ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Translate

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Advice โปรแรงส่งท้ายปี ลดทั้งเว็บสูงสุด 20% 19-25 ธันวา 16

peerless martial god ตอนที่ 2



peerless martial god ตอนที่ 2 การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง




“เสี่ยว เฟิง” เสียงดังมาจากชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ในลาน ชายคนนี้มีร่างที่แข็งแรงกำยำ และดูคล้ายกับหลินเฟิง
“ท่านพ่อ” เขาเป็นหัวหน้าของตระกูลหลิน และยังเป็นพ่อของหลินเฟิง เนื่องจากการหลอมรวมของจิตวิญญาณ ทำให้ตอนนี้หลินเฟิงมีจิตใจ และความรู้สึกของหลินเฟิงคนก่อน ดังนั้นเขาจึงเรียกเขาว่า พ่อ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

“เสี่ยว เฟิง…..เจ้า….หายแล้ว!” ใบหน้าของหลิน ไห่ เต็มไปด้วยความประหลาดใจ หลินเฟิงถูกพาตัวมากลับมายังตระกูลหลินด้วยสภาพที่ปางตาย และอยู่ในสภาพที่ไม่ได้รู้สึกตัว หลิน ไห่หมดหนทางที่จะช่วยหลิน เฟิง และเริ่มเตรียมพิธีฝังศพให้เขาแทน แต่ตอนนี้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ที่ได้เห็นลูกชายของเขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะไม่ดีใจได้อย่างไร?

“ใช่แล้ว ท่านพ่อ ข้าหายแล้ว“ หลิน เฟิง ยิ้มเมื่อเขาเห็นว่าหลิน ไห่ มีความสุขมาก มันทำให้เขารู้สึกถึงความอบอุ่น เมื่อปู่ของเขาเสียชีวิตในชีวิตที่แล้วของเขา เขาต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยว และไม่เคยรู้สึกถึงความอบอุ่นเช่นนี้มาก่อน

“เยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก” หลิน ไห่ ตบไหล่ของ หลิน เฟิง ทันใดนั้นแววตาของหลิน ไห่ ก็เป็นประกายเมื่อมองไปที่เสาหินที่กลายเป็นฝุ่น พี่น้องของเขากำลังรอจังหวะที่จะเสียบที่นั่งหัวหน้าตระกูล คนพวกนั้นมันจะต้องผิดหวังมากแน่ๆ ที่รู้ว่าหลิน เฟิง ฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้

จู่ๆ หลิน ไห่ ก็แผ่คลื่นพลังที่หนาวเย็นออกมา ทำให้หลิน เฟิง รู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังถูกแช่แข็ง

“ท่านพ่อเป็นนักสู้ขั้นจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก เพียงแค่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาของเขาก็สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของคนที่อ่อนแอกว่าเขาได้” หลิน เฟิง คิดในใจ ในเส้นทางแห่งการต่อสู้ ขั้นแรก ขอบเขตพลังปราณ มันจะค่อยๆดูดซับพลังของโลก และสวรรค์เข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ และแปรเปลี่ยนให้เป็นพลังที่บริสุทธิ์ และการฝึกฝนจิตวิญญาณก็จะสามารถสร้างพลังปราณได้ หลังจากนั้นก็จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณ ในขอบเขตจิตวิญญาณนั้นจะฝึกฝนทักษะต่อสู้ เมื่อชำนาญทักษะต่อสู้แล้ว เพียงแค่กระบวนท่าเดียวก็สามารถฆ่าคนได้ และหลิน ไห่ เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญในขั้นจิตวิญญาณ

“เสี่ยว เฟิง ใครเป็นคนทำลายเสาหินพวกนี้?” ใบหน้าของหลิน ไห่ รู้สึกหดหู่ เมื่อตอนที่หลิน เฟิงถูกส่งตัวกลับมา เขาก็ปางตายแล้ว สิ่งนี้พิสูจน์ได้ว่าศัตรูของหลิน เฟิง ต้องการชีวิตของหลิน เฟิง จริงๆ และมันเป็นความจริงที่ฝ่ายตรงข้ามมันต้องการชีวิตของ หลิน เฟิง

“ท่านพ่อ ขอให้ลูกจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง” หลิน เฟิง ไม่ได้บอก หลิน ไห่ ว่าที่เขาได้รับบาดเจ็บเป็นเพราะลูกชายของลุงสาม ในตระกูลหลิน ลุงสาม และ ลุงหนึ่ง มักจะร่วมมือกันเพื่อหวังเก้าอี้ผู้นำตระกูล ในความเป็นจริงในแง่ของความแข็งแกร่ง และอิทธิพลของพวกเขา ก็ไม่ได้ด้อยกว่าหลิน ไห่ มากนัก แต่หลิน ไห่ นั้นเป็นคนที่มีพรสวรรค์ และศิษย์ที่โดดเด่นของสำหนักหยุนไห่ นี่ คือ เหตุผลที่ทำไมหลิน เหิงถึงไม่กล้าที่จะทำร้ายหลิน เฟิงโดยตรง

ความเกลียดชังนี้ หลินเฟิง ต้องการที่จะชำระมันด้วยเขาเอง หนทางแห่งการต่อสู้มันจะไม่ยอมให้ผู้ฝึกรู้สึกเศร้าเสียใจใดๆ มิฉะนั้นมันจะเป็นอุปสรรคต่อการฝึกฝนของนักสู้

หลิน ไห่ รู้สึกแปลกใจที่เห็นสายตาที่แน่วแน่ และเด็ดเดี่ยว ของลูกชายเขา หลิน เฟิง ไม่ได้แสดงความอ่อนแอ และความน่าสังเวชออกมาแต่อย่างใด ทำให้หลิน ไห่ รู้สึกพอใจอย่างมาก และพยักหน้าให้หลิน เฟิง “หลิน เฟิงพรุ่งนี้เจ้าไปร่วมการประชุมภายในตระกูลกับข้า ข้าจะดูว่าพวกมันจะกล้าไล่ข้าออกจากตำแหน่งหัวหน้าตระกูลหรือไม่”

ในกลางดึก, ในป่าไผ่สีม่วงของตระกูลหลิน

หลิน เฟิง กำลังนั่งสมาธิอยู่บนพื้น ข้างหลังของเขาเป็นจิตวิญญาณเงามืด เงามืดนี้มันเกือบจะหายไปในความมืดอย่างสมบูรณ์

ในขณะที่กำลังฝึกฝน , หลิน เฟิง ค้นพบว่าเมื่อเขาใช้จิตวิญญาณแห่งความมืดของเขาความเร็วในการฝึกฝนของเขาก็เร็วขึ้น 5 เท่า ดังนั้นหลิน เฟิง จึงต้องผลักดันตัวเอง และเมิดเฉยต่อความเมื่อยล้าทางจิตที่เพิ่มขึ้น เมื่อใช้จิตวิญญาณแห่งความมืดระหว่างการฝึกฝน เนื่องจากพระเจ้าได้มอบโอกาสครั้งที่ 2 แก่เขา เขาจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้ให้ได้ ในทวีปนี้มีเพียงคนที่เเข็งแกร่งเท่านั้นที่ได้รับความเคารนับถือ จากผู้คน และสามารถทำอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ

รอบๆตัวของหลิน เฟิง ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีม่วงอ่อนที่ส่องสว่างในความมืด แสงนี้จะปรากฏก็ต่อเมื่อพลังของโลก และสวรรค์ได้ถูกควบแน่นในระดับหนึ่งแล้ว

ผู้มีพรสวรรค์ในขณะที่ฝึกฝนจะโอกาสที่จะควบแน่นพลังของโลก และสวรรค์ มันจะมารวมตัวรอบๆตัวของพวกเขา หลิน เฟิงก็อยู่ในสถานะนั้น

ตอนนี้ หลิน เฟิงหายใจอย่างสม่ำเสมอ และสงบเงียบ พลังของสวรรค์ และโลก กำลังไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา และหลอมรวมเข้ากับเลือดของเขา ทำให้กระดูก และร่างของเขาแข็งแกร่งขึ้น

หลังจากเวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน หลิน เฟิงก็ดูดกลืนพลังของโลก และสวรรค์เสร็จ หลิน เฟิง ลืมตาขึ้นอีกครั้ง แสงสว่างแวววับก็ผ่านตาของเขาไป หลิน เฟิง ยืนขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม เขาสามารถก้าวข้าวไปยังขั้นถัดไปเพียงค่ำคืนเดียว ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นที่ 6 ของขอบเขตพลังปราณแล้ว

แต่หลิน เฟิงยังรู้สึกไม่พอใจกับผลลัพธ์มากนัก จากความทรงจำของเขา เขารู้ว่าขั้นที่ 9 ของพลังปราณเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของหนทางแห่งการต่อสู้ ผู้เชี่ยวชาญแห่งการต่อสู้ที่แท้จริงสามารถบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และเดินทางไปยังสรวงสวรรค์ได้ ในชีวิตที่แล้วของเขา การกระทำเช่นนั้นเป็นดั่ง พระเจ้า

เมื่อคิดเรื่องนี้ หลิน เฟิง เขาก็เริ่มกำหมัด และปลดปล่อยพลังออกมา คลื่นพลังได้ทำให้ต้นไผ่รอบๆระเบิด
ขอบเขตพลังปราณแบ่งออกเป็น 9 ขั้น ในแต่ละขั้นจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้ผู้ฝึกฝน 1,000จิน ตอนนี้หลิน เฟิง อยู่ในขั้นที่ 6 และมีพลัง 6,000 จิน และถ้าเขาใช้ทักษะต่อสู้ “เก้าคลื่นทลายสวรรค์”เขาสามารถใช้ได้หกคลื่นแล้ว เขาสามารถที่จะปลดปล่อยพลังออกมาได้ 6,500จินได้ อย่างไรก็ตามมันก็ยังไม่เพียงพอสำหรับหลิน เฟิง ถ้าเขาสามารถฝึกจนถึงคลื่นขั้นที่เจ็ดได้ เขาก็จะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้ถึง 7,000 จิน ซึ่งมันเทียบเท่าได้กับพลังของนักสู้ที่อยู่ในขั้นที่ 7 ของพลังปราณ

ภายใต้พลังที่มากกว่า 6000 จินของหลินเฟิง ทำป่าไผ่สีม่วงถูกทำลายอย่างง่ายดาย และเปลี่ยนพื้นที่ทั้งหมดให้กลายเป็นดั่งมหาสมุทร และเหลือเพียงแค่เขาที่ยืนอยู่ และพลังของคลื่นก็เริ่มช้าลง ช้าลง

“ทักษะเก้าคลื่นทลายสวรรค์ ถูกสร้างโดยใช้คลื่นของมหาสมุทรเป็นแบบอย่าง คลื่นลูกใหม่จะมีพลังมากกว่าคลื่นก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามไม่ว่ามันจะมีความแข็งแกร่งขนาดไหน มันก็ต้องมีความอ่อนโยน มันเป็นเพราะ ความแข็งแกร่ง และ ความอ่อนโยน หลอมรวมเข้าด้วยกันจึงเกิดเป็นพลัง ”

หลิน เฟิง ตะโกน ขณะปล่อยหมัดออกไปอีกครั้ง

“ตู้ม, ตู้ม, ตู้ม….”

มีเสียงระเบิดดัวออกมา 6 ครั้ง , 7 ครั้ง ……. 8 ครั้ง

ต้นไผ่สีม่วงเมื่อมันโดนคลื่นพลังปราณทำให้มันกลายเป็นฝุ่นทันที


“แปดคลื่น…….” หลินเฟิงดึงหมัดของเขากลับมา และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่มองพื้นที่ที่ว่างเปล่าที่อยู่ตรงหน้าเขา หลินเฟิงก็เริ่มเข้าใจทักษะ“เก้าคลื่นทลายสวรรค์” มากขึ้น เขาสามารถพัฒนาได้ถึง 2 ขั้น และสามารถใช้ได้ แปดคลื่น แล้ว หลิง เฟิงรู้ว่าทักษะมันจะฝึกฝนได้ยากยิ่งขึ้นเมื่อยู่ในขั้นสูงๆ สำหรับคนที่อยู่ในพลังปราณขั้นที่ 5 มันจะเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับพวกเขาที่จะทำความเข้าใจในการบรรลุคลื่นขั้นที่ 5 ของเก้าคลื่นทลายสวรรค์ แต่คนที่อยู่ในขอบเขตพลังปราณขั้นที่ 8 อาจจะไม่สามารถทำความเข้าใจขั้นที่ 8 ของเก้าคลื่นทลายสวรรค์ได้ แต่หลิน เฟิง สามารถทำความเข้าใจได้

“ตอนนี้ข้าควรจะมีพลังเท่ากับ 7500 จิน และตราบใดที่ข้าเข้าใจแนวคิดของการผสมผสานระหว่าง ความแข็งแกร่ง และ ความอ่อนโยน เข้าด้วยกันได้ นั่นหมายความว่าข้าก็จะบรรลุ ทักษะ “เก้าคลื่นทลายสวรรค์” ได้อย่างสมบูรณ์” หัวใจของหลิน เฟิง เต็มไปด้วยความพอใจ ทักษะต่อสู้มันจะฝึกฝนได้อย่างยากมาก ในช่วงหลังๆ แต่พลังของทักษะมันจะแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า ตอนนี้เขามีพลังเท่ากับ 7500 จินแล้ว แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับนักสู้ที่อยู่ในขั้นที่ 7 ของพลังปราณ เขาก็สามารถเป็นคู่มือให้กับมันได้

หลินเฟิงคนก่อน ถูกผู้คนดูถูก เพราะเขาไม่สามารถชนะนักสู้ที่อยู่ในขั้นที่ 5 ขอบเขตพลังปราณ แต่ตอนนี้หลิน เฟิงนั้น แม้ว่าเขาพึ่งจะมาโลกแห่งนี้เพียงแค่ 1 วัน เขาได้ปรับปรุงตัวเอง และตอนนี้ก็ได้มีพลังเทียบเท่ากับนักสู้ที่อยู่ในขั้นที่ 7 ของพลังปราณ



ที่มา : 

https://www.thai-novel.com/นิยาย/นิยายแปลไทย/peerless-matial-god/

ความคิดเห็น

Facebook