ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 52



ตอนที่ 52 มีใครกล้าอีกมั้ย?





ในขณะนั้นหลินเฟิงปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความมืดอันลึกลับ ทุกย่างก้าวของเขาช่างพิเศษ
ราวกับจังหวะการเคลื่อนไหวของจักวาล  จังหวะกาลเคลื่อนไหวของจักรวาลนั้นดูเหมือนจะทำ
ตามกฎเช่นเดียวกับพลังของธาตุ

ดาบได้ปลดปล่อยพลังอำนาจที่น่าเกรงขามออกมาทุกครั้งที่โจมตี...สวรรค์และโลกเช่นเดียวกับ
พลังธรรมชาติที่มีอยู่ในโลก

เมื่อหลินเฟิงปลดปล่อยจิตวิญญาณ เขาสามารถทำความเข้าใจแลสิ่งต่างๆได้แบบก้าวกระโดด
อย่างน่าอัศจรรย์ เขาสามารถเข้าใจความลึกลับความสับสนของผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ขอบเขตที่
สูงกว่า ความคิดนับล้าน ไหลเวียนอยู่ในสมองด้วยความเร็วสูงสุด ความคิดเหล่านี้ทำให้
หลินเฟิง มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในขอบเขตที่สูงขึ้น

"จิตวิญญาณสวรรค๋ เปลี่ยนแปลงให้ข้ากลายเป็นบางอย่างที่ไม่รู้จักและความแข็งแกร่งไม่น่าเชื่อ "
หลินเฟิง รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เห็นเขาแสดงออกทางสีหน้า มือขวาของ
หลินเฟิงค่อยๆเอื่อมลงมาถอดสายเข็มขัดออก

"หือ?" ฝูงชนมองไปที่การเคลื่อนไหวของ หลินเฟิง และไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเขาถอดเข็มขัดออก
 เขากำลังวางแผนทำอะไรกัน?

"นั่นมัน ... นั่นมันดาบ!" ดวงตาของทุกคนดูตกใจมากกว่าเดิม เข็มขัดสีเงินของหลินเฟิงกลายเป็น
ดาบ พวกเขาได้เห็นแล้วว่าหลินเฟิงแบกดาบไว้บนไหล่ของตัวเอง แต่พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญ
กับสิ่งที่อยู่รอบเอวหลินเฟิง ... หลินเฟิง ดูเหมือนจะถือบางสิ่งที่คล้ายกับดาบที่อ่อนและมีความยืดหยุ่น

หลินเฟิง กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆที่ ชู่วหยุนห่าว ในขณะนั้นมีพลังปราณของดาบที่แข็งแกร่งมาก
หมุนรอบตัวของ หลินเฟิง ร่างของหลินเฟิงดูเหมือนจะมีลักษณะคล้ายด้ามของดาบและปราณซึ่งไหล
กระจ่ายออกมาจากดาบและร่างของหลินเฟิงได้สร้างรูปร่างของใบมีดเหนือเขา ..

"นั่นคือจิตวิญญาณงั้นรึ?" ฝูงชนทุกคนมีความรู้สึกประหลาดใจ และไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น มันอาจ
เป็นไปได้ว่า หลินเฟิงมีวิญญาณดาบสินะ? ไม่งั้นเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยปราณดาบที่แข็งแกร่งอย่าง
บ้าคลั่งได้อย่างไรกัน?

ฝูงชนดูเหมือนจะตระหนักได้ว่า หลินเฟิงมิได้ปลดปล่อยจิตวิญญาณของเขาทั้งหมด ... เขาไม่จำเป็น
ต้องทำอย่างนั้น... เขาสามารถแสดงพลังเหนือพวกอัจฉริยะก่อนหน้านี้ได้โดยไม่ต้องปลดปล่อย
จิตวิญญาณของเขา

ด้วยวิธีที่เขาใช้ แรงกดดันของดาบกลายเป็นแข็งแกร่งมากขึ้นและรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพียงแค่มองไปที่
ดาบทุกคนก็สามารถบอกได้ว่าพลังรังสีการฆ่าฟันกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  แม้ว่า หลินเฟิง จะเต็มไปด้วย
ความคิดเกี่ยวกับการฆ่า บนใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสุขอยู่เล็กน้อย

"หมื่นสรรพสิ่งของการสร้างครอบครองพลังอำนาจ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติและดาบเองก็มีพลังเป็น
ของตัวเอง... ทำไมต้องใช้ปราณของดาบ เมื่อมีพลังอำนาจที่ไม่จำกัดอยู่แล้ว ?"

ก่อนหน้านี้หลินเฟิง ต้องการปลดปล่อยปราณดาบ เพื่อใช้พลังอำนาจของดาบ แต่ในขณะนี้เขาไม่ได้
ปล่อยปราณดาบของตัวเอง แต่ใช้พลังอำนาจของดาบและนำปราณจากดาบเข้าไปในร่างของเขา
เขาสามารถควบคุมพลังได้อย่างอิสระตามความต้องการของตัวเอง ตอนนี้เขาสามารถยืมพลังได้ทุก
เมื่อที่ต้องการ ดังนั้นเขาสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจของดาบได้มากมายในการโจมตีครั้งนึงตาม
ที่เขาต้องการ เขาไม่ได้ถูกจำกัดด้วยพลังปราณของตัวเอง

ร่างกายและกลิ่นอายของเขาเริ่มมีรังสีเหมือนดาบที่แหลมคมและไร้ความปราณี!

หลินเฟิง ส่วนลึกในใจของเขาเติบโตขึ้นและมีความสุขมากขึ้น ปราณดาบในร่างกายของเขาและ
บรรยากาศก็เริ่มมีพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกัน ชู่วหยุนห่าว เริ่มมีความกังวล
มากยิ่งขึ้น ความกลัวได้ปกคลุมใบหน้าของเขา

บรรยากาศทั้งมวลถูกกดดันจากแรงกดดันของดาบและรู้สึกเหมือนดาบกำลังพยายามกลืนกินเขา
ด้วยความตื่นตระหนกเขารู้สึกได้ว่าหลินเฟิงเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตและช่วงเวลาที่เขามีชีวิตของเขา
จะจบลง

หลินเฟิงสามารถทำลายจิตวิญญาณกายาทองคำด้วยพลังแห่งดาบอันน่าสะพรึงกลัว

"ข้าไม่ควรรออีกต่อไปข้าควรจะหนี" ชู่วหยุนห่าว คิด ความเชื่อมั่นของเขาถูกบดขยี้ด้วยพลังปราณ
ของดาบเล่มใหญ่ และพลังอำนาจของดาบอันน่าสะพรึงกลัว นอกจากนี้แรงกดดันของหลินเฟิงเอง
ก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะลดลง แต่กลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เขากลัวที่จะเข้าใกล้หลินเฟิง เพราะกลัวว่า
เขาไม่สามารถหนีจากการเผชิญหน้ากับหลินเฟิงได้

ชู่วหยุนห่าว ไม่เคยคิดว่าเขาจะจบลงด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับใครในเมืองหยางโจว
เขาไม่ได้มีชื่อเสียง แม้กระทั่งเขาเองไม่มีใครรู้จัก น้องสาวของเขาได้เชิญเขาเข้าร่วมการแข่งขันประจำปี
ดังนั้น เขาจะแข็งแกร่งได้อย่างไรกันละ? หลินเฟิง ตอนนี้มองเขาราวกับว่าเขากำลังมองไปที่คนโง่ที่ถนน

ชู่วหยุนห่าว ตัดสินใจที่จะเริ่มปลดปล่อยปราณของเขาอีกครั้ง เขาไม่สามารถรับความอัปยศอดสูดัง
กล่าวจากคนอื่นได้ ร่างกายสีทองของเขาถูกล้อมรอบด้วยแสงสีทองที่สดใสและเขาเริ่มปลดปล่อยความ
แข็งแกร่งอย่างมหาศาลของเขา ร่างทั้งร่างของเขาเปล่งเสียง ปราณที่ทรงพลังอย่างมากและเขาก็ใช้พลัง
อำนาจที่น่าทึ่งนี้

"กายาทองคำคงกระพัน!"

หลังจากตะโกนของ ชู่วหยุนห่าว ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจโจมตี เขาหุ้มกำปั้นตัวเองไว้ในรัศมีที่ทำลายไม่ได้และ
ปล่อยกำปั้นนั้นตรงไปที่หลินเฟิง

ตู้มม!!

เมื่อกำปั้นของเขาพุ่งผ่านอากาศเสียงระเบิดกระจายไปทั่วทั้งอากาศ ราวกับว่าเขากำลังทำให้บรรยากาศโดย
รอบได้ถูกควบคุมด้วยกำปั้นของเขา

ตายซะ !!

หลินเฟิงกล่าว คำนั้นด้วยเสียงต่ำและพลังแห่งดาบที่มีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อออกมาจากร่างของเขาและฉีกออก
จากชั้นบรรยากาศจากนั้นก็วิ่งเข้าไปในร่างกายของ ชู่วหยุนห่าว

พลังอำนาจของดาบทำให้ร่างกาย ชู่วหยุนห่าว หงิกงอ เสียงจากการฉีกขาดอย่างรุนแรงและค่อยๆฉีกจากภาย
ในร่างกายของเขา ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาพร้อมที่จะฉีกขาดเป็นชิ้นๆตลอดเวลา

พลังของดาบที่ปลดปล่อยออกมาพร้อมกับปราณที่ทรงพลัง ดาบเคลื่อนไหวผ่านอากาศด้วยความเร็วพร้อมทั้ง
ตัดผ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าของมัน แสงสว่างของดาบนั้นส่องประกายทั่วท้องฟ้า

ดาบได้พุ่งเข้าใส่ อกของ ชู่วหยุนห่าว

" ฉึกกกกกกกกกกก !!"

ร่างกายของ ชู่วหยุนห้าว แตกออกเหมือนเปลือกไข่ที่เป็นชั้นป้องกันของเขาได้แตกเป็นชิ้น ๆ จิตวิญญาณของ
ชู่วหยุนห่าวได้พังแตกสลาย เลือดสาดไปทั่วทุกหนแห่ง ร่างกายของ ชู่วหยุนห่าวกระเด็นถอยหลังไป

ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเขาอ่อนแอกว่าหลินเฟิงเสียอีก ผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่ง ที่มาจากเมืองจักรพรรดิ เช่นเดียว
กับคนที่มาก่อนหน้าเขา ไม่มีใครสามารถทนต่อการโจมตีของหลินเฟิงได้แม้แต่ครั้งเดียวโดนซัดกระเด็นออกไป
อีกเช่นเคย

ในขณะนั้นฝูงชนรู้สึกประหลาดใจ ทุกคนต่างมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น และจ้องมองไปที่หลินเฟิงอย่างไม่เต็มใจนัก

ความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว นั่นคือความจริงและปฏิเสธไม่ได้ ไม่มีใครสามารถปฏิเสธพลังที่หลินเฟิงได้
ปลดปล่อยออกมาแม้แต่คนเดียว

ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะหรือศิษย์ที่ทรงพลังนั้นไม่สำคัญ หลินเฟิง ขอแค่โจมตีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเพื่อรับมือกับ
พวกเขา

“ตวอหมิง เป็นอัจฉริยะที่แท้จริงในตอนนี้ เขาเป็นวีระบุรุษของวันนี้อย่างแน่นอน ไม่มีใครสามารถเป็นคู่ต่อสู้
ที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะต่อต้าน ตวอหมิง และความโกรธของเขา หญิงสาวหยิงยโสคนนั้นอันที่จริงแล้ว
เธอเหมาะสมกับเขา  แต่  ตวอหมิง นั้นบางทีใครจะรู้ เขาอาจได้รับการสนับสนุนจากเหล่าทวยเทพก็เป็นได้ "

ฝูงชนยังคงจ้องไปที่ หลินเฟิง อย่างเงียบๆ ง แน่นอนเขาได้รับการยกย่องเป็นพิเศษและได้รับความเคารพ
จากใจของทุกคน

"น่าหลานเฟิง คิดว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าทุกคนในโลก ทั้งแข็งแกร่งที่สุด และสวยที่สุด... น่าแปลกใจที่เธอ
ต้องการเป็นที่ปรึกษาให้กับ ตวอหมิง บนเส้นทางการบ่มเพาะพลัง นั่นเหมือนเด็กสาระเลวที่ตาบอด"

"ชู่วหยุนห่าว นั้นยังหยิ่งและคิดว่าเขาอยู่ยงคงกระพัน เขาได้รับความอับอายและดูถูกตวอหมิงแล้วเรียก
เขาว่าเป็นลูกหมาตัวน้อย ๆ ตอนนี้เขาไม่สามารถทนต่อการโจมตีเพียงครั้งเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับ
ตวอหมิง เขาเป็นสุนัขตัวน้อยจริงๆ เขาคิดว่าเขาคงจะหยิ่งใส่ตวอหมิงที่อยู่ในเมืองนี้ แต่เขาคิดผิดเขาเรียน
รู้บทเรียนนั้นและปฏิบัติตัวในเมืองหยางโจวได้ดีขึ้น "

"เฉพาะ ตวอหมิง ที่เป็นอัจฉริยะที่แท้จริง เขาได้รับพรจากฟ้าดิน เขาเป็นคนที่เก่งที่สุดและมีอำนาจมาก
ที่สุดแล้วในเมืองหยางโจว "

หลินเฟิง ไม่สามารถรู้ได้ว่าฝูงชนกำลังคิดอะไร เขามอง ชู่วหยุนห่าว นอนอยู่บนพื้น หลินเฟิงไม่มีความรู้สึก
ใด ๆ นั่นคือราคาที่ต้องจ่ายสำหรับความอับอายและการเหยียดหยามคนอื่น ๆ อย่างไม่มีเหตุผล

หลินเฟิงหันกลับมาและไม่ได้มอง ชู่วหยุนห่าว อีกต่อไป หลุมดำที่เขาใช้จากดวงตา เขาหันไปหาหลินเซียน
ในวันนี้ หลินเฟิงจะใช้มันกับหลินเซียน และลบล้างความอัปยศที่ผ่านมาทั้งหมดของเขา

"ดูเหมือนว่าเจ้าและข้าที่เป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ มาต่อกันเลย " หลินเฟิง กล่าวอย่างไร้อารมณ์ซึ่งทำให้
หลินเซียนกลัว เธอไม่รู้ว่าเขาตั้งใจจะทำอะไรกันแน่

ความแข็งแกร่งของเธอใกล้เคียงกับของ น่าหลานเฟิง ชู่วหยุนห่าวสามารถเอาชนะน่าหลานเฟิงได้อย่างง่ายดาย

แต่ความแข็งแกร่งและทรงพลังของ ชู่วหยุนห่าว ไม่สามารถป้องกั้นดาบของ หลินเฟิง ซึ่งทำให้ หลินเซียน รู้สึก
ว่าเธอไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะ หลินเฟิงได้แม่แต่นิดเดียว

"ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน? น่าแปลกใจความแข็งแกร่งของเขาคือของจริง  "หลินเซียน กระซิบ ในวันนี้ความมั่นใจ
ในตัวเองของเธอพังทะลายลง

เธอเคยคิดว่าเธอน่าทึ่งที่สุด เพราะเธอมาถึงชั้น จิตวิญญาณขั้นแรก เธอเคยคิดว่าเธอสามารถเอาชนะทุกคนที่อยู่
ข้างหน้าเธอได้ เธอเป็นอัจฉริยะที่แท้จริงและไม่มีใครสำคัญ สภาพจิตใจของเธอก็เหมือนกับของน่าหลานเฟิง

จากนั้น ชู่วหยุนห่าว ก็ปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนไม่รู้ และทำให้เธอเข้าใจว่าแม้ว่าเธอจะมาถึงชั้น จิตวิญญาณ
ขั้นแรกแล้ว แต่มีคนอื่นอีกหลายคนที่ยังคงแข็งแกร่งกว่าเธอและมีพรสวรรค์มากยิ่งกว่า

แต่ในขณะที่เธอคิดว่า ชู่วหยุนห่าว มีความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ หลินเฟิง ได้แทงเขาด้วยการโจมตีเพียงครั้ง
เดียว นี่ทำให้เธอรู้สึกแย่มากกว่าเดิม

"ข้าคิดว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะดำเนินการต่อสู้ต่อไป หลังจากเหตุการณ์เหล่านี้" หลินเซียน กล่าวด้วยเสียงที่หนาว
เย็นและไม่ติดขัด แม้ว่าความมั่นใจในตัวเองของเธอถูกบดขยี้ แต่เธอก็ยังไม่อยากแสดงมันออกมา... เธอไม่ต้องการ
ยอมรับว่าเธอต้องการที่จะยอมแพ้นั้นเอง

 หลินเฟิง ดูคล้ายกับว่าพวกเขากำลังยิ้มอยู่ ถึงแม้จุดนั้นหลินเซียนไม่เต็มใจที่จะหยุดการแสดงออกที่ยิ่งใหญ่ออกไป

เคลื่อนที่ดังเงาจันทร์ !! ร่างกายของหลินเฟิงหายไปอย่างไร้ร่องรอย

"หลินเซียน ก้าวถอยหลัง!" ใครบางคนกำลังตะโกนดังอย่างมาก หลินต้าเถา กลัวและไม่ต้องการให้ หลินเฟิง โจมตี
หลินเซียน เขาสังเกตุการเคลื่อนไหวตลอด เมื่อเขาเห็นการเคลื่อนไหวของหลินเฟิงเขาเตือน หลินเซียน ทันที ในเวลา
เดียวกันร่างกายของเขากลายเป็นพายุหมุนวน พัดผ่านอากาศและเคลื่อนที่ตรงไปยังเวทีต่อสู้

หลินเซียน ตระหนักได้ถึงอันตรายและทันทีที่เธอปลดปล่อยวิญญาณน้ำแข็งและไฟ ทั้งน้ำแข็งและไฟออกมาจากมือ
ของเธอและเธอก็เขวี้ยงตัวเองไปหาหลินเฟิงที่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ

ตู้มมม !!

หลินเฟิง บล็อกการโจมตี น้ำแข็งได้ละลายและไฟได้มอดดับลงทันที เขาไม่แสดงความเมตตาแม้แต่น้อยและโจมตี
ด้วยดาบไปหนึ่งครั้ง

หลินเฟิงเหวี่ยงดาบของเขาไปที่หลินเซียน

"ลองดูซิว่าเจ้าจะกล้าพอไหม!" หลินต้าเถาตะโกนแทรกขึ้นมา เปลวไฟลุกไหม้ปล่อยออกมาจากฝ่ามือและย้ายไปบล็อค
ดาบของหลินเฟิง

ตู้มม !!

ไฟที่ลุกโชติช่วงมีพลังและลดแรงของดาบที่กำลังจะปะทะร่างกายของหลินเซียน แต่พลังของดาบยังคงกระแทกเธอและส่ง
เธอลอยไปปยังขอบเวทีการต่อสู้ เธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

"ท่านกล้าฝ่าฝืนกฎของการแข่งขันประจำปีแบบนี้ได้ยังไง?" หลินเฟิง ตะโกนแล้วเสริมว่า "เพราะท่านเป็นคนไร้ค่า ท่านจำ
เป็นต้องสร้างภาพพจน์ของตัวเองและต้องการความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสรุ่นก่อน เพื่อให้ท่านกลับมาจุดนี้ช่างอัปยศเสียจริง
ตระกูลหลินได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาแล้ว ช่างเป็นวิธีไร้ยางอายยิ่งนัก !! "

น่าหลานเซียง ยังคงเงียบ การแข่งขันทั้งมวลนั้นเบี่ยงเบนมากเกินไปแล้ว จากสิ่งที่เขาวางแผนไว้ ตั้งแต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือน
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นไม่มีความหมาย หลินเฟิงทำให้ลูกสาวของเขาบาดเจ็บ น่าหลานเฟิง, น่าหลานเซียง อาจมีความเมตตาต่อ
หลินเฟิง?

"ช่างไร้มารยาท เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครที่มาอวดดีแบบนี้? "

หลินต้าเถาเห็นว่า น่าหลานเซียง เงียบไม่ลังเลที่จะพยายามจะตบไปยังหน้ากากเงินของหลินเฟิง

หลินเฟิง ไม่หลบการโจมตี หน้ากากเงินของหลินเฟิง หล่นลงพื้นและใบหน้าที่แท้จริงของเขาก็ปรากฏขึ้น

"เป็นเจ้านั้นเอง…"
"เป็นเจ้านั้นเอง…"

หลินต้าเถา และ หลินเซียน กล่าวคำเหล่านี้ในเวลาเดียวกัน เมื่อพวกเขาได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหลินเฟิง
พวกเขาก็มึนงง พวกเขารู้สึกเหมือนพายุหิมะแผ่กระจายไปทั่วเส้นเลือดของพวกเขาและหนาวเย็นยะ
เยือบวิ่งลงไปถึงกระดูกสันหลังของพวกเขา

ในเวลาเดียวกันสมาชิกทั้งหมดของตระกูลหลินในฝูงชน ตกใจเมื่อได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหลินเฟิง ชายหนุ่มที่แข็งแกร่งและมีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อคือสมาชิกของตระกูลหลิน ... หรือเป็นอดีตสมาชิกของตระกูลหลินที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเพราะเห็นได้ชัดว่าเขาอ่อนแอ !!!


**** ตวอหมิง คือ หลินเฟิง ที่เรียกตวอหมิงมั่งหลินเฟิงมั่งเพราะไม่มีใครรู้ว่าตวอหมิงคือใคร ****





---------------------------------------------------------------------------------------------------------------          อ่านจบแล้วรบกวนกดโฆษณาเพื่อนเป็นกำลังใจให้แอดด้วยนะครับ
ตามนี้ครับ >> http://cpmlink.net/_-IOAA

Cr.tuiimyk  แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/

ความคิดเห็น

Facebook