บางคนมีสถานะสูงในสังคมและไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เม็ดยาสร้างรากฐาน
เพื่อเพิ่มความสามารถในการบ่มเพาะพลังและความแข็งแกร่งเพื่อยกระดับฐานะตัวเอง ข้าสามารถ
ใช้เม็ดยาสร้างรากฐานแลกเปลี่ยนซื้อขายกับอาวุธชั้นยอดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของข้า เท่าที่
กังวลข้าไม่ได้มีภูมิหลังที่มีอิทธิพลและข้าทำได้เพียงพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองเท่านั้น "
หลินเฟิง กล่าว

อนาคตของเขาบนเส้นทางการเป็นผู้บ่มเพาะพลังนั้นสำคัญต่อเขาอย่างมาก มีความผูกพันมาก
มายที่เขามีในชีวิตนี้ ถ้า หลินเฟิง ต้องการจะประสบความสำเร็จเขาต้องทุ่มเทให้มากกว่าคนอื่น
แม้ว่าทุกความพยายามที่เขาต้องลงแรงไปบางครั้งก็ต้องการอาสัยโชคช่วยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้
เขายังต้องการคนสนับสนุนเขาถ้าเขาต้องการก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าชีวิตจะเต็มไปด้วย
ความลำบาก ในชีวิตนั้นอาจมีความผิดพลาดมากมายไม่ใช่กับทุกคนและทุกอย่างเสมอไปอาจเป็น
ครั้งก็ยุติธรรมและบางครั้งก็ไม่ยุติธรรม อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ทำงานมากกว่าคนอื่นก็จะแสดงผล
ตอบแทนกลับไปและทำให้ชีวิตนั้นง่ายขึ้น

หากความสามารถตามธรรมชาติของคุณต่ำเกินไปการทำงานอย่างหนักควบคู่กับความเพียรและ
จิตใจที่มุ่งมั่นอาจพอที่จะนำไปสู่ชีวิตที่หรูหราและสะดวกสบายได้

อย่างไรก็ตามความสามารถตามธรรมชาติของ หลินเฟิง นั้นไม่เพียงแต่ต่ำต้อยเท่านั้น แต่เขายังเป็น
อัจฉริยะที่น่าอัศจรรย์และซ่อนเร้นอยู่ภายในร่างกายของเขาเช่นกัน แต่อย่างเขานั้นไม่อาจจะได้รับ
พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่และความมั่งคั่งในซักวันหนึ่งเพื่อใช้ชีวิตที่แสนสบายเลยรึไง?

ในขณะที่ หลินเฟิง กำลังคิดสิ่งเหล่านี้เขาเริ่มเคลื่อนไหว ไม่นานหลังจากนั้นเขาได้พบกับแรดคลั่ง
กำลังกินสัตว์อสูรตัวเล็ก มีเลือดเจิ่งนองอยู่ทุกหนแห่งและฉากทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเลือดแดง
มันเป็นฉากที่น่าสยดสยอง

พลังปราณของสัตว์อสูร ซึ่งอยู่รอบตัวของเขาได้หายไปและ หลินเฟิง เริ่มเดินช้าลงและระมัดระวัง
มากขึ้น

ราวกับว่ามันรู้ว่าอะไรกำลังเข้ามาใกล้แรดคลั่งได้หันกลับมา ดวงตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือด
ของมันกำลังจ้องมองมาที่ หลินเฟิง มันดูดุร้ายและกระหายเลือด ตาทั้งสองของมันเบิกกว้างและ
มืดมนเมื่อ หลินเฟิง เดินผ่าน

ช่างน่าแปลกใจที่มีมุษย์ที่โง่เขลาเข้ามาและกล้าที่จะก้าวเข้าไปในอาณาเขตของมัน

แรดคลั่งนั้นแข็งแกร่งโดยธรรมชาติ ทั้งดุร้ายและกระหายเลือด เมื่อโตเต็มวัยมันเป็นสัตว์อสูรที่อยู่
ระดับจิตวิญญาณขั้นหนึ่ง สามารถมีความยาวถึงสองเมตรและสูงถึงหนึ่งเมตร มันเป็นสัตว์อสูร
ที่ตัวใหญ่และผิวหนังของมันหนา

แรดคลั่งที่ดูเหมือนจโตเต็มวัย จึงเป็นสัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณขั้นที่หนึ่ง

"แรดคลั่งนั้นรวดเร็ว ...เขาของมันนั้นแหลมคม... แถมมันเป็นก็มีความแข็งแกร่งโดยธรรมชาติในการ
ป้องกันอีกตัว ผู้เพราะปลูกทั่วไปที่อยู่ในชั้นจิตวิญญาณขั้นที่หนึ่งนั้นไม่สามารถเอาชนะได้ "

หลินเฟิง พยายามจำลักษณะของแรดคลั่งทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายการป้องกันได้โดยง่าย
เฉพาะความเร็วที่มากพอและการโจมตีที่แม่นยำของผู้บ่มเพาะพลังนั้นพอจะมีความหวังที่จะเอาชนะ
สัตว์อสูรตัวนี้ได้ มิฉะนั้นการต่อสู้กับมันอาจนำไปสู่ความตายได้

ในขณะนั้นแรดคลั่งกำลังเดินเหยียบย้ำอย่างรุนแรงที่พื้น มีหลุมปรากฏอยู่ใต้ฝ่าเท้า มันกำลังเตรียม
พร้อมที่จะพุ่งเข้าใส่ตลอดเวลา

หลินเฟิง ยังคงสงบนิ่งขณะที่มองดูสถานการณ์ ปราณดาบที่แข็งแกร่ง ได้ปลดปล่อยออกจากร่าง
ของเขาและเริ่มเกระจายไปโดยรอบก่อนที่สัตว์อสูรจะพุ่งเข้าใส่ หลินเฟิงได้กระโจนตัวเองเข้าหามัน

 ตามด้วยกระบวนท่าของ หลินเฟิง ปราณดาบซึ่งเขาได้ปลดปล่อยมันเพิ่มมากขึ้นและรุนแรงขึ้น
ไม่นานต่อมาอากาศก็เต็มไปด้วยเสียงลมที่พัดมาอย่างรุนแรงจากพลังของเขา

ทันใดนั้นมันได้ร้องโหยหวนเสียงดังแล้วหนีไป

สัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณนั้นฉลาดและมีสัญชาตญาณสูง มันได้สัมผัสกับพลังอำนาจปราณดาบ
ที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อซึ่งถูกซ่อนไว้และรู้ว่ามนุษย์ที่อยู่ตรงหน้านั้นอันตรายอย่างมากต่อการสู้รบ

"เคลื่อนที่ดังเงาจันทร์"

หลินเฟิง ไม่สามารถปล่อยให้หลบหนีได้ เขาพุ่งผ่านอากาศเต็มไปด้วยความเร็วและดาบของเขาก็
ส่องประกายขึ้น


"การโจมทีแรก หนึ่งชีวิต"

พลังอำนาจของดาบอันมหาศาลได้ปกคลุมบรรยากาศ มีแสงสีขาวจางออกจากปลายดาบ

แรดคลั่งที่กำลังทำวิ่งหนีได้ถูกฟันที่ตัวปรากฏว่ามันยังวิ่งต่อ เลือดได้พุงกระฉูดออกจากร่างและไหล
ออกมาเป็นทางยาวเป็นจำนวนมากขณะที่มันวิ่ง มันได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียเลือดจำนวนมาก

ปราณที่เป็นพิษบางอย่างเริ่มไหลออกจากร่างกายของแรดคลั่ง หลินเฟิง ทะลวงดาบเขาเข้าไปในปราณ
นั้น และในทันทีที่ปราณนั้นหายไป แรดคลั่งก็ตาย

 สัตว์อสูรความอ่อนไหวต่อเลือดอย่างมาก ในหุบเขาวายุทมิฬ มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งจำนวนมาก ดังนั้น
หลินเฟิง จะต้องฆ่าคลั่งอย่างรวดเร็วและถ้าปล่อยให้มันหนี เลือดจะดึงดูดสัตว์อสูรจำนวนมาก

หลินเฟิง พอใจกับทักษะดาบของเขามากและพลังที่ปลดปล่อยจากการโจมตีแต่ละครั้ง แม้ว่าแรดคลั่งมี
ความแข็งแกร่งมากและร่างกายของมันยากต่อการทำให้บาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีเพียงหนึ่งครั้งด้วย
ดาบของ หลินเฟิง

ขณะที่ หลินเฟิง ยังคงเดินในหุบเขา หลินเฟิง ฆ่าสัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณ แต่คราวนี้มันไม่ใช่แรดคลั่ง
 ก่อนหน้านี้มันคือหมีโลกันตร์ หลินเฟิงฆ่าตายภายในการโจมตีครั้งเดียว

............


สองวันต่อมาในเขตชานเมืองของหุบเขาวายุทมิฬ ชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏตัวและเสื้อผ้าทั้งหมดของเขา
ถูกฉีกขาดและสกปรกเขาสกปรกตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาถือดาบอยู่ในมือและข้างหน้าเขามีงูขนาดยักษ์

 งูนั้นยาวประมาณยี่สิบเมตร ผิวหนังมันหนามากและมันกำลังเลื้อยบนพื้นดินตรงหน้าชายหนุ่ม หัวของมัน
ตั้งสูงชันห้าเมตรขึ้นไปบนท้องฟ้า มันดูน่าเกลียดและดุร้าย ดูเหมือนว่ามันพร้อมที่จะโจมตีได้ตลอดเวลา

ดวงตาขนาดมหึมาของมันสีเขียวและเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน พิษและเลือดพ่นออกมาจากปากของมันอย่าง
ไม่มีที่สิ้นสุด

"สัตว์อสุรระดับจิตวิญญาณขั้นสองนั้นเป็นงานยากพอดู เสื้อของหลินเฟิง มีรูพรุนขนาดใหญ่สามารถมอง
เห็นผิวของเขาได้อย่างชัดเจน ผิวของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ หลินเฟิง เอาถอดเสื้อออกเขาด้รับบาด
เจ็บจากการสู้กับงูหลามปีศาจ

ในช่วงสองวันมานี้ หลินเฟิง ได้ฆ่าสัตว์อสูรโดยรอบประมาณหนึ่งร้อยตัวและทุกตัวอยู่ระดับจิตวิญญาณ
เขาฆ่าสัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณขั้นสองสามตัวอย่างง่ายดาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอกับสัตว์อสูรที่
แข็งแกร่งและอันตราย


"ฟ่อออ, ฟ่ออ...... " มันแล๊บลิ้นขนาดใหญ่ของมันตลอดในอากาศขณะที่มันยังส่งมีเสียงขู่อยู่ งูกำลังจะ
พ่นพิษและ หลินเฟิง จะต้องหลีกเลี่ยงพิษจากงูให้ได้ตลอด

แต่ในขณะนั้น งูหลามปีศาจตัวใหญ่หล่นลงมาและศีรษะของมันชนเข้ากับพื้น เนื่องจากหางของมันได้รับ
ความเสียหายและถูกตรึงไว้กับต้นไม้ที่ตกลงมา งูไม่สามารถหลบหนีได้

ทันใดนั้นลมกระโชกอย่างรุนแรงจากปีกไปทั่วท้องฟ้า

ถ้า หลินเฟิง ไม่ได้มีเทคนิคที่หลบหลีกดีพอเขาคงจะถูกฆ่าตายไปแล้ว จิตวิญญาณระดับที่สองงูปีศาจ
 มีความแข็งแกร่งและพลังอันมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ

ทันใดนั้นพื้นที่ด้านหน้า หลินเฟิง  เต็มไปด้วยแสงและหล่นลงมาเฉือนบนตัวงูหลามก่อนที่จะหายตัวไป
จากสายตาอีกครั้ง

งูส่งเสียงครวญครางอย่างดัง หลินเฟิง รู้สึกเหมือนกับว่าเขาถูกกดทับด้วยพลังของงู งูหลามแห่งปีศาจ
เลื่อยไปหาเขา

“ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ...”

ต้นไม้กำลังฉีกออกเป็นหลามที่บดขยี้ทุกอย่างที่ขวางเส้นทางของมัน หลินเฟิง เป็นเหมือนเงาใต้ดวง
อาทิตย์และเร็วเกินไปที่งูจะจับตัวเขา ถ้ามีผู้เห็นเหตุการณ์เขาจะคิดว่างูนั้นบ้าไล่ตามภาพลวงตา

 แม้ว่า งูปีศาจจะอยู่ขั้นที่สองของระดับจิตวิญญาณ แม้ว่าผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งอย่างมากของชั้น
จิตวิญญาณขั้นสาม จะพบว่ามันยากที่จะรอดชีวิต พวกเขารู้ว่ามันจะยากมากที่จะฆ่างูและจะไม่ต้อง
เผชิญหน้ากับมันโดยตรง อย่างไรก็ตาม หลินเฟิง เพิ่งถึงชั้นจิตวิญญาณขั้นสองเมื่อสองวันก่อนและ
ไม่ทราบถึงความอันตรายของงูหลาม

 "ดาบสังหาร!" หลินเฟิงตะโกน ในขณะนั้นดาบที่แข็งแกร่งและทรงพลังอย่างมากของเขาได้ฟันไป
ที่งูหลามปีศาจ ซึ่งตัดผ่านร่างกายออกจากกันและเลือดได้ไหลออกมาจำนวนมาก

แต่คราวนี้มันดูเหมือนว่าเจ้างูนั้นไม่ได้รู้สึกถึงการตีที่ร่างกายของมันอีกต่อไป มันต้องการจะเอาชีวิต
ของ หลินเฟิง และได้ถูกความบ้าคลั่งครอบงำโดยสมบูรณ์

"ข้าไม่อยากเล่นกับเจ้าอีกต่อไปแล้ว"

หลินเฟิง เกือบจะถูกฆ่าโดยงูหลามปีศาจหลายครั้งแล้ว หลังจากนั้นสองวันการต่อสู้ยังคงดำเดินต่อ
ไปภายในภูเขานี้ทักษะดาบของหลินเฟิงได้แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ เขามีความมั่นใจมากขึ้น
ในความสามารถของตัวเอง เขาเชื่อว่าเขาจะสามารถเอาชนะผู้บ่มเพาะพลังระดับจิตวิญญาณขั้นที่
สองได้สบายๆ... มีผู้บ่มเพาะพลังกี่คนในชั้นจิตวิญญาณขั้นที่สองแข็งแกร่งมากกว่างูหลามปีศาจ?

หลินเฟิงได้ปลดปล่อยจิตวิญญาณแรกจิตวิญญาณสวรรค์ ดวงตาของเขากลายเป็นสีดำสนิทและ
เขาถูกล้อมรอบด้วยโลกแห่งความมืด ไม่มีอะไรที่สามารถหลบหนีจากสายตาของเขาได้ เขา
สามารถมองเห็นและรู้สึกถึงทุกอย่าง แม้ว่างูหลามปีศาจจะเร็วมากเพียงใด แต่การโจมตีของ
มัน ดูเหมือนจะช้ามากกว่าก่อนหน้านี้ สำหรับ หลินเฟิง นั้นมองเห็นการโจมตีได้ทะลุปุโปร่ง

งูกำลังจะโจมตีจากด้านข้าง หลินเฟิงจับดาบอ่อนอย่างมั่นคง ซึงปล่อยรังสีความเย็นเป็นแสง
สว่างวาบ

 ปราณของดาบสังหารได้ กระจายออกมาจากร่างของ หลินเฟิง ดูเหมือนว่ามันจะทำลายทุกสิ่ง
ทุกอย่างที่ได้สัมผัส

 หลินเฟิง เงยหน้าขึ้น เขามองไปที่งูหลามปีศาจที่กำลังเคลื่อนไปทางเขาอย่างสงบนิ่ง สายตา
ของ หลินเฟิง ดูคล้ายกับของปีศาจที่โหดเหี้ยม ในขณะนั้นเขาไม่มีความปราณีแต่อย่างใดและ
ไม่มีความเมตตาหลงเหลืออยู่ภายในตัวเขาอีกต่อไป

"ดาบสังหาร"

หลินเฟิง กล่าวคำพูดเหล่านั้นเบา ๆ เพียงปากเขาขยับเล็กน้อย เขาใช้ดาบยาวของเขาซึ่งปลด
ปล่อยพลังปราณที่ทรงพลังอย่างมากและปราณนั้นเป็นสีเทาแปลกๆ ... มันเป็นปราณของ
ดาบสังหารที่ตายแล้ว

"ฟื้บ ... ฟื้บ... "


ปราณสีเทาที่ทรงพลังได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและพร้อมกับเสียงโหยหวนอันยาวอย่างเจ็บปวด
และทรมาน การโจมตีนั้นตัดงูขาดเป็นสองท่อน ฝุ่นตลบลอยขึ้นไปในอากาศและงูก็กระแทกพื้น

ร่างกายของ งูหลามปีศาจ ยังคงหมุนตัวอยู่บนพื้นราวกับว่ามันไม่เชื่อว่ามันตายแล้ว หลินเฟิง
ใช้ดาบยาวของเขาเจาะทะลุกะโหลกศีรษะของงูหลามและด้วยการโจมตีนั้นได้หยุดการเคลื่อน
ไหวอย่างสมบูรณ์ บรรยากาศได้กลับมาอยู่ในความเงียบสงบอีกครั้ง

หลินเฟิง ได้จัดการฆ่างูหลามปีศาจที่เป็นสัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณขั้นที่สอง!

ดาบสังหาร ของหลินเฟิง อาจเรียกได้ว่าดาบแห่งความตายหลังจากได้รอาบเลือดสองวันติด
ในหุบเขาวายุทมิฬ

หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้าและหยิบของมีค่าจากร่างของงูหลามปีศาจจากนั้นมุ่งตรงไปทางนิกาย

 สองวันกับฝูงสูรความแข็งแกร่งได้ลดลงไปแล้วถึงจุดที่มันไม่ได้เป็นฝูงขนาดใหญ่ที่บ้าคลั่ง
อีกต่อไป ดูเหมือนว่าการสอบศิษย์ภายในกำลังจะเริ่มขึ้นในเร็ววันนี้...







Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อนเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
คลิก >>  http://cpmlink.net/KuQOAA

ความคิดเห็น

Facebook