ตอนที่ 35 แปดคนสุดท้าย Part 3
หลินเฟิง vs หลินฮ่อง
ทุกคนที่กำลังเฝ้าดูรู้สึกสับสนกับการกระทำของหลินเฟิง หลินเฮินได้ทะลายขอบเขตจิตวิญญาณแล้ว
จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาข่มขู่หลินหวู่
แต่หลินเฟิงก็กำลังทำแบบนี้เช่นกันและกำลังบอกหลินหวู่ว่าให้ออกไปให้พ้นสายตาเขา ความอับอาย
ก่อนหน้านี้ทำให้หลินหวู่โกรธมาก เขาได้รับความอับอายโดนหลินเฮินแต่ไม่รู้สึกโกรธ แต่ความจริงนั้น
เจ้าขยะนี้ช่างกล้าทำให้เขาขายหน้าอีกครั้งจนเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขารู้สึกเหมือนถูกมีดแทง
หัวใจเขาและด้วยความโกรธจนทำให้ใบหน้าเขานั้นเป็นสีแดง
เจ้าต้องการรนหาที่ตาย? หลินหวู่ได้ปล่อยเจตนาฆ่าฟันที่ชัดเจนและจ้องมองเขาเหมือนสัตว์ป่าที่ดุร้าย
ในขณะนั้นเองแรงกดดันที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากลายล้อมหลินหวู่และกำลังตกลงมาที่เขา ถึงแม้
จะไม่แข็งแกร่งเท้าพลังที่ลึกลับของหลินเฮิน แต่หลินหวู่ก็รู้สึกกลัวอยู่เต็มหัวใจของเขา เขาถูกรอบ
ล้อมด้วยพลังแห่งความกดดันที่บดขยี้ลงมาทั้งร่ายเขา
"3" หลินเฟิงเริ่มนับถอยหลังด้วยเสียงต่ำ ความแรงของพลังที่กำลังกดดันไปที่หลินหวู่เพิ่มมากขึ้น
เรื่อยๆกดทับลงมาตลอดเวลา หลินหวู่แทบจะหายใจไม่ออกจากพลังงานที่ถาโถมเขาทั่วอากาศ
ความรูสึกทั้งหมด ความโกรธ ความอาบอาย ความขุ่นเคืองใจของเขาทั้งหมดหายไปในทันที ความ
รู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความกลัวและความอยู่รอดของตัวเอง
เขาอยู่ถึงปราณขั้นที่เก้าแล้วไอ้ขยะที่กำลังเผชิญหน้าอยู่นี้กำลังใช้พลังที่แข็งแกร่งมากพอที่จะล้มเขา
ได้ หรือเขาอยู่ขอบเขตระดับวิญญาณแล้ว?
ทุกคนต่างสับสน พวกเขาเห็นแค่หลินหวู่ที่กำลังตื่นตระหนกและหายใจไม่ออก หลินเฟิงเดินเข้าไป
ทางหลินหวู่อย่างช้าๆและเงียบๆ ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับว่าเวลากำลังหยุดเดิน แม้ว่าฝูงชนอาจ
รู้สึกถึงขอบเขตพลังที่ได้ปลดปล่อยออกมาโดยหลินเฟิง มันอเป็นการควบคุมธาตุที่สมบูรณ์แบบมาก
หลินเฟิงดูเหมือนจะต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงในสายตาของสมาชิกตระกูลหลิน หลินเฟิงเหมือนจะ
อยู่ในความสมดุลอย่างแท้จริงด้วยธาตุและพลังระหว่างสวรรค์และโลก
"2" หลินเฟิงกล่าวขณะก้าวไปข้างหน้า แม้ว่าเขาจะไม่ตะโกนคำพูดออกไป ก็เหมือนฆ้อนที่ทุบ
หน้าอกหลินหวู่อยู่ หัวใจหลินหวู่ถูกบดขยี้ เขาต้องคิดหาทางหลบหนีในสถานะการณ์แบบนี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้
ความกดดันเริ่มเพิ่มมากขึ้นกว่าตอนแรกหลายเท่า หลินหวู่ยังรู้สึกกดันอย่างมากในขณะเดียว
กันก็พยายามที่จะหันหลังหนี นี่มันไม่ดูเหมือนจะมีการต่อสู้เกิดขึ้นเลย มันดูไร้สาระมาก
ความเชื่อมั่นที่เขามีนั้นได้หายไป แม้ว่าหลินเฟิงจะก้าวไปข้างหน้าเพียงสองก้าวเท่านั้น
นี่มันเกิดอะไรขึ้น? หลินหวู่กำลังพยายามหนี? สมาชิกในตระกูลที่ดูเหตุการณ์อยู่กระซิบ
ข้าคิดว่าหลินเฟิงได้เปิดเผยความสามารถที่เขาซ่อนเอาไว้ จะเรียกเขาว่าไอ้ขยะต่อไป
ได้จริงๆเหรอ? เหมือนกับว่าเขาชักกระบี่และกำลังตัดความยโสของทุกคนที่พยายาม
ขัดขวางเส้นทางของเขา
นี่เป็นหนึ่งคำสุดท้าย หลินเฟิงกล่าวขณะยิ้มให้กับหลินหวู่ แต่เดูเหมือนว่า หลินเฟิงกำลัง
ทำให้หลินหวู่เป็นเรื่องตลก หลินหวู่เป็นคนขี้ขลาดอย่างแท้จริงทุกความรู้สึกในคำพูด
เมื่อต้องเผชิญกับความกดดันที่แข็งแกร่งกว่าของตน เขาไม่เคยแม้แต่จะพยายามสู้
หลินหวู่มีหอกอยู่ในมือที่หล่นอยู่บนพิ้น เขาดูอ่อนแอและบอบบางจริงๆ หลินเฮินไม่ได้
ต้องการทำให้เขาเสียเกียรติไปมากกว่านี้ เขารู้ตัวว่าความแข็งแกร่งของเขาไม่เพียงพอ
ที่จะต่อสู้กับขอบเขตจิตวิญญาณ หลินเฟิงได้ทำลายความมั่นใจของเขาทั้งหมดและทำ
ให้ชื่อเสียงเขาเสียหายยิ่งกว่าหลินเฮิน เขามีความรู้สึกว่าเขานั้นไม่เคยแข็งแกร่งจริงๆ
มันเป็นแค่จิตนาการที่เขาสร้างขึ้นโดยความเย่อหยิ่งของตัวเองเมื่อข่มเหงผู้ที่อ่อนแอ
กว่าตน นั่นเป็นความหน้าอับอายเรื่องจริงที่น่ากลัวและจะหยั่งรากลึกลงไปในจิตใต้
สำนึกทำให้สามารถก้าวหน้าในเส้นทางการบ่มเพาะพลังได้มากขึ้น
ข้ายอมแพ้ หลินหวู่กล่าวขณะกัดริมฝีปาก ดูเหมือนว่าเขาจะมีความเข้าใจเล็กน้อย
ในโลกความเป็นจริง เขาเคยคิดว่าตนเองนั้นถูกต้องเขาเชื่อว่าเขามีพลังมากมาย
และด้วยเหตุผลนี้เขาจึงหยิ่งผยองมากขึ้น เขาไม่สามารถแบกรับความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเป็น
ยอมแพ้? หลินเฟิงพูดขณะยิ้ม ข้าบอกให้ออกไปให้พ้นสายตาข้า ถ้าข้ายังเห็นเจ้าอยู่
นี่คือโอกาสสุดท้ายของเจ้าออกไปให้พ้นสายตาของข้าโดยใช้ท้องของเจ้าเลื้อยไป
เหมือนหนอน
เขาอัปยศซ้ำแล้วซ้ำอีก ความโกรธนั้น ขารู้สึกว่าสาแก่ใจกับคำพูดนั้นรึยัง?
ถ้าหลินหวู่สามารถชนะหลินเฟิงได้ หลินเฟิงจะได้รับความอับอายและถูกรังแกอย่าง
ไม่จบไม่สิ้น หลินหวู่ไม่เคยปล่อยให้เขาออกไปอย่างง่ายดาย...แต่เมื่อหลินหวู่ไม่สามารถ
เอาชนะหลินเฟิงได้ เขาก็ยอมแพ้คำพูดพวกนั้นจริงๆหรือ? มันเกี่ยวกับสิ่งที่น่าหวาดกลัว
ที่เขาเคยพูดก่อนหน้านี้หรือไม่ ? พวกเขาสามารถลืมมันได้อย่างง่ายดายเลยรึ?
เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ หลินเฟิงไม่ใช่ปัญญาชนเขาเป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดา
หนุ่มธรรมดาที่มีความรู้สึกเช่นความเกลียดชังความรักความกล้าหาญและการแก้แค้น
ข้ายอมแพ้แล้ว มันยังไม่พออีกรึ? เจ้าต้องการให้คลานออกไปอีกรึ? หลินหวู่โกรธ
และเริ่มตะโกนอีกครั้ง
แค่ยอมแพ้อย่างนั้นรึที่ทำได้? เจ้าเรียกข้าว่าไอ้ขยะ ความอับอายของตระกูลหลิน... ข้าจะ
ลงโทษเจ้าด้วยคำสบประมาทของเจ้าอย่างไร เจ้าคิดว่ามันพอเหรอ? เจ้าต้องชดใช้
ความอับอายพวกนั้นและเอามันออกไปจากข้า เจ้าคิดว่ามันพอแล้วใช่มั้ย? หลินเฟิงยิ้ม
อย่างเย็นชา ตอนนี้เจ้าสำนึกได้ว่าเจ้าไม่ใช่คู่แข่งของข้า และคำพูดไม่กี่คำนั้นมันพอรึ?
เจ้ากำลังวอนหาความตายวันนี้ใช่มั้ย?
หลินหวู่กลัวมากกกก
ดูเหมือนว่าถึงเวลาแล้ว หลินเฟิงยิ้มบนใบหน้าเขา ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายแก่เจ้า หาก
เจ้าไม่ไปให้พ้นสายตาข้า เจ้าต้องได้รับผลกระทบที่ตามมา
ขณะที่พูดแบบนั้นหลินเฟิงเคลื่อนตัวไปข้างหน้า หลินหวู่ร้องครางและลงไปที่พื้นทันที
เขาดูหน้าอายและอ่อนแอ
หลินเฟิงปล่อยกลื่นอายที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าทำให้หลินหวู่กลัวอย่างมาก ไม่ว่าเขา
จะรู้สึกอาบอายและไม่พอใจก็ตาม เจตนาฆ่าของหลินเฟิงทำให้เขากลับสู่ความเป็นจริง
เขาไม่เคยรู้สึกถึงเจตนาที่ร้านแรงขนาดนี้มาก่อน
ข้าจะไปให้พ้นตาของเจ้า หลินหวู่กล่าวขณะฝืนยิ้ม รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความ
เสียใจและอัปยศ เขาคลานไปบนพื้นห่างจากหลินเฟิง
เจ้าขยะ ทำให้ตระกูลขายหน้า
ขยะเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีผิด
ในขณะที่เขาคลานไปบนพื้น หลินหวู่จำชื่อที่หน้ากลัวและคำหยาบคายที่เขามอบ
ให้หลินเฟิง เขารู้ว่าเขาทำตัวเหมือนคนโง่ เขาอยู่ปราณระดับเก้า เขาเป็นศิษย์ที่
โดดเด่นและเป็นดั่งดวงดาวในอนาคต ทำไมเขาถึงกลายเป็ฯคนขี้ขลาด ?
ฝูงชนกำลังมองไปที่หลินหวู่ ที่กำลังคลานอยู่บนพื้น พวกเขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง
พวกเขาคิดว่าหลินเฟิงคงเป็นคนประสาท จู่ๆก็เรียกร้องให้หลินหวู่คลานบนพื้น
แล้วไล่ไปให้พ้นสายตาเขา พวกเขาไม่คิดเลยว่าหลินหวู่จะทำมัน
"หลินหวู่" หลินเซิ่นพูด เขากำลังเขย่า เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง? ลูกชายเขาควร
แสดงความภาคภูมิใจเหมือนใบหน้าของเขาเหมือนเคยสิ เขานั้นเป็นความภาคภูมิใจของ
ตระกูล อัจฉริยะที่แท้จริงที่อ่อนแอกว่า หลินเซียน...แต่ช่วงเวลาสั้นๆ หลินหวู่ได้รับความ
อัปยศอดสูเป็นครั้งที่สอง ไม่กี่วินาทีนั้นเขากำลังคลานอยู่บนพื้นเหมือนหนอน
ไอ้เวรเอ้ย หลินเซิ่นโกรธมาก เขาต้องการจะฆ่าหลินเฟิง
หลินไฮ่หงุดหงิดที่เห็นหลินเซิ่นกำลังโกรธมาก ดูเหมือนว่าพื้นที่ทั้งหมดกำลังปกคลุม
ไปด้วยความหนาวเย็น เขาพร้อมที่จะลงโทษหลินเซิ่นสำหรับการกระทำของเขา
"ใจเย็น" หลินต้าเถ๋าได้สังเกตุเห็นหลินเซฺ่นโกรธและพูดอย่างไม่สนใจว่า อย่ากังวลว่า
ไอ้เศษขยะมันหยิ่งได้อีกไม่นานหรอก
หลินเซิ่นยังโกรธเหมือนเดิม เขามองไปที่หลินไฮ่และนั่งลง เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถทำ
ได้ตามความต้องการตราบเท่าที่หลินไฮ่อยู่ที่นั้น
หลินเฟิงชนะ ผู้อาวุโสหกกล่าว ขณะมองหลินเฟิง
หลินเฟิงไม่ได้เป็นเหมือนกับสมาชิกรุ่นเยาว์คนอื่นในตระกูลหลิน เขาไม่เคยได้รับ
สืบทอดจิตวิญญาณแห่งไฟหรือน้ำแข็ง แต่เขากลับได้รับการสืบทอจิตวิญญาณงูแทน
แต่จิตวิญญาณงูขนาดเล็กไม่ได้เหมือนกับสัตว์วิญญาณทั่วไป ไม่มีใครรู้ความสามารถ
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพเช่นกัน เพราะพวกเขาไม่สามารถรู้สึกถึง
พลังของตนและไม่ทราบว่าการใช้จิตวิญญาณแบบนี้ถือเป็นจิตวิญญาณของถังขยะ
นั่นคือเหตุผลที่หลินเฟิงถูกเรียกว่าเป็นเศษขยะจากทุกคน เขาถูกมองว่าเป็นความอัปยศ
หลินเฟิงยังได้ฝึกฝนในการเพาะปลูกพลังได้ช้ามาก ซึ่งทำให้เขาน่าอับอายมากขึ้นภายใน
ตระกูล ทุกคนเกลียดชังเขา แต่ชิ้นส่วนของถังขยะได้ทำให้หลินหยานและทำให้หลินหวู่
ผู้ซึ่งคิดว่าตัวเองอยู่เหนือสมาชิกสามัญของตระกูล คลานไปบนพื้นเหมือนหนอน เขายัง
เป็นเศษขยะที่เขาเคยเป็นอยู่หรือเปล่า? จิตวิญญาณของเขาไร้ประโยชน์จริงๆหรือ?
"เมื่อพ่อเป็นมังกรลูกชายก็ไม่อาจเป็นงูได้" ผู้อาวุโสหกคิด จากนั้นเขากล่าวว่า พักครึ่ง
ชั่วโมงและเราจะดำเนินต่อไปกับการต่อสู้ที่จะมาถึงนี้
ผู้อาวุโส พวกเราทั้งสี่คนไม่ได้เหนื่อยล้า พวกเราไม่ต้องการพักผ่อน ได้โปรดเริ่มต่อตอนนี้
หลินเซียนกล่าวด้วยความไม่ไยดี แม้ว่าเธอจะหยิ่งกับสมาชิกคนอื่นๆในตระกูลหลิน แต่เธอ
สุภาพมากขึ้นไม่นานนี้ ผู้อาวุโสของตระกูลหลินไม่คิดว่าเธอเป็นคนหยิ่ง แต่จื้อฮ่านเผิง
ไม่ชอบความเย่อหยิ่งของเธอ เธอถูกสอนให้ไม่หยิ่งกับคนที่แข็งแกร่งกว่าเธอ
น้องสาวข้าพูดถูกต้อง มาเริ่มกันต่อเลย เพิ่มหลินฮ่องแล้ว ทั้งพี่ชายและน้องสาวถึงรอบ
รองชนะเลิศ วันนี้เป็นวันที่แสนวิเศษสำหรับหลินต้าเถ๋าและฐานะที่มั่นคงในตระกูล นี่จะทำให้
ความพยายามของเขาที่จะเป็นหัวหน้าตระกูลดำเนินไปอย่างราบรื่น
ผู้อาวุโสหกมองหลินเฟิง เจ้าคิดว่าอย่างไร?
เกี่ยวกับลูกชายเขา หลินเฮิน เขารู้ความคิดอยู่แล้ว เหลือเพียงหลินเฟิง
"ไม่มีปัญหาเราสามารถดำเนินการต่อได้" หลินเฟิงกล่าวขณะพยักหน้า จนถึงขณะนั้น
เขาไม่ได้ใช้พลังของเขาจริงๆเลย
ถ้าเจ้าม่มีปัญหา ก็ดำเนินการต่อไปในตอนนี้ ผู้อาวุโสหกประกาศ รอบรองชนะเริศมีดังนี้
หลินเฟิงสู้กับหลินฮ่อง หลินเซียนสู้กับหลินเฮิน หลินเฟิงและหลินฮ่อง เริ่มต้นก่อน
ผู้อาวุโสหกไม่คาดคิดว่าจะทำให้หลินเฮินสู้กับหลินเซียน เขาคาดไว้มากกับหลินเฮิน
หลินเฮินอยู่ในระดับเดียวกับหลินเซียน พวกเขาทั้งสองได้ทะลายขอบเขตจิตวิญญาณ
หลินฮ่องนั้นแข่งแกร่งมาก แต่ก็ไม่ใช่คู่แข่งของเขาห่างไกลจากที่หลินเฟิงเป็นห่วง
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะแพ้หลินเฮิน เฉพาะหลินเซียนเท่านั้นที่จะเป็นคู่แข่งเขา
ผู้อาวุโสหกอาจคิดเช่นนั้นและนั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงถูกจัดให้สู้แบบนั้น เส้นทาง
การต่อสู้นั้นไม่สำคัญอีกต่อไปสิ่งสำคัญคือความแข็งแกร่ง
ทุกคนกำลังแสงความคิดเห็นต่างๆเกี่ยวกับการจับคู่การแข่งขัน แต่ในเวลานั้นเอง
หลินต้าเถ๋าลุกขึ้นยืนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนว่า ผู้อาวุโสหกข้าขอพูดอะไรซักสอง
สามคำได้หรือไม่ ?
ได้เลย ! ผู้อาวุโสหกกล่าวขณะพยักหน้า
รุ่นเยาว์ทั้งสี่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของการจัดการประชุมในปันี้ พวกเขาเป็นตัวแทนของ
ตระกูลหลินคนรุ่นใหม่และในอนาคตข้างหน้า ข้าคิดว่านั้นเป็นการประกาศที่ไม่ถูกต้อง
การต่อสู้จนกว่าหนึ่งในนั้นจะไม่สามารถสู้ต่อได้ พวกเขาควรจะสู้เหมือนนักรบที่แท้จริง
ของตระกูลหลินจนกว่าจะสิ้นสุด เส้นทางนี้พวกขาจะถูกบังคับใช้เป็นผลประโยชน์จาก
ศักยภาพทั้งหมดและอาจจะได้เข้าใจถึงเส้นการเพาะปลูกของพวกเขาด้วย หลินต้าเถ๋า
กล่าวด้วยความหนักแน่นในขณะที่มองไปที่หลินไฮ่ ทุกครั้งราวกับว่าเขากำลังพยายาม
ยั่วยุหลินไฮ่
จะอำมหิตไปถึงไหน ดูเหมือนว่าเขาต้องกาารให้หลินฮ่องทำให้หลินเฟิงพิการ สมาชิก
บางคนในกลุ่มกล่าว พวกเขาเข้าใจความคิดของหลินต้าเถ๋าทั้งหมด พวกเขาบอกได้
ว่าเขาไม่มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด
ท่านผู้นำ ท่านมีความคิดเห็นเยี่ยงไรเกี่ยวกับข้อเสนอของข้า? หลินต้าเถ๋าถามหลินไฮ่
รู้สึกว่าหลินต้าเถ๋ากำลังแทงข้างหลังเขาด้วยมีดอย่างไม่หยุดหย่อนโดยใช้คำว่า ท่านผู้นำ
เข้ายิ้มให้หลินไฮ่ ถ้าหลินไฮ่ไม่ยอมรับมัน หลินเฟิงต้องเสียหน้า ถ้าเขายอมรับมัน
หลินเฟิงจะต้องตาย มันจะทำลายชื่อเสียงของครอบครัวเขา หลินต้าเถ๋าได้คว้า
โอก่านี้ไว้เพื่อจะทำลายคู่แข่งของเขา
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ไม่อยากรอนานๆ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น