ตอนที่ 179 ไม่กลัวตาย
“Sound attack.”
"เสียงนั้นได้โจมตีเข้ามา"
Lin Feng’s soul was shaking. Lin Feng was still holding his sword, but it seemed unable to move further.
วิญญาณของ หลินเฟิง กำลังสั่งไหว หลินเฟิง ที่ตอนนี้กำลังถือดาบอยู่ในมือ ไม่สามารถ
เคลื่อนไหวได้อีกต่อไป
Besides, under the pressure of that potent sound attack, Lin Feng was unable to move his body for a brief moment. How could such a fusion of deadly energy be stopped so easily?
นอกจากนี้ภายใต้แรงกดดันของการโจมตีด้วยเสียงที่ทรงพลังนั้น หลินเฟิง ไม่สามารถขยับร่างกายได้ชั่วขณะ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการหลอมรวมพลังแห่งความตายจะถูกหยุดลงอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?
Lin Feng’s opponent Hei Mo, could use a trick to gain the strength of the seventh Qi layer. He was extremely powerful, but he could not stop that attack.
ฝ่ายตรงข้ามของ หลินเฟิง คือ เฮยหม่า ที่สามารถใช้เคล็ดวิชาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระดับจิตวิญญาณชั้นที่ 7 เขานั้นเปี่ยมล้นไปด้วยพลังอย่างมากมาย แต่เขาไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีนี้ได้
“ตายซะ”
The black lines on Hei Mo’s body started swirling in an insane way. His body released a terrifying deadly Qi.
เส้นสีดำบนตัวของ เฮยหม่า เริ่มหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายของเขาได้ปลดปล่อยพลัง
พลังปราณแห่งความตายที่หน้าหวาดกลัวออกมา
“BOOOM!” Fluffy has exploded!!
"ตู้ม !" เกิดเป็นแรงระเบิดขึ้นเล็กน้อย
The entire atmosphere vibrated. Lin Feng’s sword penetrated into Hei Mo’s body, but left only a faint trace of blood. Then Lin Feng’s body was blown away by Hei Mo’s brutal attack.
เกิดแรงสั่นสะเทือนปกคลุมบรรยากาศโดยรอบ ดาบของ หลินเฟิง แทงทะลุเข้าไปในร่างของ
เฮยหม่า แต่กลับทิ้งไว้แค่เพียงรอยคราบเลือดเท่านั้น จากนั้นร่างของ หลินเฟิง ถูก เฮยหม่า
โจมตีสวนกลับอย่างเหี้ยมโหด แล้วกระเด็นลอยไป
The noise of Lin Feng’s body falling onto the ground spread in the air. Blood was flowing from the corner of his mouth.
เสียงร่าง หลินเฟิง หล่นลงมากระแทกพื้นอย่างจังดังขึ้น มีเลือดไหลลงจากมุมปากของเขา
A deathly stillness filled the atmosphere. Had Lin Feng lost that battle after all?
บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบ หลินเฟิง แพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้อย่างนั้นรึ?
Wasn’t Lin Feng stronger than Hei Mo? Of course, it wasn’t the case. He was, at least, as strong as Hei Mo. Lin Feng’s sword had nearly killed Hei Mo. If Yu Qiu hadn’t shouted like that, Hei Mo would have already been dead. Just like Lin Feng had pointed out, Hei Mo had lost his courage and was hesitant, he wasn’t as determined as before. All of these things meant that Hei Mo had already lost before the battle even began.
หลินเฟิง ไม่ได้แข็งแกร่งกว่า เฮยหม่า รึ? แน่นอนว่ามันไม่ใช่แบบนั้น ความแข็งแกร่งของเขา
นั้นพอๆกับเฮยหม่า ดาบของ หลินเฟิง นั้นเกือบจะฆ่า เฮยหม่าได้แล้ว ถ้า หยูเชียว ไม่ตะโกน
แบบนั้นออกมาเสียก่อน เฮยหม่า ก็คงตายไปแล้ว อย่างที่ หลินเฟิง ได้กล่าวไว้ เฮยหม่า ได้
สูญเสียความกล้าของเขาไปและเกิดความลังเลขึ้น เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
Hei Mo was much weaker than Lin Feng.
เฮยหม่านั้นอ่อนแอกว่า หลินเฟิง
However, Yu Qiu got involved and had influenced that battle. What happened was unfair, but who would dare blame Yu Qiu?
อย่างไรก็ตาม หยูเชี่ยว มีส่วนที่ทำให้ผลการต่อสู้ออกมาเป็นแบบนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น มันไม่
ยุติธรรมเลย แต่ใครจะกล้าโทษ หยูเชี่ยวได้เล่า ?
If somebody dared offend him and the Yu Clan, even if it was the Celestial Academy, he would destroy them, and even worse if it was a mere student of the Celestial Academy.
ถ้าใครมีเรื่องบาดหมางกับเขาและตระกูลหยู แม้จะเป็นสถาบันสำนักสวรรค์ ก็จะถูกถอนราก
ถอนโคลนโดยตระกูลหยู แล้วจะแย่ลงไปอีกถ้าหากผู้ที่ทำร้ายเขาคือนักเรียนของสถาบัน
สำนักสวรรค์
Lin Feng who was on the ground raised his head and looked at Yu Qiu, who was sat on the viewing platform. His eyes were filled with endless hatred.
หลินเฟิง ที่นอนกองกับพื้นแหงนหน้าขึ้นไปมอง หยูเชี่ยว ที่นั่งอยู่บนที่นั่งคนดู ดวงตาของ
เขาก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“Truly shameless.” Lin Feng was looking at Yu Qiu with endless killing intent, but he knew that he was nothing in comparison with Yu Qiu. If he dared to try and kill him, he would just bring about his own destruction.
"ช่างไร้ยางอายจริงๆ" หลินเฟิง มองไปทื่ หยูเชี่ยว ด้วยจิตใจมุ่งร้ายอยากฆ่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แต่เขารู้ว่าตัวเองเทียบกับ หยูเชี่ยวไม่ได้ ถ้าพยายามฆ่าเขาเท่ากับเขานั้นทำลายตัวเอง
In that world, only those who were extremely strong were respected. Honor and integrity didn’t count for anything. If someone was strong, then nobody would dare to contradict them.
ในโลกนี้ มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงได้รับความเคารพ ชื่อเสียงและความซื่อสัตย์นั้นมิใช้ทุกอย่าง ถ้ามีคนที่แข็งแกร่งกว่าตน ก็จะไม่มีใครกล้าโต้แย้ง
Meng Qing’s body disappeared. She quickly moved next to Lin Feng and helped Lin Feng to stand up. Her beautiful face was filled with coldness.
ร่างของ เมิ่งชิง หายไป นางรีบเข้าไปหา หลินเฟิง อย่างรวดเร็ว และช่วยพยุง หลินเฟิง ขึ้น
ใบหน้าที่สวยงามของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา
“How are you?” She asked.
"เจ้าเป็นไงบ้าง" เมิ้งชิง ถาม
“I’m alright.” Lin Feng wiped off the blood from the corner of his mouth. He looked extremely proud. He was standing perfectly straight.
"ข้าไม่เป็นไร" หลินเฟิง เช็ดเลือดออกจากมุมปาก เขาดูมั่นใจแล้วยืนขึ้นตรงๆ
“What a proud young man.” thought the crowd while looking at Lin Feng. Their hearts were filled with admiration for him.
"ทำไมหนุ่มน้อยคนนี้ดูมั่นใจเหลือเกิน"เสียงตะโกนจากฝูงชนดั่งขึ้นขณะมองไปที่ หลินเฟิง
หัวใจของพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความชื่นชมในตัว หลินเฟิง
Lin Feng had surprised them throughout the whole battle. Hei Mo, one of the top ten students of the Celestial Academy, had to use all his strength against Lin Feng who was at the fifth Ling Qi layer. He even had to rely on the power of his black lotus to possess the strength of the seventh Ling Qi layer. Besides, at the moment when Meng Qing had wanted to help Lin Feng. He had refused and had said the outcome of the battle for him would be victory or death.
หลินเฟิง ได้สร้างความประหลาดใจให้กับพวกเขาตลอดการต่อสู้ครั้งนี้เฮยหม่า ที่เป็น นักเรียน
อันดับหนึ่งในสิบของสถาบันสำนักสวรรค์ ต้องใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มีกับ หลินเฟิง ที่
อยู่ระดับชั้นจิตวิญญาณขั้นที่ห้า เขาต้องพึ่งพาพลังของดอกบัวทมิฬเพื่อรักษาระดับความ
แข็งแกร่งระดับจิตวิญญาณขั้นที่เจ็ดเอาไว้ นอกจากนี้ในขณะที่ เมิ้งชิง ต้องการช่วยเหลือ
หลินเฟิง เขาได้ปฏิเสธนางแล้วพูดว่าผลของการต่อสู้ครั้งนี้สำหรับข้านั้นถ้าไม่ชนะก็ต้อง
ตาย
Immediately, when the entire crowd thought that he had already lost the battle, Lin Feng had broken through to the sixth Ling Qi layer. Then, he released an attack which should have killed Hei Mo, but Yu Qiu interrupted him. But thanks to his strength and determination, Lin Feng had gained everybody’s esteem and admiration.
ทันใดนั้น ผู้ชมต่างก็คิดกันไปว่าเขานั้นพ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว หลินเฟิง ที่ตัดผ่าน
ระดับจิตวิญญาณขั้นที่หก จากนั้นเขาได้ปล่อยการโจมตีที่ควรจะฆ่า เฮยหม่า ได้ แต่หยูเชี่ยว
ได้ขัดจังหวะเขา และด้วยความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นของ หลินเฟิง จึงได้รับการยกย่อง
จากทุกคน
Even in critical conditions, Lin Feng was still standing perfectly straight.
แม้แต่ในสถานะการณ์คอขาดบาดตายเช่นนี้ หลินเฟิง ก็ยังคงยืนตรงอย่างสมบูรณ์แบบ
Hei Mo was looking at Lin Feng. He looked perplexed. He didn’t look arrogant and proud anymore.
เฮยหม่า มองไปที่ หลินเฟิง เขาดูสับสน เขาไม่ได้ดูภูมิใจและหยิ่งยโสอีกต่อไป
It was very clear to him that he had lost the battle. If Yu Qiu hadn’t been there a moment ago, Lin Feng’s sword would have pierced through his heart and killed him.
เห็นได้ชัดว่าเขานั้นแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ ถ้าหยูเชี่ยวไม่ยื่นมือเข้ามาละก็ ดาบของ หลินเฟิง
คงแทงทะลุขั้วหัวใจและฆ่าเขาไปแล้ว
But Lin Feng wasn’t looking at him, instead, he was staring at Yu Qiu as if Hei Mo wasn’t there anymore. Hei Mo felt ridiculous.
แต่ หลินเฟิง นั้นไม่ได้มองเขา แต่หันไปมอง หยูเชี่ยวแทน ราวกับว่า เฮยหม่า ไม่ได้อยู่ตรง
นั้น เฮยหม่า รู้สึกว่ามันช่างไร้สาระสิ้นดี
The atmosphere was filled with deathly silence. It was very oppressive for everybody. Everybody felt uncomfortable.
บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ ทุกคนต่างรู้สึกกดดันและอึดอัด
At that moment, a faint laughter broke the silence. The second prince, while looking at the fighting stage, said: “You are both extremely strong, no matter who, you are both students of the academy, if one of you died, it would be a great loss for the Celestial Academy and even for our country. Let’s put an end to the battle now.”
จากนั้นมีเสียงหัวเราะดังขึ้นทำลายความเงียบลงไป องค์ชายสอง มองไปที่เวทีประลอง แล้ว
กล่าวว่า "เจ้าทั้งสองคนนั้นแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าใคร ถ้าพวกเจ้าทั้งสองที่เป็นศิษย์ของสถาบัน
คนใดคนหนึ่งตายไป มันจะเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่แก่สถาบันสำนักสวรรค์และแคว้นของ
พวกเรา ข้าขอให้จบการต่อสู้เพียงเท่านี้"
กล่าวว่า "เจ้าทั้งสองคนนั้นแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าใคร ถ้าพวกเจ้าทั้งสองที่เป็นศิษย์ของสถาบัน
คนใดคนหนึ่งตายไป มันจะเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่แก่สถาบันสำนักสวรรค์และแคว้นของ
พวกเรา ข้าขอให้จบการต่อสู้เพียงเท่านี้"
Duan Wu Ya wanted to put an end to the battle but hadn’t blamed Yu Qiu for having intervened. It seemed that, no matter what the situation was, it was impossible to guess what the second prince really thought.
ต้วนหวูอยา ต้องการยุติการต่อสู้ลง แต่ก็ไม่ได้ตำหนิหยูเชี่ยวที่ได้เข้ามาแทรกแซง ดูเหมือนว่า
ไม่ว่าสถานะการณ์จะเป็นเช่นไร ก็ไม่มีใครคาดเดาในสิ่งที่องค์ชายสองคิดได้อย่างแท้จริง
ไม่ว่าสถานะการณ์จะเป็นเช่นไร ก็ไม่มีใครคาดเดาในสิ่งที่องค์ชายสองคิดได้อย่างแท้จริง
Long Ding looked at Duan Wu Ya as if he was surprised. He then immediately looked at the Yu Clan and the Nie Clan. As if the situation had suddenly become clear, he nodded and said: “Alright, that’s the end of the battle.”
รองผู้อำนวยการหลงติง มองไปที่ ต้วนหวูหยา เขารู้สึกประหลาดใจจากนั้นก็มองไปที่ตระกูล
หยูทันทีตามด้วยตระกูลเนี้ย แล้วทันใดนั้นสถานะการณ์ได้ถูกคลี่คลายลง เขาพยักหน้า แล้ว
กล่าวว่า : " เอาละ ยุติการต่อสู้ได้ "
หยูทันทีตามด้วยตระกูลเนี้ย แล้วทันใดนั้นสถานะการณ์ได้ถูกคลี่คลายลง เขาพยักหน้า แล้ว
กล่าวว่า : " เอาละ ยุติการต่อสู้ได้ "
The Nie Clan didn’t say anything. It wasn’t such a bad idea to stop at that point. After all, Hei Mo’s victory wouldn’t have been very honorable after all. If he had killed Lin Feng, people would have despised Hei Mo for his behavior.
ตระกูลเนี่ยไม่มีใครกล่าวสิ่งใด มันไม่ใช่ความคิดที่ดีนักที่จะกล่าวอะไรออกไปในขณะนี้
หลังจบการต่อสู้ แม้ว่าเฮยหม่า จะเป็นผู้ชนะแต่มันก็ไม่ได้เป็นชัยชนะที่สมศักดิ์ศรี ถ้าเขา
ฆ่าหลินเฟิง ผู้คนจะดูถูกดูแคลนเขาได้สำหรับพฤติกรรมเช่นนั่น
หลังจบการต่อสู้ แม้ว่าเฮยหม่า จะเป็นผู้ชนะแต่มันก็ไม่ได้เป็นชัยชนะที่สมศักดิ์ศรี ถ้าเขา
ฆ่าหลินเฟิง ผู้คนจะดูถูกดูแคลนเขาได้สำหรับพฤติกรรมเช่นนั่น
“Hehe, how could a battle to death finish before the end result? The disciples of the Celestial Academy usually aren’t such cowards?” said Yu Qiu indifferently while smiling at Long Ding. The crowd was stupefied. He wanted Lin Feng to die.
ฮ่าๆๆ ,การต่อสู้ที่เอาชีวิตเป็นเดิมพันต้องมาจบก่อนจะรู้ผลเช่นนั้นรึ? ศิษย์ของสถาบันสำนัก
สวรรค์ไม่น่าจะเป็นพวกขิขลาดนินา? หยูเชี่ยว กล่าวในขณะที่ยิ้มอย่างไม่แยแสไปทาง
รองอาจารย์ใหญ่หลงติง ผู้คนต่างมึนงง เขานั้นต้องการให้ หลินเฟิง ตาย
สวรรค์ไม่น่าจะเป็นพวกขิขลาดนินา? หยูเชี่ยว กล่าวในขณะที่ยิ้มอย่างไม่แยแสไปทาง
รองอาจารย์ใหญ่หลงติง ผู้คนต่างมึนงง เขานั้นต้องการให้ หลินเฟิง ตาย
Besides, he had said on purpose that the disciples of the Celestial Academy weren’t cowards. He wanted to make Long Ding angry. What an evil man.
นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่าลูกศิษย์ของสถาบันสำนักสวรรค์นั้นไม่ได้เป็นพวกขี้ขลาด เขา
ต้องการทำให้ หลงติง โกรธ ช่างเป็นคนที่ชั่วร้ายอะไรเช่นนี้
ต้องการทำให้ หลงติง โกรธ ช่างเป็นคนที่ชั่วร้ายอะไรเช่นนี้
Lin Feng had offended him so Yu Qiu was going to do anything to try and create difficulties for Lin Feng. He wanted Lin Feng to die and didn’t care about making His Highness the crown prince lose face because of it.
หลินเฟิง รู้สึกรังเกียจ หยูเชี่ยวอย่างมาก หยูเชี่ยวถึงได้ทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างความยากลำบาก
ให้กับ หลินเฟิง เขาอยากให้ หลินเฟิง ตายและไม่สนใจว่าจะทำให้องค์ชายสองเสียหน้า
ให้กับ หลินเฟิง เขาอยากให้ หลินเฟิง ตายและไม่สนใจว่าจะทำให้องค์ชายสองเสียหน้า
Yu Qiu was a member of the Yu Clan, he was obviously arrogant.
หยูเชี่ยว เป็นสมาชิกของตระกูลหยู ถึงได้ทำตัวเย่อหยิ่งเช่นนี้
่
่
Long Ding was staring at Yu Qiu. He wanted to say something, but didn’t open his mouth. He only heard the sound of a cold and detached voice.
หลงติง มองไปที่หยูเชี่ยว เขาต้องการจะพูดบางอย่าง แต่ปากของเขานั้นไม่ขยับ เขาทำได้
เพียงส่งเสียงที่เย็นชาออกมาเท่านั้น
เพียงส่งเสียงที่เย็นชาออกมาเท่านั้น
“Of course! The people of the Celestial Academy are not cowards, unlike the members of the Yu Clan.”
ใช่แล้ว ! สถาบันสำนักสวรรค์นั้นไม่ได้ขี้ขลาด,ไม่เหมือนกับตระกูลหยูหรอก
The person who had said these words was obviously Lin Feng. He fixedly stared at Yu Qiu. He sounded cold and indifferent which gave everyone the impression that he was insane. He surprisingly still dared to insult Yu Qiu. Could it be that he really wanted to die?
คำพูดเหล่านี้แน่นอนว่าเป็น หลินเฟิง ที่กล่าวออกไป เขาจ้องไปที่หยูเชี่ยว น้ำเสียงเขานั้น
แสนเย็นชาซึ่งทำให้ทุกคนนั้นประทับใจในความบ้าคลั่งของเขา เขาได้สร้างความประหลาด
ใจอีกครั้งโดยการดูถูกหยูเชี่ยว หรือว่าอันที่จริงแล้วเขารนหาที่ตายกัน?
แสนเย็นชาซึ่งทำให้ทุกคนนั้นประทับใจในความบ้าคลั่งของเขา เขาได้สร้างความประหลาด
ใจอีกครั้งโดยการดูถูกหยูเชี่ยว หรือว่าอันที่จริงแล้วเขารนหาที่ตายกัน?
They didn’t think about the fact that Yu Qiu already wanted Lin Feng’s life. Even if Lin Feng provoked and offended him again, it didn’t matter much anymore.
ฝูงชนไม่สงสัยความจริงที่ว่าหยูเชี่ยวนั้นต้องการเอาชีวิตของ หลินเฟิง แม้ว่า หลินเฟิง จะพูด
จายั่วยุเขาอีกครั้งก็ตาม มันก็ไม่ได้สำคัญอีกต่อไปแล้ว
จายั่วยุเขาอีกครั้งก็ตาม มันก็ไม่ได้สำคัญอีกต่อไปแล้ว
“Even dead people dare to say such crazy things.” Yu Qiu’s pupils slightly shrank revealing murderous intentions. He looked at Lin Feng and said: “When did my clan, the Yu Clan, ever contain cowards? What gives you the right to talk this way?”
"มีแต่คนอยากตายเท่านั้นแหละที่กล้าพูดจาบ้างคลั่งเช่นนี้" ตาของหยูเชี่ยวหลี่ลงเล็กน้อย
ซึ่งแสดงเจตนาฆ่าในดวงตาของเขาออกมาอย่างชัดเจน เขามองไปที่ หลินเฟิง แล้วกล่าวว่า
ตระกูลของข้ามีคนขี้ขลาดที่ไหนกันเล่า? เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงได้พูดจาเช่นนี้ ?
ซึ่งแสดงเจตนาฆ่าในดวงตาของเขาออกมาอย่างชัดเจน เขามองไปที่ หลินเฟิง แล้วกล่าวว่า
ตระกูลของข้ามีคนขี้ขลาดที่ไหนกันเล่า? เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงได้พูดจาเช่นนี้ ?
“I don’t have the right to talk that way?” Lin Feng smiled coldly, walked forwards and said: “I want to ask you though, how strong is the Yu Clan? …and its young members, how strong are they?”
"ข้าไม่มีสิทธิ์พูดงั้นรึ? " หลินเฟิง ยิ้มอย่างเย็นชา , ขณะที่ก้าวเดินไปข้างหน้าแล้วกล่าวว่า
"ข้าอยากถามเจ้าว่า ตระกูลหยูนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนกันเชียว?"...และเด็กๆในตระกูลของ
เจ้านั้นแข็งแกร่งงั้นรึ?
"ข้าอยากถามเจ้าว่า ตระกูลหยูนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนกันเชียว?"...และเด็กๆในตระกูลของ
เจ้านั้นแข็งแกร่งงั้นรึ?
“The Yu Clan frightens everyone in the Imperial City. It can easily annihilate the Celestial Academy… and you ask me how strong we are?” sneered Yu Qiu before adding: “Besides, concerning the young generation, they are, of course, all giants amongst men. They are extremely strong.”
ตระกูลหยูนั้น เป็นที่น่าหวาดกลัวต่อผู้คนในเมืองจักรพรรดิ์ แค่ถอนรากถอนโคลนสถาบันสำนักสวรรค์นั้นช่างง่ายดายยิ่งนัก...และเจ้ายังถามถึงความแข็งแกร่งของพวกเราอีกงั้นรึ?
หยูเชี่ยวยิ้มแล้วกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ลูกหลานตระกูลหยูทุกคนนั้น แน่นอนว่าพวกเขานั้น
ก็เหมือนกับยักษ์ในหมู่มนุษย์ทั้งมวล พวกเขาล้วนแต่แข็งแกร่งกันทั้งนั้น
หยูเชี่ยวยิ้มแล้วกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ลูกหลานตระกูลหยูทุกคนนั้น แน่นอนว่าพวกเขานั้น
ก็เหมือนกับยักษ์ในหมู่มนุษย์ทั้งมวล พวกเขาล้วนแต่แข็งแกร่งกันทั้งนั้น
“Giants amongst men? You’re really shameless! I didn’t know a bunch of scum could be considered as giants amongst men.”
"ยักษ์ในหมู่มวลมนุษ์งั้นรึ?"เจ้านี่ช่างหน้าไม่อายเสียจริง! ข้าว่าเป็นเศษสวะในหมู่ผู้คน
มากกว่า"
While talking, Lin Feng was smiling coldly. Yu Qiu was even more furious. Lin Feng ignored his facial expression and pointed at the two young men standing to his sides. He then said: “These two, they are older than me. I challenge them both to a battle to death. If the young disciples of the Yu Clan are giants amongst men, then they will fight.”
มากกว่า"
While talking, Lin Feng was smiling coldly. Yu Qiu was even more furious. Lin Feng ignored his facial expression and pointed at the two young men standing to his sides. He then said: “These two, they are older than me. I challenge them both to a battle to death. If the young disciples of the Yu Clan are giants amongst men, then they will fight.”
ในขณะที่พูดอยู่นั้น, หลินเฟิงก็ยิ้มอย่างเย็นชา หยูเชี่ยวโกรธมากยิ่งขึ้น หลินเฟิง ไม่สนใจ
สีหน้าของเขาและชี้นิ้วไปที่ชายสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆอยู่เจี้ยวแล้วกล่าวว่า "สองคนนั้น
อายุมากกว่าข้า ข้าขอท้าสู้กับสองคนนั้นโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ถ้าลูกหลานตระกูลหยูเป็น
ยักษญ์ท่ามกลางมวลมนุษย์จริงๆละก็พวกเขาต้องรับคำท้า"
สีหน้าของเขาและชี้นิ้วไปที่ชายสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆอยู่เจี้ยวแล้วกล่าวว่า "สองคนนั้น
อายุมากกว่าข้า ข้าขอท้าสู้กับสองคนนั้นโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ถ้าลูกหลานตระกูลหยูเป็น
ยักษญ์ท่ามกลางมวลมนุษย์จริงๆละก็พวกเขาต้องรับคำท้า"
The two young men on Yu Qiu’s sides were stupefied. They were staring fixedly at Lin Feng. He surprisingly dared uninterruptedly provoke them. These two young man men were not as strong as Lin Feng. They had seen how Lin Feng had almost killed Hei Mo. How could they accept that challenge?
ชายสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆหยูเชี่ยวต่างสับสน พวกเขามองไปที่ หลินเฟิง เขาได้ทำให้ประ
หลาดใจไม่หยุดโดยการยั่วยุทั้งสองคน ชายสองคนนี้ไม่ได้แข็งแกร่งเท่า หลินเฟิง พวกเขา
เห็นฉากที่ หลินเฟิง นั้นเกือบจะฆ่า เฮยหม่า แล้วพวกเขาจะกล้ารับคำท้าได้เยี่ยงไร?
หลาดใจไม่หยุดโดยการยั่วยุทั้งสองคน ชายสองคนนี้ไม่ได้แข็งแกร่งเท่า หลินเฟิง พวกเขา
เห็นฉากที่ หลินเฟิง นั้นเกือบจะฆ่า เฮยหม่า แล้วพวกเขาจะกล้ารับคำท้าได้เยี่ยงไร?
Yu Qiu hadn’t thought that Lin Feng would make such a move either. A light flashed through his eyes showing his uncertainty. Immediately after, he smiled and said: “You cannot challenge Yu Clan members as you wish.”
หยูเชี่ยวไม่คาดคิดว่า หลินเฟิงจะทำเช่นนี้ ประกายแสงในดวงตาของเขาแสดงความลังเล
ออกมา ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า เจ้าจะมาท้าสู้ตระกูลหยูตามใจตนเองไม่ได้
ออกมา ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า เจ้าจะมาท้าสู้ตระกูลหยูตามใจตนเองไม่ได้
“Coward!”
ขี้ขลาด!
Yu Qiu hadn’t even finished talking that Lin Feng interrupted him and said coldly: “If you don’t dare, then you don’t dare, there is no need to try and think about a way out or give excuses. You say that they are giants amongst men, but they are just scum, nothing more. Last time, I violently beat one of them at the Prisoner Arena. I don’t know if he’s still feeling a little weak from then. I also humiliated the other one. They are just trash, they are so scared that they cannot get their revenge alone. They had to go and find a senior to protect them. That kind of giant amongst men is just ridiculous to the extreme.”
หยูเชี่ยว พูดไม่ทันจบ หลินเฟิง ได้พูดแทรกขึ้นมาแล้วกล่าวอย่างเย็นชาอีกว่า "ถ้าเจ้าไม่กล้า
ก็ไม่จำเป็นต้องหาข้ออ้างแก้ตัว เจ้าบอกว่าพวกเขานั้นเหมือนกับยักษ์ในหมู่มวลมนุษย์ แต่
พวกนั้นมันก็แค่ไอพวกสวะ ไม่มีไรมากกว่านั้น ครั้งล่าสุดข้าได้ทุบตีชุดใหญ่หนึ่งในพวกเจ้า
ในลานประลองนักโทษ ข้าไม่รู้ว่ามันผู้นั้นจะรู้สึกบ้างไหมว่าตัวเองอ่อนแอเพียงใด แล้วข้า
ก็ทำให้อีกคนอับอาย พวกมันก็แค่ขยะ พวกมันกลัวหัวซุกหัวซุนจนไม่กล้าแก้แค้นด้วยตัว
คนเดียว พวกมันเลยไปหาผู้อาวุโสเพื่อปกป้องตนเอง ยักษ์บ้าบออะไรข้าว่ามันเป็นเรื่องไร้
สาระมากกว่า"
ก็ไม่จำเป็นต้องหาข้ออ้างแก้ตัว เจ้าบอกว่าพวกเขานั้นเหมือนกับยักษ์ในหมู่มวลมนุษย์ แต่
พวกนั้นมันก็แค่ไอพวกสวะ ไม่มีไรมากกว่านั้น ครั้งล่าสุดข้าได้ทุบตีชุดใหญ่หนึ่งในพวกเจ้า
ในลานประลองนักโทษ ข้าไม่รู้ว่ามันผู้นั้นจะรู้สึกบ้างไหมว่าตัวเองอ่อนแอเพียงใด แล้วข้า
ก็ทำให้อีกคนอับอาย พวกมันก็แค่ขยะ พวกมันกลัวหัวซุกหัวซุนจนไม่กล้าแก้แค้นด้วยตัว
คนเดียว พวกมันเลยไปหาผู้อาวุโสเพื่อปกป้องตนเอง ยักษ์บ้าบออะไรข้าว่ามันเป็นเรื่องไร้
สาระมากกว่า"
The crowd was a bit surprised by Lin Feng’s words. So that’s what had started all of this. Originally Lin Feng had humiliated the arrogant young people from the Yu Clan. No wonder Yu Qiu disliked Lin Feng so much.
เหล่าฝูงชนถึงกับมึนงงเล็กน้อยจากคำพูดของ หลินเฟิง ดังนั้นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดนี้
เริ่มจาก หลินเฟิง ได้ทำร้ายเด็กหนุ่มตระกูลหยู ไม่แปลกใจที่หยูเชี่ยวจะไม่ชอบหลินเฟิงอย่างมาก
เริ่มจาก หลินเฟิง ได้ทำร้ายเด็กหนุ่มตระกูลหยู ไม่แปลกใจที่หยูเชี่ยวจะไม่ชอบหลินเฟิงอย่างมาก
Lin Feng continued to talk: “But when I see you, it makes me think that the juniors and the seniors of the Yu Clan are probably all the same. Therefore, I am not that surprised by your cowardliness and your shamelessness… and you still dare think that you are better than everyone else. In fact, I would like to ask you a question, are all the members of the Yu Clan so shameless?”
หลินเฟิง ยังกล่าวต่ออีกว่า แต่ข้าเห็นเจ้า มันทำให้ข้านึกถึงเด็กๆและผู้อาวุโสของตระกูลหยู
ข้าว่าคงเหมือนๆกันทุกคน ดังนั้นข้าไม่แปลกใจกับความขี้ขลาดและความไร้ยางอายของเจ้า
เลย...และเจ้ายังคิดว่าดีกว่าทุกคน แท้จริงแล้วข้าอยากถามคำถามเจ้า,ทุกคนในตระกูลเจ้า
นั้นไร้อย่างอายใช่ไหม?
ข้าว่าคงเหมือนๆกันทุกคน ดังนั้นข้าไม่แปลกใจกับความขี้ขลาดและความไร้ยางอายของเจ้า
เลย...และเจ้ายังคิดว่าดีกว่าทุกคน แท้จริงแล้วข้าอยากถามคำถามเจ้า,ทุกคนในตระกูลเจ้า
นั้นไร้อย่างอายใช่ไหม?
Lin Feng’s words stupefied the people in the crowd. Yu Qiu was staring at Lin Feng as the killing intent on his face grew stronger.
คำพูดของ หลินเฟิง นั้นทำให้ฝูงชนถึงกับมึนงง หยูเชี่ยว มองไปที่ หลินเฟิง ด้วยเจตนาฆ่า
อย่างชัดเจนบนใบหน้าของเขา
อย่างชัดเจนบนใบหน้าของเขา
“Such a shameless and impudent clan, launching surprise attacks on other people and not even admitting it… and besides you are so satisfied and proud of yourself… Surprisingly, you dare sit on the viewing platform for people of high status. What a nerve!”
"เป็นตระกูลที่ไร้ยางอายและยโสโอหัง,กล้าที่ร้ายผู้อื่นแล้วไม่กล้ายอมรับ...น่าแปลกที่เจ้า
ยังกล้านั่งอยู่บนนั้นบนที่นั่งสำหรับผู้สูงศักดิ์ บ้าจริง"
ยังกล้านั่งอยู่บนนั้นบนที่นั่งสำหรับผู้สูงศักดิ์ บ้าจริง"
As if Lin Feng didn’t understand how furious Yu Qiu was, Lin Feng continued talking.
Cr.tuiimyk แปลเล่นๆครับ ถ้าตกหล่นแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ มือใหม่ครับ
อ่าน Eng ได้ที่ http://totallyinsanetranlation.com/peerless-martial-god-index/
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนกดโฆษณาเพื่อเป็นกำลังให้แก่ผู้แปลด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น