ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

Peerless Martial God ตอนที่ 3

ตอนที่ 3 ข่มเหงด้วยพลัง



ในยามเช้า ภายในตระกูลหลินมีความคึกคักเป็นพิเศษ นี่เป็นเพราะจะมีการประชุมที่สำคัญเกิดขึ้น และทุกคนรีบมุ่งหน้าไปยังใจกลางของคฤหาสน์

” นี่รู้หรือเปล่า? เวลานี้ ไม่เพียงแต่ลุงหนึ่งเท่านั้นที่มา แม้กระทั่งลุงสามก็ยังมาด้วยเช่นกัน ดูเหมือนตอนนี้พวกเขาจะเล็งที่นั่งของผู้นำตระกูลไว้แล้ว “

” ฮิๆๆ อย่างไรก็ตามแม้ว่าท่านผู้นำจะแข็งแกร่ง แต่ลูกชายขยะของเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้ เขาถูกส่งตัวกลับมาโดยคนของนิกาย มันเป็นการฉีกหน้าคนตระกูลหลินชัดๆ นอกจากนี้ลุงหนึ่งเองก็ไม่ค่อยที่จะลงรอยกับท่านผู้นำสักเท่าไหร่ เขาต้องใช้โอกาสนี้เข้าโจมตี ใครจะไปรู้ วันนี้ที่นั่งของผู้นำตระกูลอาจจะเปลี่ยนเจ้าของก็ได้ “

ตั้งแต่ผู้คนเริ่มเข้ามาในตระกูลหลิน ยังมีเสียงซุบซิบนินทาให้ได้ยินเป็นช่วงๆ พวกเขารู้ดีว่าการประชุมในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งไหนๆ

ในตอนนี้เอง หลินไห่และหลินเฟิงได้เดินทางมาถึง เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงปลอดภัยดี เหล่าผู้คนที่กำลังซุบซิบนินทาต่างก็เงียบปากลง แววตาของผู้คนสาดประกายความประหลาดใจออกมา บางคนถึงกับแปลกใจว่าทำไมเจ้าขยะเช่นนี้ถึงไม่ตาย แต่ภายใต้อำนาจของหลินไห่ คนส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะกล่าวสิ่งที่พวกเขาคิดออกมา

” อ่าา เจ้าขยะนี่ โชคดีจริงๆ ที่แกยังมีชีวิตอยู่ ” ทันใดนั้นเองก็มีบางคนตะโกนออกมา ทำให้คนส่วนใหญ่เงยหน้าขึ้นไปมอง และเห็นคนที่มีออร่าผิดธรรมดากำลังเดินตรงเข้ามา

คนที่ตะโกนเข้ามานั้นยังเป็นเพียงแค่ผู้เยาว์คนหนึ่ง เขาคือลูกชายของหลินห้าวหรานลุงสามแห่งตระกูลหลิน และมีนามว่า ‘หลินหยุน’ ทั้งหลินเฟิงและหลินหยุนต่างมีอายุ 15 ปีเท่ากัน แต่อย่างไรก็ตาม หยินหยุนนั้นได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตพลังปราณขั้นที่ 6 แล้ว

” นั่นมันหลินหยุนนี่… ไม่แปลกใจเลยที่มันกล้ากล่าวเช่นนั้น ” เมื่อพวกเขาเห็นลุงสามหลินห้าวหรานและลุงหนึ่งหลินป้าเต้าเดินมาด้วยกัน ทุกคนรู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาดี

” ไหนลองพูดอีกทีสิ! ” แววตาที่เย็นชาของหลินไห่จ้องมองไปที่หลินหยุน มันทำให้ใบหน้าของหลินหยุนปรากฏความกลัวออกมาอย่างชัดเจน เขาไม่มีความกล้าพอที่จะมองใบหน้าของหลินไห่โดยตรง

” น้องรอง เจ้าชักจะเหิมเกริมในฐานะผู้นำตระกูลมากไปแล้วนะ เจ้าคิดว่าาอาวุโสกว่าแล้วจะกลั่นแกล้งผู้เยาว์ได้อย่างนั้นรึ ” หลินป้าเต้ากล่าวออกมาอย่างเย็นชา

” เหอะ ข้า หลินไห่ยังคงเป็นผู้นำตระกูลอยู่ ข้าแค่คิดว่าหลินหยุนยังได้รับการสั่งสอนมาไม่ดีพอ ” หลินไห่กล่าวอย่างเฉยเมย

” พี่สองผู้สง่าผ่าเผยเอ๋ย ข้าละสงสัยจริงๆ ว่าท่านจะเป็นผู้นำตระกูลไปได้อีกนานแค่ไหน ” หลินห้าวหรานกล่าวอย่างรุนแรง ” เจ้าลูกชายเศษขยะของเจ้าถูกขับไล่ออกจากนิกายหยุนไห่และถูกส่งกลับมาที่ตระกูล มันคือผู้ที่นำความอับอายมาสู่ตระกูลหลิน จะไม่ให้ผู้คนซุบซิบนินทาได้เช่นไร? “

” ข้าจะเป็นอีกนานแค่ไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าหลินห้าวหราน ? หรือเจ้ากำลังจะพูดว่าข้ากำลังจะเสียตำแหน่งผู้นำตระกูลในเร็วๆนี้? เจ้าคิดว่าคนอย่างเจ้าจะสามารถมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ได้หรือไง? คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติเพียงพอ? ” หลินไห่ก้าวเดินไปข้างหน้าและปลดปล่อยแรงกดดันที่หนาวเย็นออกมาจากร่างกาย หลินหยุนทำได้แค่เพียงวิ่งไปหลบอยู่หลังหลินห้าวหราน ร่างกายของเขาราวกับโดนแช่แข็ง

” ไม่ว่าค่าจะมีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่ คนที่ตัดสินมีเพียงแค่ผู้อาวุโสเท่านั้น เมื่อถึงตอนนี้ข้าจะมาเอาคืนเจ้า หลินไห่! ” ใบหน้าของหลินห้าวหรานกลายเป็นมืดมน เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลินไห่จะกระทำเช่นนี้ มันเหมือนกับว่าไม่ใช่ตัวเขาในยามปกติ

” แต่เจ้าก็ยังคงต้องยอมรับ เพราะข้า หลินไห่ ยังคงเป็นผู้นำตระกูล สำหรับลูกชายของเจ้าที่กล้าสาปแช่งลูกชายข้าต่อหน้าข้า ข้าควรที่จะลงโทษเขาแบบไหนดี? “

หลินไห่ไม่ได้ถอยกลับ อากาศรอบด้านยังคงหนาวเย็นยิ่งขึ้น อุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง น้ำค้างแข็งสีขาวเริ่มก่อตัวขึ้น

” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงเป็นผู้นำตระกูลหลิน เขาถึงกลับสามารถปลดปล่อยออร่าที่น่าเกรงขามเช่นนี้ออกมาได้ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นฝ่ายที่กดดันลุงสามก่อน ” เห็นเช่นนั้นผู้คนต่างก็ยกย่องและเคารพหลินไห่จากใจจริง พวกเขาคิดว่าหลินไห่จะจัดการกับลุงหนึ่งและลุงสามในวันนี้

” หลินไห่ เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้าเช่นนั้นรึ! ” หลินห้าวหรานเตรียมตัว หลังจากกล่าวจบ คลื่นความร้อนพวยพุ่งขึ้นมาและเข้าปะทะกับความเย็น

” ท่านพ่อครอบครองจิตวิญญาณน้ำแข็งนั่นจึงทำให้เขาเป็นผู้ฝนตนที่ใช้ทักษะน้ำแข็ง แต่หลินห้าวหรานนั้นมีจิตวิญญาณแห่งไฟ ทักษะส่วนใหญ่จึงใช้ไฟเป็นหลัก น้ำเป็นนั้นเป็นปรปักษ์กับไฟ ไม่ว่าหลินห้าวหรานจะพยายามสักแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะชนะท่านพ่อได้ ชัยชนะในครั้งนี้เห็นได้ชัดแล้วว่าไม่ใช่ของมัน “

หลินเฟิงจ้องมองไปที่หลินป้าเต้าที่ยกมุมปากและยิ้มอย่างเย้ยหยันก่อนที่จะกล่าว ” น้องสอง การประชุมของตระกูลจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า คงไม่ใช่ว่าผู้นำตระกูลเช่นเจ้าจะไม่เห็นผู้อาวุโสอยู่ในสายตาแล้วกระมัง? “

ในตระกูลหลินผู้อาวุโสถือเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุด ตัวตนของพวกเขามีเพียงไว้สำหรับแต่ตั้งผู้นำคนต่อไป ดังนั้นหลินป้าเต้าจึงอ้างอำนาจของผู้อาวุโสในการกดดันหลินไห่และต้องผลักดันให้เขาลงจากตำแหน่ง

” หึ ” หลินไห่จ้องมองอย่างเหยียดหยามไปที่หลินห้าวหรานและถอนพลังปราณออกไปก่อนที่จะจากไปพร้อมกับหลินเฟิง หลินห้าวหรานรู้สึกถึงสายตาที่ดูถูกจากหลินไห่และประกายแววตาเย็นชาที่ปรากฏออกมา ครั้งนี้เจ้าลูกชายขยะของเจ้ายังนับว่าโชคดี แต่ครั้งหน้า มันจะไม่โชคดีเช่นนี้

ลูกชายคนโตของหลินห้าวหรานนามว่า หลินเหิง เป็นศิษย์ภายนอกที่โดดเด่นของนิกายหยุนไห่ ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่เขาจะได้ขึ้นเป็นศิษย์ภายใน แม้ว่าเขาจะได้เป็นศิษย์ใหม่ของศิษย์ภายใน แต่สถานะของเขาจะสูงขึ้น พ่อของเขาก็เช่นกัน ในตอนนั้นสถานะในตระกูลของเขาก็จะทะยานขึ้น มันจะอยู่ในจุดที่ว่าแม้แต่ตำแหน่งผู้นำตระกูลก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ในทางกลับกัน ลูกสาวของหลินป้าเต้าก็เป็นผู้ที่มากไปด้วยพรสวรรค์ นางเป็นศิษย์ภายในของนิกายห้าวเย่ อนาคตของนางทั้งสดใสและไร้ขีดจำกัด ในบรรดาพี่น้อง มีเพียงแค่ลูกชายของหลินไห่ผู้ที่มีพรสวรรค์ต่ำต้อยและเป็นที่รู้จักในฐานะขยะ นี่เป็นจุดอ่อนที่หลินป้าเต้าและหลินห้าวหรานเพ็งเล็งไว้ ตอนนี้้เหล่าผู้อาวุโสต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับพวกเขาและนี่เป็นสิ่งที่หลินไห่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้

สมาชิกตระกูลหลินราวๆ 4-500 คนมารวมตัวกันที่ลานของพื้นที่ส่วนกลาง มีแท่นหินสีเขียวตั้งอยู่ มีผู้ทรงอำนาจของตระกูลอยู่บนนั้น

” ผู้อาวุโส ไม่กี่วันมานี้ ได้มีผู้ทรงเกียรติจากนิกายหยุนไห่มาที่ตระกูลของเรา ในความเป็นจริง พวกเขาเพียงแค่พาเจ้าขยะในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตายกลับมาส่งที่ตระกูล นี่ถือเป็นการหักหน้าตระกูลของเราอย่างชัดเจน ดังนั้นข้าจึงอยากแนะนำให้ทำการขับไล่หลินเฟิงออกจากตระกูล เขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นคนในตระกูลของเราด้วยซ้ำ! ” หลินห้าวหรานยืนขึ้นและกล่าวโจมตีในทันที ขณะที่จ้องมองผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม

” ดี เจ้าพูดออกมาได้ตรงจุด แม้แต่ข้า ผู้นำตระกูลยังไม่ได้กล่าวอะไรออกไป แต่กลับเป็นเจ้าที่พูดก่อน กลับไปยังที่ของเจ้าซ่ะ!

” หลินไห่รู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลินห้าวหราน มันต้องการให้ผู้อื่นร่วมกันขับไล่หลินเฟิงและยึดตำแหน่งผู้นำตระกูล

” น้องรอง ที่เจ้ากล่าวมานั้นไม่ถูกต้อง แม้ว่าเจ้าจะเป็นถึงผู้นำตระกูลแต่อย่าลืมสิว่าน้องสามก็เป็นคนในตระกูลเช่นกัน ความคิดเห็นของเขาล้วนแต่มีไว้เพื่อตระกูล เจ้าขยะลูกชายของเจ้าทำให้ตระกูลของเราเสื่อมเสียและสมควรที่จะถูกขับไล่ ” หลินป้าเต้าใช้เสียงที่ดังและตั้งใจโจมตีหลินไห่โดยตรง

” ลูกของข้า ข้าจะลงโทษเขาด้วยตัวเอง อย่างไรมันก็เป็นคนในตระกูลและไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้ากล่าวหา หลินป้าเต้า ข้ารู้ว่าเจ้าหมายตาตำแหน่งของข้า เอาอย่างนี้? วันนี้เจ้ากับข้ามาประลองกันตัวต่อตัว ถ้าเจ้าชนะ ข้าและลูกชายจะออกจากตระกูล แต่ถ้าเจ้าแพ้… ก็เลิกพ่นวาจาไร้สาระเช่นนี้ซ่ะ! “

หลินไห่ยืนขึ้นแล้วเดินไปตรงกลางของเวทีพร้อมกับปลดปล่อยปราณที่น่าเกรงขามออกมากดดันหลินป้าเต้า แม้ว่าจะไม่ต้องการสู้ แต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
หลินเฟิงเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อพ่อของเขา ความก้าวราวทำให้คนอื่นเกรงกลัว มีเพียงความแข็งแกร่งที่แท้จริงเท่านั้นที่จะได้รับการยอมรับ เฉพาะผู้ที่มีอำนาจเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์พูด นอกจากนี้เขาต้องการให้คนอื่นหุบปากด้วยความแข็งแกร่งของเขา

” ข้ากลัวแต่ว่าเจ้าจะไม่มีคุณค่าพอ ” ความโกรธในใจของหลินป้าเต้าเพิ่มพูนขึ้น เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่หลินไห่พูด เขาเดินตรงไปประจันหน้ากับหลินไห่

ผู้อาวุโสทั้งหมดต่างตกอยู่ในความเงียบ ในความเป็นจริงพวกเขามีความสุขที่สถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้ หากว่าหลินไห่แพ้หลินป้าเต้าขึ้นมา พร้อมกับความจริงที่ว่าเขามีลูกที่เป็นขยะ คงเป็นเรื่องธรรมดาที่ตำแหน่งผู้นำตระกูลจะเปลี่ยนมือในวันนี้

” ข้าอยากจะรู้ว่าคนเช่นเจ้าจะหยิ่งผยองได้สักแค่ไหน ” หลินป้าเต้าหัวเราะอย่างเย้ยหยันแต่หลินไห่ไม่ได้ให้ความสนใจ ความหนาวเย็นเริ่มปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ผู้คนนับร้อยรู้สึกถึงความเย็นที่ทะลุผ่านร่างกายไปถึงกระดูก

นี่คือพลังของจิตวิญญาณน้ำแข็งของหลินไห่ เพียงแค่ปลดปล่อยมันออกมา พื้นที่รอบด้านจะถูกเปลี่ยนแปลงราวกับถูกแช่แข็ง

” เขตแดนเยือกแข็งนิรันดร์ ” หลินป้าเต้าต้องการที่จะปลดปล่อยจิตวิญญาณของตัวเองออกมา แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงของหลินไห่ คลื่นที่ทรงพลังถูกปลดปล่อยออกมาและมีหลินไห่เป็นจุดศูนย์กลาง ความหนาวเย็นปกคลุมไปทั่วและกระจายออกรอบด้าน แท่นหินทั้งหมดถูกปกคุมไปด้วยน้ำแข็งสีขาว ในขณะที่หลินป้าเต้าถูกทำให้เป็นประติมากรรมน้ำแข็ง

” ตูม! ” มีเสียงระเบิด น้ำแข็งแตกออก หลินป้าเต้าเหาะออกจากแท่นหินและกระอักเลือดออกมาจากปากก่อนที่จะล้มลงบนพื้น

ผู้อาวุโสทั้งหมดลุกขึ้นและตกตะลึงกับฉากที่ได้เห็นตรงหน้า หลินป้าเต้าถึงกลับพ้ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว

” เขตแดนเยือกกแข็งนิรันดร์ ทักษะเขตแดนเยือกแข็งของหลินไห่ได้บรรลุถึงขั้นที่ 8 แล้ว ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ” แววตาของผู้อาวุโสสูงสุดเปล่งประกาย หลินไห่ครอบครองจิตวิญญาณน้ำแข็งควบคู่กับทักษะเขตแดนเยือกแข็งที่ทรงพลัง เขาสามารถที่จะแช่แข็งหลินป้าเต้าได้ใรพริบตาทั้งยังเป็นการโจมตีให้ถึงตาย ถ้าหากช้ากว่านี้อีกเพียงครึ่งก้าว เกรงว่าการต่อสู้คงจะมีการสูญเสียเกิดขึ้น

ผู้คนในตระกูลหลินต่างมึนงง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นถึงความโดดเด่นของหลินไห่ เขาทรงพลังกว่ามากถ้าเทียบกับหลินป้าเต้า

หลินป้าเต้ากระอักเลือดออกมาและจ้องมองไปยังหลินไห่ด้วยความโกรธแค้น แม้ว่าหลินไห่จะไม่ได้ให้ความสนใจ เขาสามารถที่จะคาดเดาได้ว่าอาการบาดเจ็บของหลินเฟิงเกี่ยวข้องกับพี่น้องทั้ง 2 ของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ตั้งแต่ที่พวกมันต้องการทีจะสังหารหลินเฟิง เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเมตตามันอีก

” ผู้อาวุโส เชิญประชุมต่อ ” หลินไห่ยังไว้หน้าผู้อาวุโสก่อนที่จะกลับไปนั่งที่และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

” ฮ่าๆๆ หลินไห่ในฐานะผู้น้ำตระกูล การบ่มเพาะของเจ้าก้าวหน้าขึ้นและเจ้าได้กลายเป็นตัวอย่างที่ดี ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นแรงบันดาลใจใครกับคนในตระกูลให้พยายามมายิ่งขึ้น จุดประสงค์ของตระกูลบรรลุแล้ว ทุกคนแยกย้ายได้ ” ผู้อาวุโสสูงสุดยิ้มเล็กน้อย การดำเนินการประชุมต่อไม่มีความหมายอีกต่อไป

” ผู้อาวุโสสูงสุด ถ้าเช่นนั้น เชิญท่านก่อน ” หลินไห่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับหลินเฟิงและแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสสูงสุด

” หลินไห่ ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะปกป้องไอขยะเช่นนี้ไปได้สักเท่าไหร่ ” คำกล่าวของหลินห้าวหรานแฝงไปด้วยความเยือกเย็น เขารู้ว่าจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว

” ใช่แล้ว ขยะ ความอัปยศของตระกูล ” หลินหยุนรีบกล่าว แต่เมื่อเห็นดวงตาของหลินไห่เขาก็รีบหุบปากในทันที

” เสี่ยว เฟิง ไปกันเถอะ ” หลินไห่ไม่ต้องการเรื่องยุ่งยากไปมากกว่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟิงยังไม่ไป กลับกัน เขาหันหลังกลับไปและตรงไปที่หลินหยุน ฉากนี้ทำให้คนในตระกูลหลินสับสน เขาไม่รู้ว่าหลินเฟิงกำลังจะทำอะไร

หลินไห่มองไปที่ดูชายเขาด้วยความประหลาดใจ เพียงแค่เห็นหลินเฟิงเดินไปหน้าหลิงหยุนก่อนที่จะกล่าว ” หลินหยุน เจ้านั้นดูหมิ่นหาว่าข้านั้นเป็นขยะ ถ้าวันหนึ่งเจ้ารู้ว่าตัวเองนั้นอ่อนแอกว่าข้า อยากจะรู้นักว่าเจ้าจะทำเช่นไร ?”

” เจ้ากำลังฝันอยู่รึไง? ด้วยความสามารถขยะอย่างเจ้าจะมาเทียบกับข้า ? ” หลินหยุนไม่คิดว่าหลินเฟิงจะกล่าวเช่นนี้กับเขา ช่วยไม่ได้ที่จะเย้ยหยัน

แววตาของหลินเฟิงส่อประกายและหัวเราะอย่างเฉยเมยก่อนที่จะกล่าว ” หลินหยุน ข้า หยินเฟิง ขอท้าเจ้าประลองตัวต่อตัว! “





ที่มา :

https://www.thai-novel.com/นิยาย/นิยายแปลไทย/peerless-matial-god/

ความคิดเห็น

Facebook